Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
เรื่องเล่า Exclusive trip in Singapore with Joy AF8 Part 3

เรื่องเล่า Exclusive trip in Singapore with Joy AF8 Part 3


       สวัสดีทุกๆท่านอีกครั้ง  ในที่สุดวันสุดท้ายก็มาถึงแล้วสินะ  ขอโทษที่ครั้งนี้ต้องให้รอนาน..ฮ่า  อันที่จริงผู้เขียนยังไม่อยากเขียนของวันสุดท้ายเท่าไหร่นัก  เพราะความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับว่าหากผู้เขียนเขียนเรื่องราวของวันที่ 3 จบเมื่อไหร่  ผู้เขียนก้คงจะไม่ได้มานั่งทบทวนหรือคิดถึงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับน้องจอยในทริปสิงคโปร์อย่างนี้อีกแล้ว  แม้ความสุขความทรงจำจะยังคงอยู่แต่ก็อดใจหายไม่ได้Smiley


       เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มต้นกันที่อาหารเช้าของโรงแรมกันเลยดีกว่า  โดยวันนี้ผู้เขียนเก็บสัมภาระและลงมาเช็คเอ้าท์แต่เช้าเพื่อที่จะรอน้องอยากไม่พะวักพะวง  วันนี้น้องจอยลงมาในชุดง่ายๆสบายๆเหมือนเดิม  เป็นกางเกงขาสั้นเสื้อตัวในสีดำคลุมด้วยเสื้อคลุมกึ่งๆสูทสีน้ำตาลอ่อนๆดูจะเป็นทางการกว่าทุกวัน  แอบสังเกตุว่าเส้นผมของน้องจอยยังมีความชื้นเหมือนเพิ่งผ่านการสระผมมา  จะบรรยายละเอียดไปมั๊ย..ฮ่า  ก็เพราะน้องมักจะลงมารับประทานอาหารเช้าช้ากว่าผู้เขียนเสมอ  แต่อย่างที่รู้ๆกันว่าอันที่จริงเป็นเพราะผู้เขียนตั้งใจจะลงมาก่อนน้องเอง  ดังนั้นเวลาน้องนั่งรับประทานอาหารเราจึงมีเวลาพินิจพิจารณาน้องได้อย่างละเอียด  ฮ่า  แต่แม้จะมีสายตาหลายคู่จ้องมองอยู่น้องจอยก็ยังนั่งรับประทานอาหารได้ตามปกติ  ผู้เขียนก็ไม่ได้ถามน้องจอยเหมือนกันว่าน้องรู้สึกอย่างไร แต่ถ้าเป็นผู้เขียนหากมีคนมาคอยจ้องมองเวลารับประทานอาหารผู้เขียนคงเขินจนไม่เป็นอันรับประทานเป็นแน่  ฮา


       เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกเดินทางโดยทางคณะทัวร์ได้พาไปซื้อของที่ร้านดิวตี้ฟรี  มาถึงตอนนี้ปรากฎว่าน้องจอยหากระเป๋าสตางค์ไม่เจอ  ทำให้ไม่เป้นอันเลือกซื้อของกันเลยทีเดียว  ความรู้สึกอยากจะเก็บภาพน้องหายไปในทันทีที่เห็นสีหน้าของน้อง  น้องคงมีความว้าวุ่นใจสังเกตุได้จากสีหน้าของน้องมีความวิตกกังวลอยู่ไม่น้อย  แต่น้องก็เก็บความรู้สึกและควบคุมสติได้ดีทีเดียว  ด้วยวัยเพียง 19 ปีออกมาต่างบ้านต่างเมืองและไม่มีผู้ปกครองมาด้วย  หากเป็นผู้เขียนคงจะร้องไห้ไปแล้วSmiley  เมื่อน้องทบทวนสักพักก็บอกว่าน่าจะลืมไว้ที่ห้องของน้องแพรวาและน้องแอ้นเพราะเมื่อคืนน้องไปที่ห้องนั้น  จึงได้มีการประสานไปทางโรงแรมซึ่งปรากฎว่าน้องได้ลืมไว้จริงๆ  ซึ่งทางโรงแรมบอกว่าเจ้าตัวต้องไปรับเองพี่ๆจึงพาน้องนั่งแท็กซี่ย้อนกลับไปเอา  ในตอนนี้ผู้เขียนไม่ได้ติดตามน้องไปด้วยแต่ไปรอน้องที่จุดนัดหมายถัดไปอันได้แก่ย่านไชน่าทาวน์  บริเวณนี้จะมีวัดและพิพิธภัณฑ์พระเขี้ยวแก้ว  ผู้เขียนจึงเดินสำรวจและบันทึกภาพมาไว้เผื่อให้น้องได้ดูเล่น  และได้มีโอกาสได้ไหว้พระขอพร  โดยผู้เขียนขอให้น้องจอยได้ของและกลับมาให้ทันที่นี่..ฮ่า  ซึ่งหลังจากไหว้พระเสร็จผู้เขียนก็มารอน้องบริเวณจุดนัดพบ  ระหว่างที่รอน้องจอยก็ถ่ายรูปน้องแพรวาเล่นคร่าเวลาเนื่องจากน้องแพรวาโพสท่าสวยๆประหนึ่งนางแบบมืออาชีพ  ผู้เขียนจึงอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพมาด้วย   อิอิ  หลังจากรออยู่ไม่นานน้องจอยก็กลับมา  ตอนนั้นใกล้เวลานัดหมายแล้วแต่เป็นโชคดีที่ผู้เขียนไปเดินสำรวจมาก่อนจึงรีบพาน้องจอยไปไหว้พระขอพรสักเล็กน้อยหลังจากผ่านเรื่องกระเป๋าสตางค์หายเพื่อต่อไปน้องจะได้เจอแต่สิ่งดีๆSmiley


