เรื่องเล่า Exclusive trip in Singapore with Joy AF8 Part 1
สวัสดีทุกๆคนและสวัสดีเพื่อนใหม่ที่เพิ่งแวะเข้ามาอ่านเรื่องเล่าในครั้งนี้

       จริงๆแล้วไม่คิดว่าจะต้องมาเขียนเรื่องเล่าอะไรแบบนี้อีก..แต่ในที่สุดก็กลับมาอีกครั้ง  ตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่น 8 ก็ไม่ได้คิดจะติดตามแม้จะได้ข่าวมาว่า AF8 ร้ายกาจ...ฮ่า  แต่ด้วยน้องๆแฟนคลับอันเป็นที่รักต่างพากันมาโปรโมทน้องที่ตัวเองชื่นชอบหวังจะให้เราสนใจก็เลยพอจะรู้จักๆบ้าง..และก็แอบชอบเสียงของน้องจอยมากเป็นพิเศษ..อิอิ  ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่องทางให้น้องๆที่ชอบน้องจอยคอยนำเรื่องน้องจอยมาเล่าให้ฟังตลอดทั้งเรื่องน่ารักและเรื่องน่าบ่น...ฮ่า  ประกอบกับกระแสเรื่องความเกรียนของน้องจอยมาแรงมาก  ผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายสักเท่าไหร่เลยต้องกลับมานั่งดูคลิปต่างๆที่เป็นประเด็น  ว่าภายใต้ใบหน้าที่เรียบร้อยน่ารักนี้มีอะไรแอบแฝงอยู่...ฮ่า  ซึ่งในความรู้สึกของผู้เขียนน้องก็เป็นเพียงเด็ก 19 ธรรมดาคนหนึ่ง การแสดงออกต่างๆโดยเฉพาะในเวลาที่อยู่กับกลุ่มเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ  การพูดเล่น แซว จิกกัดถือเป็นเรื่องปกติ  ใช่ว่าผู้เขียนจะสนับสนุนให้เด็กรุ่นใหม่เป็นแบบนี้นะ  แต่หากรู้ว่าจะพูดกับใคร ที่ไหน ในสถานการณ์อย่างไร  และเลือกใช่อย่างเหมาะสมก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร  ซึ่งหลังน้องออกจากบ้านก็มีโอกาสได้ไปแอบส่องน้องอยู่บ่อยๆ เห็นการวางตัวและการดูแลแฟนคลับของน้องจอยก็คิดว่าน้องดูแลตัวเองได้ดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลย  อีกทั้งยังมีแฟนคลับที่น่ารักคอยส่งข่าวและอัพเดตรูปให้ดูอย่างสม่ำเสมอเลยคิดว่ารู้จักน้องแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

       เล่ามาซะยืดยาวเกี่ยวกับการไปเที่ยวสิงคโปร์ตรงไหน...ฮ่า  ที่เล่าเพราะผู้เขียนเพียงแต่อยากให้ผู้อ่านทราบว่าก่อนที่จะมาร่วมทริปนี้ผู้เขียนรู้สึกอย่างไรและรู้จักน้องจอยในระดับไหน  ประเด็นในการมาเที่ยวครั้งนี้มีอยู่ว่าน้องๆที่รักน้องจอยมากๆ  ขอร้องให้ไปเที่ยวกับน้องจอยโดยอ้างว่าพี่จะได้มีความสุขถ้าได้รู้จักน้องจอยมากขึ้น  อันที่จริงผู้เขียนก็ทราบว่าคงโดนน้องๆหลอกใช้ให้ไปถ่ายรูปและคลิปแน่นอน...ฮ่า   รู้เค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก  แต่ก็มีเล่นตัวนิดหน่อยโดยออกปากไปว่าถ้าไม่ใช่เกาหลีพี่จะไปเนื่องจากไปเกาหลีบ่อยแล้ว ตอนนั้นก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าอย่าเป็นเกาหลีนะ..ฮ่า  เป็นเหตุให้ต้องแพคกระเป๋าเหิรฟ้าสู่ประเทศสิงคโปร์กับน้องจอยเอเอฟ8ในครั้งนี้

