Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 



เรื่องเล่า Exclusive trip in Singapore with Joy AF8 Part 2

เรื่องเล่า Exclusive trip in Singapore with Joy AF8 Part 2


       สวัสดีค่ะ  ต้องขอโทษที่ทำให้รอ  ตอนแรกว่าจะยังไม่เขียน  แต่มีคนกดดันมามากเหลือเกิน..เลยต้องลัดคิวงานอื่นๆมาเขียนเรื่องเล่าทริปสิงคโปร์กับน้องจอยในวันที่สองให้ก่อน..ฮา 


       ย่างเข้าสู่เช้าวันที่สอง  ดูเหมือนความสัมพันธ์ของน้องจอยและผู้เขียนยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ เอ๊ะยังไง SmileySmiley ฮา  ก็จะให้คืบหน้าได้อย่างไรในเมื่อผู้เขียนยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับน้องสักเท่าไหร่  ไม่ใช่ว่าใครห้ามไว้นะคะ  แต่เนื่องจากผู้เขียนสาละวนอยู่กับการถ่ายรูปถ่ายคลิปตลอดเวลา  และอีกอย่างขนาดน้องพูดด้วยเราก็ทำเฉยไม่พูดไม่จา  ใช่ว่าจะหยิ่งอะไรหรอกนะคะ  เพียงแต่ว่าไม่อยากทำลายบรรยากาศในการชมคลิปน้องจอยของพวกเราทุกคนที่รอดูอยู่  เพราะคิดว่าทุกคนคงอยากฟังเสียงน้องจอยมากกว่าจะฟังเสียงของผู้เขียนเป็นแน่  และผู้เขียนเองก็ใช่ว่าจะคุยเก่งอะไรด้วย  จะให้พูดคุยกับน้องจอยตลอดเวลาก็คงไม่ใช่  แถมต้องคุยผ่านกล้องอีก  ลำพังแค่ถ่ายรูปถ่ายคลิปก็แอบเกรงใจน้องเล็กๆอยู่เหมือนกัน  รู้สึกจะเกรงใจตลอด..แต่ก็น้อยกว่าเมื่อวานนิดนึง..อิอิ


       อย่างที่บอกไว้ว่าน้องจอยบอกว่าวันนี้จะจัดเต็ม  เป็นเหตุให้น้องลงมารับประทานอาหารช้า  เราก็นั่งทานไปรอไป  จนไม่รู้จะทำอะไรเลยเดินถ่ายูปบริเวณนั้นจนหมดทุกมุมน้องก็ยังไม่ลงมา  คาดว่าจะแต่งตัวสวยเป็นพิเศษและในที่สุดน้องก็ลงมา  คุณพระ!!!!! Smiley นี่หรือจัดเต็มของน้อง  มันต่างจากเมื่อวานตรงไหน..ฮ่า  ที่เห็นต่างจากเมื่อวานก้ตรงเปลี่ยนจากเสื้อแขนยาวเป้นเสื้อแขนกุดและเพิ่มผ้าคลุมมาอีกหนึ่งผืนแค่นั้น  น้องแต่งตัวมาในชุดสบายๆเสื้อแขนกุดกางเกงขาสั้น  แต่งหน้ามาแบบบางๆ  บางมากขนาดรับประทานอาหารเสร็จหันมาอีกทีก็เหมือนไม่ได้แต่งหน้ามาเลย..ฮา  จำได้ว่าตอนน้องไปตักอาหารมารับประทานผู้เขียนขอถ่ายรูปน้องถือจานอาหารSmiley  น้องก็ถือให้ถ่ายแต่โดยดีแต่ทำหน้าเหลอหลาแล้วบอกว่าแป้งทั้งนั้นเลย  ตอนนั้นดูสีหน้าน้องก็รู้ได้ทันทีว่าน้องคงกลัวพี่ๆแฟนคลับหากเผยแพร่ภาพออกไปว่าทานอาหารที่ทำให้อ้วน  ผู้เขียนยังอดคิดไม่ได้ว่าใครหนอช่างกดดันเรื่องน้ำหนักน้องได้ตลอดเวลา  จนน้องกลัวโดนดุเรื่องกินของที่ทำให้อ้วนจนขึ้นสมองแล้ว  แต่ก็แค่กลัวถูกดุนะ  ส่วนเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานหรือไม่ต้องไปถามน้องกันเอาเอง 


