|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
ท้องเดือนที่ 2
20 ก.พ. 52 ขณะกำลังหมกมุ่นกับNPLสั่งจิตใต้สำนึกลดน้ำหนัก 106 กก. อยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ ทานน้อยลง และเลือกทานสิ่งที่มีประโยชน์ ชักเอะใจ...ไหงน้ำหนักมิลดเลยยยยย.....เป็นไปได้อย่างไร อีตอนแรกก็คิดบวกว่ารอบเดือนที่ขาดไปคงเพราะฮอร์โมนปรับเปลี่ยนจากการลดน้ำหนัก รอบเดือนเลยเลื่อน เพราะเดือนพ.ย. 51 รอบเดือนมาควบปลายเดือนพ.ย.กับต้นเดือน ธ.ค.51 แล้วไอ้อาการพะอืดพะอมอ๊อกอาเจียนเวลากินมาก ที่คิดว่าร่างกายต่อต้าน ก็ส่อเค้าไงก็ไม่รู้ ชักไม่ได้การ ต้องเทสต์ปัสสาวะซะแล้ว....พอจุ่มแท่งลงในถ้วยรองปัสสาวะ เห็นขีดแดงวิ่งปรู๊ด 2 ขีด ช็อคสิค่ะ....อ๊ายยยยยยยยยส์ ผลมันจะแปลความหมายเป็นอย่างอื่นได้ไหมเนี๋ย ตั้งแต่แท้งขูดมดลูกท้อง 2 ไปตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. 50 และตัวเท่าช้าง กับอายุเกือบ 40 ความถี่ในการสป๊าคก็ต่ำมาก.. ข้าเจ้าคงไม่ท้องอีกแล้ว (อดีต) ลองค้นหาความรู้เกี่ยวกับน้ำหนักตัวของแม่ที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ คำนวณแล้วได้ดังนี้
น้ำหนัก 106.5 กิโลกรัม เท่ากับ 233.5 ปอนด์ ส่วนสูง 158 เซนติเมตร เท่ากับ 5 ฟุต 2 นิ้ว BMI เกิน 29 ระดับอ้วนมาก ต้องรักษาน้ำหนักให้เพิ่มไม่เกิน 5 กิโลกรัม พลังงานแคลอรี่เท่ากับ 3,222.198 (แอบกระซิบว่าตกเลขคณิต หัวช้ามาก เลยคำนวณแคลอรี่ไม่เคยถูก) ข้อมูลจาก link ในเว็บบล็อกคุณ Jackson5 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=jackson5
ครรภ์แรกน้ำหนัก 93-106.5 กก. น.น.ขึ้นประมาณ 13 ก.ก. อายุ 34 ปี ผ่าคลอด 38 สป. วางยาสลบ เด็กน้ำหนักตัว 3,700 กรัม ความยาว 51 ซ.ม. เด็กไม่เป็นเบาหวาน หลังเลี้ยงลูกเองให้ดื่มนมจากเต้าเอง 3 เดือนลดเหลือ 90 ก.ก.
ครรภ์ 2 แท้งตอน 2 เดือน ขูดมดลูก น้ำหนักตัว 102.5 ก.ก. อายุ 36 ปี (พาลไม่ชอบรพ.ของรัฐไปเลย)
...หลังเลิกงานแจ้นไปพบหมอสูติฯ ที่รพ. แจ้งประวัติการตั้งครรภ์ บอกวันที่รอบเดือนมาครั้งสุดท้ายแบบมั่วๆ เพราะจำไม่ได้แล้วจริงๆ งานยุ่งมาก ยุ่งกับเรื่องเปลี่ยนโรงเรียนลูกสาว 4 ขวบ 9 เดือน ลุงหมอบอก..มาม่ะ...ไปอัลตร้าซาวนด์ให้ชัวร์ๆ ว่าอายุครรภ์เท่าไหร่แล้ว? พยาบาลก็ม้วนขอบกระโปรงลงไปถึงหัวหน่าว เราก็พับชายเสื้อให้ลุงหมอป้ายเจลเย็นๆ แล้วก็ลากหัวส่งคลื่นเสียง อ๊ะๆ ลุงหมอซูมเข้าๆ เห็นไรไม่รู้นอนเขลงอยู่ในมดลูก เท่าเม็ดถั่วเขียว ลุงหมอวัดตัวอ่อนแล้วก็แจ้งว่า ท้องชัวร์ 7 สัปดาห์ 6 วัน ฝากท้องเลยไหม เราปฏิเสธไป (จะรอฝากกับหมอที่ผ่าคลอดลูกสาวคนแรก) ในใจก็คิดๆๆๆ ว่าจะไหวเหรอเนี๋ย ครรภ์แรกก็มีภาวะแทรกซ้อนครรภ์เป็นพิษ ต้องผ่าเจ้าตัวน้อยน้ำหนัก 3.7 ก.