Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2562
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 พฤษภาคม 2562
 
All Blogs
 
. . . 1 Year in Thailand : 1 ปีแล้วนะกับภารกิจพา ฝ กลับไทย . . .

 Wednesday, May 2, 2019
Khon Kaen, Thailand
40°C

วันนี้เมื่อปีที่แล้วเป็นวันที่เราสองคนย้ายมาอยู่ที่ไทย เราเลือกทิ้งหลายอย่างเพื่อมาหาความสงบสุขในอีกฟากหนึ่งของโลก การที่ชาวต่างชาติต้องย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยนั้นยุ่งยาก โดยเฉพาะชายต่างชาติที่ยังเป็นชายหนุ่ม การต้องเปลี่ยนมาใช้ชีวิตที่ชนบทนั้นเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวมาก มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ ทุ่งนา ภูเขา และคนไทย! 

 
แมลงเต่าทองบนต้นหน่อไม้ฝรั่งกำลังอาบแดดหรือเปล่านะ

จากประสบการณ์การย้ายตัวเองจากต่างประเทศมาอยู่ประเทศไทยนั้นพบว่า ช่วงแรกสามีโดน culture shock เล่นงานอย่างหนักหน่วง ทั้งๆ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีอยากจะย้ายมาประเทศไทย ไปทางไหนก็เจอแต่คนพูดภาษาอีสาน ทั้งหมู่บ้านก็เห็นจะคุยกับเราได้อยู่คนเดียว ชีวิตภายในบ้านของเราจึงกลายเป็นบ้านที่คุยภาษาอังกฤษร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนแรกก่อนที่จะย้ายมา เราคุยกันไว้ว่าเราจะทำทุกทางที่จะได้อยู่ที่ประเทศไทยไปจนแก่ แต่ปรากฏว่า พอมาอยู่ได้เกือบหกเดือน เราลงความเห็นกันว่า 'เราสองคนควรจะย้ายกลับไปต่างประเทศ' เรานั่งลิสต์ข้อดีข้อเสียของทั้งสองประเทศเป็นข้อๆ ก่อนที่จะสรุปแบบเสร็จสรรพ

ตอนนี้เราเอนจอยกับการใช้ชีวิตที่ประเทศไทย เรามีแสงแดดทุกวัน (บางวันก็มีมากเหลือเกิน) เราเอนจอยอาหารที่ราคาไม่แพงมาก เวลาไปซื้อของที่ตลาดนัด ผลไม้สดเป็นสิ่งที่เราลงความเห็นว่าถูกกว่าอยู่ที่ต่างประเทศและในห้างมาก! อาหารการกินสำหรับคนรับประทานวีแกนหรือมังสวิรัติอาจจะหาได้ไม่ง่ายนักเมื่อเทียบกับตอนที่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์เพราะที่นั่นที่ซูเปอร์มีชั้นวีแกนและมังสวิรัติเป็นของตัวเองแทบจะทุกที่! มีหลากหลายชนิดให้เลือกสรร ที่เมืองไทยเรามีร้านเจ้าประจำที่ขอนแก่นที่ขายอาหารเจแช่แข็ง ถ้าได้เข้าเมืองทีเราก็ซื้อตุนไว้บ้าง เผื่อเบื่อเห็ด เบื่อผัก เราก็เอามาประกอบอาหารกินกันไป 