       หลังจากออกจากวัดเราก้ไปรับประทานอาหารที่ Happy Joy Restaurant ดูเหมือนมาทริปนี้อะไรๆก้จอยไปหมด..ฮ่า  ซึ่งผู้เขียนก็นั่งประจำที่คือนั่งตรงข้ามน้องจอยเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา  ในช่วงเวลารับประทานอาหารเป็นช่วงเวลาที่จะได้นั่งมองน้องจอยคุยเรื่องต่างๆได้อย่างชัดเจน  ก็มีอัดคลิปบ้างแต่เผื่อความเป็นส่วนตัวจึงอัดมาเพียงเล็กน้อยเพราะถ้าขืนอัดคลิปตลอดเวลาน้องอาจจะเข้าใจว่าผู้เขียนเป็นพวกโรคจิตเป็นแน่  หรือแอบคิดไปแล้วก็ไม่รู้..ฮ่า  อาหารแต่ละมื้อในสองวันที่ผ่านมาอยากจะบอกว่าไม่แตกต่างกันเลย  แอบสงสารนักกินตัวยง  คริคริ  ดังนั้นเราจึงรับประทานกันรวดเร็วมากและมีเวลาไปเดินเล่นระหว่างรอคนอื่นๆ  และได้ถือโอกาสถ่ายรูปน้องเล่นระหว่างรอ  โดยน้องบอกว่าถ่ายแต่รูปยิ้มจนเมื่อยแล้ว  ผู้เขียนก็ดีใจว่าน้องคงจะเปลี่ยนเป็นโพสสวยๆหรือเซ็กซี่ให้ผู้เขียนได้ถ่ายบ้าง  ที่ไหนได้น้องกลับโพสท่าตลกๆให้ถ่ายซะงั้นSmiley  แล้วน้องก็ไปหยอดตู้ของเล่นได้อักกี้เบิร์ดมาสองตัว  น้องหยิบขึ้นมาให้ดูพร้อมทำหน้าล้อเลียน  เรียกว่าอยู่กับน้องจอยมีเรื่องให้ฮาตลอดSmiley 


