อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
แท็กซี่สุวรรณภูมิ เสนอเก็บค่าระวางสัมภาระเพี่มแทนราคาเหมา

แท็กซี่สุวรรณภูมิ เสนอเก็บค่าระวางสัมภาระเพิ่มแทนราคาเหมา





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

เจาะข่าวเด่น เสียงจากแท็กซี่สุวรรณภูมิ เสนอเรียกเก็บค่าระวางสัมภาระ คิดเพิ่มจากกระเป๋าผู้โดยสาร ฟรี 15 กก. แรก แทนการคิดราคาเหมาจ่าย

ตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากอยู่ในขณะนี้ กับข่าวหนุ่มญี่ปุ่นโพสต์แฉแท็กซี่สุวรรณภูมิ มีระบบจัดการที่ไม่ดี จะคิดราคาเหมา ไม่ยอมเปิดมิเตอร์ โดยอ้างว่าผู้โดยสารเลือกรถใหญ่เอง ทั้งที่พนักงานเป็นคนกดบัตรคิวให้ ไม่ได้เลือกเอง เหมือนโดนโกงจากแท็กซี่สนามบิน แม้จะทักท้วงแต่เจ้าหน้าที่ก็ดูเหมือนจะไม่สนใจและไม่อยากจะทำงาน (อ่านข่าวก่อนหน้านี้ คลิก) จนเจ้าหน้าที่ต้องออกมาเร่งรัดปราบปรามแท็กซี่สนามบินที่ทำผิดกฎ และปรับแท็กซี่ที่มีปัญหาเป็นเงิน 1,000 บาท ก่อนจะมีภาพป้าย "งดรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น จากสมาคมผู้ขับรถแท็กซี่เพื่อไทยสุวรรณภูมิ" ถูกแชร์ว่อนเน็ต จนเกิดเป็นประเด็นอีกระลอก

          ล่าสุด (21 มกราคม 2558) รายการ เจาะข่าวเด่น ตอน "เสียงจาก TAXI สุวรรณภูมิ" ได้เชิญตัวแทนคนขับแท็กซี่ที่สุวรรณภูมิมาสัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยแขกรับเชิญทั้ง 3 ราย เป็นคณะทำงานในการหาทางจัดระเบียบแท็กซี่สุวรรณภูมิก่อนหน้านี้ด้วย



ทั้งนี้ ตัวแทนคนขับแท็กซี่สุวรรณภูมิ เผยว่า เรื่องป้ายงดรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น เขาก็เพิ่งเคยเห็น เพราะวันนี้ทั้งวันเขาต้องตอบข่าวเกือบทุกช่องกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณ "Koki Aki" นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายดังกล่าว โดยยืนยันว่าป้ายดังกล่าวไม่ใช่ของพวกเขา พวกเขาไม่ได้ไม่พอใจผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น แต่ก็มีบ้างที่ไม่พอใจคุณ  "Koki Aki" เนื่องจากถูกโพสต์แฉในโลกโซเชียล ซึ่งไม่ได้ด่าแค่แท็กซี่ แต่ด่าไปถึงการท่าอากาศยาน ด่าไปถึงประเทศไทยว่าเป็นเรื่องน่าอาย เพราะทุกคนก็มีอารมณ์ แต่เรื่องจะให้แท็กซี่สุวรรณภูมิไปต่อต้านผู้โดยสารญี่ปุ่นเลยนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธผู้โดนสาร