 
สาคูไส้เห็ด วีแกนสไตล์

อีกสิ่งหนึ่งที่เราเอนจอยมากเป็นพิเศษคือการ 'ปลูกผัก!' เป็นความใฝ่ฝันมานานนมของสามีว่าอยากจะมีสวนผักกว้างๆ เป็นของตัวเอง การมาอยู่ที่เมืองไทยคราวนี้จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกผัก ช่วงแรกที่ปลูกเรางงกันมาก เพราะไม่ถนัดกันทั้งสองคน อีกคนก็เป็นเด็กในเมืองมากจากอัมสเตอร์ดัม อีกคนก็เป็นลูกครึ่งชาวสวนครึ่งครูแต่ไม่ค่อยได้ปลูกผัก เลยต้องเรียนรู้กันเองแบบสนุกสนาน เราปลูกแบบออแกนิค ไม่ใช้สารเคมี ตอนที่ปลูกแรกๆ ต้องรบกับศัตรูทางธรรมชาติทั้งแมลง หนอน และมด! แต่ปีแรกประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม เรามีผลผลิตจาก ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเทศ คะน้า แครอท สลัด มะเขือม่วง แตงกวา มะละกอ หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพด ฯลฯ พอกินในครัวเรือนกันเกือบทั้งปี ประหยัดไปได้เยอะเลย 
 
ถั่วฟักยาวสดๆ กรอบๆ จากสวนของเรา

ชาวต่างชาติหลายคนมีความฝันอยากย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชาวต่างชาติบางคนไม่คิดให้ดีก่อนคือ 'จะอยู่ได้ไหม' บางคนย้ายมาปุ๊ปปับเพราะคิดว่าคงเหมือนๆ ตอนที่มาเที่ยว แต่เอาจริงๆ ความเคยชินก็ทำให้เห็นหลายสิ่งที่คิดไม่ถึง โดยเฉพาะหนุ่มๆ วัยสามสิบต้นๆ

 ข้อแรกคือ มาอยู่ได้ แต่จะทำงานอะไร? สอนภาษาอังฤษสมัยนี้ โรงเรียนตามชนบทไม่ใคร่ที่จะอยากไปขอ work permit ให้ชาวต่างชาติ เพราะวุ่นวาย อยู่ในเมืองก็ค่าครองชีพแพงลิบพอๆ กับอยู่ต่างประเทศ ที่สำคัญทางการไทยห้ามคนต่างชาติทำงานหากไม่มีใบอนุญาต ผิดกฏส่งกลับปรับด้วย คิดดูว่าจะทำอะไรกิน ข้อจำกัดเยอะเชียว

 ข้อที่สอง อากาศ ประเทศไทยมีแดดตลอดทั้งปีก็จริง แต่ใครว่าชาวต่างชาติอยู่ไปนานๆ แล้วจะทนทานต่อแดดฝน ไม่จริ๊งงงงง สามีที่บ้านยังไหม้เป็นพักๆ ถ้าออกบ้านช่วง 40 องศา กลับบ้านมาเกรียมเป็นกุ้งเผา

ข้อสาม culture shock! สามีที่บ้านมาไทยไปๆ มาๆ ก่อนที่จะย้ายมาสามปีเต็มๆ แต่ก็ไม่วายโดน culture shock ภาษาสำคัญต่อการสื่อสาร ที่สำคัญการที่ต้องสื่อสารผ่านภรรยาตลอดเวลา (เพราะคนไทยแทยจะไม่พูดภาษาอังกฤษเลย) มันทำให้รู้สึกกดดันพิลึก ฟังอะไรก็ไม่เข้าใจ มันก็หงุดหงิด คนไทยชอบทักว่าอ้วนขึ้น ดำขึ้น ฝรั่งไม่เก็ท เพราะที่บ้านฉันเค้าไม่มาอะไรกับรูปลักษณ์ของคนอื่น คนไทยไม่ respect คนอื่น ยาวววววว

ข้อสี่  อาหารการกินเรื่องใหญ่ โชคดีที่ที่บ้านทำอาหารกันกินเอง เพราะเรากินวีแกนด้วย แต่ได้ยินจาก สาย ฝ รุ่นพี่หลายๆ ท่านบอกว่าสามีไม่กินอาหารพื้นๆ เลย กินอาหารฝรั่งตลอด ข้อนี้เราโชคดีที่สามีเลี้ยงง่าย ฮีฟาดเรียบตั้งแต่แกงหน่อไม้ใส่ผักหวานจนถึงแจ่วเห็ด (แต่วีแกนสไตล์นะ) ถ้ากินแต่อาหารฝรั่งค่าใช้จ่ายจะมากขึ้นไปอีก

