อาการน่าเป็นห่วง
2 ส.ค. 2549
วันนี้ขอเผานักเรียนสักวันครับ
ต่อไปนี้เป็นบางส่วนของภาษาไทยที่ตรวจพบในข้อสอบของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม
โอกาศ (คำที่ถูกต้อง คือ โอกาส)
กระตือลือล้น (คำที่ถูกต้อง คือ กระตือรือร้น)
ปล่อยปะระเลย (คำที่ถูกต้อง คือ ปล่อยปละละเลย)
ควบคลุม (คำที่ถูกต้อง คือ ควบคุม)
คลอบคลุม (คำที่ถูกต้อง คือ ครอบคลุม)
ค่อม, คล่อม (คำที่ถูกต้อง คือ คร่อม)
อณุญาต (คำที่ถูกต้อง คือ อนุญาต)
ถ้าคำข้างบนยังไม่ค่อยแปลกเท่าไร เพราะพบเห็นคนที่ใช้ผิดอยู่เป็นประจำ ก็ขอนำเสนอคำที่ถ้าหากมีการประกวดกันล่ะก็ คำนี้จะต้องติดหนึ่งในห้าอันดับสุดท้าย หรือไม่ก็ต้องได้รับรางวัลขวัญใจช่างภาพ หรือรางวัลขวัญใจมหาชนจากการโหวตจากผู้ชมทางบ้าน รางวัลใดรางวัลหนึ่งแน่นอน คำนั้นคือคำว่า
สื้อสัตย์
เกิดมาสามสิบกว่าฝนก็เพิ่งจะเคยเห็นคำนี้เป็นครั้งแรกที่นี่ล่ะครับ
ก็เลยขอถือโอกาสบันทึกไว้ตรงนี้เลยว่า คำนี้พบเห็นการใช้งานครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่นี่ (ถ้าใครเคยพบเห็นมาก่อน ก็สามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อโต้แย้งได้ครับ) เผื่อวันข้างหน้า หากใครศึกษาเรื่องนิรุกติศาสตร์ (หรือ Etymology วิชาที่ว่าด้วยที่มาและความหมายของคำ) ของคำคำนี้ จะได้ตามหาแหล่งกำเนิดได้ถูก
หรือถ้าหากเจ้าหมอนี่ (คนที่เขียนคำนี้เป็นคนแรก) เกิดเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาในอนาคต หรือไม่ก็คำคำนี้แพร่หลายออกไปแล้วจนเป็นที่นิยม เวลาราชบัณฑิตท่านจะบันทึกคำนี้ไว้ในพจนานุกรมว่าเป็นคำที่ถูกต้องเนื่องจากเป็นความนิยมของคนไทยทั่วไป (แบบที่ชอบอนุโลมให้คำที่สะกดผิดหรืออ่านออกเสียงผิดหลักการแต่ดั้งเดิม กลายเป็นคำที่ถูกต้องด้วยเหตุเพราะใช้ผิดกันทั่วประเทศไปแล้วอยู่เรื่อยมา) จะได้อ้างอิงที่มาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
ใครว่าการใช้ภาษาพูดหรือภาษาสแลงอย่าง เด๋ว ไม่เปงไร หรือ เปน ของวัยรุ่นไม่น่าเป็นห่วง ผมว่าน่าเป็นห่วง และน่าเป็นห่วงอย่างมากด้วย เพราะในท้ายที่สุด เขาจะไม่สามารถแยกแยะออกว่าอะไรถูกอะไรผิดกันแน่ (แต่ก็คงจะไม่เสียหายเท่าไร เพราะสุดท้าย ราชบัณฑิตช่วยท่านได้ เพราะสามารถแก้ไขให้คำผิดกลายเป็นคำถูกได้ในบัดดล)
อย่างคำว่า เปน ที่ขี้เกียจใส่ไม้ไต่คู้กัน เพราะประหยัดการกดคีย์บอร์ดไปหนึ่งครั้งนั้น วัยรุ่นจะรู้กันไหมว่า ที่จริงแล้วคำว่า เป็น ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เคยสะกดโดยไม่มีไม้ไต่คู้มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่เรายังไม่เกิดเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ที่คิดว่าใช้แล้วทันสมัย น่าจะเรียกว่าเป็นการย้อนยุคเสียมากกว่า
แล้วจะว่าไปแล้ว มันประหยัดการกดคีย์บอร์ดไปหนึ่งครั้งก็จริง แต่ผมว่าพลังงานที่สมองใช้เวลาพิมพ์คำนี้น่าจะมากกว่าปกติ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องสะกดว่า เป็น แต่เราต้องมาเปลืองพลังงานสมองคิดต่อไปอีกชั้นหนึ่งว่า จะต้องละไม้ไต่คู้เอาไว้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่เท่
น่าเป็นห่วงภาษาไทยจริงๆ ครับ จะมาอ้างว่าเขาเรียนมาทางสายวิทยาศาสตร์ ภาษาก็เลยอ่อนไม่ได้ครับ มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว เพราะนี่คือตัวตนของเราแท้ๆ จะมาอ่อนไม่ได้เด็ดขาด
เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ กวดขันการใช้ภาษาไทยของเราๆ ท่านๆ และคนรุ่นหลังให้มากขึ้น (พูดเหมือนคนแก่ แต่จริงๆ ยังครับ) ไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งท่านอาจจะต้องปวดหัวใจหากไปเห็นคำว่า สื้อสัตย์ ในสมุดการบ้านของลูกท่าน (เหมือนผมตอนที่เห็นคำนี้เป็นครั้งแรกในข้อสอบ) แล้วท่านก็จะอดไม่ได้ที่จะต้องบ่นออกมาดังๆ ว่า
กุ้มใจจิงๆ (โว๊ย) ลูกชั้น!
Create Date : 02 สิงหาคม 2549 |
|
22 comments |
Last Update : 2 สิงหาคม 2549 8:25:25 น. |
Counter : 951 Pageviews. |
|
|
|
ขออนุญาตมาขำค่ะ