Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
อากงจ๋า...หลับให้สบายนะคะ

ฉันไม่เคยคิดว่าจะต้องอัพบล็อกด้วยหัวข้อคล้ายกันสองครั้งซ้อนในเวลาอันสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นเรื่องของความสูญเสีย…การจากลาอย่างไม่มีวันหวนคืน

ภาพของอากง หรือปู่ในความทรงจำของฉัน คือชายชราร่างผอม ผิวเข้ม กับผมบางๆ สีเงิน ในชุดเสื้อยืดสีขาว และกางเกงขายาวสีเทา แม้จะอายุมากแล้วแต่อากงก็ยังแข็งแรง ขนาดที่ว่าสามารถขึ้นรถเมล์ไปบ้านลุงที่อยู่แถวประตูน้ำได้ด้วยตนเองทุกเช้า วันดีคืนดีอากงก็จะมายืนตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้านฉันด้วยซ้ำ

สมัยเด็กฉันจะได้พบอากงสัปดาห์ละครั้ง คือทุกวันอาทิตย์ซึ่งพ่อแม่จะพาไปกินข้าวมื้อเย็นที่บ้านอากงอาม่า ตอนที่ยังเล็ก ฉันไม่ค่อยใส่ใจอย่างอื่นนอกจากการวิ่งเล่นกับลูกพี่ลูกน้องที่มารวมตัวกัน สิ่งที่พอจะจำได้คืออากงจะนั่งหน้าบ้านคอยเฝ้ามองพวกเราเล่นกันอยู่เงียบๆ

โตขึ้นมาหน่อยฉันก็เริ่มเบื่อที่จะต้องไปรวมญาติในวันอาทิตย์อีก จึงมักหาข้อเลี่ยงอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่พ่อกับแม่บอกว่าอากงมายืนคอยพวกฉันถึงหน้าปากซอยบ้านทุกอาทิตย์ นั่นทำให้ฉันรู้สึกผิด และยอมไปบ้านอากงบ่อยขึ้น

หลายครั้งที่ฉันจะเป็นคนจูงอากงกลับเข้าไปในบ้าน อากงจะชอบหยอกด้วยการกำมือที่จูงเราอยู่ให้แน่นที่สุด แล้วหัวเราะเมื่อเราร้องโอดโอยขึ้นมา แต่ด้วยความเป็นคนแรงเยอะ ฉันจึงท้าทายอากงกลับด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าแรงบีบของอากงช่างเบาแสนเบา นั่นทำให้อากงหัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนยกมือขึ้นเขกหัวฉันเบาๆ หลังจากนั้นการเขกหัวจึงกลายเป็นการทักทายและแสดงความรักระหว่างเราสองคน

แต่แล้วไม้ใหญ่อันเป็นที่รักและเป็นร่มโพธิ์ของพวกเราก็สึกกร่อน อากงที่เคยแข็งแรงกลับล้มป่วยอย่างฉับพลัน ฉันจำเหตุการณ์ช่วงนั้นไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าพ่อบอกว่าอากงไม่สบายด้วยโรคที่เรียกว่า พาร์คินสัน ฉันฟังอาการของโรคจากพ่อแล้วก็ยังไม่รู้สึกว่ามันร้ายแรง เพราะคิดว่าทำให้เกิดอาการสั่นเท่านั้น หากนั่นเป็นเพียงการเริ่มต้น

อาการป่วยของอากงค่อยๆ เพิ่มขึ้นโดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง อากงผอมลงอีก และดูมีอายุขึ้นมาก จากที่เคยเดินได้เอง ยืนได้นาน ก็กลายเป็นต้องพึ่งพาไม้เท้า และคนช่วยพยุง อากงเข้าโรงพยาบาลบ่อยขึ้น แต่ยังคงดื้อดึงอยู่ไม่เปลี่ยน หลายครั้งที่พ่อบอกว่าอากงจะดึงสายน้ำเกลือทิ้งเพราะอยากกลับบ้าน

เมื่อฉันเรียนจบ ก็เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ระหว่างนั้นก็ยังได้รับข่าวคราวของอากงประปราย แต่มักจะไม่ละเอียด เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้เป็นกังวล มีอยู่ครั้งหนึ่งที่รู้ข่าวจากอาที่อยู่อเมริกาเหมือนกัน แต่ต่างรัฐว่าอากำลังจะเดินทางกลับเมืองไทยเพราะได้ข่าวว่าอากงอาการทรุดลง วันนั้นฉันกับพี่สาวเลยไปทำงานทั้งตาแดงก่ำ แต่แล้วอากงก็ได้ออกจากโรงพยาบาลท่ามกลางความโล่งใจของพวกเราทุกคน

