ฉันไม่รู้ว่าวันเวลาผ่านไปเร็วแค่ไหน
ฉันไม่รู้จริง ๆ ฉันรู้เพียงว่า... เวลาไม่เคยหยุดลง
แม้สักชั่วขณะใดใดเลย
เวลายังคงเดินไปอย่างสม่ำเสมอ ที่ดูเหมือนว่าเร็วเหลือ
เมื่อเวลานั้นทำหน้าที่พรากความสุขที่เกิดขึ้น
ท่ามกลางความพลั้งเผลอในความสำคัญของวันเวลา
เย็นวันนี้ ฉันจอดรถที่เดิม ดูตะวันอันไกลโพ้น
ตะวัน...กำลังจะลาลับขอบฟ้า
ท่ามกลางแสงตะวันที่ค่อย ๆเลือนหายไปพร้อมดวงตะวันนั้น
ฉันสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดพร้อมกับทอดสายตาไปยังขอบฟ้าไกลนั้น
สดชื่นทั้งสายตา อิ่มเอมไปถึงหัวใจ
ฉันหันหลังกลับเดินมายังรถเพื่อหยิบกล้องคู่กายหมายเก็บภาพดวงตะวันนี้
เป็นของขวัญจากธรรมชาติกลับบ้านอันเป็นที่รักยิ่ง
ไกลเหลือเกิน ฉันอยากเห็นเธอใกล้ ๆมากกว่านี้
ฉันอาจจะร้อนจนทนไม่ได้ และเธออาจไม่สวยงามเหมือนที่ฉันมุ่งหวัง
เพราะอาจขาดองค์ประกอบอื่น ๆที่ส่งเสริมให้เธองามเด่น
ธรรมชาติสร้างความงดงามมาลงตัวและเหมาะสมพอดี
ฉันขอชื่นชมตามที่ความสามารถฉันมี
เพียงเท่านี้ ...ฉันก็พบสุขที่ยิ่งใหญ่เหลือ
ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิม ยืนมองบ้าง ถ่ายภาพบ้าง
เหมือนไม่มีอะไรแปลกใหม่เกิดขึ้น นอกจาก...
ตะวันคล้อยต่ำลงทุกขณะ
ฉันเดินไปมาหามุมเก็บภาพดวงตะวัน ที่คงมีสักไม่กี่มุมนัก
ฉันจึงเปลี่ยนมาใช้เทคนิคการวัดแสง
เพื่อให้ได้ภาพที่หลายอารมณ์หลากความรู้สึก
ความสุขบนความเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพ
ทำให้ฉันหลงลืมเวลาไปโดยปริยาย
เวลาที่ยังคงเดินไปอย่างสม่ำเสมอ
แต่ดูราวกับเร็วเหลือ
เมื่อเวลานั้นกำลังทำหน้าที่พรากความสุขให้จากไป
กับการนำพาความมืดมิดแห่งรัตติกาลกลับมา...อีกครั้ง
ไม่ว่าเวลาจะหมุนช้าหรือเร็วเพียงใด
จงทำวันและเวลานี้ ให้ดีที่สุด
และจงมีความสุขแม้วันเวลานั้นได้พรากสิ่งอันเป็นที่รักให้จากไป
เพราะทุกสรรพสิ่ง อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์แห่งเวลา
ที่ไม่สามารถขัดขืนหรือเหนี่ยวรั้ง
แต่เราสามารถอยู่ร่วมกับเวลาได้อย่างมีความสุข
ด้วย... ส ติ
.........................
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม ทักทาย
ขอให้ทุกท่าน มีความสุข สุขภาพแข็งแรง
สายลมหนาวเริ่มมาแล้ว ดูแลสุขภาพกันนะครับ