33 ห้าสหายของผมวันนี้



วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552

ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำในวันนี้ว่า สัตว์ทั้งหมด 36 ชนิดที่ผมเคยเลี้ยงมาตลอดชีวิต หากมาถึงวันนี้แล้ว ผมรู้สึกรักงูบอล ไพธอน มากที่สุด เพราะตลอดเวลาเกือบสองเดือนผมได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า ตั้งแต่เคยเลี้ยงสัตว์มาทุกชนิด งูบอล ไพธอน ถือเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายกว่าสัตว์อื่นๆ ทุกชนิดเลย มันกินน้อยแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือน้อยกว่านี้ก็ไม่เป็นไร ในแต่ละวันมันก็นอนของมันโดยไม่ค่อยสนใจใคร แค่เตรียมน้ำไว้ให้มันตลอดเวลาก็เพียงพอแล้วสำหรับมัน ผมอยากจะจับเล่นตอนไหนผมก็สามารถจับมันมาเล่นได้ตลอดเวลาเท่าที่ผมอยากจะเล่น

ถึงแม้ว่าการกินหนูของงูบอล ไพธอน จะทำให้ผมรู้สึกใจไม่ค่อยดีเพราะสงสารหนูอยู่บ้าง แต่เมื่อผมเลี้ยงได้สักระยะหนึ่งผมก็มีวิธีการเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องสงสารหนูมากเกินไป ด้วยการไม่ซื้อหนูมาเยอะๆ ให้เหลือจนต้องเลี้ยงไว้จนรู้สึกผูกพันกับหนู ผมจะซื้อเท่าที่มันจะกินแต่ละสัปดาห์เท่านั้น และตอนที่งูกินหนูผมก็จะเอาผ้าขนหนูปิดคลุมกล่องใส่งูไว้ เพื่อประโยชน์ข้อแรกคืองูจะกินอาหารได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ประโยชน์ข้อต่อมาคือ ผมจะได้ไม่ต้องสงสารหนูตอนมันจะถูกกิน

เจ้าแควนตั้ม เป็นชื่อที่ผมตั้งให้กับงูบอล ไพธอน ตัวแรกของผม และถือเป็นปฐมบทสำหรับการเลี้ยงงูของชีวิตผมเลยทีเดียว ผมใช้เวลาเพียงเดือนเดียว ผมก็ตัดสินใจเลี้ยงงูบอล ไพธอน เพิ่มขึ้นอีก 2 ตัว และมาถึงวันนี้ผมมีงูบอล ไพธอน ทั้งหมด 3 ตัวที่บ้านของผม และผมก็คอยหมุนเวียนเปลี่ยนเล่นกับมันทีละตัว อย่างไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว และผมยังคิดต่อไปไกลอีกว่า ผมจะมีงูบอล ไพธอน เพิ่มขึ้นอีกมากมายหลายตัวในอนาคตข้างหน้าต่อไป





เจ้าเอสเพรสโซ่ หรือ เจ้ากาแฟดำ ถือเป็นงูบอล ไพธอน ตัวที่สามของผม และถือเป็นงูบอล ไพธอนตัวที่สองที่ผมรับจากน้องเต๋อ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 งูบอล ไพธอน ตัวที่สามนี้จะมีสีดำเป็นพิเศษ โดยก่อนนี้น้องเต๋อเคยเรียกว่า เจ้ากาแฟดำ แต่พอมาอยู่กับผม ผมก็เรียกมันว่า เจ้าเอสเพรสโซ่แทนชื่อเดิม งูตัวนี้แม้ว่าจะดูตัวเล็กๆ แต่แข็งแรงมากๆ มันสามารถกินหนูไจเอ้นตัวเท่ากำมือได้อย่างสบายๆ ส่วนนิสัยของเจ้าเอสเพรสโซ่ก็นิ่งสงบดีกว่าเจ้าปีเตอร์ค่อนข้างมาก ไม่ค่อยตกใจตอนเราจับมันมาเล่น