       หลังจากรับประทานอาหารเป็นที่เรียบร้อยก้พร้อมเดินทางไปยัง UNIVERSAL STUDIO เมืองสวนสนุกที่จำลองเครื่องเล่นมาจากภาพยนต์ชื่อดังของ Hollywood ซึ่งที่แรกที่เราไปได้แก่ Tranformers ซึ่งเพิ่งเปิดมาไม่นานนี้  โดยมีน้องจอยน้องแอ้นและน้องแพรวานำทีม  ระหว่างต่อคิวเดินเข้าก็มีการเล่นหยอกล้อกันสนุกสนานเนื่องจากคณะเราจะมีป้ายไฟจอยติดตัวไปตลอด  น้องแอ้นก็จะคอยแกล้งตะโกนเรียกจอยดังๆ  วันนั้นน้องจอยจะเป็นซุปตาร์มาก  มีป้ายไฟมีคนตะโกนเรียกตลอดเวลาแถมมีผู้ติดตามถ่ายรูปถ่ายคลิปตลอดทาง..ฮา  ทำให้เป็นจุดสนใจของสายตาหลายๆคู่  จนบางคนสงสัยว่าจอยคือใคร  โชคดีนะที่เป็นต่างประเทศเพราะถ้าเราคุยเล่นกันอย่างนี้ในประเทศไทยคงไม่ออกมารูปแบบนี้แน่ๆ..ฮา  ส่วนพี่ๆที่เป็นแฟนคลับก็เลยถือโอกาสแนะนำน้องจอยกับชาวต่างชาติเป็นการใหญ่ด้วยความปราบปลื้ม  แต่แอบสงสัยเหมือนกันว่าเมื่อเค้ารู้แล้วเค้ารู้สึกยังไงกัน  เห็นมีซุบซิบและมองมาทางน้องจอยกันด้วย  ในความคิดของผู้เขียนก็ว่าน้องจอยก็ออกไปแนวเกาหลีๆนิดๆคงจะพอให้น่าเชื่อได้อยู่  แต่พี่ๆก็แกล้งบอกน้องจอยว่าเค้าคงคิดกันว่า  ใช่หรอ?Smiley  ฮา  คงเห็นแล้วใช่มั๊ยว่าแฟนคลับน้องจอยก็เกรียนไม่แพ้กัน  และยิ่งมาอยู่ด้วยกันก็มีแอบจิกกัดกันเองตลอดเวลา  พอรู้สึกตัวทีถึงจะบอกว่ารักจอยๆ  ผู้เขียนเองก็งงเหมือนกันว่าอันไหนจริงอันไหนหลอก..อิอิ  ล้อเล่นนะคะ  เรารู้กันอยู่แล้วว่าทุกคนรักจอยมากขนาดไหนไม่เช่นนั้นคงไม่เตรียมหมวกเตรียมเสื้อทีมมากันพร้อมขนาดนี้  แต่เป็นเพราะว่าน้องเป็นคนสนุกสนานและไม่ถือตัว  เวลาถูกแกล้งก็จะมีปฏิกิริยาเบาๆให้เราเห็นตลอด  พวกเราจึงคุยเล่นกับน้องได้อย่างสนุกสนาน  หลังจากนั้นน้องจอยก็เลือกที่จะไปเล่นรถไฟเหาะตีลังการางคู่ที่สูงที่สุดในโลก Battlestar Gacactica ซึ่งสามารถเลือกนั่งรถไฟสายสีแงหรือตื่นเต้นสุดๆกับรถไฟสายสีน้ำเงิน  ช่วงนี้ผู้เขียนเริ่มมีการพูดคุยกับน้องบ้างโดยถามน้องว่าจะเอาแค่สนุกหรือจะเอาแบบหวาดเสียวด้วย  และน้องจอยก็เลือกเล่นสายสีน้ำเงิน  ซึ่งในตอนหลังผู้เขียนทราบว่าในบัสเรามีน้องจอยคนเดียวที่เล่นสายสีน้ำเงินในตอนแรกผู้เขียนคิดว่าจะเก็บภาพตอนน้องเล่นมาฝากแต่ดูแล้วคงถ่ายรูปถ่ายคลิปไม่ทันแน่เลยถือโอกาสเล่นเครื่องเล่นกับน้องจอยดีกว่า  ทั้งที่ในใจแอบคิดเหมือนกันว่าด้วยสังขารของตัวเองจะไหวมั๊ยSmiley ฮา  แต่ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่ผู้เขียนจะได้พูดคุยกับน้องโดยไม่ต้องมองผ่านกล้องเลยต้องทำใจสู้  อิอิ  ซึ่งเวลาเล่นเครื่องเล่นเราต้องฝากของไว้  ทำให้ไม่สามารถอัดบรรยากาศการเล่นเครื่องเล่นของน้องได้ทั้งหมด  หลังจากลงมาเราจึงต้องพักเบรคด้วยการไปนั่งชมการแสดงโชว์เหมือนจริงที่จำลองมาจากส่วนหนึ่งของภาพยนต์ วอเตอร์เวิล์ด  หลังจากนั้นก็เดินเล่นและพักรับประทานอาหารกัน  โดยทานเป็นแฮมเบอเกอร์และเฟรนฟรายดืเพื่อความรวดเร็ว  ส่วนผู้เขียนเองเลือกดื่มเฉพาะน้ำ  น้องจอยจึงชวนรับประทานเฟรนฟรายด์ของน้องด้วยกัน  จุดนี้เราก็หยิ่งอีกเช่นเคย  อันที่จริงผู้เขียนเป็นไมเกรนอยู่อาจเพราะนอนดึกตื่นเช้าแล้วยังไปเล่นเครื่องเล่นกับน้องอีก  ทั้งเหนื่อย  ทั้งเวียนหัว  ถ้าขืนได้ทานอะไรลงไปคงเล่นเครื่องเล่นอื่นต่อไม่ได้เป็นแน่  แต่ทำเป็นวางฟอร์มว่าไม่หิวไปอย่างนั้นเอง..คิคิ  หลังจากรับประทานอาหารเสร็จคณะเราก็เดินทางไปชมภาพยนต์สี่มิติที่จำลองตอนหนึ่งของภาพยนต์ SHRER โดยมีบรรยากาศใช้ภาพและเสียงประกอบสมจริง  ในตอนนี้ได้นั่งข้างๆน้องจอย  น้องบอกว่าง่วงเห็นนั่งดูเงียบๆก็ไม่ได้หันไปมองเหมือนกันว่าแอบหลับหรือป่าว  เพราะถ้าไม่ได้มองผ่านกล้องก็จะเขินๆไม่ค่อยกล้ามองหน้าน้องสักเท่าไหร่..ฮา  แต่พี่แฟนคลับคนนึงบอกว่าพอจะหลับจะหลับ บางทีเก้าอี้ก็โยก บางทีน้ำก็ฉีดออกมา ทำเอาพี่แกตื่นเลย  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องจอยจะเป็นเหมือนพี่คนนั้นหรือป่าว  และเครื่องเล่นสุดท้ายที่พวกเราไปเล่นกันได้แก่มัมมี่ ซึ่งก็เป็นโชคดีที่ผู้เขียนไม่รับประทานอาหารกลางวันไม่เช่นนั้นคงได้อาเจียนใส่น้องเป็นแน่  เมื่อดูเวลาใกล้ถึงเวลานัดหมายจึงพากันเดินกลับที่พักโดยแวะชมร้านขายของที่ระลึกนิดหน่อย  แต่อย่าหวังว่าเงินสักเหรียญจะกระเด็นออกจากกระเป๋าน้องจอย  ฮา