          จากนั้นพิธีกรได้สอบถามเรื่องการขึ้นแท็กซี่ในสุวรรณภูมิ ว่าต้องมีการเข้าแถว รับบัตรคิว เรียกเก็บเงินผู้โดยสารเพิ่ม 50 บาท แล้วทำไมถึงจะคิดราคาเหมาจ่ายอีก ซึ่งตัวแทนคนขับแท็กซี่ก็เผยว่า ปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิ มีมาตั้งแต่เริ่มเปิดแล้ว เมื่อปี 51 กระทรวงคมนาคมได้ออกกฎหมายห้ามเหมาจ่ายในพื้นที่นอกเขต เหลือเฉพาะมิเตอร์ จากนั้นพอค่าเชื้อเพลิงเพิ่ม ต้นทุนของแท็กซี่ก็สูงขึ้น แต่พอมีการปรับอัตราค่าโดยสาร มันก็ไม่ตอบสนองอยู่ดี เพราะมันไม่สะท้อนต้นทุน คือแท็กซี่ในสุวรรณภูมิเป็นพื้นที่พิเศษ มีต้นทุนอยู่ที่ กม. ละ 11 บาท แต่ค่าโดยสารได้แค่ กม. ละ 5.50 บาท ซึ่งการปรับราคามิเตอร์ของกรมขนส่งทางบก เขาคิดเฉลี่ยจากกลุ่มของรถเช่า ไม่ใช่รถส่วนบุคคล แต่แท็กซี่สุวรรณภูมินั้น กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ เป็นรถส่วนบุคคล แล้วการวิ่งรถนั้น จะวิ่งได้ 4 เที่ยว ต่อ 12 ชั่วโมง ซึ่งไม่สะท้อนต้นทุนอยู่ดี คือไม่คุ้ม

ด้วยเหตุดังกล่าว ทางกลุ่มจึงได้มีข้อเสนอในการคิดค่าระวางสัมภาระ แบบของเครื่องบิน จากเดิมที่บริการให้ฟรีมาโดยตลอด เป็นคิดเงินเพิ่มจากค่าโดยสาร เพราะผู้โดยสารจากสุวรรณภูมิ 99 เปอร์เซ็นต์ มีกระเป๋าเดินทางมาด้วย ซึ่งทำให้เสียเชื้อเพลิงมากขึ้น ในเมื่ออัตราค่าโดยสารคิดให้เฉพาะเป็นรถนั่ง ไม่ได้คิดเรื่องที่เป็นรถบรรทุกสัมภาระ นี่จึงเป็นข้อเสนอที่มีมาตั้งแต่สมัยอยู่สนามบินดอนเมืองแล้ว สุวรรณภูมิยังไม่เปิด แต่ก็ยังไม่ถูกหยิบยกขึ้นมา

โดยข้อเสนอ Taxi สุวรรณภูมิ เรื่องเก็บค่าระวางสัมภาระ (กระเป๋าเดินทาง) มีดังนี้

          - ใบแรก (ไม่เกิน 15 กก.) : ไม่คิดราคา

          - ใบที่ 2-3-4 : คิดราคาเหมาใบละ 30 บาท ทุกขนาด

          - ใบที่ 5-6 คิดราคาเหมาใบละ 50 บาท ทุกขนาด

          - ใบที่ 7 คิดราคาเหมาใบละ 80 บาท ทุกขนาด



ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนั้น มาจากอัตราของสายการบิน ที่คิดค่ากระเป๋า กิโลกรัมแรก 50 บาท พวกเขาจึงคิดว่า หากทางกรมขนส่งทางบกจะให้พวกเขาใช้มิเตอร์ราคาปัจจุบัน ไม่มีการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อลดภาระให้ประชาชน ก็ควรคืนมาให้กับแท็กซี่ด้วย ในเมื่อเราต้องโหลดเพิ่มตรงนี้ ก่อนหน้านี้เคยขอค่า Service Charge เพิ่มจาก 50 เป็น 100 บาท ก็ไม่ให้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องการตอบโจทย์คือ การคิดค่าระวางกระเป๋าเพิ่ม ซิ่งเฉลี่ยแล้วก็จะมีกระเป๋าประมาณ 3-4 ใบ คิดเป็นเงินเพิ่มประมาณ 90 บาท รวมค่าโดยสาร ค่าบริการเรียกรถ ค่าทางด่วน ค่าระวางกระเป๋าแล้ว เดินทางแต่ละครั้งก็จะไม่เกิน 500 กว่าบาท

          สำหรับปัญหาแท็กซี่คิดราคาเหมา 600-700 บาท ต่อเที่ยวนั้น ยอมรับว่าตั้งแต่เปิดสนามบินมา ก็มีกรณีแบบนี้จริง ๆ และมีมาตั้งแต่สนามบินดอนเมืองแล้ว เขาเองก็ทำด้วย ทำทุกครั้ง พร้อมบอกว่า พวกเขาไม่ผิด เพราะเขาต้องแบกของเพิ่มด้วย บางครั้งผู้โดยสารมา 6 คน กระเป๋า 6 ใบ เขาก็ต้องรับ บอกให้แยกไปอีกคัน ผู้โดยสารก็ไม่ยอม ให้กดมิเตอร์ด้วย เขาก็จำต้องยอมไปทั้งน้ำตา

