|
||||
นิทานคนใบ้ / บทที่2.1 ตามหา หลังจากที่พรานหนุ่มพบเด็กหญิงขี้แยผู้ชอบเลี้ยงกระต่าย เขาคิดว่าเธอเป็นเพียงเด็กน้อยที่ชอบเรียกร้องความสนใจ คงไม่มีทางที่เขาจะสนใจ เขาไม่รู้ว่าเธอหลงทางมาจากไหน แล้วก็ไม่ได้มีเวลามากมาย ถึงขนาดจะใจดีออกตามหาครอบครัวให้เธอ แต่ยิ่งเธอร้องไห้เพียงไร ใจที่เย่อหยิ่งของเขากลับอยากหยิบยื่นมิตรภาพนี้ให้ ถึงไร้ครอบครัวก็อยู่ให้รอดและเป็นสุขละกันเขาคงทำให้ได้เท่านี้ ด้วยความที่เธอเป็นผู้ช่วยชีวิต เขาจึงยอมให้เธอพำนักกับเขา โดยเธอสัญญาว่าจะใช้เวลาเพียงไม่นานนัก เพื่อจะตามหาบ้านของตน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเขาทำตัวเหมือนคนใบ้ เขาไม่พูดกับเธอ ภาษามือเล็กน้อยถูกส่งผ่านไป เพื่อส่งต่อเจตจำนงอย่างหยาบๆ แต่เด็กน้อยผู้ขี้แยต้องการเพื่อน เธอจึงเห็นเขาเป็นมิตรแท้ในยามยาก แม้ว่าเขาจะไม่พูดกับเธอแต่เธอก็พยายามพูดกับเขาทุกวัน ด้วยใจที่หวังว่าชายหนุ่มนั้นจะเข้าใจในตัวเธอ แม้ไม่ได้พูดไปแต่ชายหนุ่มก็รู้สึกอบอุ่น ที่มีใครสักคนที่ไม่ดูถูกความยากจนและตำหนิในความดื้อรั้นของเขา ความที่เขาไม่ยอมปริปากใดๆกับเธอ มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเลิกพูดกับเขาแม้แต่น้อย ในชีวิตเขามีเรื่องราวมากมายที่อาจทำให้เธอหัวเราะได้ มันคงจะมีประโยชน์ที่จะพูด ถ้าคำพูดนั้นสามารถทำให้คนอีกคนมีรอยยิ้ม เมื่อใจอ่อนลงกับความพูดจ้อและช่างเอาอกเอาใจของเด็กน้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะพูดกับเธอ เขาบอกเล่าเรื่องราวสนุกสนานและสอนหนังสือให้เธออีก มันทำให้เขาระลึกย้อนไปถึงสมัยที่เขาเป็นบัณฑิตรับใช้อยู่ในวัง เด็กน้อยช่างเฉลียวฉลาดเธอสามารถเรียนรู้และซึมซับเรื่องราวต่างๆ ที่เขาสอนให้ได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งเขานึกแปลกใจว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงต่างกับสามัญชนทั่วไป ทั้งท่าทางอากัปกิริยาและผิวพรรณ เจ้ามีชื่อหรือเปล่า เขาถามอย่างนุ่มนวลในขณะที่กำลังสอนหนังสือเธอ
ชื่อของข้าเหรอ เธอทำหน้าอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบเขาพร้อมใบหน้าหงอย ข้าไม่มีชื่อ
ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าเสียดีไหม เขาหยิบพู่กันขึ้นมาเคาะหน้าผากลูกศิษย์ด้วยความเอ็นดู
ท่านว่าข้าควรจะชื่ออะไร เธอทำตาเป็นประกายด้วยความสนอกสนใจ
อย่างเจ้าเหรอ ชื่อเจ้าลูกเป็ดดีไหม ชายหนุ่มแสร้งทำหน้าครุ่นคิด
ไม่ดีอย่างยิ่ง เธอทำหน้านิ่วด้วยความไม่พอใจ ข้าชื่อสโนว์ตามเจ้ากระต่ายยังดีกว่าซะอีก
ข้าจะเรียกเจ้าว่าออโรร่าดีไหม เขาทำหน้ายิ้มเหมือนหนุ่มน้อยใจดี
ข้าชอบมาก ข้าจะชื่อนี้ละกัน เธอยิ้มอย่างมีความสุข
ดีมากออโรร่า ข้าชื่อเวนดอร์ยินดีที่ได้พบกัน พรานหนุ่มยื่นมือไปดีดศีรษะน้อยๆด้วยความหมั่นไส้
เวลาผ่านไปฤดูแล้วฤดูเล่าเธอก็ยังคงตามหาครอบครัวของเธอต่อไป เธอพยายามเตรียมเงินและเสบียง จากการช่วยเวนดอร์เก็บของป่าขาย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินทางเข้าเมืองหลวงเธอบอกเขาเพียงว่าครอบครัวของเธออยู่ในเมืองหลวง และนอกนั้นเธอก็ไม่รู้อะไรอีกเธอไม่รู้แม้กระทั้งชื่อของพ่อแม่ของตนเอง ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสาร
คนในหมู่บ้านต่างชื่นชอบเธอที่เฉียวฉลาดและขยันขันแข็ง เธอกลายเป็นล่ามส่วนตัวของพรานหนุ่มไปซะแล้ว ชาวบ้านธรรมดาจึงมีโอกาสเข้ามาติดต่อเจรจาซื้อขายกับเขาได้ ช่างน่ายินดียิ่งนัก
