ปัสสาวะเป็นฟองต้องใส่ใจ อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณของหลายโรค
ฉี่เป็นฟอง หรือปัสสาวะมีลักษณะแปลกไป ไม่ว่าจะเป็นสีปัสสาวะผิดปกติ หรือปัสสาวะออกมาพร้อมกับฟองสีขาว ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณสุขภาพได้ทั้งนั้น ถ้าลองสังเกตปัสสาวะของตัวเองแล้วมักจะเห็นว่าปัสสาวะเป็นฟองอยู่บ่อยครั้ง ภาวะนี้อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน โดยบางเคสการที่ฉี่เป็นฟองอาจไม่ใช่สัญญาณบอกโรค แต่เป็นเพียงความผิดปกติเล็กน้อยทางกายภาพ พฤติกรรมการบริโภค รวมทั้งปัจจัยทางเคมีกับสุขภัณฑ์ ทว่าในบางเคส การปัสสาวะออกมาเป็นฟองก็บอกโรคได้เช่นกัน อย่างโรคไต ภาวะครรภ์เป็นพิษ การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น แต่ก่อนจะวิตกกังวลมากเกินไป ลองมาเช็กกันค่ะว่า ปัสสาวะเป็นฟองเกิดจากอะไรได้บ้าง แล้วคุณเข้าข่ายเสี่ยงไหม
ปัสสาวะเป็นฟองเกิดจากอะไร
อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นแล้วว่า อาการปัสสาวะเป็นฟองเกิดได้ทั้งในขณะภาวะร่างกายเป็นปกติ และภาวะที่ร่างกายผิดปกติ ซึ่งก็จำแนกได้ดังนี้
อาการฉี่เป็นฟองในภาวะปกติ เกิดจาก
ปัสสาวะแรง จากการเบ่งหรืออกแรงขณะปัสสาวะ หรืออาจเป็นเพราะกลั้นปัสสาวะไว้นานจนทำให้แรงดันของท่อปัสสาวะเพิ่มขึ้น
ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีสารทำให้ปัสสาวะเป็นฟอง เช่น เบียร์ เป็นต้น
ดื่มน้ำน้อยจนเกิดภาวะขาดน้ำ
โปรตีนที่ผสมอยู่มากเกินไปในปัสสาวะ ทำปฏิกิริยากับน้ำจนเกิดเป็นฟอง โดยเฉพาะเพศชายที่เพิ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์ อาจมีการปนเปื้อนของอสุจิซึ่งอสุจิก็มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบหนึ่ง หรือในผู้ที่กินโปรตีนมากกว่าปกติ เช่น นักเพาะกาย คนเล่นกล้าม
ยาบางชนิดที่มีสารเคมี เช่น ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม
ออกกำลังกายหรือใช้แรงอย่างหนัก
ใช้สารเคมีล้างโถส้วมก่อนปัสสาวะ
อาการฉี่เป็นฟองในภาวะผิดปกติ เกิดจาก
มีโปรตีนในปัสสาวะสูงมากจนเสี่ยงโรคไต ทั้งนี้ควรตรวจสอบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตัวบวม มือ เท้า บวม ฉี่เป็นเลือดและมีฟองมาก มีอาการอ่อนเพลีย ร่วมกับอาการปวดหลังและบั้นเอว
ภาวะโปรตีนสูงในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเสี่ยงกับอาการครรภ์เป็นพิษ
ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
ภาวะทางเดินกระเพาะปัสสาวะเชื่อมต่อกับลำไส้ทะลุ (Vesicointestinal fistula) และหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะน้อย ปัสสาวะบ่อย สีปัสสาวะขุ่น ทั้งยังรู้สึกปวดแสบเมื่อปัสสาวะ หรือมีไข้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์นะคะ
ปัสสาวะเป็นฟอง รักษายังไง
สำหรับการรักษาอาการปัสสาวะเป็นฟอง อาจทำได้โดยควบคุมการบริโภคอาหาร ยา เครื่องดื่ม และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ดังนี้
1. จำกัดการบริโภคโปรตีนให้ร่างกายได้รับโปรตีนโดยเฉลี่ย 45-70 กรัมต่อวัน
2. ดื่มน้ำให้มากขึ้น โดยสังเกตความต้องการน้ำของร่างกายได้จากสีของปัสสาวะ หากปัสสาวะมีสีอ่อนเกือบใส แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอแล้ว ทว่าหากปัสสาวะยังมีสีเหลืองจัด นั่นแปลว่าร่างกายต้องการน้ำเพิ่มขึ้น
3. ลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นอาการความเสี่ยงโรคไต และอาจทำให้ไตทำงานหนักได้
4. หลีกเลี่ยงยาบางชนิดที่อาจเกิดการตกตะกอนจนก่อฟองในปัสสาวะ เช่น ยาปฏิชีวนะ จำพวกเจนตามัยซิน คานามัยซิน หรือยาซัลฟา และยาที่เข้าพวกโลหะหนัก เป็นต้น
5. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ควรหมั่นสังเกตปัสสาวะตัวเองด้วยว่า ปัสสาวะเป็นฟองบ่อยแค่ไหน แล้วฟองหายไปได้เองหรือยังคงเป็นฟองค้างอยู่นาน (โดยอาจตรวจปัสสาวะด้วยการตวงปัสสาวะเพื่อมาสังเกตก็ได้) ซึ่งโดยปกติแล้วฟองจะหายไปได้เองภายในไม่กี่นาทีนะคะ
และในเคสที่ปัสสาวะเป็นฟอง 2-3 ครั้งติดกัน รวมทั้งมีอาการผิดปกติทางร่างกายอย่างอื่นร่วมด้วย ควรรีบไปเช็กความผิดปกติกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน เราจะได้รู้ต้นสายปลายเหตุและรักษาได้ทัน ในกรณีที่ปัสสาวะเป็นฟองเป็นสัญญาณบอกโรค
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หาหมอ โรงพยาบาลไทยนครินทร์
Create Date : 09 สิงหาคม 2558 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2558 6:57:43 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3410 Pageviews. |
|
|
|
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