เมื่อถูกถามว่า ทำไม่ไม่เสนอให้กำหนดจำนวนผู้โดยสารต่อคันล่ะ คนขับแท็กซี่ก็บอกว่า เสนอทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้การตอบรับ ส่วนกรณีของคุณ "Koki Aki" เขาเป็นผู้โดยสารคนเดียว กระเป๋า 2 ใบ น้ำหนักกระเป๋ามากพอสมควร เขาซื้อของมาขายในประเทศไทยด้วย แบกน้ำหนักมาทำธุรกิจ แล้วจะมาลดต้นทุนกับแท็กซี่ แต่กรณีของแท็กซี่รายดังกล่าวนั้น ก็โดนลงโทษไปแล้ว

          ในช่วงท้ายรายการ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรก็ได้ฝากคำถามถึงผู้ชมว่า เห็นด้วยหรือไม่ ที่แท็กซี่สุวรรณภูมิจะมีการคิดราคาตามมิเตอร์ปกติเหมือนแท็กซี่ข้างนอก แต่ขอเก็บค่าระวางสัมภาระเพิ่มจากผู้โดยสารตามข้อเสนอข้างต้น และค่าบริการเรียกรถของสนามบินอีก 50 บาท ซึ่งหากผู้โดยสารไม่ได้มีสัมภาระเยอะ ก็ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด

จากนั้นพิธีกรก็ถามต่อว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาขนาดทำมาหากินไม่ได้เลยเหรอ คนขับแท็กซี่ก็บอกว่า มันไม่ได้เป็นปัญหาขนาดนั้น แต่แทนที่เขาจะได้รับเงินพอเหมาะพอสมกับที่ลงทุน และภาระที่คนขับต้องแบกรับ คือพวกเขาวิ่งรับผู้โดยสารตามคิวได้ 4 รอบ ต่อ 12 ชั่วโมง แต่ก็ต้องตีรถเปล่ากลับมาโดยไม่ได้เงินเพิ่ม หากไปวิ่งข้างนอกก็วิ่งได้ แต่พวกเขาเองก็รับผิดชอบช่วยการท่าฯ ด้วย เมื่อผู้โดยสารเยอะ รถขาด พวกเขาเองก็ต้องมาช่วยวิ่งด้วยเหมือนกัน เขาไม่ได้บอกว่าข้างนอกดีกว่าหรือข้างในดีกว่า แต่ในเมื่อพวกเขาเลือกเส้นทางแบบนี้แล้ว ก็ขอให้มันพอเหมาะพอสม เขาไม่ได้อยากร่ำรวยจากอาชีพแท็กซี่ สำหรับราคาที่เสนอก็เป็นราคาประเมิณ จะได้เท่าไหร่ก็ต้องแล้วแต่กรมการขนส่งกำหนดอีกที

          ส่วนคำถามที่ว่า "แล้วทำไมคุณไม่ไปวิ่งข้างนอก" ตัวแทนแท็กซี่สุวรรณภูมิก็ตอบว่า ถ้าพวกเขาออกไปวิ่งข้างนอกทั้งหมด ผู้โดยสารจะต้องจ่ายแพงกว่านี้ไหม ถึงจะมีคนเต็มใจเข้ามาวิ่งแทน แต่ก็ต้องเจอสภาพเดียวกับพวกเขาอยู่ดี และตัวแทนแท็กซี่สุวรรณภูมิก็ขอทิ้งท้ายไว้ว่า "ตอนนี้สนามบินทำงาน 24 ชั่วโมง แม้กระทั่ง 1 นาที ปัญหาก็เกิดได้ ถ้าไม่รับแก้"

สามารถติดตามคลิปสัมภาษณ์ของตัวแทนแท็กซี่สุวรรณภูมิเต็ม ๆ ในรายการ เจาะข่าวเด่น 21 มกราคม 2558 : เสียงจาก TAXI สุวรรณภูมิ แบบย้อนหลังได้ที่นี่ค่ะ




Create Date : 22 มกราคม 2558
Last Update : 22 มกราคม 2558 8:07:14 น. 1 comments
Counter : 1902 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: peepoobakub วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:14:18:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
 
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.