ฉันรู้ข่าวคราวจากน้องชายตั้งแต่ก่อนกลับเมืองไทยว่าพ่อปรับปรุงบ้านตรงข้าม ซึ่งพ่อแม่เคยซื้อไว้เพื่อทำเป็นหอพักให้เช่า เพื่อให้อากงออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านได้ พ่อจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมด รวมทั้งจ้างคนมาเฝ้า และพวกเราญาติพี่น้องก็ผลัดกันขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนอากงเป็นประจำ

ภาพของอากงที่ฉันได้เห็นเป็นครั้งแรกหลังจากที่กลับมาทำให้ฉันใจหาย...ชายชราที่ผอมเหลือแต่กระดูก นอนอยู่ที่เตียงโดยมีท่อเจาะคอ และสายระโยงระยางอยู่ข้างๆ

อาการป่วยทำให้อากงจำฉันไม่ได้แล้ว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะอากงจำได้แค่ลูกๆ ส่วนเขย สะใภ้ และหลานๆ นั้นพอจำได้เป็นบางคนเท่านั้น

ฉันเรียกอากง แล้วยกมือผอมกร้านนั้นขึ้นเคาะหัวตัวเอง...ใครบางคนในห้องนั้นบอกฉันว่าอากงยิ้ม...อากงจำฉันได้แล้ว

ฉันไม่แน่ใจว่าอากงมาอยู่ที่บ้านกี่ปี แต่ถ้านับแค่หลังจากที่ฉันกลับมาอยู่เมืองไทย ก็ประมาณสามปีกว่าแล้ว อากงไม่เคยมีอาการโคม่าอีก แค่ไปหาหมอตามปกติเท่านั้น ซึ่งอาการโดยรวมก็จัดว่าทรงอยู่ จึงไม่มีใครคาดคิดว่าวันนี้จะมาถึง

คืนวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม คืนนี้ฉันเข้านอนดึกกว่าปกติ เพราะเพิ่งได้นิยายเล่มใหม่ที่รอคอยมา เที่ยงคืนเล็กน้อยฉันปิดไฟดวงสุดท้ายในบ้าน แล้วเข้าห้องนอน ฉันล้มตัวลงบนเตียงได้ไม่ถึงห้านาที ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง แล้วเด็กทำงานบ้านก็ชะโงกหน้าเข้ามาส่งเสียงเรียกพ่อ ซึ่งนอนอยู่ห้องเดียวกับฉัน และบอกว่าอากงเป็นอะไรไม่รู้

ฉันลุกขึ้นก่อนอย่างตกใจ ในขณะที่พ่อยังอยู่ในอาการสะลึมสะลือจึงจับใจความไม่ได้ ฉันจึงย้ำคำพูดของเด็กให้พ่อฟังอีกครั้ง

ฉันวิ่งล่วงหน้าข้ามไปยังบ้านฝั่งตรงข้าม เมื่อเข้าไปถึงห้องนอนอากง จึงได้เห็นเด็กทำงานบ้านกับเด็กที่ดูแลอากงยืนเฝ้าอยู่ครบ ฉันเดินเข้าไปข้างเตียงแล้วจับมืออากงพลางถามเด็กว่าอากงเป็นอะไร

เด็กบอกว่าไม่รู้เป็นอะไร ไม่มีไข้ แต่เหงื่อออกเยอะมาก และตัวเย็นเฉียบ ฉันจึงแตะหน้าอกที่ชื้นไปด้วยเหงื่อของอากง อากงหลับตาและยังหายใจสม่ำเสมอด้วยอัตราที่ค่อนข้างช้า แต่ท่านก็ยังหายใจ

พ่อวิ่งตามเข้ามา และถามคำถามเดียวกัน เมื่อได้รับคำตอบ พ่อก็เข้ามาเขย่าตัวและเรียกอากงอยู่หลายครั้ง เมื่ออากงไม่ตื่น พ่อจึงเริ่มตรวจมือและเท้า ครู่เดียวพ่อก็เงยหน้าขึ้นบอกฉันที่ย้ายไปยืนอยู่ข้างเตียงอีกฝั่งว่าให้ไปตามทุกคนมา

...ทุกคน?