       สถานที่ถัดไปได้แก่ Orchard Road ซึ่งเป็นถนนที่ทุกคนที่มาสิงคโปร์ไม่ลืมที่จะแวะเลือกซื้อสินค้าเบรนด์แนมยี่ห้อต่างๆ  แต่คงไม่ใช่น้องจอย  ฮา  ทั้งสองฝั่งถนนจะเป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งและวงการบันเทิง  ซึ่งที่นี่ได้เปิดโอกาสให้น้องในการเลือกเดินช้อปปิ้งเองหลังจากกักตัวน้องให้อยู่กับเรามาทุกวันแล้ว  อิอิ    และเราก็รู้ดีว่าน้องคงไม่ให้เลือกซื้ออะไรให้น้องเป็นแน่ดูจากวันแรกที่มาและคาดว่าน้องคงไม่ซื้ออะไรมากมายจึงต่างคนต่างแยกย้ายกันไปโดยน้องไปเดินเล่นกับน้องหลิน  ที่นี่ร้านค้ามากมายและคนก็พลุกผล่านมาก  หลังจากผู้เขียนแยกจากน้องไปเลือกซื้อสินค้าของตนเองเสร็จก็เริ่มนึกถึงน้องขึ้นมาว่าอยากจะเจอน้องจอยเวลาเดินช้อปบ้างเผื่อจะเก็บภาพมาเล็กๆน้อยๆ  แล้วก็เหมือนฟ้าเป็นใจให้ได้เดินมาจ๊ะเอ๋กับน้องพอดี  น้องก็หันมาให้แชะภาพมาหนึ่งภาพ  แต่เหมือนโดนมนต์สะกดทำให้ผู้เขียนเผลอเดินตามน้องไปและแอบถ่ายภาพระยะไกลมาฝากทุกคนอีกเล็กน้อย..ฮ่า  การเดินเที่ยวครั้งนี้ผู้เขียนเปรียบเสมือนปาปารัชซี่ตามถ่ายซุปตาร์เลยทีเดียว  หลังจากได้ภาพมาผู้เขียนจึงเลิกสะกดรอยตามเนื่องจากเกรงว่าจะทำลายความเป็นส่วนตัวของน้องเกินไป  ในตอนนั้นน้องจอยคงไม่รู้ตัวว่ามีคนแอบตาม  แต่เมื่อน้องได้เห็นรูปภาพและได้อ่านเรื่องเล่านี้  ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเจอกับน้องจอยคราวหน้าผู้เขียนต้องใส่หมวกกันน็อคไปด้วยหรือป่าว  ต้องขอโทษน้องจอยมา ณ โอกาสนี้ด้วย  ผู้เขียนหวังว่าน้องจอยผู้น่ารักที่ทั้งสวยทั้งใจดีคงจะอภัยให้ผู้เขียนแน่นอน..ฮ่า  แล้วในที่สุดก็มาเจอน้องอีกทีบริเวณที่นัดหมาย  แล้วก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ว่าน้องคงไม่ซื้ออะไรมากมาย  สิ่งที่น้องได้จากการช้อปครั้งนี้มีเพียงช็อคโกเลตเพียงเล็กน้อยเท่านั้นโดยน้องบอกว่าซื้อไปฝากที่บ้านเพราะคนที่บ้านชอบกิน  อันนี้ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อยังไงไม่เกี่ยวกับผู้เขียนนะ  ผู้เขียนเพียงแต่เขียนตามคำบอกของน้องเท่านั้น  น้องบอกว่าได้ซื้อของเท่านี้น้องก็มีความสุขแล้ว  และก็ได้เวลากลับขึ้นรถเพื่อไปรับประทานอาหารเย็น  ช่วงเวลาที่เดินไปขึ้นรถจากที่น้องเคยเดินไปเรื่อยๆเหมือนไม่ได้สนใจว่าผู้เขียนจะถ่ายคลิปถ่ายรูปอะไร  คราวนี้น้องกลับหันมาคอยดูคอยเรียกเป็นระยะแม้จะต้องคุยกับผู้เขียนผ่านกล้อง  ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจว่าที่น้องคอยหันมามองเพราะอะไรเนื่องจากปกติแล้วน้องไม่ค่อยหันมาพูดกับกล้องสักเท่าไหร่ในขณะเดิน  แอบคิดว่าน้องอาจจะเป็นห่วงผู้เขียนก็เป็นได้เพราะผู้เขียนมัวแต่ถ่ายน้องอย่างไม่ลดละ  ฮา  แล้วก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนอื่นๆไปไหนกันหมด  หลังๆนี้รู้สึกเริ่มจะทิ้งน้องกันบ้างแล้วนะ..ฮา  แล้วน้องก็พาเดินไปตรงที่จอดรถซึ่งบริเวณนั้นจะมีทางม้าลายเล็กๆอยู่ที่นึง  น้องพาเดินเลยไปแล้วคงจำได้ว่าตั้งแต่วันแรกไกด์ได้บอกว่าที่สิงคโปร์นี้ถ้าไม่ข้ามทางม้าลายจะเสียค่าปรับแต่ราคาเท่าไหร่ผู้เขียนไม่แน่ใจแต่ก็ไม่ใช่ราคาน้อยๆแน่  น้องจึงพาย้อนกลับไปข้ามทางม้าลาย  แต่อยากจะบอกว่าทางไปขึ้นรถกับทางม้าลายห่างกันเพียงสองสามก้าวและบริเวณนั้นก็เป็นที่จอดรถแต่น้องก็ยังพาผู้เขียนย้อนกลับไปข้ามทางม้าลายจนได้


