lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
เมษายน 2566
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
space
space
20 เมษายน 2566
space
space
space

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 325 "ยุค '90"




ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 325


"ยุค'90"







โจทย์โดย พี่แฟรงค์  The Kop Civil





ถ้า '90s หมายถึง ช่วง ค.ศ. 1990-1999
ผมอาจจะเป็นวัยรุ่นไม่ทันช่วงนั้นครับ 
เพราะปีเกิดผมคือ 1992 ดังนั้น 1999 ผมจะอายุ 7 ขวบ




85   +++++++++++++++++++++++ 85



แต่ผมก็มีความทรงจำแล้วครับ
สิ่งที่ผมจำได้คือ  บ้านเรามีโทรศัพทย์บ้านเครื่องสีขาวๆ 
ซึ่งผมจะกดเบอร์อะไรไม่รู้ ไปฟังเพลงฮิตๆ ผ่านทางโทรศัพท์
ซึ่งพ่อด่าสิครับ เพราะ วันๆ กดหลายรอบมาก ค่าโทรศัพท์บานเลย

ส่วนพี่สาวผม นั่นก็จะโตหน่อยครับ ป.5-6 แล้ว
คนนั้น คือคนที่ชอบยืดครองโทรศัพท์บ้าน
แล้วนอนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเป็นชั่วโมงๆ 
ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าชั่วโมงคืออะไร 
รู้แต่ว่า เริ่มนอนคุยที่โซฟาตั้งแต่หลังมื้อเที่ยง  กว่าจะลุกก็เกือบมื้อเย็น
วันดีคืนดี บ้านมีโทรศัพท์ ก็ออกไปเอาบัตรโทรศัพท์ไปโทร
ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ปากซอย



85   +++++++++++++++++++++++ 85


สำหรับหัวข้อที่ผมจั่วไว้   
"ความรักในยุค '90s "
ของผมมันคงยังไม่มีหรอกครับ ยังเดินกอดนมกล่องอยู่เลย 55555
แต่ผมขอพูดความรักแบบ เพื่อน ในแบบเด็กน้อยแล้วกันครับ


ช่วงนั้นผมอยู่อนุบาล-ป.1 แน่นอน
ซึ่งผมจะมีแก๊งเพื่อนน่ารักๆ อยู่ 3-4 คนรวมผมด้วย
เป็นผู้ชาย 3 ผู้หญิง 1
ผู้หญิง 1 คนที่สนิทกันชื่อ
ฟ้า ครับ เป็นลูกสาวนักบิน
ถ้า 4 คนนี่คือจะเล่นกันในเวลาเรียน กินข้าวด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน
แต่หลังเลิกเรียนผมจะเล่นกับเพื่อนผู้ชายกัน 3 คน 
ส่วน ฟ้า จะกลับบ้านกับพ่อแม่ตามเวลาทุกวัน
3 หนุ่มจะมีหน้าที่เดินจูงมือมาส่งที่รอรับส่งแล้วไปเกาะรั้วบ๊ายบายฟ้า



ไอ่ธีร์ตัวแสบ...ชอบเปิดกระโปรงสาว
แล้วฟ้าก็เป็นคนน่ารัก  ไอ่ธีร์ก็ชอบมาแกล้งครับ
เอาจริงไหม 3 หนุ่ม ผม แม็ค จักร นี่สู้ไอ่ธีร์ไม่ได้นะครับ
เพราะ 3 คนนี้นุ่มๆ นิ่มๆ ตัวเล็ก ๆ พูดเพราะๆ กันทั้งนั้น
"ธีร์อย่าเปิดกระโปร่งฟ้าสิคับ"
นี่คือคำพูดที่ ไอ่ 3 ตัวนั้นพยายามห้ามธีร์ที่ไล่แกล้งฟ้า
1คนจะยืนกอดเอามือปิดกระโปร่งฟ้าไว้ให้ 



(บอกเลยว่าคิดแล้วโคตรขำครับ 555555)
(เมิงทำแบบนั้นไปได้ยังไง!!!!!  เมิงก็ยันไอ่ธีร์ซักโครมสิ!!!)