ณ เวลานั้นฉันไม่เข้าใจว่าพ่อหมายถึงใครบ้าง เฉพาะคนในบ้าน หรือญาติพี่น้องทั้งหมด และตามมาเพื่ออะไร สมองส่วนหนึ่งยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าพ่อคงหมายถึงน้องชายทั้งสอง ให้ตื่นมาช่วยอุ้มอากง และเอารถออกจากบ้านเพื่อไปโรงพยาบาล

ฉันวิ่งลงจากห้อง และเมื่อได้ยินว่าพ่อตามลงมา ฉันจึงถามย้ำให้มั่นใจว่าพ่อจะพาอากงไปหาหมอใช่ไหม คำตอบของพ่อคือ ไม่ต้องไปแล้ว

...ไม่ต้องไป?

ฉันไม่เข้าใจอีกแล้ว สมองฉันดูเหมือนจะทำงานช้ากว่าปกติ ฉันคิดอะไรไม่ออก แต่ยังพยายามตีความคำพูดพ่อว่าอากงไม่เป็นอะไรมากงั้นสินะ

ฉันถามพ่อออกไปอีกว่าทำไม พ่อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบอย่างตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“อากงจะละสังขารแล้วน่ะสิ”

ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองอุทานอะไรออกไปตอนนั้น ตลอดชีวิตที่ผ่านมาพ่อฉันเปรียบเสมือนคัมภีร์สุขภาพของครอบครัว พ่อไม่ได้เป็นหมอ ไม่แม้กระทั่งเรียนมหาวิทยาลัย หากพ่อก็มีความรู้มากมาย โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ พ่อขวนขวายหาความรู้ด้านนี้จนกลายเป็นที่ปรึกษาของคนรอบตัวได้ดี แต่ครั้งนี้ฉันอยากให้พ่อผิด

ฉันวิ่งขึ้นไปถึงชั้นสอง แล้วลังเลอยู่หน้าห้องพี่สาวว่าควรจะปลุกเธอหรือไม่ เนื่องจากน้องเปรมนอนอยู่ด้วย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเคาะประตูห้องแล้วเปิดเข้าไป ฉันร้องเรียกพี่สาวเบาๆ แล้วบอกว่าอากงไม่สบายมาก พ่อให้มาตามทุกคน พี่สาวยังงัวเงียจึงถามย้ำอย่างไม่เข้าใจ ฉันย้ำข้อความเดิมอีกครั้ง ก่อนวิ่งออกจากห้องไป

ขึ้นไปถึงชั้นสาม น้องชายคนโตยังไม่นอน แต่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ตรงบันไดหน้าห้อง เขาคงได้ยินเสียงกระหืดกระหอบของฉันจึงลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ เมื่อฉันบอกข้อความเดียวกับที่บอกพี่สาวออกไป เขาก็บอกลาที่ปลายสาย ระหว่างที่ฉันชะโงกหน้าเข้าไปในห้องเพื่อบอกน้องชายคนเล็ก

น้องชายทั้งสองวิ่งนำลงไป ส่วนฉันเคาะประตูห้องแม่ เมื่อบอกแม่เสร็จเราก็วิ่งลงข้างล่างพร้อมกัน และได้พบพ่อกำลังพยายามโทรศัพท์หาป้า แต่ไม่มีคนรับสาย ฉันจึงบอกว่าจะโทรเข้ามือถือลูกสาวป้าแทน ฉันวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือ แล้วกดหาเบอร์ลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันพลางเดินลงบันไดมา

ฉันบอกลูกพี่ลูกน้องว่าให้มาที่บ้านด่วน ในขณะที่ตัวเองก็เดินข้ามกลับไปยังบ้านตรงข้ามอีกครั้ง หากเมื่อเดินเข้าประตูหน้าบ้านแล้ว กลับเห็นน้องชายคนเล็กพยุงพี่สาวที่ร้องไห้จนตาแดงก่ำสวนออกมา

“อะไร” ฉันส่งเสียงถามพี่และน้อง

พี่สาวฉันได้แต่สะอึกสะอื้นในขณะที่น้องชายบุ้ยปากแล้วบอกให้ฉันขึ้นไปเอง

เมื่อฉันขึ้นไปถึงห้อง อากงยังนอนอยู่ที่เดิม ห่มผ้าอยู่อย่างเรียบร้อย อากงยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เหมือนตอนที่ฉันยืนจับมือมองท่านหายใจอยู่เมื่อกี้...แต่บางอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว...ลมหายใจของอากงเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาได้หยุดลงแล้ว