ก.ออกมาอุแว้ๆ ก่อนท้องแรกก็น้ำหนัก 90 ก.ก. จนจะผ่าคลอดก็ 106.5 โลแล้ว เอาละน่ะ...ในเมื่อลูกตั้งใจมาเกิดแล้วนี่นา แม่ก็ต้องรักษาเจ้าให้ตลอดรอดฝั่ง คิดบวกเข้าไว้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ หุหุ (พ่อของตัวอ่อนก็งงๆ อยู่เหมือนกัน..มาได้ยังไงเนี๋ย) (ไม่รู้เป็นผลจากการไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับท้องที่ 2 ที่แท้งไปเมื่อต้นปี 50 หรือเปล่า ลูกเลยมาเกิดใหม่ หลังทำบุญมาปุ๊บเลย) ณ วันศุกร์ที่ 20 ก.พ. 52 ที่ทราบว่าตั้งครรภ์ ตื่นนอนมาแบบเพลียๆ นอนหลับๆ ตื่นๆ มื้อเช้าคุณแม่ร้อยโลทานซาละเปาทับหลีไป 2 ใบ ขนมจีบ 5 ลูก กับติมซำเห็ดหอมหมูสับ ยังกับร่างกายจะรู้เรื่องโภชนาการ จู่ๆ คุณแม่ก็เปลี่ยนใจจากเคยสั่งชาร้อนมาดื่มก็สั่งโอวันตินเย็นมาดื่มแทน (มื้อเช้านี้ยังไม่รู้ว่าท้องน่ะจ๊ะ) มื้อเที่ยงกินสลัดผักไข่ต้ม กับน้ำส้มคั้นแล้วก็ตบะแตกไปกินข้าวปลาเค็มทอดของเพื่อนร่วมงานนิดหน่อย หุหุ (ในใจคิดร้ายๆ น่ะเนี๋ย ว่าท้องนี้มิต้องบำรุงหรอก ให้ตัวอ่อนดึงพลังงานสะสมตามตัวมาใช้ให้หมดดีกว่า พอคลอดแล้วแม่จะได้สวยเลย) อ๊ะจ๊าก...ตอนเบรค จิ้มขนมหวาน กับฝรั่ง(ห้ามๆ เลยอย่าคิดว่าตัวเองผิดเด็ดขาด) มื้อเย็น ข้าวผัดกระเพราไข่ดาวสุกๆ และก็นอนหลับๆ ตื่นๆ อีกแล้ว อ่านหนังสือแล้วก็ผล็อยหลับไป ต้นเหตุของภาวะเปลี่ยนแปลงของแม่กับพี่สาวของลูกยังอยู่ต่างประเทศ หลังโทรไปแจ้ง ก็เลื่อนกำหนดกลับเร็วขึ้น 21 ก.พ.52 ไอ๊หย่า! ตื่นเกือบ 9 โมง ตาลีตาเหลือกไปทำงาน หาไรกินข้างหน้าก็แล้วกัน ก็จิบน้ำผลไม้กล่อง กับ พายกรอบที่น้องสาวทำมาให้เมื่อวานซืน เที่ยงนี้แม่กินข้าวผัดแหนมกับไข่ดาวสุก แล้วก็บานาน่าสปริท สั่งสลัดผักรวมมิตร แวะซื้อสับปะรดไปทานด้วย มื้อเย็นอุดหนุนเจ้าเดิม ด้วยสเต็กปลากระพง กับน้ำมะเขือเทศปั่น เมนูสุขภาพล้วนๆ 22 ก.พ. 52 กินติมซำเป็นอาหารเช้า เที่ยงกะจะทานอาหารชายทะเลให้อร่อย ปรากฎว่าไม่อร่อยสักอย่างทั้งข้าวผัดรวมมิตร ทั้งส้มตำ และยำสามรส มื้อเย็นแค่นๆ อุ่นข้าวผัดของเหลือใส่กล่องกลับบ้านมากินกับสลัดก็ได้แค่สองคำเลิก พอกันที! ตอนดึกเพื่อนเก่ามาเยือน ชวนไปหาไรทาน ก็เลยช่วยกินขนมปังนึ่งสังขยากับน้ำโซดามะนาวปั่น 23 ก.