       จำได้ว่าเมื่อไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิน้องจอยได้มาถึงสนามบินก่อนแล้ว  ได้มีการแนะนำตัวทำความรู้จักกันเพียงเล็กน้อยหลังจากนั้นก็ต่างคนต่างไป..มารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงสนามบินชางยีประเทศสิงคโปร์  ซึ่งจะมีเวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง  และสิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติหลังลงจากเครื่องบินคือเตรียมกล้องให้พร้อมและก็เดินตามน้องไปห่างๆ..ฮ่า  ในตอนนี้ยังไม่รู้จักคุ้นเคยกับน้องสักเท่าไหร่ถ่ายรูปไปเกรงใจไป  ในตอนนั้นน้องเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไร  เห็นถ่ายรูปก็ยิ้มให้  แต่ขนาดเกรงใจผู้เขียนเองก็ถ่ายรูปตลอดแถมยังแอบถ่ายคลิปมาด้วยเพราะรู้ว่าหลายๆคนตั้งตารอดูอยู่ที่ประเทศไทย..อิอิ แต่ด้วยความพะวักพะวงเป็นเหตุให้ต้องเกรงใจหนักเข้าไปอีกเพราะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นคนสุดท้าย  ทิ้งให้ศิลปินและแฟนคลับต้องยืนรอ..บอกให้เดินไปก่อนก็ไม่ยอมไป..เพราะตอนนั้นผู้ร่วมเดินคงยังไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาผู้เขียนจะเดินทันศิลปินเสมอเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคอยมองตลอดทริปนี้..แม้บางครั้งเราจะทำเหมือนไม่สนใจศิลปิน...ฮ่า  น้องจอยเองก็ดูจะเป็นคนเก็บอารมณ์และความรู้สึกพอสมควรทำให้เดาได้ยากว่าน้องรู้สึกอย่างไร  เหมือนจะเป็นคนที่ไม่ปิดตัวเองกับทุกคน  ง่ายๆสบายๆ  แต่ก็ไม่เปิดตัวซะทีเดียว  วันแรกเลยเหมือนหยั่งๆเชิงกันอยู่ระหว่างน้องจอยและผู้เขียน  อันนี้ผู้เขียนคิดเองนะแต่น้องรู้สึกอย่างไรไม่รู้..ฮ่า  แต่ดูเหมือนจะเป็นผู้เขียนคนเดียวเพราะคนอื่นๆเป็นคนสนุกสนานเฮฮาทำให้น้องจอยและคนอื่นๆคุ้นเคยกันได้อย่างรวดเร็ว

