ทำไมผู้หญิงต้องซิง แต่ผู้ชายสุดสวิงแค่ไหนก็ได้?
คำถามจากแฟนข้าพเจ้าว่าด้วยค่านิยมในสังคมดัดจริตเบี้ยว ๆ ที่ชื่อว่าไทยแลนด์ เราจะลืมไปก่อนว่าคนจำนวนมากรวมไปถึงตนเขียนไม่ได้เห็นด้วยกับค่านิยมนี้แล้ว ที่มาของค่านิยมนี้มันมาตั้งแต่การพยายามสร้างสถาบันครอบครัวที่เป็นแบบแผนของไทยแต่โบราณ ที่หญิงสาวไม่ต้องทำอะไรเลยอยู่บ้านอย่างเดียวแม่บ้านแม่เรือนเฉย ๆ กระทั่งบางคนสิ้นลมไปฝาชีก็หารู้ไม่ อย่างพี่มากพระโขนง ข้อได้เปรียบของการออกไปทำงานต่างแดน เดินเท้านั่งเกวียนเสือสำเภาก็คือออกไปทีน้าน นาน บ้างไปรบต่างแดนบ้างอะไรบ้าง ก็คือการไปพบรู้จักมักจี่สาวต่างแดน ที่แม่นางทั้งหลายยังไม่มีสิ่งผูกมัดชีวิตที่เรียกว่าโซเชียลเนตเวริ์ค กระทาชายหนุ่มอ้างว่ามันโสด มันรักหนักหนาก็ไปตามลมปาก รู้ตัวอีกทีก็โดนข้าวต้มมัดไปเรียบร้อย ถ้าอยู่นานจนป่องแป่งก็โอเคตามฝาชีมาอยู่ด้วยถึงได้รู้ว่ามีคุณนายที่วันทูทรีโฟไฟฟ์ ชาลาลาๆๆๆ อยู่ก่อนหน้า ออกญาหื่นจัด สปอร์ต ใจดี กรุงศรี จึงได้มีภรรยาเป็นโหลได้ด้วยประการละฉะนี้ จากหนึ่งคนเป็นร้อยเป็นพันจนเต็มสังคมดัดจริต สืบต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นสู่รุ่นสู่รุ่น ... มาจนถึงปัจจุบันก็เลยเป็นที่ทึกทักกันไปเองว่าผู้ชายเจ้าชู้อ่ะดี ผู้หญิงต้องมีคนเดียวถึงจะแจ่ม นำมาสู่ข้อความข้างต้นว่าผู้ชายต้องมากประสบการณ์ แต่ผู้หหญิงต้องพบพานในวันแต่งเท่านั้น เออ ให้มันได้จั่งซี้ ที่จริงประเด็นต่อไปไม่เกี่ยวกับข้อความข้างบน และใครดัดจริตอย่าอ่านเป็นอันขาด เตือนแล้วนะ ปัจจุบันการต่อต้านความคิดที่ว่าผู้หญิง้องซิงมันเลยเถิดไปถึงสถานบันเทิงสำหรับผู้หญิง อันเป็นที่รวมตัวของรูปหล่อกล้ามใหญ่ใครหลายสิบหลายร้อยคน ที่จะคอยปรยเปรอและจุดไฟแห่งความหฤหรรษ์ให้กับบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลาย (ทำไมสำเนียงการเขียนมันถึงได้ไปใกล้นิยายอิโรติกหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะ *-*) หนึ่งในบรรดาล๔กค้ากลุ่มหลักของสถานบันเทิงดังกล่าวก็คือสาวน้อยอรชรทั้งหลายที่มาปรนเปรอคุณผู้ชายเค้านั่นแหละ เธอพวกนี้ก็เครียดและอยากได้ความผ่อนคลาย มีมากมีมายที่หมดตัวไปกับลมปากของพวกรูปหล่อกล้ามหย่ายยยยย หย้าย ๆๆๆๆ ย้าา เป็นคล้าย ๆ วงเวียนเวรกรรมน่ะครับ ผู้หญิงไปหลอกมาจากผู้ชาย ก็โดนผู้ชายโดยกำเนิดหลอกไปให้ผู้ชายจริง ๆ อีกที แล้วผู้ชายก็โดนผู้หญิงหลอกไปให้.... เป็นวงจรกามาอุบาทว์โดยแท้ ก็มันเป็นหนึ่งในสี่กิจกรรมพื้นฐานที่สัตว์เกือบทุกชนิดทั่วโลกทำกัน ผู้หญิงคนไหนมีโอกาสผมแนะนำให้ไปลอง ๆ ไอ้สถานบันเทิงที่ว่าดูนะ เชื่อว่าหาไม่ยากถ้าตั้งใจจะหา ที่ให้ลองหาโอกาสไม่ใช่อะไรนะ สถานบันเทิงของผู้หญิงมันไม่ได้เน้นเรื่องกิจกรรมข้าวต้มมัด และ การได้ลองอะไรซักครั้งในชีวิต ผมมองว่ายังไงมันก็เป็นส่วนกำไรอ่ะ คือถ้าเราไม่พูดกันถึงคุณธรรม จริยธรรม มโนธรรม อะไรต่าง ๆ ในสังคมเบี้ยว ๆ นี้อ่ะนะ
ปิดท้าย สำหรับตัวผม ผมไม่สนอดีตของคุณตราบเท่าที่คุณไม่เล่าให้ฟัง ผมไม่ห่วงอนาคตเพราะผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผมจะยังหายใจมั้ย ผมสนแค่วันนี้ที่เราจะรักกันและเข้าใจกันเหนืออื่นใด ปัจจัยติ๊งต๊องอะไรซักแค่ไหน ผมไม่สนไม่แคร์
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2555 |
|
2 comments |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2555 9:14:53 น. |
Counter : 1900 Pageviews. |
|
|
|
ปล. อ่านจับใจความลำบากขึ้นทุกทีนะเรา ตอนเรียนยังเขียนเรียบเรียงดีกว่านี้เลยนะคุณฝาชี