พ. 52 ตื่น 6 โมงเช้า รีบไปขึ้นรถ ปรากฎว่ารถออกสาย เลยมีเวลาทานซาละเปาทับหลี กับขนมจีบ น้องน่ารักซื้อข้าวผัดผัดรวมมิตรกับผัดมะเขือมาให้ เขี่ยๆ หมูทิ้ง เอียนหมูยังไงก็ไม่รู้ เหม็นคาวอ่ะ! จิบน้ำดื่มตลอดทาง ปฏิเสธขนมนมเนยที่พรรคพวกยื่นมาให้ อ้าปากพูดให้น้อยสุดกลั้นความพะอืดพะอมไว้ ถึงที่หมายก็เริ่มปฏิบัติงาน พกแครกเกอร์รองท้องไว้กันหิว ทานข้าวเหนียวเนื้อทอดได้คำหนึ่ง มื้อเที่ยงอร่อยกับข้าว ปลาเค็มทอด ไข่เจียว ราดน้ำแกงส้ม น้ำพริกมะม่วงผักสด อาหารช่วงพักเบรคได้กินขนมปังไส้เผือกกับน้ำลำไย (รู้สึกกินของหวานเยอะไปแล้วเรา) มื้อเย็นข้าวราดน้ำแกงหอย ผัดผัก น้ำพริกผักลวกกระทิ ลงเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน สบายจัง แต่เมื่อขาเป็นบ้า นั่งเรือนานไปหน่อย 24 ก.พ. 52 กลับจากสัมมนา ตัดสินใจไปหาหมอที่เคยดูแลตั้งแต่ท้องแรกที่คลีนิคดีกว่า ไม่ต้องเดินทางไปกลับให้เหนื่อย หมออัลตร้าซาวนด์แล้วก็แจ้งว่ามีถุงน้ำในโพรงมดลูก ผ่าคลอดครั้งนี้แล้วทำหมันซะเลยน่ะ (ก็โอเคค่ะหมอ) ขนาดความยาว 1.5 ซ.ม. ผล u/s คำนวณได้ว่าอายุครรภ์ 8 สัปดาห์เศษ คุณหมอก็เลยส่งไปเจาะเลือดตรวจเลือด นัดฟังผลอีก 1 สัปดาห์ วันนี้กินอะไรไปบ้างน้อ....อ้อ...มื้อเช้าตื่นมาแบบสะโหลสะเหล นอนไม่หลับ ก็ขอดื่มกาแฟเข้าไปครึ่งแก้ว แบบพะอืดพะอมกับปลาหมึกแห้ง แครกเกอร์ ตามด้วยข้าวน้ำพริกมะม่วงไข่เจียว ราดน้ำแกงกะทินิดหนึ่ง ปลากระป๋องนิดหนึ่ง ยาคูลย์ จิบน้ำเปล่าเป็นระยะๆ แล้วก็ออกเดินทาง กินมื้อเที่ยงในรถ เป็นข้าวกระเพราไก่ กินไม่หมดกล่อง ได้ขนมเปียกปูนไปถ้วยเล็กๆ ส้มครึ่งซีกเล็ก ระหว่างรอพรรคพวกกลับจากเที่ยวถ้ำ ก็กินไอศกรีมขนมปังไปคู่หนึ่งแก้กระหายน้ำ ระหว่างทางรถจอดให้ซื้อไข่ปิ้ง ห่อหมก ข้าวเกรียบ น้ำพุทราเชื่อม กินได้ไม่หมดสักอย่าง ยกให้เพื่อนกินแทน ทนร้อนไม่ไหวเลยจิบโค้ก 2-3 อึก มื้อเย็นทานข้าวโพดต้มฝาน สับปะรด เกาเหลา ข้าวสวย แล้วก็ไปพบคุณหมอนั่นแหล่ะ 25 ก.พ. 52 วันนี้หาข้อมูลเรื่องแม่อ้วนท้อง อ่านแล้วน่ากลัวทั้งนั้น แต่เราก็ผ่านท้องแรกด้วยน้ำหนักไม่ใช่ย่อย อายุไม่ใช่น้อยมานี่นา ขอให้จิตใจดี สู้ๆ เป็นสำคัญ เห็นรูปภาพจากทริปแล้วยังกะตุ่มโอ่ง วันนี้มื้อเช้าทานติมซำกับเนสวีต้าชง และข้าวต้ม รู้สึกดีจังได้ทานปลานึ่งขิง เที่ยงทานข้าวผัดหมูกับไข่ดาวฟองครึ่ง ตอนพักเบรคดื่มน้ำส้มคั้น ถั่วลิสงต้ม มันต้ม ฝรั่งจิ้มพริกเกลือ พิซซ่า มะม่วงน้ำปลาหวาน ที่เพื่อนๆ เอามาฝากเยอะแยะไปหมด ก็อย่างละนิดอย่างละหน่อย มื้อเย็นน่ะเหรอ กินข้าวเกรียบไป 4-5 แผ่น กับถั่วพิตาชิโอ เมินเฉาก๊วยเย็นเจี๊ยบได้สำเร็จ พาลูกไปทานข้าวกับลูกๆ เพื่อนบ้าน กินข้าวราดยำละมุด กับผักสดจิ้มน้ำพริกกะปิไป 1 จาน 26 ก.