. . . Au Pair's Diary : จุดเริ่มต้น ออแพร์คืออะไร . . .
Thursday, March 21, 2013 Khon Kaen, Thailand
เกริ่น . . .
เจ้าของบล๊อกนี้เป็นออแพร์ . . . จริงๆ ต้องบอกว่า กำลังจะเดินทางไปเป็นออแพร์น่าจะถูกกว่า จึงมีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับการสมัครเป็นออแพร์มาบ้าง แต่คงจะยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญ ขอเรียกตัวเองว่า ผู้มีประสบการณ์ (อันน้อยนิด) ก็แล้วกัน สำหรับจุดประสงค์ในการเขียนบล๊อกในหัวข้อนี้นั้น ก็เพียงเพื่อเป็นการแชร์หรือบอกเล่าประสบการณ์ที่ได้ประสบหรือพบเจอมาให้แก่ผู้ที่กำลังสนใจในโครงการนี้ ที่อาจจะไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนแล้วกันนะคะ
จุดเริ่มต้น . . .
ในการการที่จะเริ่มคิดทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ย่อมที่จะต้องเริ่มจากจุดเริ่มต้นเสมอ จุดเริ่มต้นในที่นี้ของเปรียว อาจจะหมายถึง แรงบันดาลใจ หรือสิ่งที่ทำให้เราคิดที่จะทำสิ่งใดๆ สิ่งหนึ่ง และสำหรับจุดเริ่มต้นของการคิดที่จะเป็นออแพร์ที่เนเธอร์แลนด์ของเปรียว สารภาพแบบตรงไปตรงมาเลย ประการแรก (ณ ตอนนั้น) คือ หาเรื่องไปอยู่ใกล้ๆ กับคนที่รัก ช่วงนั้นมีคนที่คุย และเข้าใจได้ดีทีเดียว ซึ่งเป็นชาวดัตท์ในอารมณ์นั้นก็คิดแบบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า เออ . . . คงจะดีนะถ้าได้ไปอยู่ใกล้ๆ กัน แต่จะมีทางไหนจะที่จะไปได้ ก็เลยคิดถึงโครงการออแพร์ แต่หลังจากนั้นพอเริ่มสมัครโครงการ สอบสัมภาษณ์ระดับภาษาผ่าน กำลังจะดำเนินเรื่องเอกสารก็มีอันต้องเลิกคุยกันไป (เขาไปกับหญิงอื่น) ช่วงนั้นเคว้งๆ จนเกือบถอดใจจะยกเลิกไปเลยทีเดียว แต่พอมาคิดอีกทีก็ได้คำตอบที่ดีให้กับตัวเองว่า จริงๆ เรานี่บ้าตั้งแต่เอาผู้ชายมาเป็นเป้าหมายแล้วนะ จนหลงลืมสิ่งที่เราตั้งใจจริงๆ
ความตั้งใจจริงๆ ที่ว่า ก็คือจริงๆ แล้ว ตั้งแต่เรียนมหา'ลัยปีหนึ่ง ตัวเองก็สนใจโครงการนี้มาก่อนแล้ว เพราะอยากที่จะไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศ แต่ช่วงนั้นอยากไปอเมริกามาก แต่โดนพ่อแม่คัดค้าน เพราะยังเรียนไปจบ จนกระทั่งเรียนจบก็คิดได้ว่าเราควรจะไปนะ ควรจะทำตามที่อยากจะทำ จนกระทั่งเลิกคุยกับหนุ่มนั่นแหละ ถึงเข้าใจว่า อ้ออ จริงๆ เราควรจะอยากทำเพราะเราอยากทำนะ ไม่ใช่ทำไปเพราะตัวแปรใดตัวแปรหนึ่ง เพราะตัวแปรที่ว่า พอเขาหมดความหมายกับเรา (และเราหมดความหมายสำหรับเขา) เขาก็กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเรา ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับชีวิตเราซักนิด
ออแพร์คืออะไร?
