Shanghai-Guangzhou-HongKong วันที่ 4 Review M Hotel Kowloon อาหารมื้อเช้าที่ Mickey Chef Rest. ในโรงแรม เป็นแบบบุฟเฟ่นะคะ ชามนี้อร่อยมาก อร่อยตรงน้ำซุป เส้นเลือกได้หลายอย่าง เห็นมีเจี้มอี๊เหมือนเมืองไทย เลยลองเลือกดู เนื้อแป้งไม่เหมือนแฮะ ของเขาจะใสใสหนึบหนึบ แต่ของบ้านเรานิ่มนิ่ม ชอบแบบบ้านเรามากกว่า วาฟเฟิลรูปมิกกี้ เหมือนที่ขายในสวนสนุกเลย ต่างกันตรงไม่มีผลไม้ ชิมแล้วเด็กเด็กบอกว่า โชคดีที่เมื่อวานไม่ได้ซื้อในสวนกิน ไม่งั้นเสียดายเงินแย่เลย จานนี้ ไม่ผ่านหมดทุกอย่าง สู้กินที่เซี่ยงไฮ้ไม่ได้ จานนี้รสชาติใช้ได้ แต่ซอสพริกเค็มมากกกกกกกกกก ขนมปังเค้กทั้งหลาย เฉยเฉยค่ะ ทาร์ตไข่ ชอบแบบใน KFC มากกว่า แต่ชอบอยู่อันนึง Madeline มีใส้แยมสตอร์เบอรี่ด้วย หลังอาหารเช้า สวนสนุกยังไม่เปิด เลยถือโอกาสเดินดูรอบรอบโรงแรมถ่ายรูป และย่อยอาหารไปในตัว เดินเล่นสักพัก ก็ขึ้นไปเก็บของเตรียม Check-out เพราะทางโรงแรมให้ได้แค่ถึง 11 โมง แต่เดี๊ยวเราจะเข้าไปเล่นในสวนสนุกกันต่ออีกวันนึง กลัวจะออกมาไม่ทัน เลย Check out ออกไปก่อนเลย แล้วฝากกระเป๋าไว้ พอเล่นเสร็จประมาณเที่ยง ค่อยย้อนกลับมาเอากระเป๋า นั่งรถไฟใต้ดินข้ามไปเกาลูนค่ะ ตอนตัดสินใจจะมาเที่ยว โรงแรมฝั่งเกาลูนที่เล็งเล็งไว้ ขึ้นราคาหมดเลย แถมบางที่ก็เต็ม หาไปหามา ได้ชื่อโรงแรม M Hotel อ่านจากในเวปว่าพึ่งเปิดเมื่อธันวาคม 2010 เลยว่าน่าจะโอเค เป็น รร ใหม่ ยังไงก็ต้องสะอาด ดูจากรูปในเวปก็น่าจะใช้ได้ เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน ไปถึงที่ รร ตกใจเล็กน้อย ทำไมยังมีช่างทำงานอยู่ตรง counter ข้างล่าง แถมมีกลิ้นสีด้วย เอาล่ะสิ จะโดนบ่นมั๊ยเนี่ยะ เข้าไป Check-in พนักงานแจ้งว่า ทำการ upgrade ห้องให้ จากที่จองไว้ standard เป็น Deluxe ด้านล่างตรงที่ check in โรงแรมเล็กมากกกก ปรูตูทางเข้าห้อง ชั้นนึงมีแค่ 4 ห้อง ดูจากแผนผังโรงแรม สองห้องกลางจะเป็นห้อง standard ส่วนห้องริมด้านละห้อง จะเป็นห้อง deluxe เท่าที่ดูในเวป ห้องสองแบบนี้ต่างกันแค่ที่ขนาด ห้องแสตนดาร์ดจะเล็กกว่าห้อง deluxe เล็กน้อย ฝั่งตรงข้ามเป็นลิฟท์ สาวน้อยนั่งดูวิวฝั่งเกาลูน ได้ชั้น 25 สูงมาก ด้านปลายเตียง ถัดมาไม่มีตู้เสื้อผ้า มีแต่ที่ให้แขวน ส่วนของห้องน้ำ โดยรวมแล้วใช้ได้ น้ำแรง น้ำร้อนคงที่ แต่ไม่ชอบอยู่อย่างนึงคือ ส่วนของที่อาบน้ำ ไม่มีสันกั้นน้ำ เวลาอาบน้ำ น้ำจะไหลออกมาลงท่อน้ำทิ้งหลังชักโครก ถ้าใครอาบไม่ระวัง