ฉันมองภาพนั้นอย่างมึนงง ไม่มีน้ำตา ไม่มีอาการคร่ำครวญ เพราะฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น

พ่อกับแม่ยืนอยู่ข้างเตียง ส่วนน้องชายอีกคนยืนห่างออกไป พ่อหันมาถามฉันว่าโทรบอกอาคนที่บ้านอยู่หน้าปากซอยหรือยัง ฉันตอบว่าฉันไม่มีเบอร์

ฉันกดหมายเลขตามพ่อบอกแล้วยื่นโทรศัพท์ส่งให้พ่อ พ่อกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทันทีที่มีคนรับว่าให้เข้ามาที่บ้านด่วน แต่ปลายสายคงจับใจความไม่ได้ พ่อจึงต้องย้ำอยู่หลายรอบ จนสุดท้ายคำพูดของพ่อคือ

“อาเตียไปไหว้พระแล้ว”

คำพูดของพ่อก้องอยู่ในสมอง น้ำตาฉันร่วงหยดทันที

...อากงจ๋า กงไปอยู่กับพระแล้วใช่ไหมจ๊ะ

พ่อส่งโทรศัพท์คืนให้ฉันเมื่อฉันบอกว่าจะโทรแจ้งลุงคนโต ฉันกดโทรศัพท์ไปหาลูกสาวลุงที่สนิทกัน แต่พี่สาวไม่ได้รับสาย ฉันจึงโทรไปหาลูกสาวป้าอีกครั้งเพื่อบอกให้เตรียมเสื้อผ้าของอากงมาด้วย

ครั้งแรกที่ฉันโทรหาพี่คนนี้ ฉันบอกไปว่าอากงไม่สบายมาก ป๊าบอกให้ทุกคนรีบมา

ครั้งนี้ฉันต้องบอกว่า อากงไปแล้วนะคะ ฝากให้ตั่วโกวช่วยเตรียมเสื้อผ้าอากงมาให้ด้วย

...อากงไปแล้ว

ประโยคที่ฉันไม่อยากพูด และไม่คิดว่าจะต้องรับหน้าที่ส่งข่าวนี้

เสร็จสิ้นจากการแจ้งข่าว พวกเราต้องช่วยกันเตรียมของจำเป็นต่างๆ จนวุ่นไปทั้งบ้าน แต่ถึงจะวุ่นขนาดไหน ทุกคนก็ทำด้วยความเต็มใจ ทั้งที่น้ำตายังนองหน้า เมื่อญาติๆ ต่างทยอยกันมาจนเกือบครบ ก็เริ่มให้ลูกๆ ของอากงเข้าไปช่วยกันเช็ดตัว และแต่งตัวให้อากง ก่อนจะให้อุ้มท่านลงมาข้างล่าง เพื่อทำพิธีกราบ

กว่าทุกอย่างจะเสร็จก็ราวๆ ตีสองครึ่ง พ่อไล่ให้ทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อน เนื่องจากวันรุ่งขึ้นจะต้องมาพาอากงไปวัด โดยน้องชายฉันสองคนอาสาเฝ้าอากงคืนนั้น

วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาแต่เช้า ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เห็นพ่อวิ่งวุ่นๆ พอได้ยินว่าพ่อจะไปสถานีตำรวจ เลยกระโดดขึ้นรถไปกับพ่อ แจ้งความเสร็จตำรวจบอกให้กลับมารอที่บ้าน จะประสานงานไปทางโรงพยาบาลให้หมอมาตรวจ เพื่อเอาผลชันสูตรไปออกใบมรณบัตรที่เขต

เมื่อทุกอย่างเสร็จ รถขนโลงก็มาถึงบ้านพอดี ก็ได้ฤกษ์ทำพิธีส่งอากงครั้งสุดท้าย ให้ลูกๆ เข้าไปป้อนข้าวท่าน

...พ่อเลี้ยงลูกตอนเด็ก ลูกขอเลี้ยงพ่อตอนแก่ พ่อป้อนข้าวลูกตอนเด็ก ลูกขอป้อนข้าวพ่อตอนแก่ พ่ออุ้มลูกตอนเด็ก ลูกขออุ้มพ่อตอนแก่...

