Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 
บันทึกการเดินทาง : วันที่ 1 - My Trip to Land-Lock God-Given Country

วันนี้อัพยาวววว เป็นพิเศษ และโหลดนานแน่ๆ เพราะรูปเพียบเลยจ้ะ

พูดถึงหัวข้อก่อน คือมีคนบอกว่า สวิสเป็นประเทศที่แปลก เพราะเป็นป.ที่ไม่มีทะเลเลย ซึ่งประเทศแบบนี้มักจะลำบาก ไม่มีทรัพยากร ไม่มีอาหารทะเล แต่ปรากฎว่าที่นี่ กลับมีทั้งทะเลสาบ และภูเขาสวย ทำให้หน้าร้อนสามารถเพาะปลูกได้ ไม่ขากแคลนสัตว์น้ำ แล้วก็เป็นเมืองในฝันของการท่องเที่ยว เหมือนพระเจ้าสร้างมา อะไรยังงี้ เลยเรียกว่า เป็น Land-lock god given country

ต่อจากตอนที่แล้วเลยนะฮับ




เริ่มตั้งแต่ตอนต่อเครื่องบินไปยังสนามบินซูริค ไม่รู้ว่าเพราะเป็นการเดินทางระยะสั้นรึเปล่า แต่รู้สึกว่าเครื่องบินบินต่ำแทบจะตลอดเวลาเดินทาง เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงเช้า (ประมาณ 6 โมง กว่าๆ) เลยเห็นวิวสวยๆแบบนี้



เหมือนอยู่ในทะเลเมฆเลยค่า

พอดีอ่านหนังสือก่อนมา เค้าบอกว่า พอเครื่องใกล้จะลง เราจะเห็นยอดภูเขาน้ำแข็ง (หรือเทือกเขาดีนะ) พอเห็นทะเลเมฆแล้ว เลยยิ่งตั้งหน้าตั้งตามองหายอดเขา ... ปรากฎว่า มันอยู่คนละข้างกับฝั่งที่นั่งอยู่ ด้านที่เรานั่งเห็นแค่เมฆเท่านั้นเอง แล้วคนที่นั่งอีกฝั่ง เค้าก็รัวกล้องกันใหญ่ โอย เห็นแล้วอยากถ่ายรูปมากๆ เลยบากหน้าไปขอให้เค้าช่วยถ่ายให้ ... ออกมาไม่ถูกใจ เลยบอกว่า ขอเอี้ยวตัวเข้าไปถ่ายหน่อย



ยังไงก็ตาม จังหวะที่ถ่ายไม่ค่อยดี เลยได้ภาพภูเขาแบบไกลลิบๆ มันมีจังหวะที่สวยกว่านี้อีกหล่ะ แต่ไม่กล้าไม่วุ่นวายกับผู้โดยสารคนอื่นมากกว่านี้แล้ว >_<

พอลงจากเครื่อง ก็ไปล้างหน้าหน้าตา แปรงฟันที่สนามบิน (มีฝรั่งมองด้วย มันแปลกตรงไหนเรอะ) ล้างหน้าล้างตาแล้วก็ออกเดินทางไปขึ้นรถโค้ช (คันบะเริ่ม น่าจะจุได้อย่างน้อย 40-50 คน แต่คนในทริปมีแค่ 11 คน – ไม่รวมไกด์) พอออกมา ก็ยังแหยงๆ เพราะหมอกลงหนักมาก ยังกลัวอยู่ว่าฝนจะตก แต่ก็ต้องลองเสี่ยงเดินทางดู

ออกเดินทางจาก Zurich สู่ จุดหมายแรก คือ ยอดเขา Titlis ค่า ระหว่างทางมีวิวให้ชมนิดหน่อย ซึ่งยิ่งวิ่งไปๆ ฟ้าก็ใสขึ้นเรื่อยๆ ^0^/ วิวสองข้างทางสวยมากเลย








ต้องขึ้นกระเช้าถึง 3 ตัวกว่าจะถึงยอดเขา เค้าบอกว่ายอดเขา Titlis เป็นเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของยุโรปจ้ะ