พ. 52 กินติมซำ กับโจ๊กหมู แบ่งกับลูกสาว ระหว่างมื้อ กับแกะเกาลัดกินไป 1 กำมือ ชงนมกลูเซอร์นาเอสอาร์ พยายามทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตให้น้อยสุด รอให้ดึงพลังงานสะสมมาใช้ดีกว่า
...อ่านข่าวเก่าจากไทยรัฐแล้วหลอนๆ อ่ะ หมอนักวิจัยมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลกล่าวเตือนหญิงมีครรภ์ผู้อ้วนเกินปกติ ว่าอาจจะได้ลูกที่วิปริตผิดปกติ อย่างเช่น เยื่อหุ้มไขสันหลังยื่น หรือกระดูกสันหลังโหว่ได้
คณะนักวิจัยได้วิเคราะห์ผลการศึกษารวม 39 เรื่องด้วยกัน พบข้อสังเกตว่า หญิงมีครรภ์ที่อ้วนผิดปกติ มักจะคลอดลูกที่มีความผิดปกติ รวมทั้งมีความบกพร่องทางท่อประสาทอย่างอื่นมากกว่าคนธรรมดาถึง 2 เท่า
รายงานผลการศึกษาเผยแพร่ในวารสาร "แพทย์สมาคมอเมริกัน" ยังได้แจ้งว่า เท่าที่เคยปรากฏ เคยมีทารกที่คลอดออกมามีหัวใจไม่สมบูรณ์และปากแหว่งก็ยังมี
เป็นที่ทราบกันดีว่ามารดาที่อ้วนเกินปกติ มักจะมีลูกยากอยู่ แล้ว และหากท้องขึ้นได้ ผู้หญิงคนที่ไม่ว่าจะอ้วนเกินปกติหรือน้ำหนักเกิน ก็ยังอาจได้ลูกที่เสี่ยงกับมีปัญหาสุขภาพอนามัยสูงกว่าด้วย
ดร.จูดิธ แรงกิ้น หัวหน้านักวิจัย กล่าวแนะนำว่า ผู้หญิงที่คิดจะมีลูก ควรจะคำนึงถึงน้ำหนักตัวตนเองก่อน และหากเห็น ว่าน้ำหนักเกิน ก็ควรจะแสวงหาความช่วยเหลือ "เพราะหากตั้งท้องแล้ว ย่อมไม่เหมาะกับการลดน้ำหนัก เนื่องจากผู้มีครรภ์จะต้องคอยกินอาหารที่ถูกส่วนและเหมาะสมเอาไว้"
+++ค่อนข้างกังวลสูง เพราะอาร์ตตัวแม่อายุ 35+ ก็เสี่ยง ตัวพ่อก็เสี่ยง 35+ แถมสูบบุหรี่ซะด้วย น้ำหนักไขมันแม่ก็เสี่ยง ครรภ์แรกก็ผ่าคลอดตอน 38 สัปดาห์ ครรภ์เป็นพิษ ครรภ์ 2 ก็ไข่แดงฝ่อตอน 2 เดือน ต้องขูดมดลูก โอ้! ท้อง 4 เดือนก็ต้องไปเจาะน้ำคร่ำละน่ะ เคยมีคนถามว่าเจาะน้ำคร่ำแล้วพบว่าลูกผิดปกติจะเอาไว้ไหม???????????????+++
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 2 สิงหาคม 2552 16:51:34 น. |
Counter : 3813 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Tukta21 21 กุมภาพันธ์ 2552 15:53:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: BlueFat 25 กุมภาพันธ์ 2552 16:12:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: egnaro IP: 125.25.46.153 21 ธันวาคม 2553 11:04:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|