แล้วฟ้าน่ารักยังไง
นอกจากหน้าตา ฟ้าเอาใจใส่ทุกคนครับ
ฟ้าจะดูทุกเช้ามา 3 หนุ่มมาโรงเรียนหรือยัง 
แล้วใครมาแล้วก็จะนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ จุดรับส่ง
พอเพื่อนมาก็จะมารับ จูงกันเข้าไปที่ห้องเรียนทีละคน ๆ 
ส่วนผม ผมคือเจ้าพ่อแห่งการขาดเรียน 555555
มาเรียน 3 วันหยุด 2 วัน มาอีก 2 วัน หยุดอีก 1 วัน
ซึ่งทุกครั้ง ในตอนเย็น พอฟ้ากลับบ้าน ฟ้าจะโทรศัพท์เข้าเบอร์บ้าน
"ปริ๊นซ์อยู่ไหมคะ ทำไมปริ๊นซ์ไม่มาโรงเรียนคะ คุยกับปริ๊นซ์ได้ไหมคะ"
จนหลังๆ วันไหนหยุดเรียน ผมจะมานั่งรอโทรศัพท์จากฟ้า

ถ้าวันไหนฟ้าไม่โทรหา ผมจะโทรไปครับ
ไปถามตลกๆ ว่า "ปริ้นไม่ได้ไปโรงเรียนนะคับฟ้า"
ถ้าเป็นตอนนี้ ฟ้าคงตอบว่า เออกุรู้แล้ว เมิงบอกกุทำไม 55555
แต่ตอนนั้นฟ้าจะบอกว่า "ขอโทษนะปริ้น ฟ้าไปกินข้าวข้างนอกกับคุณพ่อคุณแม่"
 

บางครั้งโทรไปก็ไม่มีใครรับ 
ก็โทรไปหาแม็คกับจักร ว่ามีใครติดต่อฟ้าได้ไหม
แล้วก็เสียใจ คิดว่าฟ้าไม่รัก  5555 โอ้ย พูดแล้วเครียดแทนตัวเอง
วันรุ่งขึ้นก็จะจ๋อยๆ หน่อย ถามฟ้า "ฟ้าไม่รักปริ้นแล้วหรอ"
คือไอ่คำว่ารักของผมเนี้ย คือ รักแบบ แก๊งเรา 4 คน งี้ครับ


85   +++++++++++++++++++++++ 85



ขอขยับขึ้นมาใน 
ยุค Y2K กันหน่อยครับ
ผมคงอยู่ไม่เกิน ป.2-3
แก๊งเราก็ยังเรียนต่อโรงเรียนเดิมกันครบครับ
ผมเพิ่งกลายเป็นพี่สาวของตัวเอง ด้วยกันนั่งโทรศัพท์บ้านเป็นชั่วโมง
ไม่ใช่กับใครหรอกครับ ก็ไอ่แก๊ง 4  คนนี่แหละ โทรเวียนๆ กันไป
จนที่บ้านต้องจับ 2 พี่น้องมาเจรจากันว่า ใครจะได้ใช้โทรศัพท์ช่วงไหน


อีกอย่างคือ คอมพิวเตอร์ครับ
เมื่อก่อนที่บ้านผมไม่มีคอมพิวเตอร์ เพราะไม่ได้มีใครใช้ที่บ้าน
พ่อก็ใช้ที่ทำงาน ไม่ได้มาทำงานที่บ้าน
พอพี่สาวขึ้น ม.1 พ่อก็ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องสีขาวๆ จออ้วนๆ ให้พี่ใช้
บอกว่าจะได้ใช้ในเรื่องการเรียน เพราะพี่เริ่มเรียนคอมฯแล้วครับ
แต่....ผมบอกตรงนี้เลยว่า ผมไม่เห็นพี่ปามจะใช้เรียน
วันๆ เล่นแต่เกมส์ไพ่ เวป Kapook, Sanook และ ICQ
ส่วนเด็กประถมอย่างผมก็เล่นโปรแกรม  Paint  ครับ
วาดหมูวาดหมา ต้นไม้ ฮิปโปไปเรื่อย


แล้วมันเกี่ยวอะไรกับความรักในยุค 90s
จากที่ผมสัมผัสยุคสุดคลาสิกยุคนั้นมา เสียดายแค่ว่าเราโตไม่ทัน
แต่ให้มาคิดเอาตอนนี้ ยุคนั้นแม่งโคตรเจ๊งครับ



ถ้าจะจีบกัน ก็คงใช้วิธีคลาสิก ที่ผมก็ใช้นะ
คือการขอเบอร์โทรศัพท์ แล้วยุคนั้นคงเป็นโทรศัพท์บ้านด้วย
จะโทรหาหญิงก็ต้องนัดเวลา ไม่งั้นโทรไปเจอพ่อแม่พี่น้องเค้ารับ
จะอึกๆ อักๆ พูดไม่ถูกไปซะอีก
แต่ที่พี่สาวผมเล่าคือ หนุ่มที่มาจีบเค้า 
ต้องกำตังไปหยดตู้โทรศัพท์สาธารณะ คุยไปคุยมา ตังหมด
มีจังหวะต้องรีบพูดบอกลารัวๆ ก่อนโทรศัพท์ตัด


ดีหน่อยก็เพจเจอร์ (อันนี้ผมไม่อิน ไม่ค่อยรู้เรื่องครับ)


คิดถึงกันก็เอารูปที่เก็บไว้ในกล่องเหล็ก ออกมาดู
เขียนกลงเขียนกลอนส่งให้กัน


85   +++++++++++++++++++++++ 85



สำหรับผม ความรักยุคนั้นมันโคตรคลาสิกครับ
ในความสัมพันธ์คงมีคำว่า
"คิดถึงกัน" ที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมาก
พี่สาวบอกว่า เล่มเฟรนชิปมันมีความหมายมาก
เพราะนั่นคือสิ่งแทนใจที่เราและเพื่อนจะเหลือไว้ต่อกัน
เพราะไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกหรือไม่


ต่างกับสมัยนี้เลยครับ
อ่ะ...ยอมรับมา ช่วงที่ผมเริ่มมีความรักวัยรุ่นจริงๆ 
มือถือก็ฮิตในโรงเรียนแล้ว พักเที่ยงก็โทร เลิกเรียนก็โทร
เน้นโทรกลางคืนช่วงมีโปรฯ ครับ ช่วงนั้นจะโทรได้นานเป้นพิเศษ
เออๆๆๆ นี่คงเป็นที่มาของคำว่า
"ช่วงโปรโมชั่น"  สินะ
ตอนนั้นผมมี MSN แล้วครับ ออนไลน์กันทั้งวัน
และทักษะการพิมไวของผมก็ได้มาจาก MSN  นี่แหละครับ
จะมัว ฟ ห ก ด อยู่ก็แชทสาวไม่ทัน 55555


พูดไปสมัยนั้นก็ยังถือว่าช่องทางการทำความรู้จักกัน
ยังเป็นแบบ face to face ครับ 
คืออย่างน้อยๆ เรายังได้เดินไปขอเบอร์ และพูดคุยกัน
แต่มาสมัยนี้ เอาจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยอินกับการเจอกันผ่านแอปนะครับ
รู้สึกว่า จะรู้ได้ไงวะ ว่าเราชอบคนนี้ คุยกันผ่านแชทจะรู้ได้ยังไง
ผมยังคงชอบวิธีคลาสิกอยู่ครับ
ดังนั้นสาวๆ ที่คุยเราต้องเจอกันจากที่ไหนซักที่
ผมยังคงลุกเดิน หรือยืนล่อเป้าตามร้านอาหาร 
ยังคงยิ้มให้ ยกแก้วให้คนที่ผมสนใจแล้วดูปฎิกิริยา 
ถ้าคิดเห็นตรงกันก็หาจังหวะพูดคุย
ขอเบอร์อาจจะฟังแล้วโบราณไปแล้ว ตอนนี้ต้องขอไลน์
เมื่อก่อนเบอร์สาวก็ชอบให้ไม่ครบ ให้เราต้องเดาตัวท้ายเอาเอง
ต้องโคตรสนใจเค้าจริงๆ ถึงจะไปนั่งมั่วเลขอ่ะครับ
แต่แอดไลน์นี่ง่ายเลยครับ ยกสแกน QR ได้เลย


พอได้มาง่าย ติดต่อกันง่าย 
คุณค่าในความสัมพันธ์มันเลยลดลง
เมื่อก่อน สาวคนนึงที่โคตรจะรักษาไว้เลย เพราะว่าจะโทรติดก็หัวปวดแล้ว
คุยก็คุยได้ทีละคน เพราะช่วงโปรโมชั่นโทรฟรีมันจำกัด
สมัยนี้พอได้มาง่าย เช่น อยู่ๆ ก็แอดเฟสมาจากเพื่อน แล้ว ib
กด follwer ig  มาจากบอร์ดงาน แล้ว direct มาคุย
หรือการคุยผ่านไลน์
ผมว่ามันไม่ค่อยได้ใช้ความพยายามครับ
ข้อความเข้ามาแล้ว เราจะอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ จะตอบเมื่อไหร่ก็ได้
ความสำคัญมันเลยลดลง ไม่ต้องรีบตอบ ไม่มีเวลาให้รู้สึกคิดถึง
เพราะตื่นมาก็เห็นข้อความของอีกฝ่ายแล้ว
ทำให้คุณค่าในความรู้สึกมันลดลง
จะคุยหรือไม่คุยก็ได้ เบื่อแล้ว จะปล่อยทิ้งไปเฉยๆ ก็ได้
จะคุยทีกี่คนก็ได้ ถ้าไม่เหนื่อยไม่เบื่อซะก่อน