ข้อห้า ครอบครัวของเรา การอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวใหญ่แบบพ่อแม่ ลูก และลูกเขยนั้นไม่เวิร์คเลย ชาวต่างชาติต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ต่อให้คุณชอบพ่อแม่ของภรรยาแค่ไหน แต่สุดท้ายบอกได้เลยว่า พังๆๆๆ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องลงทุนลงแรงสร้างบ้านหลังน้อยเป็นของตัวเอง หลังจากที่อยู่ไทยมาเกือบปี บ้านของเราเพิ่งจะเสร็จไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง! ใครคิดจะย้ายมาไทย เตรียมบ้านของตัวเองให้พร้อมมมมม 

 
บ้านหลังน้อยๆ ในสวนของเรา
 
หลายๆ ท่านที่กำลังเตรียมการณ์รอสามีย้ายมาอยู่ไทย บางท่านคงคิดดีแล้ว ลองมาอยู่กันก่อนแล้ว ก็ขอให้มีความสุขกับการอยู่ในประเทศไทยที่ร่มเย็นแห่งนี้ ส่วนตัวเราและสามี เราถือว่าเราได้ลองของกันแล้ว ดีที่ลองตอนที่เรายังเป็นหนุ่มสาว ชีวิตมันยังเหลืออีกยาวไกล การย้ายกลับมาอยู่ไทยครั้งนี้ เราถือว่าเป็นบทเรียนชีวิต บทเรียนที่ได้คือ 'ความสุขมันอยู่ที่ตัวเราล้วนๆ ไม่ได้ขึ้นกับว่าเราจะอยู่ที่ไหนบนโลกเลย' 'ตราบใดที่ใจของเราสงบสุข ชีวิตของเราก็จะสงบสุข'
 

บล๊อกนี้บันทึกไว้ในโอกาสที่เราย้ายกลับมาอยู่ที่ไทยได้ครบหนึ่งปี วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่าหากวันข้างหน้ามาถึงแล้วเราได้กลับมาอ่านบล๊อกนี้ เราจะได้มองกลับไปอย่างภาคภูมิใจว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง . . . 



Create Date : 02 พฤษภาคม 2562
Last Update : 23 มีนาคม 2563 13:38:45 น. 0 comments
Counter : 1798 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมื่นทิวาพันราตรี
Location :
Leidschendam Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




หมื่นทิวาพันราตรี . . .

มีคนถามว่าชอบกลางวันมากกว่าตอนกลางคืนหรือ?
คำตอบคือเปล่า ชอบตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน
ชื่อนั้นได้มาจากการอุปมาอุปมัยของการรอคอย
'รอมาหมื่นวัน พันกว่าคืนแล้วนะ'

ตอนนี้ไม่ต้องรออีกต่อไปเพราะเจอพ่อมดร้ายในคราบเจ้าชายที่ครอบครองหัวใจมาเจ็ดปีกว่าแล้ว :)

:: blog ล่าสุด ::

Dear Diary . . .
● . . . 1 Year in Thailand : 1 ปีแล้วนะกับภารกิจพา ฝ กลับไทย . . .
● . . . New Journey : การเดินทางครั้งใหม่ . . .

Life in Holland
● . . . Dutch Dutch!! :: ไปรับ MVV Visa ที่สถานทูตเนเธอร์แลนด์ (2016) . . .
● . . . Dutch Dutch!! :: การยื่นเอกสาร MVV Visa และระยะเวลาการรอวีซ่า (2016) . . .
● . . . Dutch Dutch!! :: การเตรียมเอกสารสำหรับ MVV Visa 2016 . . .

Friends' blogs
[Add หมื่นทิวาพันราตรี's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.