หลายปีมานี้เธอทำงานหนักทุกชนิดโดนไม่เกี่ยงด้วยแรงบันดาลใจเดียวคือ เดินทางกลับเมืองหลวงเพื่อไปตามหาครอบครัวของตนเอง แต่ที่นี่ช่างห่างไกลกับเมืองหลวงนักต้องใช้เวลาเก็บเงินก้อนโตและเตรียมการอยู่นานโข
ห้าปีผ่านไปเธออายุย่างเข้า 17 ปี และเจริญวัยเป็นดรุณีแรกรุ่นผู้แสนงดงาม หน้ารูปไข่รับกับผมถักเปียยาวถึงกลางหลังแซมด้วยดอกไม้สีขาว ดวงตาสีน้ำตาลชวนฝัน รับกับแพรขนตางอนงาม ผิวที่งามผุดผ่องทำให้ใครๆ ก็กล่าวว่าเธอเป็นหญิงที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน อากัปกิริยาแช่มช้อยงดงามเรียบร้อย สำอางเหมือนลูกเศรษฐีผู้ดีตกยาก ทำให้ใครๆ ก็พากันสงสารและเอ็นดูเธอ ชายหนุ่มในหมู่บ้านชอบมาแอบมองเธอทำงานบ้าน ทำให้เวนดอร์ในวัย 25 ปี รำคาญใจอยู่บ่อยๆ และสาวๆ ในหมู่บ้านต่างนิยมชมชอบเธอทั้งนั้นเพราะฝีมือการตัดเสื้อที่ไม่เป็นรองใคร ทำให้บ้านของเวนดอร์ ดูครึกครื้นขึ้นและมีลูกค้าแวะเวียนบ่อยๆ ตั้งแต่นั้นมา
ท่านพราน เช้านี้ข้าดูเป็นอย่างไรบ้าง เธอก้าวเข้ามายืนตรงหน้าเขาก็หมุนตัวไปรอบๆ
เวนดอร์ที่กำลังจัดเตรียมสัมภาระเข้าป่าได้เงยหน้ามอง และรู้สึกตะลึงไปชั่วครู่กับความงามตรงหน้า เขาเพิ่งจะรู้สึกได้ว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยอีกต่อไป ก็เหมือนทุกวัน เขาทำเป็นไม่สนใจเธอ
หากใบหน้าที่แต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบามีร้อยยิ้มสนุกสนาน ไกวกระโปรงออกงานไปมาด้วยความภูมิใจ ท่านน่ะไม่คิดจะชมกันบ้างหรือไรนี่คือเสื้อตัวใหม่ที่ข้าตัดเย็บให้ลูกสาวของลอร์ดอาร์เทอร์ ไม่นานข้าก็จะมีเงินพอจะกลับเข้าเมืองหลวงแล้ว
เรื่องของเจ้า พักหลังมานี้ ทุกครั้งที่เธอพูดถึงเรื่องเข้าเมืองหลวงทีไร เวนดอร์ก็จะมีท่าทีไม่สบอารมณ์เสมอ จนทำให้เธอรู้สึกเอาใจเขาไม่ถูกในบางครั้ง อย่าว่าแต่เธอเลยบางทีเขาเองก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกัน
ท่านเป็นอะไรไปข้าทำอะไรให้ท่านไม่สบอารมณ์อีก ข้าก็แค่อยากตามหาพ่อแม่ท่านเองก็อยากให้ข้ารีบๆ ไปจากที่นี่ไม่ใช่หรือ หญิงสาวมีท่าทีไม่สบายใจ
เวนดอร์เห็นดังนั้น จึงเข้าไปลูบศีรษะปลอบเธอแล้วบอกว่า ช่างข้าเถอะ ช่วงนี้ข้าคงจะงานหนักเจ้าทำเสื้อผ้าชุดนี้ได้ไร้ที่ติ ข้าดีใจกับเจ้า เขาถอนหายใจชั่วครู่ก่อนจะกล่าวว่า ข้าไม่เคยต้องการจะไล่เจ้าไปไหนข้าเองก็พอใจที่เจ้าอยู่ที่นี่
ท่านพูดจริงหรือ เธอมองหน้าของเวนดอร์ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
ข้าเคยหลอกเจ้าที่ไหน เขาเขกหัวของเธอเบาๆ ก่อนจะสะพายสัมภาระขึ้นบ่า
เดี๋ยวก่อนสิ เธอวิ่งตามเขาออกไปเกือบถึงหน้าบ้าน นี่คือเครื่องรางนำโชคที่ข้าทำมันขึ้นด้วยตนเองหวังว่าท่านจะพกมันไว้กับตัว เธอยื่นสร้อยคอที่มีจี้เป็นไม้ชิ้นเล็กๆที่เธอแกะขึ้นเอง และนี่ห่ออาหารเที่ยง ท่านเกือบลืมมัน ระวังตัวนะ เธอยื่นมันให้กับเขาและอวยพรให้เดินทางปลอดภัย
พรานหนุ่มรับของมาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มกว้าง ดวงตาสีครามเป็นประกายล้ำลึกในชั่วพริบตา เขาเก็บอาหารเข้ากระเป๋าและห้อยสร้อยที่เธอทำให้ อย่างกระตืนรือร้น ขอบคุณนะออโรร่า เขากอดเธอด้วยความดีใจและมีความสุขก่อนจะเดินทางออกจากบ้านของตนไป |
ทวนเวลา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Group Blog All Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |