Chuen Kee Seafood Restaurant
ภัตตาคารช้วนเก๋ซีฟู้ด หมู่บ้านประมงไซกุง ฮ่องกง
การเดินทางไปไซกุง ไม่ยากครับ เสียแต่ใช้ระยะเวลาเดินทางนานไปหน่อย
เพื่อนสมาชิกคงหาวิธีได้จาก Blueplanet , Google
ไปแท๊กซี่ก็ร่วมครึ่งชั่วโมง รถบัสก็ร่วม 40 นาทีเลยทีเดียว
ถ้าอยากไปจริงๆ ผมแนะนำให้จัดไว้ในเส้นทางเดียวกับ
วัดหวังต้าเซียน สำนักชีชีหลินและสวนหนานเหลียน
เพราะเส้นทางเดินรถมินิบัส 1 , 1A ไปไซกุงจะอยู่ใกล้โซนนี้ที่สุด
ช้วนเก๋มี 2 สาขา แต่สาขาที่วิวดีกว่าเป็นสาขาที่ไกลจาก ท่ารถบัส และท่าเรือ
ถ้าใครนั่งรถไปจนสุดสาย เดินเลียบริมเขื่อนมาจะเจอสาขาดั้งเดิม ( จุดสีแดง )ก่อน
สาขา 2 จะมีป้ายร้านสีเขียว มีที่นั่งหน้าร้านและชั้น 2 แนะนำให้ไปนั่งชั้น 2 ครับ
ร้านแนะนำในไซกุง มีหลายร้านครับ
แต่มีร้านนี้ที่ได้ Michelin Stars และ มีเมนูภาษาอังกฤษ
แถมเมื่อปีที่แล้ว Celebrity Chef ชื่อดัง Anthony Bourdain ก็เพิ่งมาเยี่ยมเยือน
ถ่ายทำรายการ No Reservation ของตัวเองอีกตะหาก
ผมเลยเลือกไปตามรอยดีกว่า ไปมั่วเองเกรงจะผิดหวังครับ
หน้าภัตตาคารในไซกุง จะเรียกลูกค้าด้วยแทงค์บรรจุสิ่งมีชีวิตจากใต้ทะเล
ให้เห็นกันไปเลยว่า ของทะเลของเค้านั้นสดจริงอะไรจริง
แต่ถึงอย่างไรเกรดของอาหารในจานย่อมแตกต่างไปตามราคาครับ
หากคุณเลือกอาหารเซ็ทที่มีจัดไว้ ขนาดของกุ้ง หอย ปู ปลาและความสด
ย่อมไม่เท่าคุณเลือกจากแทงค์หน้าร้านอย่างแน่นอน
หอยงวงช้าง Geoduck Clam ราคาต่อตัวก็สองพันกว่าขึ้นไป
เหมาะเอามาทำซาชิมิ หรือ ผัดกับผัก เห็นขนาดและหน้าตาแล้ว ผมกับแฟนขอปฏิเสธ
เพราะเรามีเมนูในใจกันอยู่แล้ว เจ้าหอยนี่ ถ้ามากันสัก 4-5 คนถึงจะเหมาะสั่งมาทาน
หอยเชลล์ Scallop ก็ยังไม่ใช่เป้าหมายของเราในทริปนี้
หอยหวาน Spot Babylon หรือ Thai Escargot เมนูที่แนะนำของที่นี่คือ
Stir-fried with XO sauce เมนูนี้ขอผลัดไปไว้ทริปหน้า
ร้านอาหารในไซกุง แทบทุกร้าน มี Set Menu สำหรับ 2 และ 4 คนให้เลือก
ราคาจัดได้ว่าสมเหตุสมผลครับ
ตัวอย่างเมนูสำหรับ 2 คนนะครับ
มีเมนูมาให้เลือก 4 จาก 9 อย่าง Set ละ 348 เหรียญ รวมผลไม้ไม่รวมเครื่องดื่ม
ถ้าดื่มไม่เก่งก็ไม่เกินคนละพันบาท ราคานี้ไม่บวก Service Charge นะครับ
หมายความว่า เช็คบิลเรียบร้อยก็ทิปพนักงานเสิร์ฟไปสัก 20 เหรียญก็กำลังดี
เมนูที่แทบทุกคนต้องสั่งคือ เมนูแรกล็อปสเตอร์ผัดชีสซอส ราดบะหมี่ลวก
Saute Lobster with Cheese Sauce Noodle Underneath
แต่ผมเล็งเมนูที่อยากทานมาตั้งแต่เมืองไทยแล้วครับ
เซ็ทเมนูที่เค้าจัดมาให้ผมก็เลยไม่สน เลือกเองจากตู้เลยดีกว่า
หลายๆคน ที่ธรรมะธรรมโม อาจจะรู้สึกว่าบาปกรรม
เนื่องจากเราเป็นผู้ตัดสินพิฆาตสิ่งมีชีวิต
