ผู้หญิงไม่สวย ไม่มี มีแต่ผู้หญิงขี้เกียจเท่านั้นค่ะ ที่ไม่สวย!!!!!!
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
10 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
"ธนา เธียรอัจฉริยะ" สุดยอดการลงทุน คือ การเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง

ผู้บริหารเบอร์ 2 ในดีแทค เขาเป็นรองแค่ซิคเว่ เบรกเก้, เป็นคีย์แมนที่พลิกฟื้นดีแทคให้กลับมายิ่งใหญ่, เป็นมาร์เก็ตติ้งแมนเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย, อีโก้แรง นั่งคุยกับลูกค้าบนฟุตบาตรได้, เคยล้มเหลว เคยสำเร็จ, มีโอเดียเท่ๆ , คิดเร็ว ทำเร็ว, เป็นวิญญูชน เกือบเสียชีวิต, ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้, เหนืออื่นใดเขารักการเปลี่ยนแปลง นี่คือตัวตนของ “ธนา เธียรอัจฉริยะ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพาณิชย์ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)

จากอดีตที่ธนาเป็นเพียงแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดา มาถึงทุกวันนี้เขาโด่งดังจนเป็นที่รู้จักของผู้คนในวงกว้าง ยิ่งไปกว่านั้นเป็นผู้บริหารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมือมาร์เก็ตติ้งชั้นเซียน เป็นที่ต้องการตัวอย่างมากในการให้ไปพูดบนเวทีในฐานะผู้ที่ประสบความสำเร็จ
เขาต้องมีอะไรดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะมุมมองในการจัดการบริหารทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าทุกคนสามารถ “ทำได้” และ “ทำให้เป็นไปได้”

ชีวิตในปัจจุบัน
ผมมีความสุข ผมไม่ต้องการอำนาจ ไม่สนใจเรื่องการเมือง มีความสุขกับการทำงาน มีความสุขกับครอบครัว ผมไม่อยากได้อะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว

เพื่อนร่วมงานมองคุณธนาอย่างไร
พวกเขามองผมเหมือนพี่คนหนึ่ง ไม่ได้มองว่าเป็นหัวหน้า เฮไหน เฮนั่น เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ดุด่า เป็นผู้บริหารระดับสูงที่คุยกับลูกค้าได้ทุกระดับ เป็นคนเก่ง คิดไว ทำไว ตัดสินใจฉับไวมาก พิมพ์ดีดก็ไว กล้าที่จะลองทำ ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ
บางคนบอกว่าผมเป็นผู้บริหารที่ทำงานในภาวะกดดันได้ดีมาก ยิ่งมีแรงกดดันเท่าไรจะทำงานได้มีประสิทธิภาพเท่านั้น เสน่ห์ของผม ก็คือ งานที่คนอื่นทำไม่ได้แต่ผมทำได้ อะไรที่กดดัน อะไรที่ผิดหวัง ถือเป็นความท้าทายสำหรับผม นี่คือจุดแข็งของผม

จุดเปลี่ยน บทเรียนในชีวิต
ผมเคยลาออกจาก DTAC มาแล้วครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นไฟแรง มีอีโก้สูงมาก คิดว่าตัวเองเก่งเมื่อเข้ากับหัวหน้างานไม่ได้ก็ตัดสินใจลาออกไปทำงานที่ Hutch ถึงแม้จะเป็นการลาออกไปช่วงสั้นๆ แค่ 3 เดือน แต่เป็นความผิดพลาดในการตัดสินใจครั้งนั้น เพราะก่อนออกจาก DTAC และหลังออกไปแล้วความคิดต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะหลังจากออกไปแล้วสิ่งที่คิดไว้กลับกลายเป็นคนละเรื่อง

แต่แล้วผมได้โอกาสครั้งสอง โดยคุณบุญชัย (บุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ DTAC) ให้กลับเข้ามาทำงานที่ DTAC ซึ่งน้อยคนที่จะได้โอกาสแบบนี้ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ผมเปลี่ยนความคิดการทำงานเลย ให้ความสำคัญเรื่องคน อีกอย่างผมเปลี่ยนวิธีคิดตัวเองด้วยการไม่ยึดติดกับอะไร เช่น ห้องทำงานเล็กก็ไม่เป็นไร เบอร์มือถือก็ธรรมดาทั่วๆ ไป ไม่ต้องเรียกร้องใช้เบอร์สวยๆ ที่สำคัญทุกวันนี้อีโก้ลดลงไปอย่างมาก