พวกนี้ถ่ายออกจากกระเช้า สีจะตุ่นๆหน่อย กระจกมันไม่ใสอ๊ะ





พอไปถึง ก็กินอาหารเที่ยง ไอ้เรารึหวังจะกินฟองดูชีสที่ยอดเขาสวิส ... แต่ไกด์บอกว่า “เนื่องจากกลัวทุกท่านปรับตัวไม่ทัน วันนี้เราจะทานอาหารไทยไปก่อน แล้วค่อยทานอาหารพื้นเมืองวันต่อไปนะครับ” … ฮ่วย อาหารไทยในยุโรป ห่วยอย่างที่คาดไว้จ้ะ จืดชืดสุดๆ ... อ้อ แต่คนที่มาด้วยบอกว่า ออกเค็มรสเดียว


อาหารคุ้นๆมั้ยคะ

ทานเสร็จแล้ว ก็ไปเล่นหิมะ (แก่แล้วกระดี๊กระด๊ามากไม่ได้) แต่ตอนถ่ายรูปเจอเหตุการณ์ช็อคด้วย คือ ขอถ่ายรูปกับนักสกีแล้วเค้าบอกว่าไม่ได้ บอกว่า “No, I have no time” โห ช็อคไปเลย แต่คนอื่นเค้าก็ถ่ายกันนะ ยกเว้นอีตาคนนี้คนเดียว





มีเข้าถ้ำน้ำแข็งด้วย คือว่าที่สวิสนี่ แทบทุกยอดเข้าจะทำถ้ำหิมะ ที่แกะสลักน้ำแข็งไว้ให้ดูด้วย แต่เราเข้าถ้ำของเขานี้แล้วไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะมีแต่ถ้า ไม่มีอะไรเลย มีแต่เจออุปสรรคในการถ่ายรูป ถ่ายออกมาไม่สวยซักรูป >_<

ทั้งขาขึ้นและลงยอดเขา เจอทัวร์จีนมากมาย แต่ละคนไม่สนใจเรื่องคิว แซงชาวบ้านเป็นว่าเล่น ไม่น่าเชื่อเลย ด้านจริงๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ)

ลงจากเขามา ก็ขอแม่ทำในสิ่งที่อยากทำบนยอดเขา แต่กลัวกลิ้งตกเขาก่อน เลยไม่กล้าทำ ... นั่นคือ กระโดดหยองๆแล้วถ่ายรูปให้เหมือนลอยอยู่บนฟ้า ... ออกมาไม่ได้อย่างใจ แม่บอกว่าเราโดดเตี้ยไป และอีกอย่างคือ กระโดดขี่คอแม่แบบหมีโคอาล่า (ซึ่งก็ไม่กล้าทำบนยอดเขา เพราะเดี๋ยวจะตกเขาทั้งคู่) ^^’ เลยมาทำที่ลานจอดรถแทน ... ทำหน้าด้านๆเข้าไว้ ที่นี่คนไม่เคยเห็นหิมะคงมีเยอะน่า


แฮ่ๆ ตัวหนักเกินจะเกาะบนหลังแม่ได้ซะแล้ว เลยได้แค่นี้


จากนั้นก็เข้าเมืองลูเซิร์น (วันนี้เราจะพักที่นี่) ไปดูอนุเสาวรีย์สิงโตร้องไห้ และสะพานไม้ที่โด่งดัง ... ปรากฎว่าพอไปถึง มันกำลังซ่อมสิงโตอยู่ O_o’ โอ้ ไม่ อุตส่ามาไกลน๊า >0< จากนั้นก็ไปสะพานไม้ ไอ้ไกด์ตัวดีบอกว่า ให้ดูเฉยๆอย่าเดินเลย จะพาไปชอปปิ้งต่อ O_o’ !@$#^%&&^ อุตส่ามาแล้ว แค่เดินสะพานไม้ ที่เที่ยวดังของเมือง ทำไมจะไม่ได้ฟะ

... แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เดิน เพราะแม่ก็ไม่เอาด้วยเหมือนกัน ด้วยเหตุผลว่า “ในนั้นคนแน่น” -__-‘ เอ่อ กำ