แต่สำหรับผม สิ่งที่เกิดมาเป็นอาหารก็คืออาหารครับ
ชีวิตไม่เคยเบียดเบียนใคร ทำบุญทำทานตามสมควร
เลยไม่รู้สึกกระดากกับเรื่องการทาน Live Seafood เท่าไร
เลือกของที่อยากทานเสร็จ ก็ขึ้นมารอบนชั้น 2
ผมไปถึงช่วงบ่ายสองวันอาทิตย์ ไม่ค่อยมีคนครับ นั่งกันสบายๆไม่โหวกเหวก
คนจะเยอะช่วงเที่ยง เพราะที่นี่มีติ่มซำด้วย
กับอีกเวลาคือ ช่วงอาหารเย็น คนจะเยอะมากโดยเฉพาะศุกร์ เสาร์
วิวจากชั้น 2 ได้บรรยากาศหมู่บ้านประมงดีทีเดียวครับ
ที่ไม่สั่งในเซ็ทเมนู ก็เพราะเค้าไม่จัดวัตถุดิบที่ผมอยากทานไว้น่ะสิครับ
อย่างแรกที่เลือกคือ หอยไม้ไผ่ Bamboo Clam จัดมา 4 ตัว
ขนาดตัวความยาวก็ประมาณ คืบหนึ่งครับ
จะสั่งให้ทำอะไรนั้น ศึกษาจากรีวิวมาเป็นอย่างดี
เมนูนี้ต้อง Stir-Fried with Black Bean and Green Pepper เท่านั้น
ร้านนี้ดีตรงที่มีพนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้มาบริการคนต่างชาติครับ
ผมเลยสั่งให้ปรุงแบบ more spicy เผ็ดๆหน่อยว่างั้นเถอะ
รสชาติเลยมาแบบเข้มข้น แต่ไม่เผ็ดมากเท่าบ้านเราหรอกครับ ไม่ต้องห่วง
อร่อยมาก เนื้อหอยหนึบแน่น แต่ไม่เหนียวเหมือนปลาหมึก ไม่นุ่มแบบหอยเชลล์
แนะนำเลยครับ ผมสั่ีงไป 4 ตัว จานนี้น่าจะประมาณพันบาท
วัตถุดิบอย่างที่ 3 ที่อยากทานและเป็นไฮไลท์ของมื้อนี้คือ
กุ้งมังกรเจ็ดสี Australian Lobster
ตอนสั่งก็บอกกับเฮียที่ดูแลลูกค้า คอยหยิบสัตว์ทะเลเหล่านี้ออกจากแทงค์
เป็นภาษาจีนกลางที่พอรู้งูๆปลาๆว่า ปู๋ไท่ตั่ว หรือ ไม่ต้องเลือกตัวใหญ่นักนะ
เค้าก็ล้วงออกมาตัวหนึ่ง ผมก็ถามราคา แกก็ตอบเป็นจีนกลางแปลว่า 500 เหรียญ
โอเคครับ สองพันบาท ไม่รวมค่าปรุงซึ่งจะคิดต่างหากตามจำนวนคน
ล็อบสเตอร์เป็นๆ จะทำอะไรไปเสียมิได้นอกจาก ทานสดหรือ Sashimi
ตอนมาเสิร์ฟ หนวดยังกระดุกกระดิกอยู่เลยครับ
เนื้อใส หวานมาก ไม่มีความคาวเลยแม้แต่น้อย สมราคาครับ
ในเซ็ทเมนู มีเมนูล็อบสเตอร์ด้วย แต่คาดว่าคงเป็นตัวเล็กและไม่ได้มาทั้งตัว
และไม่มีให้เลือกทานแบบ ซาชิมิ จึงคิดว่าความสดคงไม่เท่าเลือกเองจากตู้เป็นแน่
จานนี้ present ได้สวยงามมากครับ
พอทานไปซาชิมิใกล้จะหมด พนักงานจะเข้ามาถามว่า หัวกับหางที่เหลือจะเอาไปทำอะไรทานต่อดี
แต่ไม่ได้ทำฟรีนะครับ ต้องเสียค่าปรุงอีก 1 ชนิด สรุป วัตถุดิบ 3 อย่าง เราจ่ายค่าปรุงไป 4 รายการ
ผมเลยเลือกให้ทำเมนูแนะนำ คือผัดชีสซอส ราดบะหมี่ลวก เพื่อนหลายคนก็บอกเมนูนี้อร่อยสุดๆ
เนื้อในหัวกับหาง เยอะมากครับ แต่ผมกับแฟนลงความเห็นว่า เมนูนี้ไม่ถูกปากเรา เลี่ยนไปหน่อย
ถ้าสั่งเป็นทอดพริก กระเทียม น่าจะอร่อยมากทีเดียว
สนนราคาที่จ่ายไป 1256 เหรียญ ตกห้าพันบาท ราคารุนแรงทีเดียวครับ
อ้อลืมไป ว่ามีผัดผักอีกจาน ลืมเก็บภาพมา
ปริมาณอาหารที่ผมสั่ง น่าจะทานได้ 4-5 คนเลยทีเดียว
เพราะสองคนไม่สั่งข้าวทาน แล้วทานจานกุ้งมังกรกะบะหมี่ไม่หมด
พยายามแกะเนื้อมาทาน หมี่แทบไม่ได้แตะเลย ก็ทานกันไม่ไหวแล้วครับ
3 รายการบน เป็น ค่าปรุงอาหารนะครับ
แค่ค่าปรุงก็ตกเกือบพันบาทแล้วครับ ค่าวัตถุดิบประมาณเกือบสี่พัน เดาๆเอานะครับ
ใครอ่านออกช่วยสงเคราะห์หน่อยก็ดี ผมรู้แต่ว่าเลข 5 น่าจะเป็นราคากุ้งมังกร
ข้างล่างมีเบียร์ กับ โค้ก อย่างละขวด
ในเล่มเมนู จะมีราคาค่าปรุงซึ่งจะคิดเริ่มต้นที่ 2 คนนะครับ
ไม่ว่าจะสั่งวัตถุดิบอะไร จะคิดค่าปรุงต่างหาก
จริงๆผมจะสั่ง Uni คือ หอยเม่น ให้ทำ Sashimi แต่คิดแล้ว
หอยเม่นตัวละไม่เท่าไร ถ้าทาน 2 ตัวแต่ต้องเสียค่าทำอีกสองร้อยบาท เลยเปลี่ยนใจไม่ทาน
ผมไม่ละเอียดเอง ไม่ถ่ายเมนูมา เลยต้อง Google มา ได้ภาพมาจาก foodnut.com ครับ
พอเป็นไอเดียได้ หากใครอยากไปทาน
ทานเสร็จก็ไปเดินเล่นดูบรรยากาศสะพานปลากันเสียหน่อย
เพราะตอนลงรถผมไม่ได้ลงที่ท่ารถสุดสาย แต่ลงก่อนตามแผนที่ในไอโฟน
ลงแล้วเดินตัดตรงเข้ามาหาร้านเลย หิวครับเลยเที่ยงมาแล้ว
บนริมเขื่อนมีแผงขายอาหารทะเลตากแห้ง มีเพื่อนบอกว่า ของดีและราคาไม่แพง
แต่เนื่องจากคนขายน่าจะเป็นคนโลคัลแท้ๆ ดูแล้วคงต้องต่อราคากันเมื่อยมือ
ดีไม่ดีโดนฟันหัวแบะอีกตะหาก เลยไม่ซื้อดีกว่า
ไว้ฝึกภาษากวางตุ้งเพื่อการต่อรองราคาของให้ดีกว่านี้เมื่อไร จะไปทดสอบครับ
ที่น่าสนุกเห็นจะเป็นบริเวณ ท่าเรือนี่ละครับ
เต็มไปด้วยเรือชาวประมงที่บรรทุกกุ้ง หอย ปู ปลา นอกจากอยู่ในกระบะในเรือแล้ว
ยังมีแอบเก็บไว้ในกระชังผูกข้างเรืออีกก็มี
คนซื้อจะอยู่ด้านบน ตะโกนลงไปถามราคา ต่อราคากันโหวกเหวกดีครับ
ผมเห็นบางคนใส่เสื้อกุ๊กมาหาซื้อปลาเข้าร้านเดี๋ยวนั้นเลยก็มี
ต่อรองราคาเสร็จ มีบริการทำปลาขอดเกล็ดให้เสร็จเรียบร้อย
แล้วคนขายก็จะใส่กระชอนที่ต่อก้านยาวๆที่เห็นอยู่ด้านหลังคนทำนั่นละครับส่งให้ลูกค้า
ลูกค้าก็ใส่เงินในกระชอน คนขายก็ใส่ตังค์ทอนคืนกลับมา ง่ายๆดีครับ
ทิปเพิ่มเติมสำหรับคนที่อยากไปทานอาหารทะเลสดๆที่ไซกุงนะครับ
ผมแนะนำให้เซฟรูปภาพของอาหารที่อยากทานไป
และถามราคาวัตถุดิบทุกชนิดก่อนนะครับ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าคนฮ่องกงค่อนข้างติดนิสัยฟันนักท่องเที่ยว
ฝึกภาษาจีนกลาง หรือ กวางตุ้งไปบ้างก็จะดีมาก เอาแค่ตัวเลขก็พอ
ถามก่อนดีกว่า ผมเองยังรู้สึกว่าโดนไปนิดหน่อยพอเลือดซิบๆ เพราะดันถามราคาแค่กุ้งมังกร ^^
แต่พอรับได้ เพราะถ้าเทียบราคากับคุณภาพ ผมว่าทานแบบนี้ที่บ้านเราไม่ได้แน่นอนในราคานี้
สรุปว่า แนะนำครับ ร้านนี้ สั่งดีๆ สั่งเป็น ไม่ผิดหวังครับ
See you later !