ถ้าอธิบายแบบหรูๆ หน่อยก็คงนิยามออกมาได้ประมาณว่า ออแพร์ คือ โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา หรือยุโรป ซึ่งไปอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมท์หรือโฮสแฟมมิลี่ โดยการเลี้ยงดูเด็กเพื่อแลกกับเงินพ็อกเก็ตมันนี่เพื่อเที่ยว และเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษา
แต่อธิบายเบบตรงไปตรงมาก็คงหมายถึง 'พี่เลี้ยงเด็กที่ควบตำแหน่งแม่บ้าน' ในต่างแดน ที่ต้องไปอาศัยอยู่ในบ้านของนายจ้างที่เป็นชาวต่างชาติอะไรประมาณนั้นเลย จริงๆ ฟังดูแล้วก็ไม่ได้สวยหรูนัก เงินเดือนก็น้อยนิด เพราะฉะนั้นจงคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ ถ้าคิดแต่ในแง่ที่ว่าจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ไอ้นั่นก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ เพราะควรจะเตรียมใจไว้ว่า คุณต้องทำงานนะ กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หนักหรือเบา อันนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับโฮสแฟมมิลี่ด้วย
คุณสมบัติของออแพร์
- อายุ ส่วนใหญ่จะรับตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 25 ปี แต่บางประเทศโดยเฉพาะประเทศในแถบสแกนดิเนเวียรู้สึกว่าจะรับ 18 จนถึง 26 ปีขึ้นไป (18-26+) - การศึกษา จบการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมปลายขึ้นไป (ม.6) เรื่องการศึกษาจริงๆ จะขึ้นอยู่กับโฮสฯ แฟมมิลี่ด้วย เพราะบางครอบครัวก็รีเควสมาว่า ออแพร์จะต้องจบปริญญาตรีขึ้นไป - ภาษา สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในระดับดี คือสื่อสารเข้าใจ เอาง่ายๆ คือ พอที่จะเอาตัวรอดในต่างแดนได้ แต่ในบางประเทศอย่างฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน ออสเตรีย ในกรณีของประเทศเหล่านี้จะต้องการออแพร์ที่ต้องพูดภาษาเหล่านี้ได้ด้วย อย่างฝรั่งเศสก็ต้องพูดฝรั่งเศสได้ สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมันและออสเตรียต้องพูดภาษาเยอรมันได้ - ความประพฤติ ต้องมีความประพฤติที่ดี ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม ใครๆ ก็อยากได้คนที่ดี ไว้ใจได้ไปอยู่ด้วยเนอะ - สุขภาพ สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อที่ร้ายแรง หรือโรคที่มีผลกระทบต่อการทำงาน - สถานภาพ โสดและไม่มีบุตร - รักเด็ก อันนี้สำคัญม๊ากกกก เพราะเราต้องทำงานกับเด็กตลอดเวลา ถ้าไม่ได้รักในการทำงานร่วมกับเด็กจริงๆ ขอแนะนำว่าอย่ามาจะดีกว่า แต่สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าว่าตัวเองรักเด็ก และจะอยู่กับเด็กได้ไหม ขอแนะนำให้ลองไปเลี้ยงเด็กตามเนิร์สเซอร์รี่หรือสถานสงเคราะห์ดู เลี้ยงในที่นี้ไม่ใช่แค่อุ้มๆ เล่นๆ แป๊ปๆ นะคะ ลองไปขลุกแบบใกล้ชิดดูซักอาทิตย์สองอาทิตย์ ยิ่งนานยิ่งดี เพราะเด็กๆ ไม่ได้มีแค่อารมณ์น่ารัก เล่นๆ ตลอดเวลา - มีความอดทน ว่ากันง่ายๆ คือต้องถึกกกกก มีความยืดหยุ่นและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ การเป็นออแพร์ต้องไปอยู่ร่วมกับคนอื่นนะคะ ซึ่งเราก็ยังไม่รู้หรอกว่าคนที่เราจะต้องไปอยู่ร่วมด้วยนั้นจะเป็นยังไง อารมณ์ดี เฟรนด์ลี่หรืออารมณ์ร้ายกาจ รวมไปถึงเด็กๆ ด้วยที่เราไม่รู้ว่าจะเป็นเด็กน่ารัก อารมณ์ดีเลี้ยงง่าย หรือเด็กแสบที่จะต้องคอยคิดหาทางมารับมือตลอดเวลา แถมถ้าเราปรี๊ดกะเด็กมาจะไปลงไม้ลงมือ ตี หยิก ข่วน ลูกชาวบ้านเขาก็ไม่ได้ โทษหนักถึงขั้นติดคุกติดตาราง เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่มีความอดทนจริงๆ (แบบรู้ตัวถ้าฉันคงไม่ไหว และไม่ทน) หรือเป็นคนที่ปรี๊ดเอาได้ง่ายๆ เราแนะนำว่าอย่าเสี่ยงจะดีกว่า
แต่ถ้าหากคุณสมบัติที่ว่ามานั้น คุณคิดว่าตัวเองผ่านทั้งหมด (เอาให้แน่นะคะ) ก็ลงมือได้เลยค่ะ!
Create Date : 20 มีนาคม 2556 |
Last Update : 21 มีนาคม 2556 2:46:13 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1167 Pageviews. |
|
|