85   +++++++++++++++++++++++ 85


ความรักยุคนี้เลยมีคุณค่าไม่เท่ายุค 90 เลยครับ
ความสัมพันธ์ในยุคนี้ จึงเพิ่มสถานะ
"คนคุย" ขึ้นมา
คือ คุยนะ แต่สถานะอาจะไม่มีทางเป็นแฟน หรือคนที่ชอบเลย



85   +++++++++++++++++++++++ 85


 




 

Create Date : 20 เมษายน 2566
19 comments
Last Update : 20 เมษายน 2566 15:41:59 น.
Counter : 503 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณRain_sk, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณThe Kop Civil, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณtoor36, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณดอยสะเก็ด, คุณSweet_pills, คุณกิ่งฟ้า, คุณtanjira

 

555 หัวเราะก่อน.. ว้ยรุ่นจีบกันน่ารักดี แถมต้องรอคิวใช้โทรศัพท์อีก...

สมัยนี้เฟซมันแสนรู้แก่แดดมั้ง 555 มันจำวันเดือนเกิดเราได้อีก
ดันไปเตือน เพื่อน ๆ ว่า อย่าลืมวันเกิดเพื่อน... นี้นะ

ใหม่ ๆ เราก็ใส่วันที่ เดือนเกิดตรงด้วยยังมุสาไม่เป็น หุ หุ

ว่าจะโหวตให้อ้าวหมดเป๋าซะแล้ว

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 20 เมษายน 2566 16:22:15 น.  

 

คุ้นๆ ว่ามีบริการแบบนั้น ค่าโทรศัพท์บานเลยสิแบบนั้น มันมีบริการอีกอันประมาณว่าให้คนโทรเข้าไปเพื่อหาเพื่อนคุยด้วยนะ โดยเขาจะให้เราแนะนำตัว แล้วถ้าใครอยากคุยก็กด 2 เข้ามาคุย พอๆ กันครับ พี่ยึดโทรศัพท์บ้านคุยเป้นชั่วโมง

จีบสาวแต่เด็กเลยยยย แซวๆ สมัยเด็กมันก็ทำได้แค่นั้นแหละ ยังมีความชั่วน้อยเกินไป ไม่งั้นคงวิ่งเข้าใส่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเด็กๆ ชอบแกล้งไปเปิดกระโปง

เปลี่ยนยุคมา Y2K เลยซะอย่างงั้น Kapook, Sanook และ ICQ นี่ยุคนั้นฮิตจริงๆ ครับ แชตกันสนุกเลย หลอกคนนั้นคนนี้ขำๆ ปลอมประวัติโกหกกันสนุกสนาน บาปกรรมจริงๆ

เพจเจอร์ มันต้องบอกข้อความผ่านทางโอเปอเรเตอร์ครับ ถ้าบอกรัก หรือจะส่งกลอนหวานๆ มันจะเขินมาก เพราะคนที่รับสายฝากข้อความแล้วพิมพ์ส่งไปยังเครื่องเพจเจอร์ มันผู้หญิงทั้งนั้นครับ นานๆ จะเจอผู้ชายสักคน

ผมว่ายุคนี้มันก็สะดวกดี แต่เมื่อเวลาเจอหน้ากัน คนก็เอาแต่จ้องมือถือ ไม่คุยกันทั้งที่โอกาสเจอหน้ากันตัวๆ ก็หายากเต็มที มันก็น่าเศร้าใจนะ บางครั้งเจอแบบนี้ผมแทบอยากจะกลับบ้านเลย มันเซ็งครับ

ไว้มาอีกที

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 20 เมษายน 2566 17:41:49 น.  

 

สวนทางกัน

คนเก่งฟ้าประทานผมก็ได้ดูนะ สมัยนั้นฮิตจริงๆ โทรทัศน์ 14 นิ้วครับ มี 2 เครื่อง มันช่วยได้มากจริงๆ ไม่ต้องงแย่งกันดู ที่แย่งกันส่วนมากจะเป้นพวกกีฬาถ่ายทอดสด ส่วนเราดูการ์ตูน เวลามันทับกัน แต่โชคดีที่มี 2 เครื่องเลยไม่มีปัญหาอะไร

555 เต้นบอร์ดี้การ์ด ต้องแกว่งแขนด้วย มันเป็นท่าของมัน

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 20 เมษายน 2566 17:50:13 น.  