       แล้วอาหารมื้อสุดท้ายก็มาถึง  ในช่วงเวลานี้เหมือนภาระกิจของผู้เขียนใกล้จะเสร็จสิ้น  ผู้เขียนจึงมีเวลาพูดคุยเล่นกับน้องจอยบ้างหลังจากมองน้องผ่านเลนต์มาตลอดสามวัน  อาหารเย็นมื้อนั้นเรียกเสียงกรี๊ดจากคณะทัวร์ได้ทั้งคณะเนื่องจากอาหารแตกต่างจากอาหารที่เคยรับประทานมาทั้งสองวัน  ฮา  ตอนนี้ผู้เขียนเริ่มนึกอยากจะแกล้งน้องขึ้นมาบ้างหลังจากที่เงียบมาสองวันโดยบอกขอโทษน้องที่ถ่ายแต่คลิปตอนรับประทานอาหารเพราะรู้ว่าน้องเกรงใจแฟนคลับเรื่องนี้  ฮา  ซึ้งอันที่จริงผู้เขียนถ่ายน้องตลอดไม่แต่เฉพาะช่วงทานอาหารแต่พูดเพื่อแกล้งน้องไปอย่างนั้นเอง  และก็บอกน้องว่ารูปถ่ายน้องมีแต่น่าเกลียดๆ  ในตอนนี้น้องแพรวาก็น่ารักช่วยแก้ต่างให้พี่จอยว่าพี่จอยสวยมาเยอะแล้วให้เห็นพี่จอยสวยน้อยๆลงบ้าง  ฮา  อาหารมื้อนี้ดูจะเป็นมื้อที่ผู้เขียนคุยกับน้องมากที่สุดตลอดการเดินทางก็ว่าได้  ระหว่างนั่งคุยกันผู้เขียนยังได้บอกกับน้องว่าไม่ต้องเสียใจที่ไม่ได้ซื้อของไว้เราไปเดินจตุจักรกันดีกว่า น้องรีบเห็นด้วยป็นอย่างยิ่ง..ฮ่า แล้วก็ได้เวลาเดินทางสู่สนามบินชางยี  โดยหลังจากผ่านด่านผู้โดยสารขาออกพี่ๆก็พาน้องไปช้อปเป็นการส่งท้าย  ซึ่งในตอนนี้ผู้เขียนได้แยกไปซื้อของฝากของตนเองก่อนกลับมาเจอน้องอีกที  เห็นน้องซื้อของด้วยก็แปลกใจสอบถามได้ความว่าพี่คนนึงเกิดวันนี้พอดีจึงใช้เป็นข้ออ้างให้น้องเลือกของที่อยากได้เพื่อเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆในวันเกิดของเค้าที่ได้ซื่อของให้น้อง  น้องจึงยอมเลือกซื้อของโดยได้แว่นตากับน้ำหอมติดไม้ติดมือกลับมาเมืองไทยด้วย  หลังจากนั้นก็เดินเล่นดูสินค้ากันอีกเล็กน้อยก่อนจะเดินไปขึ้นเครื่องบิน  ระหว่างเดินเราก็ทำหน้าที่อย่างไม่ลดละ  โดยรักษาระยะห่างจากน้องเพื่อถ่ายคลิป  น้องจอยบอกว่าอันที่จริงมาเดินด้วยกันก็ได้นะ  อยากจะบอกน้องว่าถ้าเป็นไปได้ผู้เขียนก็  อยากจะเดินข้างๆน้องไปตลอดทริปด้วยซ้ำแต่ถ้าทำเช่นนั้นคงได้แต่คลิปสถานที่ต่างๆ  คนรักจอยที่ไม่ได้มาคงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องจอย  แล้วเมื่อกลับมาเมืองไทยอาจจะไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยให้ผู้เขียน  ฮ่า


       ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็มาเจอกับน้องหลินที่เอาเงินคืนภาษีจากการซื้อสินค้ามาคืนน้องโดยน้องได้คืนมาสองเรียน  น้องบอกว่าถ้าจะน้อยขนาดนี้  น้องหลินจึงบอกว่าอย่าบ่นเพราะน้องหลินไปทำเรื่องคืนอยู่นานกว่าจะได้มาคืนให้น้องจอยสองเหรียญ  ผู้เขียนจึงถามน้องจอยว่าแล้วจะเอามั๊ย  น้องบอกว่าเอาสิตั้งห้าสิบบาท  ฮ่า  เมื่อขึ้นนั่งประจำที่ก็เป็นโชคดีอีกแล้วที่ผู้เขียนได้นั่งอยู่ด้านหน้าน้องจอยเลยได้เก็บภาพบนเครื่องบินมาฝากกันด้วย  โดยน้องนั่งข้างน้องต้นเห็นเม้าท์กันอยู่พักนึงแล้วน้องก็นั่งเงียบมาตลอดทาง  เมื่อมาถึงสนามบินสุวรรรภูมิน้องอยากเข้าห้องน้ำมากแต่เราต้องต่อรถอีกต่อนึงจำได้ว่าน้องรีบเรียกให้ผู้เขียนขึ้นรถ  ไม่รู้ว่าเป็นห่วงหรือว่ากลัวช้ากันแน่เพราะเมื่อตัวรถถึงอาคารสนามบินน้องจอยก็วิ่งตื๋อไปเข้าห้องน้ำไม่รักษาภาพพจน์ศิลปินกันเลยทีเดียว  หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นกันต่ออีกนิดหน่อยดูจะไม่รีบกันเลยเนอะ  โดยน้องจอยอยู่กับพวกเราตลอด  เอ๊ะหรือว่าเราตามน้องจอยตลอดอันนี้ก็ชักไม่แน่ใจ  อิอิ  เมื่อเอากระเป๋าเสร็จเราก็เดินออกมากับน้องจำได้ว่าน้องบ่นว่าง่วงมาตลอดทาง  แต่พอออกมาเจอกับบรรดาแฟนคลับที่มารอ  น้องกลับเป็นคนละคน  สีหน้าดูสดชื่นแจ่มใสและคุยเล่นกับทุกคน  จากนั้นก็แจกของฝากจากสิงค์โปร์ให้แฟนคลับที่มารอรับ  แม้จะเหนื่อยสักเพียงไหนน้องก็ยังคุยกับแฟนคลับอยู่พักใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนSmiley


       มีอีกเรื่องนึงที่ผู้เขียนไม่ได้เล่าไว้แต่แรกแต่อดที่จะเขียนถึงไม่ได้คือตลอดระยะเวลาสามวันที่อยู่บนรถบัส  น้องจะคอยคุยเล่นกับพวกเราเสมอ  มีอยู่ครั้งนึงน้องจอยพยายามจะช่วยพี่แฟนคลับบ้านอื่นเก็บกระเป๋าขึ้นตรงที่เก็บของเหนือศีรษะแต่พี่เค้าเก็บเกือบเสร็จแล้วน้องจึงทำเป็นเนียนเล่นมุกตลกให้เราได้ขำกัน  นอกจากนั้นก็มีการร้องเพลงและพูดคุย  รวมถึงกล่าวขอบคุณเมื่อได้เวลาต้องจากกัน  สร้างความประทับใจให้กับทุกๆคน  จะว่าไปแล้วการไปเที่ยวครั้งนี้เหมือนน้องไปเพื่อมอบความสุขให้เราจริงๆ  ดูเหมือนน้องจะไม่ค่อยตื่นเต้นกับการเที่ยวครั้งนี้เท่าไหร่นักเพราะดูน้องจะไม่ค่อยใส่ใจกับวิวทิวทัศน์รอบๆตัวสักเท่าไหร่  เดินไปทางไหนก็เดินๆไปอย่างนั้นเอง  ไม่มีอยากจะถ่ายรูปกับมุมนั้นมุมนี้  ไม่มีรีบที่จะเดินดูให้ทั่วๆ เพื่อไปชมหลายๆที่  เหมือนน้องตั้งใจมาเดินเล่นกับพี่ๆซะมากกว่า  พี่ๆพาเดินไปทางไหนก็ไป  ถ่ายรูปก็เพียงเล็กๆน้อยๆ  จะว่าไปที่จริงไม่ต้องไปถึงสิงคโปร์ก็ได้เพราะผู้เขียนเองก็ไม่ได้อยากไปเที่ยวสิงคโปร์แต่ไปเพราะไปกับน้องจอย  ฮา  หรือเป็นเพราะว่าน้องจอยเก็บความรู้สึกเก่งก็ไม่รู้จึงไม่แสดงออกให้เห็นว่าที่จริงแล้วน้องตื่นเต้นกับการท่องเที่ยวครั้งนี้มากสักเพียงใด 