อาจะทำให้พื้นห้องน้ำเปียกไปหมดได้ วิวนอกหน้าต่างมองจากห้องพัก จัดการกับที่พักเสร็จ เริ่มเดินตามลายแทงที่อ่านในหนังสือแนะนำเที่ยวฮ่องกง ไปหาร้าน หมี่กรอบลาดหน้า เดินจากที่พักไปพักใหญ่ใหญ่ ก็ถึงที่หมาย บรรยากาศภายในร้านชั้น 2 อาวุธครบมือ ชานมร้อน ไม่อร่อยเท่าที่เคยกินที่ร้านอาหารฮ่องกงในเซี่ยงไฮ้อีกแล้ว ชายวนยาง แก้วนี้เฉยเฉย French Toast หวานไปนิ๊ดนึงค่ะ น้ำเชื่อมเพียบเลย ป้ายเมนูในร้าน หมี่กรอบราดหน้า จานที่อยากมาชิมกัน เพราะอ่านแนะนำจากในหนังสือ หน้าตาน่ากิน แต่หลังจากชิมแล้ว ผิดหวังอย่างแรง เส้นเเข็งมาก ส่วนน้ำราดก็น้อยไปหน่อยสำหรับเส้น รสชาติธรรมดามาก หรือว่าเราคาดหวังมากไปหว่า จานนี้ก็แนะนำจากในหนังสือเล่มเดียวกัน ข้าวผัดไข่หน้าหมูทอดราดซอสมะเขือ ผิดหวังเหมือนจานแรก ยังดีสั่งแค่จานเดียว หลังจากตักแบ่งแล้วถึงนึกได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายรูป มันเลยออกมาไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ ตอนจะลงไปชั้นล่างจ่ายเงิน บังเอิญเหลือบไปเห็นตรงบันได น่ารักดี กินเสร็จ ตกลงกับเด็กเด็กว่าจะพานั่งเรือข้ามฟากไปต่อรถเมล์ เพื่อไปขึ้นรถรางขึ้นไปบน The Peak ระหว่างทางเดิน เรือข้ามฟาก ก็สามารถใช้บัตร Octopus ได้ แถมราคาถูกกว่าใช้เงินสดด้วย วิวที่เห็นจากบนเรือ ขึ้นจากเรือเสร็จ ต่อด้วยรถเมล์สองชั้นแบบเปิดหลังคา นั่งไปสถานีรถราง ถึงแล้วสถานีรถรางขี้น The Peak มีรูปปั้นมหาเศรฐีแห่งเอเซีย หลี่เจียเฉิง หรือที่ในคนไทยรู้จักกันในชื่อ ลีกาซิง เข้าแถวขึ้นรถรางนานนนน แถวยาวมาก รอประมาณครึ่งชัวโมง ขึ้นถึงข้างบน อากาศหนาวหนาว เดินไปบ่นไป รีบถ่ายรูปรีบลงดีก่า ไม่รู้ขึ้นมาทำไม ขากลับคนเข้าแถวลงก็เยอะ เยอะทั้งไปทั้งกลับ คิดไปคิดมา เดินไปหารถเมล์นั่งลงเขาดีกว่า ทริปนี้จะได้ครบทุกรสชาติ แต่จะบอกว่า คิดผิดมากถึงมากที่สุด เพราะเมารถกันหมดทั้งครอบครัว กว่ารถเมล์จะพาวนเขา ไม่รู้วนไปวนมากี่รอบ เด็กเด็กบ่นกันใหญ่ สุดท้าย พอลงมาถึงข้างล่าง ประมาณแถว Central รีบกระโดดลงรถเมลมาสูดอากาศข้างนอก ลงมาเจอวิวนี้เลย ลงมาเสร็จนึกได้ ในหนังสือมีแนะนำร้านห่านย่างอร่อยที่สุดในฮ่องกง ยังไม่เข็ดนะ ตามหนังสือมาอีกแล้ว อยู่แถวนี้อีกต่างหาก เดินต่อไปหาร้านห่านย่าง ด้วยความหิวและเมารถ ลืมถ่ายรูปหน้าร้านมา เจอร้านปุ๊บ เดินตรงเข้าไปบอก 5 ที่ เขาถามว่าจองหรือเปล่า บอกว่าไม่ได้จอง พนักงานเลยบอกว่า งั้นขึ้นไปชั้น 2 แต่กินได้ถึงแค่ทุ่มนึงเท่านั้นนะ โอเค