งูบอล ไพธอน ตัวที่สามของผม ยังถือว่าเป็นงูที่มีสีดำเป็นพิเศษ เห็นน้องเต๋อบอกว่า มันอาจจะเรียกว่ามอร์พอีกมอร์พหนึ่งของงูบอล ไพธอนเลยทีเดียว แต่สำหรับผม ความจริงผมไม่ค่อยสนใจมากหรอกว่ามันจะเป็นมอร์พหรือไม่ใช่มอร์พอะไรนั่น เพราะผมถือว่าสีนอร์มอลนี่ล่ะ เป็นสีที่ถูกใจผมมากๆ อยู่แล้ว และผมคิดว่าสีนอร์มอลมันก็มีเสน่ห์ของมันไม่หยอก อย่างน้อยมันก็เป็นสีที่ธรรมชาติได้สร้างมาให้กับมันอย่างสมบูรณ์ที่สุดอยู่แล้ว เพราะสีอื่นๆ มันได้เกิดขึ้นจากการผสม การเพาะเลี้ยงของมนุษย์มากกว่า





ก่อนที่ผมจะมีงูบอล ไพธอนเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจ ผมก็มี "น้องพลอย" ตัวนี้ล่ะที่เป็นเพื่อนกับผมอยู่ทุกวัน ถึงแม้ว่าปลาหมอสีของผม จะไม่ได้เป็นปลาที่สวยงามจนใครๆ จะต้องตื่นเต้นกับมัน แต่ด้วยเหตุที่ผมเลี้ยงมันมาไม่น้อยกว่า 1 ปี ก็ทำให้ผมรู้สึกรักและรู้สึกผูกพันกับมันไม่น้อยทีเดียว ผมแทบนับจำนวนครั้งไม่ถ้วนที่ผมจะต้องเดินทางไปสวนจตุจักรเพื่อซื้อลูกปลานินมาให้มันกินบ้าง ซื้ออาหารชนิดพิเศษมาให้มันกินบ้าง บางทีผมก็ซื้ออุปกรณ์ตกแต่งตู้บ้าง ซื้อหินใหม่ๆ มาเปลี่ยนบ้าง มันก็ทำให้ผมรักมันไม่น้อยทีเดียว

วันแรกที่ปลาหมอสีตัวนี้มาถึงบ้านผม ผมตั้งชื่อมันว่า "ไทเก้อ" เพราะตัวสีดำเข้ม มีจุดลายขาวปนแดงทั้งสองข้างลำตัว มองดูสวยงามเตะตา แต่พอเลี้ยงไปๆ สีมันเริ่มเปลี่ยน ซึ่งในวงการปลาหมอสีอาจบอกว่า "ปลาลอก" หมายถึงสีลอก แต่ผมก็จำเป็นต้องตัดสินใจเลี้ยงมันต่อไป เพราะกว่าจะเลี้ยงตั้งแต่ตัวเล็กจนโตผมต้องใช้เวลาค่อนปี คงจะปล่อยมันทิ้งไปไม่ได้ ผมชอบเฝ้ามองมันเอาปากคาบก้อนหินแล้วไปกองเป็นภูเขาในตู้ปลาของมัน บางทีมันหิวมันจะคาบก้อนหินก้อนใหญ่แล้วว่ายน้ำขึ้นไปบนขอบตู้กระจก และเอาก้อนหินเคาะที่ตู้กระจก เหมือนจะบอกให้ผมรู้ว่ามันหิวแล้ว ผมทึ่งในความฉลาดของมันอย่างมาก





เต่าญี่ปุ่นที่น่ารักของผมตัวนี้ ผมซื้อมันที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ตัวมันเท่ากับเหรียญ 10 บาทเท่านั้นเอง ตอนนั้นเขาขายผมตัวละ 100 บาท ถือว่าแพงทีเดียวเพราะหากซื้อที่สวนจตุจักรก็คงไม่เกิน 50 บาทเท่านั้น ผมเลือกจะซื้องเต่าญี่ปุ่นตัวผู้เพียงตัวเดียวมาเลี้ยง เพราะคิดว่าการเลี้ยงตัวเดียวทำให้มันสามารถเชื่องได้ดีกว่าการเลี้ยงรวมๆ กันหลายตัว ในวันแรกผมเรียกเต่าตัวนี้กว่า "เต่าน้อย" เพราะมันตัวเล็กๆ น่ารักๆ ผมชอบจับมันมาเล่นตอนนั่งดูทีวีทำให้มันคุ้นเคยกับผมไม่น้อยทีเดียว