 

"ขอโทษนะปริ้น ฟ้าไปกินข้าวข้างนอกกับคุณพ่อคุณแม่" 555

อิจฉา "ฟ้า" ในเรื่องจังค่ะ
มีบอดี้การ์ดเป็นหนุ่ม ตั้ง 3 คนแน่ะ อิอิ

ความรักใส ๆ ในวัยเด็กน่ารักดีนะคะ
คือมันใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 20 เมษายน 2566 18:37:58 น.  

 

ความรักแต่ละลำดับของB' Prince
น่ารักน่าเอ็นดู
ตามลำดับเช่นกันค่ะ

ความรักของพี่อ้อ มาช้าหน่อย
อยู่ในช่วงต้นๆยุค 80 s

เรามีเพลงประจำตัวด้วย
มีร้านฟังเพลงประจำอยู่ที่ อนุเสาวรีย์ชัยฯ
ตรงที่เป็น Center One ในปัจจุบัน
ชั้นบนเป็นร้านอาหาร สบายๆ มีlive music ตอนเ
ค่ำๆ

เพลงประจำก็ คือ เพลงแผลในใจ ของ วงไมโคร
มันกินใจ และ เศร้าดี
พี่อ้อชอบตรงที่..เป็นเพลงของผู้ชายรักจริง
หวังว่าคนที่เรารคบอยู่ต้องรักจริงแบบนี้..



 

โดย: เริงฤดีนะ 20 เมษายน 2566 19:00:10 น.  

 

ข่วงต้นๆ ยุค 90s*
แหมจะหลุดโจทย์ได้ไง

 

โดย: เริงฤดีนะ 20 เมษายน 2566 19:01:28 น.  

 

เรื่องทอสับบ้านพี่ก็ไม่แพ้ใคร เลิกเรียนกลับบ้านกับเพื่อนสนิท แยกย้านกัน อาบน้ำ ทำการบ้าน กินข้าว แล้วก็โทรคุยกันจนถึงดึกดื่น ... เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็เจอกันอีกแล้ว


แย่งทอสับกับน้อง ทะเลาะกันจนพ่อต้องไปขอทอสับเบอร์ใหม่ให้ใช้คนละเบอร์เรย


เวลาแม่พี่ด่าเรื่องทอสับจะมายืนด่าใกล้ๆ ให้เพื่อนในทอสับได้ยินด้วย จะได้กลัวทั้งสองคน ฮ่าๆๆๆๆๆ แม่เพื่อนก็เหมือนกัน มารู้ทีหลังว่าแม่พี่โทรไปหาแม่เพื่อน ทำข้อตกลงกันว่าถ้าคุยกันนานเกินไปจะด่าแบบนี้แหละ ต่างคนต่างด่า .... ไม่ได้บ่นนะ ด่าจริงๆเลย ฮ่าๆๆๆ

ติดโหวตไว้หนึงแป๊กครับ

 

โดย: ทนายอ้วน 20 เมษายน 2566 21:55:07 น.  

 

เมื่อก่อนต้องแลกเหรียญไว้เป็นกำมือเลย
มีช่วงนึงโทรคุยกับเพื่อนเป็นชั่วโมงที่ตู้สาธารณะ
สงสารคนรอเหมือนกันนะครับ
บางทีต้องหยุดก่อน ให้เค้าโทรบ้าง แล้วเราค่อยโทรอีกรอบ 555

โป๊ยเซียนที่บ้านพี่ก๋ามีเยอะครับ
ยิ่งเวลาฝนตกถ่ายภาพหยดน้ำสนุกมาก

น้องปริ๊นซ์ยังหนุ่ม
ฟิตหุ่นแป๊บเดียวก็เฟิร์มแล้ว
พี่ก๋านี่ลำบากเลยครับ
เล่นยังไงก็ไม่ผอม 555

 

โดย: กะว่าก๋า 20 เมษายน 2566 22:10:51 น.  