บทเรียนแสนเจ็บปวด
สมัยที่ผมทำงานอยู่ที่ บล.เอกธำรง (ปัจจุบันกลายเป็น บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)) ในช่วงนั้นตลาดหุ้นไทยกำลังขาขึ้น ดัชนีกำลังจะไต่ไปที่ระดับ 1700 จุด หุ้นมีแต่ขึ้นกับขึ้น ทำให้ไม่รู้จักคำว่าขาดทุนในหุ้น แต่ช่วงนั้นผมได้เงินเดือนแค่ 20,000 บาท จึงไประดมเงินมาลงทุนในหุ้นจากน้องชาย และอาม่า รวมๆ กันแล้วเป็นแสนบาท

ช่วงนั้นผมลงทุนหุ้นตัวไหนก็กำไรและกำไรเยอะด้วย แต่มีอยู่วันหนึ่งอาม่าพูดกับผมว่ากำไรเยอะๆ ทำไมไม่ขายออกไป ผมตอบสวนออกไปทันทีว่ายังไม่ขาย อาม่าไม่รู้เรื่องอะไร เดี๋ยวผมจัดการให้เอง ตลาดหุ้นกำลังขึ้นและจะขึ้นไปอีก แต่แล้วตลาดหุ้นตกและตกลงอย่างรวดเร็ว สุดท้ายผมขาดทุนไปราวๆ 1 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นเงินออมของอาม่า น้องชาย และเงินของผม หลังจากนั้นผมต้องทำงานหาเงินใช้หนี้ยาวนานถึง 50 เดือน
บทเรียนที่ผมได้รับและจดจำไม่เคยลืม คือ ความไม่แน่นอน ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยง่ายและได้มาโดยไร้ความเสี่ยง

ประโยคที่จดจำได้ดีจากคุณซิกเว่
คุณซิกเว่คอยแนะนำ ชี้แนะผมเหมือนพนักงานคนอื่นๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ผมต้องได้รับการประเมินผลงานทุกๆ ไตรมาส แต่ประโยคหนึ่งคุณซิกเว่บอกเอาไว้และผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ เขาพูดกับผมว่า เมื่อคุณโต คุณต้องรู้จักฟังและฟังให้เป็น พร้อมกับบอกว่าถ้าองค์กรนิ่งหยุดอยู่กับที่จะไม่มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นเลย

จากคำพูดของคุณซิกเว่ ผมว่าเป็นสัจจธรรม และผมหันกลับมามองตัวเองและพบว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นและผมยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น คือ มนุษย์ย่อมมีความผิดพลาด ผมไม่ใช่เทวดาที่จะทำอะไรแล้วเก่ง ดีไปทุกอย่าง

ใน DTAC เปลี่ยนตำแหน่งการทำงานมาแล้ว 8 ตำแหน่ง
ใช่ครับ ผมเปลี่ยนตำแหน่งงานใน DTAC บ่อยมาก ผมเป็นคนที่ไม่คิดมาก มองในระยะสั้นๆ งานอะไรที่สนุกผมก็จะทำ และเป็นพวกปากมาก ชอบทะเลาะ ชอบแสดงความคิดเห็น ซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งงานบ่อยๆ เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมเข้าใจสัจธรรมชีวิตว่าทุกคนต้องมีความผิดพลาดและความสำเร็จ

เป็นผู้บริหารคิดนอกกรอบ
เป็นเรื่องการเอาตัวรอดมากกว่าทำให้ต้องคิดกลยุทธ์ที่ต้องมาต่อสู้กับคู่แข่ง แต่ก่อนอื่นเราต้องยอมรับว่าเราเป็นมวยรอง เราแพ้ทุกอย่างทั้งการเงิน การตลาด การเมือง เราต้องรู้ตัวตลอดเวลา และอย่าหลอกตัวเอง มีช่วงหนึ่งที่ออเร้นท์เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ซึ่งว่ากันว่าเป็นแบรนด์ที่ไปทำตลาดไหนก็ประสบความสำเร็จ ทำให้เราหล่นลงมาเป็นแบรนด์อันดับ 3 ทันที ดังนั้นถ้าเราจะทำการตลาดแบบปกติเราแพ้แน่นอน