นั่นคือบทพูดของคนทำพิธีที่ฉันพอฟังออก

ก่อนจะส่งอากงลงที่นอน คนทำพิธีได้เรียกให้ลูกหลานเข้าไปดูหน้าอากงเป็นครั้งสุดท้าย...ครั้งสุดท้ายที่จะฝังจำอยู่ในใจฉันตลอดไป

เสียงปิดโลงดังขึ้นท่ามกลางเสียงสะอื้น และน้ำตาของพวกเรา

ฉันอยากบอกอากง และเชื่อว่าท่านคงได้รับรู้

...อากงจ๋า ติ้นขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะคะ ติ้นรักอากงมากๆ ถ้าชาติต่อๆ ไปมีจริง ติ้นขอเกิดเป็นลูกหลานอากงทุกชาตินะคะ สำหรับตอนนี้อากงคงอยู่กับพระแล้ว ขอให้อากงพักผ่อนนะจ๊ะ หลับให้สบาย ติ้นรักอากงค่ะ...

ขอกราบเท้าอากงครั้งสุดท้าย
ติ้นจ้ะ




Create Date : 07 ตุลาคม 2549
Last Update : 7 ตุลาคม 2549 22:33:50 น. 6 comments
Counter : 661 Pageviews.

 
ไม่คิดเหมือนกันค่ะ ว่าจะต้องอ่านบล๊อกสองครั้งติดกันด้วยเรื่องเดิมและคนอ่านมีอาการไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก

เสียใจด้วยอีกครั้งนะคะ

ท่านไปสบาย โดยไม่ทรมาน

คนอยู่อย่างเราสิต้องสู้กันต่อไป

ขอให้อากงหลับสบายฝันดีและปกป้องลูกหลานอยู่ข้างบนฟ้านะคะ


โดย: มินต์ (papermint ) วันที่: 7 ตุลาคม 2549 เวลา:22:52:25 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
อย่างที่อิงบอกไปเมื่อคืน อากงไปสบายแล้วนะคะ

ส่วนพี่ติ้น ช่วงนี้คงยุ่งๆ ขอให้พี่ติ้นมีแรงเยอะๆ กินข้าวเยอะๆ น้า

คนที่ยังอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป


โดย: นายน้อย IP: 58.9.127.76 วันที่: 7 ตุลาคม 2549 เวลา:22:54:23 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
แล้วก็เป็นกำลังใจให้พี่ติ้น
ให้ทุกอย่างผ่านพ้นไป
และมีเพียงความทรงจำดีๆ ให้จดจำค่ะ


โดย: สายลมโชยเอื่อย วันที่: 9 ตุลาคม 2549 เวลา:3:52:26 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจอีกคนค่ะพี่ติ้น

อากงไปสบายแล้ว อากงอยู่ข้างบนนู้น สบายแล้ว ไม่ต้องนอนทรมานแล้วนะคะ

เรื่องนี้ทำให้เอิ๊กนึกถึงตอนปีหนึ่ง ที่มีเช้าวันนึง เจ็ดโมงยังไม่ทันตื่น พี่สาวก็โทรมาปลุกที่หอ พูดไปร้องไห้ไปบอกว่า "อาม่าเสียแล้ว" วันนั้นเรียนไปได้ยังไงทั้งวันก็ไม่รู้สิ แต่ในใจคิดว่า ถ้าเอิ๊กเรียนไม่รู้เรื่องเพราะอาม่า อาม่าคงเสียใจแย่ ดังนั้น ก็ต้องเรียนให้ดีที่สุด อาม่าอากงที่อยู่ข้างบนจะได้ชื่นใจมากๆ

พี่ติ้นสู้ๆนะคะ ใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ให้อากงชื่นใจอยู่ข้างบนนะคะ


โดย: หนอนน้อย IP: 58.9.60.212 วันที่: 9 ตุลาคม 2549 เวลา:19:55:28 น.  

 
เศร้าอะ อ่านแล้วคิดถึงตามากมาย

เสียใจด้วยนะคะพี่ติ้น แต่คิดว่าอากงได้หลับสบายก็จะสบายใจใช่มั๊ย ยังไงอากงก็อยู่ในความทรงจำของทุกคนในครอบครัวเนอะ พี่ติ้นสู้ๆ นะคะ


โดย: เน็ต (นภันตรา ) วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:14:00:12 น.  