      และแล้วความหวังของผู้เขียนก็เป็นจริงเมื่อน้องจอยมาในชุดใหม่  เป็นกระโปรงออกแนวหวานๆมาให้ได้ชมความงามกันในช่วงเวลาพิเศษคือมินิคอนเสริตในช่วงอาหารเย็น  โดยก่อนไปรับประทานอาหารได้แวะชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาวิว แบบ 360 องศา ที่ความสูง 165 เมตรจากพื้นดิน  บนกระเช้าลอยฟ้า Singapore Flyer ได้เห็นวิวของอ่าวมารีน่าและแม่น้ำสิงคโปร์  รวมถึงตึกระฟ้ามากมาย  ทีนี่เราได้ถ่ายรูปกันใกล้ชิดเหมือนเป็นห้องส่วนตัว  น้องจอยมีแปลงเพลงตัวเองมาร้องให้ฟังเวอร์ชั่นใหม่พร้อมท่าเต้นประกอบเพลง  อันนี้อัดคลิปไม่ทันไม่นึกว่าน้องจะกล้าทำให้ดู ฮา  และไม่แน่ใจว่าน้องจอยสงวนลิขสิทธิ์หรือป่าว  จึงได้แต่เพียงถ่ายรูปมานิดหน่อยเท่านั้น  แต่ที่ฮือฮาสุดเห็นจะเป็นกระเช้าข้างๆที่มีคู่หนุ่มสาวเหมากระเช้าขึ้นมาจิบไวน์กันสองต่อสอง เพราะมีฉากรักหวานๆให้ได้กรี๊ดกร๊าดกันจนกระเช้าข้างๆเริ่มไม่ม่ความเป็นส่วนตัว..ฮ่า  และอย่างที่บอกว่าน้องจอยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในทริปนี้ที่ผู้เขียนจะคลาดสายตาไม่ได้  น้องไปทางไหนจึงต้องคอยเดินตามตลอด  เว้นระยะห่างบ้างใกล้บ้างแล้วแต่โอกาสจะอำนวย  แต่จากการติดตามมาเกือบสองวันเต็มส่วนใหญ่ภาพที่ได้จากน้องจะเป็นภาพแอบถ่ายซะส่วนใหญ่  จะมีหันมาให้กล้องบ้างเป้นบางครั้ง  ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถ่ายเพียงครึ่งตัว  จะมีแต่ภาพน้องหันซ้ายหันขวา  ภาพหน้าตรงก็จะเป็นภาพรอยยิ้มหวานๆแบบท่เราเห็นกันมาตลอด  ท่าทางในการยืนก็ไม่ค่อยต่างกันมากนัก  จากที่ผู้เขียนเป็นคนเงียบๆไม่พูดอะไรถ่ายรูปอย่างเดียวถึงกับทนไม่ได้ต้องออกปากให้น้องช่วยยืนแบบนั้น  ทำท่าทางแบบนี้  แต่ก้ไม่ได้มากมายนักเพราะน้องคงไม่นิยมโพสท่าในที่สาธารณะ  และผู้เขียนเองก็ไม่ได้ช่ำชองในเรื่องนี้