เมื่อเป็นแบบนี้ ผมจึงหากลยุทธ์การตลาดทุกรูปแบบมาต่อสู้และสู้แบบยิบตา ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าหากเป็นมวยรองแล้วทำการต่อสู้เต็มที่ ถ้าแพ้ก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าชนะขึ้นมาถือว่าสุดยอด เห็นชัดๆ กับความคิดนอกกรอบคงจะเป็นแบรนด์แฮปปี้ ที่ผมกับคุณซิกเว่ต้องออกเดินทางลุยอย่างเต็มที่ ซึ่งเห็นผลจนถึงทุกวันนี้

ช่วยขยายความคำว่า “กลยุทธ์ตีน”
คำว่ากลยุทธ์ตีนมาจากคุณขรรค์ชัย บุนปาน แห่งค่ายมติชน ท่านเคยกล่าวเอาไว้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งมีนักข่าวถามท่านว่าค่ายมติชนมีกลยุทธ์อะไรในการฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงนั้นค่ายมติชนเป็นสำนักพิมพ์เดียวที่ยังมีผลประกอบการเป็นกำไร

คุณขรรค์ชัยตอบนักข่าวว่า “ผมใช้ตีนในการฝ่าวิกฤติ” ท่านเล่าว่าหลังจากรู้สัญญาณการเกิดวิกฤติ ก็เริ่มเดินปิดไฟ ประหยัดทุกอย่าง เดินบอกพนักงานทุกคนถึงสาเหตุการลดเงินเดือน เดินไปหาสายส่ง เดินแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

ผมจึงใช้กลยุทธ์แบบคุณขรรค์ชัยมาใช้กับ DTAC ด้วยการเดินไปหาลูกค้า เดินไปหาตัวแทนขายเพื่อถามว่าพวกเขาต้องการอะไร มีปัญหาอะไร ซึ่งทำไห้ได้ไอเดียใหม่ๆ และการเดินแบบนี้ทำให้ได้เห็นของจริง มีอะไรเสียหายก็แก้ปัญหาได้ตรงจุด ไม่ใช่มัวแต่มานั่งดูบทวิจัยบนโต๊ะทำงาน

กำหนดตัวเองเป็นแบรนด์อะไร
ผมคงไม่กำหนดตัวเองเป็นแบรนด์ ถ้ากำหนดแบบนั้นก็ไม่ใช่ตัวเอง แต่ผมเป็นวิญญูชน ความหมายของคำๆ นี้ คือ ผู้ที่รู้จักผิดชอบชั่วอย่างปกติ ซึ่งผมก็เป็นคนแบบนั้น เป็นคนปกติ เป็นคนทำงาน

ช่วยเล่าเหตุการณ์ตอนที่เกือบเสียชีวิต และบทเรียนที่ได้รับ
ในอดีตผมทานทุกอย่างที่ขวางหน้ามาตั้งแต่หนุ่มๆ แต่ไม่เคยป่วยเลย ร่างกายยังสดชื่น สมบูรณ์ แต่น้ำหนักขึ้นตลอดและเคยทำสถิติสูงสุดไว้แถวๆ 90 กิโลกรัมเมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา มีวันหนึ่งผมไปทานบุฟเฟ่ ทานเยอะมาก จนกระทั่งรู้สึกว่าใจสั่น มือเย็นและทนไม่ไหว ขณะที่นั่งรถกลับบ้านต้องหลับตาแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจให้คนขับรถขับตรงไปที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏ์ และเมื่อตรวจเสร็จ อาการผมหนักถึงขนาดเข้าห้องน้ำยังต้องมีพยาบาลคอยดูแลตลอดเวลา ตอนนั้นนึกถึงหน้าลูก หน้าภรรยา นึกถึงพ่อแม่ และบอกกับตัวเองว่ายังตายไม่ได้ ร่างกายยังแข็งแรงอยู่

เมื่อออกจากโรงพยาบาล ผมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานของตัวเอง ทานแต่ของที่มีประโยชน์ จนกระทั่งน้ำหนักลดลง คอเรสเตอรอลลดลง และสุขภาพดีขึ้น

นี่ก็เป็นการลงทุนของผม คือ การเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต และตอนนี้น้ำหนักราวๆ 78 กิโลกรัม และกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของผมครั้งนี้มี 2 อย่าง คือ อยากเปลี่ยนด้วยตัวเองกับถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลง ซึ่งผมยึดคำพูดของลีโอ ตอลสตอย นักเขียน นักคิดทางสังคมชาวรัสเซีย เอาไว้ในใจเสมอว่า ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนแปลงโลก แต่คุณไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยได้อย่างไร?

เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้ว ผมเห็นมุมมองอะไรใหม่ๆ มากมายอย่างน่าสนใจ ทั้งการดำเนินชีวิตและการทำงาน ทำให้เกิดการเรียนรู้ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต และเกิดขึ้นเมื่อไม่นานอีกด้วย ซึ่งในสมัยก่อนผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนแปลงอะไร แต่เมื่อได้เปลี่ยนแปลงแล้วทำให้มีความสนุกสนาน โดยผมจะเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และเปลี่ยนตัวเองก่อน อย่างเช่น ตอนนี้กำลังหัดใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ซึ่งผมก็ใช้สลับกับ PC ทุกวันนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำให้ได้ คือ การนั่งสมาธิ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับผมแต่จะพยายามทำให้ได้



การลงทุนทั้งหลายที่พูดมา จุดไหนคือกำไร
มีความสะสมมาโดยไม่รู้ตัวด้วย ที่ผ่านมาผมมีการลงทุนในชีวิตมามากและได้กำไรมากเช่นเดียวกัน แต่แน่นอนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ถ้าลงทุนและลงแรงก็จะเกิดการออกดอก ออกผล อย่างเช่น ผมลงทุนออกกำลังกายด้วยการวิ่ง กำไร ก็คือ ทำให้มีร่างกายแข็งแรง หรือการหันมาทานผัก ลดน้ำตาล กำไรอยู่ที่น้ำหนักตัวลดลงเข้าสู่จุดสมดุล
แต่ทั้งหลายทั้งปวงของการลงทุน สุดยอดของการลงทุนในมุมมองของผม ก็คือ การเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลง ก็คือ การลงทุน ลงทุนกับสิ่งที่เคยเป็นมาแล้วเปลี่ยนแปลงมัน หลังจากนั้นจะมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต ซึ่งอาจจะนับเป็นกำไรของชีวิต หรือเป็นประสบการณ์ชีวิตก็ได้ หรือเป็นการเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น ซึ่งก็คือกำไรชีวิต

เรื่องความรักได้ยินว่ายังมีการลงทุนและวางแผน
ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่เรื่องความรักหรือจีบสาวจะมีการวางแผน เช่น สมัยหนุ่มๆ เวลามีสาวสวยเข้ามาทำงานใหม่ๆ ผมจะประกาศก้องไปเลยว่าคนนี้ผมจะจีบ บ่งบอกให้รู้ว่าห้ามใครจีบแข่ง

คนมุ่งมั่น มั่นใจมาก
ใช่ แม้แต่การตีกอล์ฟ ผมฝึกตีกอล์ฟได้ไม่เท่าไร ผมกล้าออกรอบกับเพื่อนๆ ร่วมก๊วนที่เล่นเก่งๆ ได้ โดยไม่อาย ที่สำคัญกล้าที่จะเสี่ยงด้วยการเล่นพนันเล็กๆ น้อยกับเพื่อนๆ ถึงแม้ว่าตัวเองจะเพิ่งหัดเล่นกอล์ฟ

ความสำเร็จเกิดจากอะไร
ถ้าคิดว่าตัวเองสำเร็จจะล้มเหลว นี่เป็นปรัชญาที่ยึดมาโดยตลอด ดังนั้นผมคิดว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรมากมาย แต่ที่ผมดังก็เพราะอยู่ในธุรกิจมือถือ ซึ่งใครเข้ามาทำงานวงการนี้ดังทุกคน

แต่ความสำเร็จของผม อยู่ที่การมีความสุข มีชีวิตสบาย วันหยุดผมอยู่บ้าน อยู่กับลูกกับภรรยา เป็นคนธรรมดา ไม่มีของสะสมอะไร ผมมีความสุขสบายใจที่สุด

