Bloggang.com : tiara :

11 ขวบ 6 เดือน : เป่าทรัมเป็ตในงานกีฬาสีก่อนหนีเที่ยวฮอกไกโด

สวัสดีค่าทุกคน blog นี้เป็นคิวของแม่กลับมาเขียนอีกแล้ว แถมมีเรื่องเล่าเยอะซะด้วย มาเริ่มกันเลยกับกิจกรรมงานวันกีฬาสีของเหล่าเด็กน้อยชั้นอนุบาลและประถมของโรงเรียนวิทยาสาธิต ปีนี้ยิ่งใหญ่อลังการหน่อยเพราะผู้อำนวยการโรงเรียนอนุญาตให้จัดงานในโรงยิม 4000 ที่นั่งบริเวณสะพานหินได้ พ่อแม่ก็สบายค่ะ มีที่นั่งรอดูเด็กๆ เล่นกีฬา เด็กๆ ก็ไม่ร้อนเพราะโรงยิมเป็นแอร์ทั้งหมด ทุกคนแฮปปี้มาก

เริ่มงานด้วยการเดินพาเหรดจากลานกีฬาไปที่โรงยิมค่ะ วันนี้เกาทัณฑ์ตื่นตั้งแต่เช้าเพราะตื่นเต้นที่จะได้เป่าทรัมเป็ตโชว์ เขาว่าเขาเป็นคนเดียวในวงที่เป่าทรัมเป็ต และเป็นนักเรียนคนแรกของโรงเรียนที่เคยเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้มาก่อน โม้ซะ...

เด็กทำได้ดีเชียวค่ะ พ่อแม่และคุณปู่เดินตามเธอ คอยฟังเสียงทรัมเป็ต และให้กำลังใจ เธอทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่จนริมฝีปากแตกเลย

เก็บภาพกับเพื่อนๆ มาฝากด้วยค่ะ ปีนี้อยู่โรงเรียนเป็นปีสุดท้ายแล้ว และทำหน้าที่ในวงดุริยางค์เป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน

หม่าม๊าภูมิใจในตัวลูกนะ เจ็บปากก็ไม่บ่นเลย (กลัวแม่ห้ามเป่า

) กว่าจะรู้ก็ตอนไปถึงญี่ปุ่นโน่นแล้ว

พอทำหน้าที่ในวงดุริยางค์เสร็จ แม่ก็ขออนุญาตคุณครูพาตัวกลับบ้าน เพราะต้องไปจัดกระเป๋าเดินทางก่อนไปเที่ยวฮอกไกโดคืนนี้ ดูซิ...แม่ชิลล์เกิ๊น จะเดินทางเย็นนี้อยู่แล้ว ตอนเช้ายังไม่จัดกระเป๋าเลยยยย

แต่ก็ทันค่า เราออกจากบ้านกันตอน 2 ทุ่ม ให้น้าชำมารับทุกคนขึ้นรถตู้ไปสนามบินกัน เครื่องออกจากภูเก็ตเที่ยงคืน ผู้ใหญ่ 5 คน เด็ก 1 คนกับกระเป๋าเดินทาง 5 ใบ

เราไปลงอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ประมาณ 8 โมงเช้าของที่นู่นเพื่อเปลี่ยนเครื่อง แล้วสิบโมงก็ขึ้นเครื่องอีกรอบเพื่อไปลงสนามบินชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่น ไปถึงที่โน่นประมาณเที่ยงกว่าๆ ค่ะ จากสนามบินก็ตรงไปบริษัทเช่ารถ มาเที่ยวคราวนี้ต้องขับรถเอง น้องทัณฑ์เหนื่อยยยยย...

ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นหน้าร้อนค่ะ เราเที่ยวฮอกไกโดโดยเฉพาะ เป็นทริปพาคุณย่าไปดูลาเวนเดอร์ หน้าร้อนของเขาพระอาทิตย์ขึ้นตี 4 ตกหลัง 2 ทุ่ม วันไหนอากาศดีไม่มีเมฆนี่ร้อนเอาเรื่องเหมือนกันนะคะ

เนื่องจาก blog นี้เป็น blog ของน้องทัณฑ์ก็เลยจะตั้งใจเล่าเรื่องน้องทัณฑ์โดยเฉพาะนะคะ ใครสนใจเรื่องการท่องเที่ยวฮอกไกโดในหน้าร้อน เดี๋ยวต้องรอป่าป๊า up blog ท่องเที่ยวให้ก่อนเนอะ รอหน่อยน้า ถ่ายรูปมาสามพันกว่าภาพ ดูไปตาลายไป

เอาเรื่องการกินของคุณชายก่อน ทริปนี้รู้สึกว่าเขาโตขึ้นเยอะเลยค่ะ เข้าใจว่าเดินทางมาต่างประเทศเราเลือกกินไม่ได้ มีอะไรกินก็ต้องกินไปก่อนเพื่อไม่ให้ท้องว่าง เห็นได้ชัดเลยว่าน้องทัณฑ์มีความพยายามที่จะกินมาก จนกลายเป็นกินเก่งแบบไม่น่าเชื่อ

เริ่มจากอาหารเช้าและอาหารบนเครื่องบิน เธอกินอาหารฝรั่งเป็นหลักค่ะ วันไหนไม่มีอาหารเช้าของโรงแรมเราก็เลือกซื้อนมกับขนมปัง ครัวซองจ์ หรือเค้กไปให้กินแทน เราอยู่ในถิ่นนมอร่อยก็เลยไม่ห่วง

ต้องเอ่ยปากชมกันจริงๆ เพราะปกติเป็นเด็กที่ไม่แม้แต่อยากจะลอง แต่คราวนี้อาหารบนเครื่องบินกินครบเกือบทุกครั้ง ขาดเฉพาะมื้อดึกที่เธอหลับ ไม่ยอมตื่นมากินค่ะ

แต่ที่เซอร์ไพรส์จริงๆ จะเป็นอาหารกลางวันกับอาหารเย็นค่ะ เพราะปกติหากเป็นอาหารญี่ปุ่น เธอจะกินเฉพาะซาบะหรือแซลมอนย่างซีอิ๊ว แต่มาญี่ปุ่นคราวนี้เธอลองกินหมูทอด ข้าวห่อไข่ แล้วก็ราเม็งด้วย ปรากฏว่าชอบและกินได้เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ จนลุงต้องออกปากว่า "เอานิสัยอย่างนี้กลับไปบ้านด้วยนะลูกกกกก"

อาการกลางวันที่ทานในญี่ปุ่น พิซซ่าหน้าชีสตู้มๆ ก็ชอบค่ะ

ร้านอาหารที่นี่มักเสิร์ฟอาหารเป็นเซ็ตและมีขนาดใหญ่มากกกกก บางมื้อแม่เองยังทานไม่หมดเลย แต่น้องทัณฑ์เก่งกว่า กินเยอะกว่าแม่ซะอีก ลองทานแม้กระทั่งอาหารปิ้งย่าง กินเยอะมาก ทุกคนดีใจสุดๆ โดยเฉพาะอาหารเย็น กินเยอะๆ โตไวๆ น้าาาา

นอกจากอาหารมื้อหลักที่กินเก่งขึ้นแล้ว อาหารว่างก็ไม่ลดละ มีไอกรีมแบบซอฟครีมที่ไหน มีเกาทัณฑ์ที่นั่นฮะ แล้วป่าป๊าก็มักจะซื้อครัวซองจ์เก็บไว้ให้ เพราะกลัวว่าลูกจะกินอะไรไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังมีครัวซองจ์ ไปโรงงานชอกโกแลตก็กินทั้งไอสกรีม กินทั้งชอคโกแลตเย็นเลยฮะ นอกจากนี้แล้วของที่อร่อยอีกอย่างที่น้องทัณฑ์ไม่ยอมพลาดก็คือเค้กชอคโกแลต กินเป็นอาหารเช้าและของว่างก็ได้