       แม้การเดินทางในครั้งนี้ของผู้เขียนจะเริ่มต้นไม่สวยงามนัก  เนื่องจากถูกขอร้องแกมบังคับไป  ฮา  แต่จากการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับน้องจอยตลอดระยะเวลาสามวันกลับทำให้ผู้เขียนได้พบเห็นแง่มุมของชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเติบโตขึ้นมาจากความรักของผู้คนรอบข้าง  ในความเห็นของผู้เขียน  น้องจอยดูจะเป็นคนที่มาจากพื้นฐานครอบครัวที่อบอุ่นและให้อิสระในการดำเนินชีวิต  น้องจึงเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบสบายๆ  อาจเพราะได้รับความรักมาจากครอบครัวอย่างเปี่ยมล้นอยู่แล้ว  น้องจึงไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความรักจากใคร  ดูเป็นตัวของตัวเอง  ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อเอาใจใคร  ดังนั้นใครจะชอบหรือไม่ชอบน้องก็คงไม่มีผลกับน้องสักเท่าไหร่  โลกของน้องจอยเหมือนมีแต่สิ่งสวยงาม  น้องเลือกที่จะมองผ่านสิ่งที่ไม่ดีและเก็บเกี่ยวเอาแต่สิ่งที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข  ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงและแบ่งปันความรักออกมาให้ผู้คนรอบข้างอย่างจริงใจ  ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาเพียงสั้นๆที่ผู้เขียนได้รู้จักน้องจอย  จะทำให้ผู้เขียนรู้สึกกับน้องจอยได้มากขนาดนี้  ขอบคุณน้องๆทุกคนที่ผลักดันให้ผู้เขียนได้มาเที่ยวในทริปนี้  ขอบคุณน้องจอยที่ทำให้ทริปท่องเที่ยวที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร  กลายเป็นทริปที่สร้างความสุข  ความสนุกสนานให้ผู้เขียนขึ้นมาได้  เมื่อรู้อย่างนี้แล้วคนที่ได้รู้จัก  มีหรือที่จะไม่รักเด็กคนนี้Smiley


       ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขียนมาเป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น  โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน...Smiley


       ปล.น้องจอยไม่ดราม่าผู้เขียนจึงไม่กล้าดราม่า...555      


       ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องเล่าในครั้งนี้  Smiley






Free TextEditor


Create Date : 17 ธันวาคม 2554
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 21:46:49 น. 5 comments
Counter : 2571 Pageviews.

 


โดย: winza1 วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:19:25:50 น.  

 
ขอบคุณมากๆนะคะพี่เอ๋
อ่านจบแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ
รู้สึกว่ารักคนไม่ผิดจริงๆค่ะ
พี่เอ๋เล่าเรื่องสนุกมากๆเลยค่ะประทับใจจังเลย
ขอบคุณทั้งรูปและคลิปและเรื่องเล่าทั้งหมดนะคะ
มีความหมายกับคนรักน้องจอยจริงๆค่ะ


โดย: nengie IP: 110.49.224.212 วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:22:00:44 น.  

 
ขอบคุณมากๆๆค่ะสำหรับเรื่องเล่า รูป คลิป
อ่านตอนสุดท้ายแอบนำ้ตาซึมเบาๆๆ


โดย: sine_thaniya IP: 180.214.208.179 วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:11:03:12 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรื่องเล่าที่ตรงไปตรงมาไม่ดราม่า อิ อิ รูปภาพน้อง รูปวิว และ คลิปด่างๆ ทำให้เหมือนกับได้ไปเที่ยวด้วยกัน และย้ำกับพวกเราว่าจอยเป็นจอยในแบบที่เราเห็นและเรารัก ขอบคุณมากๆทั้งคุณเอ๋และน้องจอยค่ะ


โดย: Aom IP: 98.198.4.135 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:3:56:36 น.  

 
รักจอยมากที่สุดในโลก รักจอยจริงๆนะ


โดย: เกด IP: 118.175.199.131 วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:20:16:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p'ae-sutha
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add p'ae-sutha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.