ครอบครัวมีส่วนสร้างความสำเร็จในงานมากน้อยแค่ไหน
มีส่วนอย่างมาก ถ้าผมยังไม่แต่งงานคงเป็นคนขี้เกียจ ดังนั้นครอบครัวเป็นแรงผลักดันให้เกิดพลังในการทำงาน ให้กำลังใจตลอดเวลา

ชอบนักเขียนคนไหน
หนังสือของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ผมอ่านทุกเล่ม รวมทั้งหนังสือของพี่จิก - ประภาส ชลศรานนท์ ผมชอบมุมมองไอเดียของพี่เขามาก เป็นฮีโร่ของผมเลย และผมชอบหนุ่มเมืองจันทร์ คุณบินหลา น. นพรัตน์ ซึ่งนักเขียนเหล่านี้มีความเหมือนกัน คือ เขียนหนังสือง่าย ทำให้คนอ่านเข้าใจง่าย เขียนสนุก

อ่านนวนิยายจีน ได้กลยุทธ์มาปรับใช้ในการทำงานบ้างหรือไม่
ผมอ่านกระบี่เย้ยยุทธจักร อ่านหลายรอบมากซึ่งมีตัวละครอยู่คนหนึ่ง ซึ่งชอบใช้ชีวิตแบบสันโดษ เป็นวิญญูชน มีจิตใจงดงาม ซึ่งในหนังสือเล่มนี้มีปรัชญาชีวิตอะไรหลากหลายที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้

วางแผนอนาคตอย่างไร
ผมไม่เคยวางแผนอนาคตยาวไกล คิดแค่เพียงว่าอยากทำงานที่ความสนุก ที่สำคัญผมคิดตลอดเวลาว่าหากไม่ได้ทำงานใน DTAC ผมจะต้องเดินออกไปอย่างสง่างาม ไปแบบเท่ๆ เก็บของไม่กี่ชิ้นแล้วไปได้เลย และไม่ทำให้คนที่เข้ามาแทนผมต้องนินทาว่ากล่าวผมเสียๆ หายๆ

ผมจะเดินออกไปด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำ ซึ่งฉากจบใน DTAC ของผมต้องมีความสุข แต่อย่าถามว่าหลังจากนั้นผมจะไปทำอะไร ซึ่งผมก็ไม่รู้เพราะเมื่อถึงวันนั้นก็จะมาหาเราเอง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาผมมักจะเป็นเช่นนั้น คือ เดี๋ยวก็มาเอง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเลือกทำอะไรที่เราต้องการ คือ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แล้วค่อยตัดสินใจ

ทุกวันนี้ ผมคิดว่าผมเดินมามากกว่าที่คิดเอาไว้ ชีวิตนี้ได้อะไรมากกว่าที่ควรจะได้อยู่แล้ว ผมขอฝากประโยคปิดท้ายว่า ทุกนาที คือ การลงทุน

พบกับ "ชีวิตคือการลงทุน" ทุกวันเสาร์ เวลา 21.00 น. ออกอากาศซ้ำทุกวันอาทิตย์เวลา 17.00 น.

ช่องทางการรับชม Money Channel: True Visions ช่อง 80, จานดาวเทียม Samart DTH ช่อง 08 และเคเบิลทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศ ช่อง 30



Create Date : 10 เมษายน 2552
Last Update : 10 เมษายน 2552 14:04:18 น. 0 comments
Counter : 370 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

TIKKY_NATTY
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




★... ...*★.• •*.:。✿✲-•*¤°•★
ติ๊กกลับมาแล้วค่า.....
กลับมาพร้อมกับนน.ตัวเท่าเดิม...นับวันๆๆ
มีแต่จะเพิ่มขึ้นๆๆๆ ปี54จะลองสู้อีกซักตั้งค่ะ
ขอกำลังใจจากเพื่อนๆด้วยนะคะ
★... ...*★.• •*.:。✿✲-•*¤°•★


เป้าหมาย!!!!!!!!!
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

ทำเท่าที่ได้..ขอแค่ให้ได้ทำ..โอเช๊...

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
*'^'~*-.,_,.-*ถึงเราจะไม่ได้เป็นกระต่าย วิ่งปรู๊ดเดียว ถึงเส้นชัย เป็นเต่าก็ถึงเส้นชัยได้ ตราบใดที่ยังเดินหน้าต่อไป "*-.,_,.-*~'^'
Friends' blogs
[Add TIKKY_NATTY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.