หลังจากที่ผมต้องเดินทางบ่อยๆ ผมก็ต้องเอาเต่าน้อยของผมให้น้องชายเลี้ยงต่อจากผมเป็นปีเลย และน้องชายก็ตั้งชื่อมันใหม่ว่า "บีมบี้ม" ซึ่งมันก็ฟังดูน่ารักดีผมจึงพลอยเรียกชื่อใหม่ของมันจนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้เจ้าเต่าน้อยของผม มันตัวโตขึ้นเกือบจะเท่าฝ่ามือผมเสียแล้วซิ ทุกวันที่ผมจับมันทำความสะอาด ผมจะใช้ฟองน้ำนุ่มๆ เช็ดไปตามกระดองของมัน ทั้งด้านบนและด้านล่าง ผมรู้สึกว่ามันคงชอบทีเดียว เห็นนอนนิ่งให้เช็ดได้อย่างสบายอารมณ์ ตอนนี้เวลาผ่านมาราว 2 ปีแล้ว ผมเริ่มสังเกตุเห็นเล็บของเต่าน้อยผมยาวออกมาเกินกว่า 1 เซนติเมตรอีกแน่ะ คิดอยากจะเอากรรไกรตัดเล็บไปตัดใหมันอยู่หลายครั้ง แต่เกรงว่าเลือดมันจะไหลจึงปล่อยไว้ยังงั้นต่อไปจนถึงทุกวันนี้

ผมเพิ่งได้ยินเสียงบ่นจากน้องชายผมเองว่า เดี๋ยวนี้เจ้าปลาหมอสีและเจ้าเต่าญี่ปุ่นของผม กำลังจะกลายเป็น หมาหัวเน่า ไปเสียแล้ว เพราะผมเอาเวลาส่วนใหญ่ไปเล่นกับเจ้างูบอล ไพธอน เสียเกือบตลอดทั้งวัน ฟังๆ ดูแล้วผมก็ต้องจัดสรรเวลาตัวเองบ้างเหมือนกัน ที่จะต้องให้เวลากับปลาและเต่าบ้าง และผมก็เริ่มสังเกตุเห็นเจ้าปลาแสนรู้ของผม มันชอบกระโดดตีน้ำตอนผมเดินผ่านมันอยู่บ่อยๆ ส่วนเจ้าเต่าวิเศษ ม้นก็ค่อยเอาขาตีน้ำเรียกร้องความสนใจอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน "แปลกดีไหมครับ" กับนิสัยของสหายรักแต่ละตัวของผม

Create Date : 05 ธันวาคม 2552
Last Update : 5 ธันวาคม 2552 2:21:29 น.




Create Date : 04 ตุลาคม 2556
Last Update : 6 ตุลาคม 2556 18:46:10 น.
Counter : 1634 Pageviews.

3 comments
  
เต่าสวยมากครับ เลี้ยงยากไหมเนี่ย

โดย: IceHawk IP: 58.9.61.26 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:10:42:21 น.
โดย: SEABALL วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:18:47:03 น.
  
อ่านแล้วรู้สึกรักงูตามพี่อีกคนเลยครับ

โดย: บิ๊กครับ IP: 124.120.152.19 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:12:08:12 น.
โดย: SEABALL วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:18:48:04 น.
  
ปลาหมอสีของพี่ ยังกะปลาทับทิมแน่ะ
ผมว่ามันน่าจะชื่อ "ทับทิม" มากกว่านะครับ

โดย: Love Island วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:12:34:52 น.
โดย: SEABALL วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:18:48:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SEABALL
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



Group Blog
ตุลาคม 2556

 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31