ต่อยอดพรสวรรค์ สรรหาพรแสวง ให้ลูกน้อย ต่อยอดพรสวรรค์: เมื่อเด็กมีพรสวรรค์ทางด้านใดควรช่วยส่งเสริมไม่ให้ขาดตอน คอยสอบถามถึงความต้องการเพื่องานที่สร้างสรรค์กว่า ช่วยให้เด็กมีความภูมิใจในฝีมือทีทำ เพิ่มกำลังใจ และควรสอนให้เด็กทราบถึงการที่มีพรสวรรค์นี้ติดตัวมาเพื่อให้เด็กรู้ตัว เด็กบางคนไม่ทราบในสิ่งที่ตนมี การมีอยู่ถือเป็นเรื่องธรรมดา การที่เราต้องชี้แจงนั้นเด็กจะได้รู้ตัวว่าควรเดินไปในทางใดควรทิ้งหรือควรทำต่อไป แน่นอนซึ่งต้องมีผู้ปกครอง ทีคอยสนับสนุนในบางครั้งเด็กอาจขัดใจแต่ต้องยอมรับการให้ที่เรียก การต่อยอดพรสวรรค์ ผู้ปกครอง อาจช่วยประคับประคองไปสักระยะ จนเด็กสามารถพัฒนาได้ด้วยตัวเองได้แล้วจึงปล่อยให้ธรรมชาติของพรสวรรค์ ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป สรรหาพรแสวง : แน่นอนอีกที่ว่า การให้เด็กได้เรียนอะไรหลายๆอย่าง อาจจะมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม ฆ่าเวลาหรือเสริมทักษะการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆแล้ว การเสริมเพิ่มเติมขึ้นมานั้นถือเป็นการแสวงหาความสามารถความสนใจเพิ่มเติมขึ้นมา ไม่ควรคาดหวังว่าจะทำได้ดีมากเพราะมีตัวแปรหลายอย่างที่เด็กกำลังได้รับจากการป้อน หากมากไปก็อาจทำให้เบื่อจนไม่สนใจ หากน้อยไปก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย เด็กจะได้รับการสอนจากทั้งโรงเรียน ผู้ปกครอง สถาบันต่างๆ ผู้ปกครองบางท่านส่งลูกเรียนในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เช่น ดนตรี เทควันโด ศิลปะ มากไปหรือไม่เมื่อเทียบการเล่นสนุกไปวันๆ ผลการเรียนในแต่ละคอร์สเป็นตัววัดความรู้ความสามารถที่ได้ แต่ความสุขที่เด็กได้รับนั้นก็ควรใส่ใจ พรแสวงอาจได้รับแรงบันดาลใจจากโอกาสต่างๆก่อให้เกิดความประทับใจและพยายามศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ดังนั้นการนำพาให้เด็กได้พบเจอสิ่งใหม่อยู่เสมอๆนั้น ก็เปรียบเสมือนการให้จิ๊กซอว์ชีวิตไป อยู่ที่เด็กจะเลือกเอาชิ้นไหนขึ้นมาก่อน แล้วค่อยมาเพ่งมองว่าเด็กสนใจจริงๆหรือไม่ หากใช่ก็ควรนำพาไปในทางนั้นอย่างถูกวิธีและไม่กดดัน เพราะบางครั้งเมื่อค้นพบจริงๆแล้วอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องการก็เป็นได้ การนำพรแสวงมาเป็นพรสวรรค์ หมายถึง การใช้เวลาฝึกฝน เพิ่มทักษะ ความชำนาญจากพรแสวงและนำมาประยุกต์กับพรสวรรค์ที่มี อาศัยทุนเก่าทีมีต่อยอดกำไรให้เพิ่มเติมขึ้น อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าสำเร็จ หากเด็กไม่สามารถนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ก็นับว่าน่าเสียดายอย่างมาก ผู้ปกครอง จึงควรแนะนำแนวทางที่สามารถทำให้เด็กมีความสุขมากไปกว่านั่งทำงานชิ้นหนึ่งด้วยความเบื่อที่ต้องทำให้เสร็จ หรือทำแต่ในสิ่งที่ตนเองถนัดโดยไม่เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่เลย การสอนให้เด็กรู้จักต่อยอดประยุกต์ใช้จนสามารถนำผลงานออกสู่โลกภายนอก ออกสู่สายตาคนอื่นได้นั้นสามารถทำได้ก็หลายวิธี อาทิเช่น การติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆ การเข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียน การให้ความช่วยเหลือผู้อื่นในด้านที่เราถนัด รวมไปถึงการล่ารางวัลต่างๆ ซึ่งในสมัยนี้ผู้ปกครอง ก็หันมาใช้วิธีนี้กันมากมาย ไม่เน้นการโชว์ผลงานหากแต่มีเรื่องชื่อเสียงเข้ามา บางครั้งในช่วงวัยเด็กชื่อเสียงต่างๆอาจสร้างความกดดันให้เด็กในตอนโตก็เป็นได้ หมายถึงการละทิ้งสิ่งที่มีเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเด็กจะมีแต่คำว่า เสียดาย ลดความภาคภูมิใจในวัยเด็กไปได้อย่างมาก ไม่เหมือนกันกับหากเปรียบเทียบว่า เด็กไม่เคยทำได้แต่ค่อยๆพัฒนามาจนทำได้และจนไปถึงทำได้ดีเด็กจะรู้สึกว่าสิ่งที่ทำนั้นมีค่ามากกว่า ไม่ว่าเด็กจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน หากแต่ไม่ได้รับการต่อยอดแล้วนั้น ความสามารถนั้นก็จะค่อยๆหายไป อาจไม่ทันสมัย อาจะไม่โดนใจกรรมการ และสิ่งที่หายไปคือความภูมิใจในตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ได้รับการพัฒนา ส่งเสริมไปในทางที่ถูกและตามขั้นตอน เด็กจะอยู่กับความเพ้อฝัน เข้าข้างตัวเองว่ายังทำได้จนทำให้ขาดความกระตือรือร้นในการค้นคว้า สร้างสรรค์ผลงานที่ดีกว่าแต่หากมีพัฒนาฝึกฝนไปทางที่ดี ไม่ว่าผลงานจะออกมาเป็นเช่นไรสิ่งหนึ่งที่เด็กได้คือ สมาธิ การวางแผน การแก้ปัญหาที่ถูกต้องหากเราสามารถนำมารวมกับพรแสวงที่ได้มาด้วยแล้วนั้น คุณค่าของเด็กคนหนึ่งจะหมายถึง ความภาคภูมิใจ มีคุณค่า ทำให้เด็กสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ดีที่สุดด้วยตัวของเขาเองในอนาคต อย่างที่คำที่ว่า ค่าของคนอยู่ทีผลงาน ก็ยังคงนำมาใช้ได้ เก้าอี้หัดนั่ง พัดลม USB สบู่อาหรับขิง |
Group Blog All Blog
Link |
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |