เริ่มจากออกเดินทางโดยสายการบิน Cathay Pacific แวะเปลี่ยนเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงเดินทางถึงสนามบินคันไซเช้าอีกวันนึง ประมาณ 7 โมงเช้า

แพลนแรกเราจะไปเที่ยวที่โกเบกันก่อนโดยจะค้างที่โกเบคืนนึง ก็เลยจัดกระเป๋าเล็กติดตัวไปส่วนกระเป๋าใหญ่จัดการส่งไปโรงแรมในโอซาก้า

จุดส่งกระเป๋าก็อยู่ชั้นผู้โดยสารขาเข้าเลยครับ รับกระเป๋าออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปสุดตึกเลย

รูปเคาน์เตอร์ที่ส่งกระเป๋าค่าส่งใบละ ¥1,950

ส่งกระเป๋าเสร็จก็จัดการซื้อบัตร Kansai Thru Pass แบบ 3 วันเก็บเอาไว้ใช้วันหลัง ก็ซื้อที่ Travel Desk ในโถงขาเข้าได้เลย

หรือจะซื้อ pass อื่นๆก็ซื้อที่นี่ได้นะครับ

ขอยืมรูป Travel Desk ในสนามบินจาก google

ส่วนการเดินทางไปโกเบเช้านี้เราจะไปกันด้วยรถ Limousine Bus

ก็เดินออกมาซื้อตั๋วจากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติได้เลย หน้าจอสามารถเปลี่ยนให้แสดงเป็นภาษาอังกฤษได้

ค่าโดยสารไปโกเบผู้ใหญ่คนละ ¥1,950 เด็ก ¥980

ซื้อตั๋วเสร็จก็มายืนรอรถ Limousine Bus ไปโกเบ รอที่ป้ายหมายเลข 6 ครับ

นั่งมาชั่วโมงนิดๆก็ถึงโกเบ รถก็มาส่งที่หน้าห้าง SOGO ฝั่งตรงข้ามสถานี Sannomiya

ถึงแล้วก็เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรมกันก่อน ที่โกเบเราพักกันที่ Toyoko Inn สาขา Kobe Sannomiya no.2 อยู่ไม่ไกลจากสถานี Sannomiya และจุดที่เราลงรถกัน เดินไม่ถึง 5นาที

เก็บสัมภาระไว้ที่โรงแรมกันเสร็จก็ไปเที่ยวกันเลย

ที่แรกที่จะไปก็คือ The Great Hanshin-Awaji Earthquake MemorialDisaster Reduction and Human Renovation Institution (DRI)

จากเวปไซต์บอกวิธีเดินทางว่าให้นั่งรถไฟสาย Hanshin มาลงที่สถานี Iwaya แล้วเดินต่ออีก 10 นาที หรือนั่งรถเมล์สาย 29 จากหน้าสถานี Sannomiya

แต่เราคิดว่าทางที่สะดวกที่สุดคือเรียกแท๊กซี่ไปครับ ค่ารถแท๊กซี่จากหน้าสถานี Sannomiya มาที่ Museum จ่ายไป ¥1,000 พอดิบพอดี

แท๊กซี่นั่งได้คันละ 4 คน ถ้าไปรถเมล์ ค่ารถเมล์คนละ ¥210

มาถึงซื้อบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่คนละ ¥600 เด็ก ¥300 แล้วเจ้าหน้าที่ให้ขึ้นลิฟท์ไปเริ่มต้นที่ชั้น 4

ห้องแรกคือ 1.17 Theater ฉายภาพยนต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ชาวโกเบไม่มีทางลืมเกิดขึ้นในเช้าตรู่วันที่ 17 มกราคม 1995 เป็นเช้าตรู่ที่เงียบสงบในเวลา 05:46 จู่ๆก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 แมกนิจูดศูนย์กลางอยู่ที่ตอนเหนือของเกาะ Awaji ห่างจากโกเบไปประมาณ 20 กม.ถาพยนต์ฉายให้เห็นความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นในเช้าวันนั้น อาคารบ้านเรือนพังทลายลง รถไฟตกจากราง ถนนแยกออกจากัน ทางด่วนพังทับซ้อนกันลงมา มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้หกพันกว่าคน

ออกจาก 1.17 Theater ก็จะเดินผ่านสภาพจำลองของเมืองโกเบในวันนั้นเป็นซากบ้านเรือนที่เสียหายจากแผ่นดินไหว

แล้วก็เข้าไปใน The Great Earthquake Hall ห้องนี้มีหูฟังเสียงบรรยายภาษาอังกฤษให้ฟัง จะแสดงภาพยนต์อีกเรื่องนึงเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวในเช้าวันนั้นแต่เธอต้องสูญเสียสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวไปกับภัยพิบัติในครั้งนี้ ภาพยนต์บรรยายถึงความสูญเสียในวันนั้น, การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของชาวญี่ปุ่น, และการสร้างเมืองโกเบขึ้นมาใหม่หลังจากภัยพิบัติอันเลยร้ายในครั้งนั้น

ออกจากห้องแสดงภาพยนต์ก็ลงมาที่ชั้นสาม เป็นห้องที่แสดงข้าวของที่เก็บได้จากซากปรักหักพังและเครื่องมือที่ใช้ในการช่วยเหลือ

ลงมาอีกชั้นนึง (ชั้นที่สอง) จัดแสดงการเกิดแผ่นดินไหว พวกรอยเลื่อนต่างๆทั่วโลก, การป้องกันตัวเองจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

รวมทั้งมีรายการสิ่งของที่ต้องเตรียมไว้รับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน

เจ้าหน้าที่กำลังอธิบายการเกิด Liquefaction หรือการที่ดินในสภาพของแข็งเมื่อถูกแรงสั่นสะเทือนแล้วจะแปรสภาพไปเป็นของเหลวทำให้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ทำเสาเข็มลึกจะพังลงมา

ออกจาก museum ก็จะกลับไปตั้งต้นใหม่ที่หน้าสถานี Sannomiya

ออกมายืนรอแท๊กซี่ที่ริมถนนแต่รถเมล์ผ่านมาพอดี ก็เลยพากันขึ้นรถเมล์กลับมา

สถานที่ต่อไปที่จะไปเที่ยวคือ Kobe Animal Kingdom

จากสถานี Sannomiya เดินไปต่อรถสาย Portliner ลงที่สถานี K Computermae

ค่าโดยสาร Portliner ผู้ใหญ่ ¥280 เด็ก ¥140 มาถึงสถานี K Computermae ทางเข้า Kobe Animal Kingdom อยู่เชิงบันไดเลย

ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ ¥1,500 เด็ก ¥800

เดินเข้ามาข้างในบรรยากาศสดชื่น เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์

มีโซนให้เดินเข้าไปป้อนอาหารสัตว์และสามารถสัมผัสกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด

กระต่ายน้อย

นกทูแคน (Toucan)

ข้างในมีอาหารแบบบุฟเฟต์ ผู้ใหญ่คิดหัวละ ¥1,380 เด็ก ¥800

นั่งทานอาหารในสวนดอกไม้บรรยากาศ ฟินสุดๆ

การแสดงโชว์ของนก (Birdshow)

บรรยากาศบริเวณสระน้ำ

ออกจาก Animal Kingdom ก็นั่ง Portliner กลับมาที่ Sannomiya แล้วต่อรถ city loop bus ไปที่ Kobe Port Tower

เดินดูร้านขายของใน Kobe Harborland

ซื้อของฝากกันเล็กน้อย ก็ไปดูวิวบน Mt. Maya ขึ้นไปทาง Maya Viewline

ก็เดินจาก Harborland มาที่สถานี JR Kobe ต่อรถไฟกลับมาที่ Sannomiya แล้วขึ้นรถเมล์สาย 18 จากหน้าสถานี Sannomiya มาลงที่หน้าสถานี Maya Cable Car

ซื้อตั๋วไปกลับ cablecar รวม ropeway ผู้ใหญ่ ¥1,540 เด็ก ¥770

หนึ่งในสามสุดยอดวิวกลางคืนของญี่ปุ่น วิวจาก Mt.Maya Kikuseidai Platform

ยืนตากลมหนาวอยู่สักพักก็นั่งกระเช้าลงมาทางเดิมต่อด้วยรถราง มาที่สถานีข้างล่าง ยืนรอรถสาย 18 อีกสักพักแล้วก็กลับมาที่สถานี Sannomiya

มื้อเย็นก็เดินไปร้านยอดนิยม Steak Land ลองชิมเนื้อโกเบ ตามรอยเพื่อนๆ

จานแรกสลัดผักกับอาหารเรียกน้ำย่อย

เชฟกำลังปรุงอาหารให้ชม

อร่อย..ครับ

วันรุ่งขึ้นก็เช็คเอ๊าท์แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม วันนี้แพลนว่าจะใช้ Kansai Thru Pass เป็นวันแรกก็เดินไปขึ้น subway ที่สถานี Sannomiya ไปที่ Shin-Nagata

ออกจากสถานีเดินมาหน่อยนึงก็ถึงที่ตั้งของTetsujin 28-go หรือหุ่นเหล็กหมายเลข 28 แวะมาถ่ายรูปกันสักพักนึง

ได้เวลาพอสมควรก็เดินกลับไปที่สถานีรถไฟคราวนี้ซื้อตั๋ว JR จาก Shin-Nagata ไปที่สถานี Maiko

ออกจากสถานีมีทางเดินไปที่สะพาน Akashi Kaikyo เดินมาชมสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก

สะพาน AkashiKaikyo มีความยาวของสะพานทั้งสิ้น 3,911 เมตร ช่วงกลางสะพานยาว 1,991 เมตร

สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1998 เชื่อมระหว่างระหว่างเมือง Kobe ข้ามช่องแคบ Akashi ไปที่เมือง Iwaya บนเกาะ Awaji

ข้างสะพานมี Bridge Exhibition Center อาคารจัดนิทรรศการแสดงขั้นตอนและวิธีการก่อสร้างสะพาน

เสียค่าเข้าชม ¥300.-

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2557 11:27:10 น.		0 comments
Counter : 3176 Pageviews.
Share Tweet