ไม่เกินอยู่แล้ว นี่พึ่ง 6 โมงเอง อ่านตามหนังสือ ร้านนี้มีชื่อห่านย่างหนังกรอบ กับไข่เยี่ยวม้าสูตรเฉพาะ พอนั่งลง พนักงานก็เอาไข่เยี่ยวม้ามาวางให้ 1 จาน 5ซีก นึกในใจ ดีจังเลย สงสัยมีมาให้ชิมของขึ้นชื่อของร้าน แถมนับให้เสร็จ คนละซีก จากนั้นสั่ง เมนูพื้นพื้น หมูแดง ห่านย่าง ไก่ซีอิ๋ว ด้วยความเมารถยังไม่หาย อยากกินน้ำซุปร้อนร้อน เลยสั่งบะหมี่เกี๊ยวน้ำ คะน้าลวก บรรยากาศภายในร้าน รสชาติโดยรวม ใช้ได้ทีเดียว ยังนึกอยู่ว่าอร่อยดี ตอนแรกนึกว่าจะต้องมีเหลือห่อกลับ ที่ใหนได้ เรียบทุกจาน ยกเว้นไข่เยี่ยวม้า ชิมกับสามีคนละซีก เด็กไม่มีใครกล้ากิน แต่ปกติเรากับสามีก็ไม่กินแบบนี้อ่ะ ต้องเอาไปทำกระเพราไข่เยี่ยวม้าถึงกิน กินแบบนี้กลิ่นมันแรง กินไม่เป็นค่ะ พอเรียกเก็บเงิน จาเป็นลม ขนาดกินพื้นพื้น ราคามื้อนี้ เกือบ 800 HKD อูย... ความอร่อยที่กินไป ลดลงทันที คือว่า อร่อยนะอร่อย แต่ถ้าเทียบกับราคานี้แล้ว มันไม่ค่อยจะคุ้มเลย เพราะว่าความอร่อยแบบนี้ หาที่ร้านอื่นที่ถูกกว่านี้ก็ได้ อ่อ แล้วตกลง ไข่เยี่ยวม้าจานนั้น ซีกละ 8 HKD นะคะ จานนั้น 40 HKD ค่ะ กินเสร็จ ทุกคนหมดแรง นั่งรถไฟใต้ดินข้ามมาฝั่งเกาลูน นึกว่าจะมาเดินเล่นดูมีของอะไรซื้อมั่ง แต่เด็กเด็กเริ่มไม่สามัคคีด้วยแล้ว คงเป็นเพราะความเหนื่อยตั้งแต่เช้าที่ไปเล่นสวนสนุกมา เรียกร้องว่าจะกลับโรงแรม เลยเดินอยู่ริมถนนได้แป๊บนึง เห็นเขาขายไอ้นี่กัน ขอชิมสักหน่อย ขนมไข่แบบนี้เคยเข้าไปขายที่เซี่ยงไฮ้ ฮิตอยู่ช่วงนึง เดี๊ยวนี้ไม่รู้ยังมีหรือเปล่า ส่วนขนมรังผึ้งนี่อร่อยกว่าที่คิด ข้างในมีใส้เนยถั่วด้วย จบรีวิววันที่ 4 แต่เพียงเท่านี้นะคะ เพราะเสร็จแล้วกลับโรงแรมสลบเหมือดกันหมดเลย   Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2554 3 comments Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2554 14:56:45 น. Counter : 4154 Pageviews. Share Tweet

เจ๊หลีว่าน่าเที่ยวน่าทานสุดเลยค่ะ   โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 20 กุมภาพันธ์ 2554 14:02:39 น.

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะเจ๊หลี ของเจ๊หลีลูกโตแล้ว น่าจะเที่ยวสนุกกว่าแน่แนะเลย ช็อปมันส์เลยค่ะ   โดย: แม่บ้านไชน่า 27 กุมภาพันธ์ 2554 12:09:54 น.

ขอบคุณ สำหรับข้อมูลดีๆนะคะ lcd tv black friday lower sale toshiba thrive black friday lowersal toshiba thrive lower sale   โดย: aomzon (aomzon ) 8 ตุลาคม 2554 13:52:53 น.