 
สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้า สปาชา sparsha A Moment of Bride เจ้าสาว เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก สลายไขมันด้วยความเย็น ลดเซลลูไลท์ Leg Squeezing ผิวเปลือกส้ม FIS หน้าท้องใหญ่ ตัวเล็กแต่มีพุง Body Contouring ลดสัดส่วนทั้งตัว ลดปีกด้านหลัง เนื้อปลิ้นรักแร้ เนื้อปลิ้น Build Muscle สร้างกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหน้าท้อง สลายไขมันหนา สลายไขมัน ลดไขมัน Lock Shape รักษารูปร่าง สลายไขมัน ลดสัดส่วน Oxy Peel ทำความสะอาดหน้า ทำความสะอาดหน้าแบบล้ำลึก ยกกระชับ Ulthera ปรับรูปหน้า ปัญหาผิวหย่อนคล้อย Beauty Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม สลายไขมันสะโพก กระชับผิว Sexy Mama แม่หลังคลอด รอยแตกลาย ปรับรูปร่าง กำจัดขน Hair Removal กำจัดขนถาวร สลายไขมันเหนียงด้วยความเย็น สลายไขมัน สลายไขมันเหนียง IV Drip ฟื้นฟูร่างกาย เสริมภูมิต้านทาน Bye Bye Panda Eye ลดรอยหมองคล้ำใต้ดวงตา ลดริ้วรอยใต้ตา นวดกระชับหน้าอก หน้าอกกระชับ อกหย่อนคล้อย Beauty Breast Lifting Enlarge Beauty Breast นวดอกเล็กให้ใหญ่ หน้าอกเล็ก ยกกระชับหน้า รักแร้ขาว รักแร้ดำ เลเซอร์รักแร้ขาว ผิวใต้วงแขน Love Fit กระชับช่องคลอด เลเซอร์กระชับช่องคลอด แก้ไขปัสสาวะเล็ด Meso Shine ผลักวิตามิน บำรุงผิว สวยด้วยเลือด รักษาผิว หนวดเครา กำจัดขนหนวด กำจัดขน กำจัดขนเครา เลเซอร์ขน เลเซอร์ขนถาวร กำจัดขนถาวร เลเซอร์เครา เลเซอร์หนวด กำจัดขน ยกกระชับ ร้อยไหม Thread Lift การดูดไขมัน ดูดไขมัน ศัลยกรรมตา 2 ชั้น ตา 2 ชั้น ศัลยกรรมตา สปาน้ำนม เพิ่มความชุ่มชื่น แก้ผิวแห้ง นวดผ่อนคลาย การนวดผ่อนคลาย Rest Time Aroma Massage Aroma Massage Acne Body Mist ลดรอยสิว ลดจุดด่างดำ ลดรอยดำ เลเซอร์ขนรักแร้ถาวร เลเซอร์ขน กำจัดขนรักแร้ กำจัดขนรักแร้ถาวร Former Lift ยกกระชับผิว ปรับรูปหน้า กำจัดขน บราซิลเลี่ยน กำจัดขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขน กำจัดขนที่ลับ กำจัดขนน้องสาว กำจัดขน เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์กำจัดขนบิกินี่ กำจัดขนบิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาวถาวร เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนร่องก้น ฆ่าเชื้อสิว Acne Clear ปัญหาสิว เลเซอร์รักษาสิว Supreme White Lucent รักษาฝ้า ฝ้า กระ จุดด่างดำ ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก เสริมจมูก Cellulysis สลายไขมัน ulthera ยกกระชับ Acne Clear รักแร้ขาวเนียน เลเซอร์กำจัดขนถาวร กำจัดขน ร้อยไหม Freeze V Lift กำจัดไขมันด้วยความเย็น PRP ผิวหน้า PRP ผมบาง ผมร่วง เลเซอร์กระชับช่องคลอด กระชับช่องคลอด Love Fit สลายไขมันด้วยความเย็น Cell Repair ผิวขาวใส ลดสัดส่วน ปรับรูปร่าง Perfect Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ฟิลเลอร์ Filler รักษาหลุมสิว Dual Yellow เลเซอร์หน้าใส Love Fit ปัญหาปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะเล็ด Oxy Bright ทำความสะอาดรูขุมขน Bye Bye Fat ลดไขมัน Luminous แสงสีฟ้า รักษาสิว ฆ่าเชื้อสิว ABO Active 3D Toxin IV Drip เพื่อสุขภาพและความงาม ยกกระชับผิว hifu ให้ใจ สุขภาพ


โดย: สมาชิกหมายเลข 6258618 วันที่: 26 มกราคม 2564 เวลา:14:38:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nyx
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add nyx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.