ทิดเต๋าเผาพระอาจารย์ ตอน ยืนฉี่อย่างไรไม่ให้เป็นอาบัติ
เอ้อ..คือไอ้เรื่องยืนฉี่นี่นะครับ เอ้อ....คือ....แบบ....ผม..ผมผิดตรงไหน..? ผมผิดตรงไหน..? ใคร ๆ เขาก็ทำกันไม่ใช่หรือครับ ต่างกันแค่ผมเป็น สามเณร เท่านั้นเอง
พลั่กกก..! ไอ้นั่นแหละที่ผิด..!
เล่ากันแบบไม่อายกันเลยนะครับ ไหน ๆ ก็ประจานตัวเองมาขนาดนี้แล้ว มิน่า..วันนี้ไปธุระข้างนอก รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ตลอดเวลา ขนคอลุกชันพรึ่บ ๆ ไอ้เราก็คิดว่า แหม..คงเป็นธรรมปีติในสังฆานุสติกรรมฐาน อย่างที่ท่านเคยพูดครับว่า
"เข้าป่าอย่านึกถึงเสือ เดี๋ยวเสือจะมา" นึกถึงสังฆานุสติกรรมฐาน สังฆานุสติกรรมฐานก็มาเต็ม ๆ เลย แหะ..แหะ.. นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เรานึกถึงท่านอยู่เสมอ ท่านก็ไม่ทอดทิ้งเรานะครับ (แต่แบบการ "เผา" นี่ ผมไม่ได้นึกถึงจริงนะครับ)
ขอแก้ตัวครับ ขอแก้ตัว เรื่องยืนฉี่นี่....................... ผมทำจริง ๆ ครับ แต่แอบทำในห้องน้ำ ซึ่งก็ไม่มีหู ประตูก็ไม่มีช่อง ทำไมมีเสียงโผล่มาได้ อ้อ..แต่ผมลืมไปว่ามีปากจากห้องข้าง ๆ ถึงมีเสียงมาได้ครับ ที่สำคัญตอนนั้นนี่แบบเนียนสุด ๆ เปิดน้ำให้ไหลก่อน แล้วผมก็ปล่อยออกไป ให้เสียงมันสอดประสานกันอย่างกลมกลืนแล้วเชียว
แบบว่าตอนนั้นเพิ่งบวชใหม่ ๆ ครับ ประกอบกับบทมันจะทนไม่ไหวแล้ว อาศัยความเคยชินในกมลสันดาน(นิสัยถาวร) ปิดประตูห้องน้ำได้ก็ถลกสบงเลยครับ มือหนึ่งจับสบง มือหนึ่งก็เอื้อมไปเปิดก๊อกน้ำ(เอาให้เนียน) ยืนฉี่อย่างสบายใจ
ทันใดนั้นเองครับ เหมือนกับมีเสียงสวรรค์ประทานพรลงมาจากฟ้า ข้ามกำแพงระหว่างห้องน้ำมาว่า "เณร..ยืนฉี่มันผิดพระวินัย..!"
ผมนี่แบบว่ายืนตัวเกร็งฉี่หดเลยครับ..! แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วครับ ลูกศรเมื่อออกจากแล่งไปแล้ว คงไม่มีทางจะย้อนหวนกลับคืนมาได้ เหมือน "สายน้ำที่ไม่มีวันไหลกลับ" ขออีกปรี๊ดหนึ่งแล้วกันครับ อูย..เฮ้ออ..!
เสียงสวรรค์ผ่าเปรี้ยงตามลงมาอีกว่า "ที่ทำไปอย่าบอกนะว่าไม่รู้..!" รู้ครับ(ตอบเสียงอ่อย ๆ หวังความเมตตา ประสานกับเสียงน้ำไหลเอื่อย ๆ แบบสงบเย็นจากก๊อกประปา) ได้ผลครับได้ผล เสียงฟ้าที่ผ่าลงมากลับกลายเปรียบเสมือนแสงแดดที่อบอุ่นในยามเที่ยงวัน
"เณร อยากรู้มั้ยว่ายืนฉี่อย่างไรไม่ให้เป็นอาบัติ ?" "อยากรู้ครับ.. น้ำเสียงกระตือรือร้นแบบสุด ๆ คิดในใจ "เข้าทางตูแล้ว ท่านช่างเมตตาจริง ๆ
"เณรเอาสองมือยันกำแพงไว้นะ" "ครับ" "ยืนแยกขาออกจากกันทั้งสองข้าง" "ครับ" " ยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้น จะซ้ายหรือขวาก็ได้ตามแต่เราพอใจ จากนั้นก็ยืนฉี่ได้ตามสบายเลย..!"
ในขณะที่ผมกำลังยืนงง ๆ ในกริยาท่าทางของตนเองอยู่ เสียงนั้นก็ตามติดสำทับลงมาทันทีว่า
"เพราะไอ้ที่ยกขาฉี่มันคือหมา พระพุทธเจ้าท่านไม่ปรับหรอก มันไม่ใช่พระไม่ใช่เณร..!
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "จะขี้จะเยี่ยวไม่มีทางพ้นหูพ้นตาท่านไปได้หรอกครับ" เพราะผมโดนมาแล้วทั้งสองกรณี..!
๑๐ มกราคม ๒๕๔๒ (วัดดั๊ดดอป็องชก บ้านกำมะแว็ด เมืองตันบวยเซียท รัฐมอญ ประเทศพม่า)
Create Date : 24 กรกฎาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 16:00:53 น. |
Counter : 1947 Pageviews. |
|
|
|