 

สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
ของพี่ตอนนั้นโทรศัพท์บ้านฮิตกันมากเลยครับ มีการโทรไปขอเพลงกับดีเจให้เพื่อนในห้องด้วยนะครับ ฮามาก ตอนนั้นจะมีบัตรโทรศัพท์ด้วย
แต่ก่อน Kapook Sanook ฮิตกันจริง ๆ นะ อันดับต้น ๆ เลย
พูดถึงก็คิดถึง MSN ICQ เหมือนกันนะ 555
ความรักตอนอนุบาล ใส ๆ เลยครับน้องปริ๊นซ์
จากบล็อก
สถานีบางบำหรุ อยู่แถวบางกรวยนะ เป็นสถานีสุดท้ายก่อนข้ามสะพานพระราม 6 มาสถานีบางซื่อนะ

 

โดย: The Kop Civil 21 เมษายน 2566 0:01:32 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

ตอนจีบมาดามเดือนแรก
พี่ก๋ายังใช้โทรศัพท์บ้านโทรหา
ค่าโทรเดือนนั้นเพิ่มเป็น 6 พัน
แม่ตกใจเลยครับ 5555
โทรคุยกันทีเป็นชั่วโมงๆ
ยุคนั้นยังไม่มีมือถือด้วย

 

โดย: กะว่าก๋า 21 เมษายน 2566 5:27:37 น.  

 

เป็นคนมีความทรงจำดีมากปริ้น

 

โดย: หอมกร 21 เมษายน 2566 7:11:11 น.  

 

บล็อกนี้ไม่ได้เป็นวัยรุ่นยุคนั้นแต่ยังได้สัมผัสในวัยเด็ก เรื่องฝราววัยอนุบาลน่ารักดีนะ เด็กๆ ก็แบบนี้แหละ

ยุค Y2K นี่เต็มที่แล้วสำหรับแต่ละบ้าน คอมพ์ก็ใช้งานได้หลายๆ แบบ สมัยก่อนเกมมันมีไม่เยอะ ถ้าเยอะแบบเดี๋ยวนี้น่าจะแย่

เห็นด้วยเรื่องการแชต ส่วนมากเด็กๆ พิมพ์คอมได้ก็เพราะแชตนี่แหละ


34 หลายๆ คนไม่ทัน แต่ถ้าปี 49 กับ 57 ทันแน่นอน ผลกระทบมันเยอะกว่าที่หลายๆ คนคาดคิดเหมือนกัน อย่างคนนี้ก็กระทบเยอะ มีเวลาก็ลองเปิดดูได้ เปิดฟังระหว่างรถติดได้

https://www.youtube.com/watch?v=DFyDgDZhn98

 

โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) 21 เมษายน 2566 7:17:13 น.  

 

เรื่องของน้องจีจี้
ไม่ควรจบง่ายๆนะครับ
ควรตรวจสอบไปที่พ่อผู้ชายด้วย
ดูแล้วรวยผิดปกติ ซื้อของให้ลูกราคาแพงมาก
เป็นข้าราชการ ทำไมรวยขนาดนี้
มีคดีติดตัวด้วย

แล้วสอนลูกยังไง
ทำไมทำร้ายผู้หญิงแบบนี้

บางครั้งพี่ก๋าก็รู้สึกว่าเด็กมักจะฟังเพลงตามพ่อแม่
อย่างลูฏเพื่อนฟังเดอะ บีทเทิลเลยนะ
เพราะพ่อชอบ 555

พี่ก๋าไม่ค่อยฟังซิลลี่ ฟูล บอดี้สแลม บิ๊กแอส ฯลฯ
มาฟังตอนหมิงฟังนี่ล่ะครับ ขึ้นรถก็เปิดเพลงแล้ว

ดีใจที่น้องข้าวหอมหายดีแล้วนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 21 เมษายน 2566 12:41:36 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

เกิดปร 1991 แต่วัยรุ่นในยุค 90 ต้องอายุ ประมาณ 12 ปีขึ้น
ไปเธอก็เพิ่ง 7 ขวบ ยังไงก็ได้เห็นสิ่งของในยุคนี้ แน่นอน ครูได้ใช้
โทรศัพท์มือถือ รุ่นโนเกียร์ 3310 ตอนนี้ยังนอนอยู่ในตู้เก็บของเลย
จอ ยังเป็นขาว ดำ อยู่เลย อิอิ
กาลเวลาผ่านไป เข้าสู่ยุค ดิจิตอล เทคโนโลยี่ มันเจริญก้าวหน้า
อย่างรวดเร็ว เรียนรู้กันไม่รู้จักหมดสิ้น สิ่งของ เครื่องใช้ต่าง ๆ ใน
ยุค 90 ถ้าไม่มีการค้นคว้า ครูก็แยกไม่ออกว่า เป็นของในยุค 90
หรอก จ้ะ อิอิ การตั้งหัวข้อ ตะพาบ ครั้งนี้ ก็ดีอย่างเนาะ ทำให้
ครูได้ไปค้นคว้าหาความรู้ ได้เจอของใช้ สิ่งของในยุค นี้ ด้วย
โดยเฉพาะเพลงในยุค 90 นี้ ไพเราะกว่าในยุคปัจจุบันนี้เลย นะเนี่ย

โหวดหมวด ตะพาบ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 21 เมษายน 2566 13:22:05 น.  