       ในที่สุดช่วงเวลาสำคัญก็มาถึง  อาหารค่ำมื้อนี้น้องจอยแยกออกไปทานกับเพื่อนๆนักล่าฝันคนอื่นๆเพื่อจะได้เตรียมร้องเพลงกับเพื่อนๆ  ส่วนอาหารค่ำมีอะไรบ้างผู้เขียนไม่สามารถบรรยายได้เนื่องจากอาหารออกมาเพียงไม่กี่อย่างนักล่าฝันก็เริ่มร้องเพลงกันแล้ว  ผู้เขียนจึงยุ่งอยู่กับการถ่ายรูปและคลิปไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลยทีเดียว  ซึ่งในช่วงนี้ก็มีเรื่องให้ได้ตุ๋มๆต่อมๆเนื่องจากแบตกล้องใกล้จะหมดคงเพราะถ่ายรูปถ่ายคลิปน้องจอยมาทั้งวัน  อย่างไรก็ตามก็อยากเก็บภาพนักล่าฝันคนอื่นๆมาฝากทุกคนจึงถ่ายรูปนักล่าฝันทุกคนแล้วก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่น้องจอยจะได้ร้องเพราะกลัวแบตหมดซะก่อน  พยายามถ่ายแบบประหยัดมากซึ่งสรุปว่าน้องจอยร้องเป็นคนสุดท้ายSmiley แต่ยังโชคดีที่แบตพอสำหรับถ่ายรูปน้องจอยแม้จะรัวได้ไม่เต็มที่  ไม่เช่นนั้นคงผิดหวังกันเป็นแน่  หลังจากดื่มด่ำกับมินิคอนเสริตแล้วก็เดินทางกลับที่พักโดยระหว่างนั่งรถแม้น้องจะเหนื่อยมาทั้งวันก็ยังมานั่งเล่นและพูดคุยกับพวกเรา 