       ในการเที่ยวครั้งนี้น้องจอยจะอยู่กับเราตลอดเวลา  ทานข้าวด้วยกัน  เดินเล่นด้วยกัน  จะแยกกันก็แค่ตอนนอนแค่นั้นเอง  รู้อย่างนี้หลายคนคงเริ่มอิจฉาขึ้นมาแล้วสิท่า..อิอิ  ในรถบัสของเรามีไกด์เป็นชาวสิงคโปร์ชื่อจีนี่  ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคนที่สีหน้าไม่ค่อยรับแขกและโหดมากแต่เมื่อได้รู้จักคุ้นเคยจะรู้ว่าจีนี่เป็นไกด์ที่รอบรู้และน่ารักมากทีเดียว  อาหารมื้อแรกที่เราไปรับประทานได้แก่ข้าวมันไก่ชื่อดัง บุญทงกี่  ซึ่งมีไก่ตัวใหญ่เนื้อนุ่มดูจะเป็นที่โปรดปรานของน้องจอยมาก  หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็เดินทางสู่ มารีน่า เบย์ แซนด์ส เพื่อเที่ยวชม ที่นี่จะมีแอ่งกลมๆขนาดใหญ่และมีรูตรงกลางสำหรับให้โยนเหรียญลงไปหากโยนลงคำอธิษฐานจะเป็นจริง  น้องจอยดูจะมีความพยายามมากที่จะโยนเหร๊ยญให้ได้ทำเอาเหรียญบาทหมดกระเป๋าเลยทีเดียว  จนน้องจอยต้องจำใจควักเหรียญห้าโยนลงไป  ได้ยินเหมือนน้องจอยพูดว่าพอใช้เหรียญใหญ่ลงเลยนะ  แต่ไม่รู้ว่าไม่แน่ใจว่าลงจริงหรืออยากอธิษฐานเพิ่มน้องเปลี่ยนไปโยนอีกด้านนึงด้วย..สุดท้ายน้องบอกว่าเราลงไปเก็บเหร๊ยญข้างล่างกันดีกว่าจอยว่ามันต้องมีเยอะแน่ๆ...ฮา  หลังจากนั้นจึงไปเดินชมวิวและถ่ายรูป  แต่ก้อยู่ถ่ายรูปได้ไม่นานเพราะน้องกลัวแดดเลยเปลี่ยนไปช้อปด้านในแทน

       ในตอนนั้นพี่ๆพยายามจะให้น้องเลือกรองเท้าใหม่สัก 1 คู่  เพราะเห็นว่าคู่ที่ใส่อยู่ดูไม่ค่อยสบายเท้านัก  อันนี้พี่ๆคิดแทนน้องกันเพราะอยากซื้อของให้น้อง..ฮ่า  น้องเข้าไปดูพี่ๆก็ชี้ชวนให้เลือกเพราะอยากจะซื้อให้เต็มที่  น้องจอยก็เดินวนไปวนมาไม่แม้แต่จะหยิบมาลองสักคู่เดียวแล้วก็เดินนำพี่ๆออกมานอกร้าน  น้องบอกว่าก็อยากได้นะแต่เห็นราคาแล้ววางไว้ตรงนั้นแหละ แม้น้องจะรู้ว่าพี่ๆจะซื้อให้แต่น้องก็ไม่เอาและคงรู้ทันว่าถ้าเกิดชอบคู่ไหนขึ้นมาพี่ๆคงซื้อให้เลยเลือกที่จะไม่เลือกเพราะทำใจกับราคาไม่ได้..ฮา  แล้วก็ไม่เข้าร้านไหนอีกเลย  น้องจอยบอกว่าเราน่าจะมีไพ่มาจะได้เอาไว้นั่งเล่นตอนคนอื่นๆช้อปปิ้งกัน  อันที่จริงบริเวณนั้นก็มีคาสิโนนะ  แต่น้องอายุไม่ถึงต้อง 20 ปีบริบูรณ์ถึงจะเข้าได้  น้องจอยเลยอดไปโดยปริยาย  ถ้าได้เห็นรูปน้องกรีดเงินอยู่บริเวณหน้าคาสิโนอย่าได้เชื่อว่าน้องเล่นได้นะ...ฮา  เมื่อไม่มีอะไรทำก็เลยชวนกันไปนั่งเรือเล่นเพราะน้องจอยอยากนั่งเรือ  ทุกคนอยากนั่งเรือกับน้องแต่เรือนั่งได้แค่ครั้งละ 2 คน เลยตกลงกันว่างั้นให้น้องนั่งคนเดียว  แต่พอน้องจอยรู้ว่าค่าบริการ 10 เหรียญสิงคโปร์ ราคาประมาณ 240 บาท น้องเลยไม่ยอมนั่งด้วยเหตุอะไรคงจะพอเดากันได้..555  ด้วยความอยากได้บรรยากาศแฟนคลับเลยช่วยกันขอร้องเต็มที่..ไม่ใช่ขอร้องน้องจอยให้นั่งนะ  แต่ขอร้องทางผู้ดูแลเรือว่าขอให้น้องลงไปนั่งถ่ายรูปหน่อย  เค้าคงเห็นความพยายามของพวกเราเลยอนุญาตให้ลงไปนั่งถ่ายรูปได้  ต่อจากนั้นจีนี่ได้พาไปชมความงานของน้ำพุแห่งความมั่งคั่งที่สร้างตามหลักฮวงจุ้ยที่ Santec City จีนี่บอกว่าให้เอามือสัมผัสน้ำพุแล้วเดินวนสามรอบพร้อมอธิษฐาน 1 อย่างห้ามขอหลายอย่างและขอได้แค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ซึ่งถ้าอยากให้ศักดิ์สิทธิ์ห้ามถ่ายรูป  แม้จะไม่ทราบว่าน้องขอพรอะไรแต่ด้วยความอยากให้น้องสมหวังผู้เขียนจึงงดถ่ายรูปบริเวณนั้น  มาถ่ายได้เต็มที่ก็บริเวณเมอร์ไลอ้อน  สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ที่มีฉากหลังเป็นโรงละครเอสพานาท  แต่ก็ใช่ว่าจะได้รูปมากมายอะไรเพราะน้องจอยไม่ได้แต่งหน้ามาเลยดูเหมือนไม่ค่อยอยากถ่ายรูปสักเท่าไหร่ใส่ชุดก็ธรรมดาๆ  น้องบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจัดเต็มซึ่งเราก็แอบดีใจอยู่ลึกๆว่าจะได้ถ่ายรูปสวยๆเต็มที่แน่ๆ  แต่ด้วยความที่ชอบน้องแบบธรรมชาติใสๆแบบนี้เลยต้องรีบแอบถ่ายไว้ก่อนทุกอิริยาบทน้องหันมายิ้มให้กล้องบ้างเป็นระยะๆ  ออกจากเมอร์ไลอ้อน  ก็เดินทางไปร้านอาหารริมทะเลชื่อดัง Jumbo Resterrant ซึ่งเป็นซีฟู๊ด  ทุกคนดูจะเอร็ดอร่อยกับอาหารยกเว้นน้องจอยเนื่องจากน้องแพ้อาหารประเภทกุ้งและปูเลยทานอะไรไม่ค่อยได้..เวลาอาหารเสริฟก็จะถามทุกครั้งไปว่ามีส่วนผสมอะไร  ดังนั้นทุกคนไม่ต้องกลัวน้องจะอ้วนเมื่อมาทริปนี้...ฮ่า  หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าที่พักที่  Resorte world sentosa  โดยคณะเราเข้าพักที่ Hardrock Hotel