 

สวัสดียามบ่ายค่ะ น้องปริ๊นซ์

เวลาช่วงอนุบาล-ป.1 มุ้งมิ้งมากค่ะ เอ็นดูววววว
พี่ก็มีนะกล่องเหล็กเก็บของเนี่ย
นอกจากเก็บของแล้วยังเก้บความทรงจำไว้มากมาย
โทรศัพท์บ้านนี่ ที่บ้านพี่ พี่เป็นคนครองค่ะ
โทรจีบผู้ชายเป็นชม.ค่ะ 5555555555
นึกถึงช่วงเวลานั้น มันก้มีความสุขในแบบของมันเนอะ
เรียบๆง่ายๆ ไม่หวือหวาเหมือนสมัยนี้
กว่าจะได้เจอหน้ากัน คุยกันอยู่นานทั้งทาง จม.และโทรศัพท์
บางคนก็ไม่เคยเจอหน้ากันเลย จนจากกัน

จากบล็อก
พี่ติดรสชาติกาแฟค่ะ กินเพราะอร่อยล้วนๆ
ถ้าแฟสดร้านไหนชงไม่อร่อยทีเดียวพอค่ะ
กาแฟดำไม่กินนะคะ ไม่ไหวจริงๆ
เคยจะลองกินเพื่อสุขภาพ ฝืนได้อาทิตย์เดียวค่ะ 55555
ยิ่งร้านกาแฟโบราณตอนเช้าๆ กินกะปาโก๋ อร่อยเริสสสสส
ถ้าวันไหนไม่ได้กิน ร่างกายเป็นปกติค่ะ
ไม่ปวดหัว หรือมีอาการใดๆ

จ้ะ...พี่เชื่อก็ได้ว่าน้องเป็นเด็กดี

 

โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ 21 เมษายน 2566 14:22:16 น.  

 

เด็กเล็กๆอนุบาลถึง ป.1 สี่คนน่ารักกันขนาดนี้เลยนะคะน้องปร๊นซ์
มีโทรศัพท์ตามกัน ห่วงใยกัน
ความประทับใจยังคงอยู่ยาวนานด้วย

เพิ่งรู้ว่าสาวๆเวลาให้เบอร์จะให้ไม่ครบต้องเดาต่อเอง
คล้ายเป็นด่านแรกที่จะเห็นความพยายามของหนุ่มๆมั๊งคะ
ยุคสมัยเปลี่ยน เทคโนโลยีและวิธีการเปลี่ยน
แต่คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันก็คงใช้ได้อยู่
ไม่ว่ายุคสมัยหรืออะไรจะเปลี่ยนไปแค่ไหนนะคะ

"รีบกลับมารับข้าวหอมกลับบ้านนะคะ" น่าเอ็นดูจังเลย
วันนี้หลานข้าวหอมกลับบ้านแล้วใช่มั๊ยคะน้องปริ๊นซ์
ขอให้หลานมีสุขภาพแข็งแรง สดใสร่าเริงค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 22 เมษายน 2566 1:08:50 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องปริ๊นซ์

 

โดย: กะว่าก๋า 22 เมษายน 2566 6:14:35 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์ โอ้ เกิดมาไม่ทันความรักของวัยรุ่นยุค 90 ซะแล้ว แต่มีความรักในชั้นอนุบาล 555 น่ารักจัง

พี่กิ่งอ่านเรื่องราวของน้องปริ๊นซ์สนุกดีค่ะ เป็นนักประพันธ์ได้แล้วเนี่ย เชียร์ๆ 555
เฟรนค์ชิฟพี่กิ่งก็ชอบค่ะ เพราะได้เขียนอะไรลงไปในสมุดให้เพื่อนๆได้นึกถึงนะคะ แต่เด็กเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วมีแต่ เล่นไลน์กันนะคะ

พี่กิ่งชอบประโยคนี้ของน้องปริ๊นซ์มากค่ะ มันใช่เลยค่ะ

"สำหรับผม ความรักยุคนั้นมันโคตรคลาสิกครับ
ในความสัมพันธ์คงมีคำว่า "คิดถึงกัน" ที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมาก
พี่สาวบอกว่า เล่มเฟรนชิปมันมีความหมายมาก
เพราะนั่นคือสิ่งแทนใจที่เราและเพื่อนจะเหลือไว้ต่อกัน
เพราะไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกหรือไม่"