       ผู้เขียนทราบดีว่าทุกคนคงอยากพูดคุยกับน้อง  เวลาไปในสถานที่ต่างๆผู้เขียนจึงได้ขอให้น้องพูดไปด้วย ซึ่งลองพยายามแล้วน้องจอยบอกว่าหนูไม่รู้จะพูดอะไร  เอาเป็นว่าพี่ถ่ายไปเรื่อยๆละกัน  เราจึงถือโอกาสใช้เป็นคำอนุญาตในการถ่ายรูปถ่ายคลิป  ความเกรงใจที่จะถ่ายน้องตลอดเวลาจึงเริ่มหมดไป  ฮา  เห็นน้องคุยสนุกอย่างนี้ใช่ว่าน้องจะเป็นคนพูดเก่งนะคะเพราะลองให้พูดแนะนำหรือบรรยายอะไรน้องแอบพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเบาๆ..ฮ่า  และน้องจอยก็ดูไม่ใช่คนที่ต้องเป็นพิธีการมากมาย  ออกแนวพูดเรื่อยเปื่อย ขำๆ ฮาๆซะมากกว่า  แต่ก้ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียวเพราะจากที่สังเกตเมื่อถึงเวลาน้องก็สามารถพูดเป็นการเป็นงานได้เหมือนกันซึ่งหลายๆครั้งก็ไม่ลืมตบท้ายขำๆให้เราได้ยิ้มกันตลอดเวลา


       และแล้วก็หมดไปอีกหนึ่งวัน  ผู้เขียนเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตลอดวันที่ผ่านมาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับน้องจอย  เริ่มทำให้ผู้เขียนรู้สึกผ่อนคลายกว่าวันแรกตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่จะเห็นได้ว่าผู้เขียนเริ่มออกคำสั่งกับน้องซะแล้ว..ฮา  และในวันสุดท้ายจะเป็นอย่างไรขอค้างไว้ก่อนนะคะ  อิอิ  และขอขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามด้วยค่ะ  Smiley   







Free TextEditor




 

Create Date : 14 ธันวาคม 2554
7 comments
Last Update : 15 ธันวาคม 2554 7:28:48 น.
Counter : 438 Pageviews.

 

สวัสดิ์ดีครับ......................

 

โดย: maramba1 14 ธันวาคม 2554 3:07:34 น.  

 

จะมีดราม่าไหม

 

โดย: bestjitlada 14 ธันวาคม 2554 3:38:22 น.  

 

ขออีกนะคะ เอาแบบไม่กดดันก็ได้ อยากอ่านต่อค่ะ อิ อิ

 

โดย: อ้อม IP: 98.198.4.135 14 ธันวาคม 2554 6:58:48 น.  

 

เล่าดีมาก

 

โดย: tankan IP: 110.49.250.3 14 ธันวาคม 2554 9:12:07 น.  

 

รอตอนต่อไปค่ะ

 

โดย: chichija IP: 223.204.210.116 14 ธันวาคม 2554 10:00:47 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่มาเล่าเรื่องให้ฟัง
^____^

 

โดย: kunkarn IP: 118.172.104.170 14 ธันวาคม 2554 11:45:35 น.  

 

รอตอนต่อไปนะคะพี่เอ๋ อิอิ

 

โดย: ploy IP: 203.151.53.99 14 ธันวาคม 2554 12:00:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


p'ae-sutha
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add p'ae-sutha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.