ที่ไปเจอมา





เลยไปเดินริมทะเลสาบ ถ่ายรูป กินหนมแทน แล้วก็...ชอปปิ้ง ที่ไปดูก็นาฬิกากะขนมแหละ แต่ไม่ได้ซื้อนาฬิกา เพราะมีคนบอกว่าซื้อที่ไทยถูกกว่า ส่วนขนมใช้ถ่ายรูปเอา แต่ซื้อแค่นิดเดียว เพื่อเอามาฝากที่ทำงาน (ไม่ได้ทานเอง ไม่อยากทำน้ำหนัก เลยใช้ดูเอา ... อิจฉาเด็กที่มาในทัวร์ด้วยกันมากกกก เค้านั่งกินช็อคโกแลตเป็นแท่งๆ แล้วก็บอกว่าอร่อยมากกก )

ขนมที่ถ่ายๆมา โดนแสงสีส้มจนดูไม่ค่อยได้เลย




ส่วนมากขนมที่เห็น ก็มีแต่ชอคโกแลต ไม่ก็เค้ก แล้วก็มีแต่ Lindt ยี่ห้ออื่นไม่ค่อยจะมีเล้ย สุดท้ายเลยเลือกที่ดูแปลกๆมา แต่ก็นั่นแหละนะ อยู่แต่สถานที่ท่องเที่ยว เลยพลาดอะไรไปหลายอย่าง

จากนั้น ประมาณทุ่มนึงก็เข้าโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เดินเที่ยวมากนัก เก็บของแล้วก็ทานข้าว

เมนูของวันนี้ ...



พออ่านแล้วดีใจว่าจะได้ลอง Rosti อาหารพื้นเมืองสวิส แต่พนักงานมาเปลี่ยนเมนูใหม่ กลายเป็นแบบนี้ ...



หนูอยากกินอาหารพื้นเมืองงงงงงงง

มารู้ทีหลังว่าเป็นเพราะในทัวร์เรา มีคนอิสลามอยู่ (ทำให้สงสัยว่า ต่อจากนี้อีก 9 วัน ตูต้องกินไก่ทุกมื้อรึเปล่าฟะ มื้อที่แล้วก็ไก่ -__-‘) แต่รสชาติก็ไม่เลวนะ ติแค่ว่าไก่เค็มมากกกกกกกกกกกกกกกก

และเมื่อกินอิ่ม ทุกคนในทัวร์ก็แยกย้ายกันไป ... เข้านอน


ง่า ตั้งใจว่าจะเที่ยวกลางคืนทุกคืน (หมายถึงเดินเที่ยวดูอะไรๆในเมือง) ... แต่ไม่มีใครไป จะไปกะแม่ 2 คนก็เสียวนิดๆ เพราะเมืองนี้มันกลางคืนแล้วเงียบสนิท

จริงๆตอนนั้นยังสว่างอยู่เลยอ่ะ

แอบแปะภาพโรงแรมที่นอนเมื่อคืน อันนี้เค้าว่า 4 ดาวอ๊ะ แต่มันแคบจริงจริง






ยังไงก็ตาม วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก(เพราะนั่งเครื่องบิน) แต่ก็แฮปปี้สุดๆกับบรรยากาศจ้า


Create Date : 08 มิถุนายน 2549
Last Update : 8 มิถุนายน 2549 22:24:32 น. 2 comments
Counter : 1001 Pageviews.

 
รูปสวยอะ ถ่ายเก่งจังเลย

รูปอาหารตอนแรกยังว่าทำไมดูคุ้นๆ มีคล้ายๆสาคูกะทิเหมือนบ้านเราด้วย พออ่านต่อ เอ่อ อาหารไทยนี่เอง ยังว่าโครตคุ้นเลย - -'''

อยากไปเที่ยวม่างงงง


โดย: The White Rider วันที่: 19 มิถุนายน 2549 เวลา:10:29:54 น.  

 
สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากไปเห็นด้วยตัวเองจังเลย


โดย: AllSTORY วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:57:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

thingummy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Words are flowing out like endless rain into a paper cup,

They slither wildly as they slip away across the universe.

Pools of sorrow, waves of joy are drifting through my openedmind,

Possessing and caressing me.

Images of broken light which dance before me like a millioneyes,

They call me on and on across the universe.

Thoughts meander like a restless wind inside a letter box,

They tumble blindly as they make their way across the universe

....................




Friends' blogs
[Add thingummy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.