Diarist

ขอบคุณที่ไปทักทายพี่กิ่งนะคะ จากบล็อก พี่กิ่งก็เที่ยวบอกใครต่อใคร สุดท้ายพี่กิ่งก็ไม่ได้ดู สุรยุปราคา เหมือนกันค่ะ 555



 

โดย: กิ่งฟ้า 22 เมษายน 2566 8:18:10 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องปริ๊น

ร้ายมาแต่เล็กแต่น้อยนะเราน่ะ 5555
อ่ะ! พี่ล้อเล่นนน น่ารักมาตั้งแต่เด็กเชียวน๊าาาา เด็กแสบ

จั่วหัวมากับเรื่องรักๆเลยน๊าาา
พี่ว่าจริงแหละค่ะ ความรักยุค 90 มีความขลังกว่ายุคสมัยนี้นะคะ
คือต้องเจอกันถึงจะรักกัน ไม่ใช่รักกันผ่านตัวอักษรเพ้อพกแบบนี้
แต่เอาเข้าจริง คนเราถ้าจะรักกัน มันก็รักอ่ะเนาะ ไม่ว่าจะยังไง
ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แบบคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก ประมาณนั้นเนาะ

พี่จำได้เรื่องโทรศัพท์บ้าน ตอนนั้นหลานสาวจอมแสบชอบโทร
แล้วโทรแบบจ่ายค่าโทรกันเป็นพัน ต้องซื้อแบบหยอดเหรียญมาใช้
ถ้าอยากโทรก็ต้องจ่าย 555 เพราะหลานไม่เคยฟัง ชอบลักโทรตลอด
หลานพี่วีรกรรมเยอะค่ะ 555

..............

พี่หายไปก็ป่วยแหละน้อง คิดว่าตัวเองเก่ง แข็งแรงพอ ทนแดดทนฝนได้
แว๊นมอไซดืไปตลาด 2 รอบ อีกวันก็เดี้ยงเลย นอนยาวไป 3-4 วันเลยค่ะ
ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ ใช้ยาสูตรเดิม แก้แพ้ แก้หอบ แก้ไอ แก้ไข้ ไปค่ะ

หลานสาวน้องปริ๊นเป็นอะไรคะ พี่เห็นน้องคุยที่บล็อกคุณก๋า
ตอนนี้หายดีแล้วใช่ไหมคะ ?
หนูดาริญช่วงสงกรานต์ก็เล่นน้ำเยอะค่ะ เล่นสระที่บ้าน แล้วไปเล่นสระว่ายน้ำ
น้ำคงเข้าหู หูอักเสบและเป็นหวัดด้วยค่ะ นี่ยังกินยาอยู่เลยค่ะสำหรับหนูดาริญ

สำหรับคนสำคัญเราก็รับเร็วตอบเร็วหน่อยไม่เป็นไรหรอกนะภพ

เมื่อวานพี่ป่านส่งรูปรองเท้ามาทางไลน์ พี่เปิดดู แต่ยังเงียบ รอเธอก่อนว่าจะยังไง
สักพักคงเห็นพี่เปิดอ่าน ก็โทรมาถาม แม่รองเท้าสวยไหม แม่ชอบคู่ไหน
แต่หนูน่ะชอบทั้ง 2 คู่เลย แต่มันจะเยอะไปล่ะสำหรับหนู
เอาเป็นว่า หนูซื้อทั้ง 2 คู่ ให้แม่คู่นึง แต่หนูขอใส่ก่อนนะแม่
แม่เลือกเลยแม่จะเอาคู่ไหน? ดูเอาเถอะ พี่ยังมีสิทธิเลือกอยู่เหรอน้องปริ๊นนนน
พี่เลยบอก แม่เลือกได้เหรอลุก แม่ว่า หนูใส่แล้ว ชอบคู่ไหนมากกว่ากัน ก็ส่งอีกคู่มาให้แม่ล่ะกัน แม่ได้หมด
ยัง ยังจะถามว่า เอาแบบนั้นเหรอแม่ ก็ได้ๆ แต่ยังบอก แม่เลือกได้นะ 5555
กลับไปที่คำพูดเดิม คู่ชมพูน่ารักหวานๆ แต่ใส่ได้ไม่บ่อยมาก สีครีมใส่ได้ตลอดไม่ว่ากับชุดอะไร
น้องปริ๊นว่าพี่จะได้สีไหนคะ ?

ดีใจที่น้องแข็งแรงนะคะ รักษาสุขภาพกันต่อไปค่ะน้อง

 

โดย: tanjira 23 เมษายน 2566 7:25:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space