       ผ่านไปแค่เพียงวันแรกก็ทำให้เราพอจะรู้จักน้องจอยได้มากขึ้น..ในความรู้สึกของผู้เขียนน้องจอยก็คงเปรียบเสมือนผ้าพับไว้แต่ไม่ได้รีด..ฮ่า  ภายใต้ใบหน้าที่น่ารักและกิริยามารยาทที่เฉยๆดูเหมือนจะเรียบร้อยด้วยซ้ำ  กลับแอบแฝงไปด้วยความสนุกสนาน  น้องไม่ได้เป็นคนพูดมากจนน่ารำคาญ  ไม่ได้เป็นคนกรี๊ดกร๊าดเอะอะโวยวาย  แต่เป็นคนที่ชอบพูดเล่นกวนๆ  ไม่ถึงกับตลกโปกฮาหรือทะลึ่งตึงตังอะไรมากมาย  แต่ก็ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆได้ผ่อนคลายและมีความสุขไปกับมุกเกรียนๆของน้องได้ตลอดเวลา  เมื่อรู้จักมากขึ้นน้องจะเป็นเช่นไรไว้ติดตามต่อใน Past 2 กันนะคะ

Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 13 ธันวาคม 2554 0:46:06 น.		3 comments
Counter : 515 Pageviews.
Share Tweet