เรื่องกินทำให้พ่อแม่เบาใจไปเยอะเลย แถมยังเดินเก่งมากด้วย ไม่มีบ่น เดินบนภูเขาหิมะก็ชอบ สนุกสนานอารมณ์ดี อย่างนี้น่าพาไปเที่ยวบ่อยๆ ช่วงนี้ได้ท่าถ่ายรูปมาใหม่ เขาเรียกว่าท่า "Dab" ลุงเลยให้ Dab ทุกที่ที่ไปเพื่อจะถ่ายรูปเก็บไว้ เธอชอบเพราะไม่เปิดเผยหน้าตานี่แหละ ปกติขอถ่ายรูปก็ยากจะตาย

การเดินทางไปต่างประเทศมีข้อดีหลายอย่าง นอกจากจะเป็นการพักผ่อนและท่องเที่ยวเพื่อความสนุกสนานแล้ว ยังเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้เด็กได้เห็นด้วย เด็กๆ จะได้ฝึกการปรับตัว ทั้งเรื่องกิน นอน และการจัดการตัวเองให้พร้อมสำหรับสถานการณ์พิเศษ อย่างน้องทัณฑ์เขาก็สามารถตื่นนอน อาบน้ำ และจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางในทุกเช้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ไม่มีงอแงเลย กลายเป็นเด็กโตจริงๆ แต่เด็กโตก็ยังอยากได้ของเล่นอยู่นะฮะ

ได้ฝึกภาษาด้วย ตอนนี้ฟังภาษาอังกฤษได้สบาย เวลาลุงไปคุยกับพนักงานของโรงแรมหน้าเคาน์เตอร์ก็ไปช่วยแปลด้วยแหนะ กลับมาโม้แม่ว่าช่วยลุงออกค่าที่จอดรถของโรงแรมไป 200 เยน ซึ่งก็คือเงินที่ลุงให้ไว้เป็นพ็อกเก็ตมันนี่นั่นแล อัฐลุงซื้อขนมให้ลุงแท้ๆ

แถมบอกป๊าว่าอีกสามปีเราไปเที่ยวใหม่นะ คราวนี้ขอเห็นหิมะแล้วกัน ป๊าว่าไงคะ

คิดว่าการท่องเที่ยวคราวนี้คงสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนและการวาดภาพให้ลูกได้เยอะเลยนะครับเกาทัณฑ์ ต้องขอบคุณคุณลุงที่พาพวกเราไปทั้งครอบครัว แล้วไว้ไปเที่ยวกันใหม่นะ

ยังไม่จบแค่นั้นฮะ เพราะกลับมาถึงบ้านต้องมีการซ่อมร่างก่อน เนื่องจากก่อนไปญี่ปุ่นน้องทัณฑ์มีไอแห้งๆ แต่ไม่ถี่นัก พอกลับมาก็ยังไม่หาย ลุงหงุดหงิดกลัวว่าจะเป็นไซนัสอักเสบเลยจับ x-ray ปอดซะเลย ปรากฏว่าผนังจมูกด้านในบวม แต่ไม่มีไข้ ไม่มีน้ำมูกฮะ ได้ยามาเยอะเลย

กินยามาสองสามวัน ดีขึ้นเล็กน้อยค่ะ แต่ต้องต่อสู้กับอากาศชื้นของภูเก็ตต่อ งั้นต้องออกกำลังกายด้วยน้า จะได้กลับมาสู้เรื่องการเรียนต่อ ไฟท์โต้!!!

แล้วเจอกันใหม่ blog หน้าฮะ

Create Date : 19 กรกฎาคม 2560

0 comments

Last Update : 20 กรกฎาคม 2560 8:58:46 น.

Counter : 2736 Pageviews.