ธนาคารยักษ์ใหญ่ถือหวังสูงสำหรับแขนการจัดการความมั่งคั่งของพวกเขาเป็นหมายถึงการเก็บเรืออย่างต่อเนื่องในครั้งระเหย แต่มีหลายพบว่าตัวเองเทเงินเข้าสู่ภาคที่ติดอยู่ในกลาง buffeted โดยผลกำไรที่หดตัวลงและนักลงทุนระมัดระวัง
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นรายได้จะลดลงและมีของเศรษฐกิจโลกที่การขู่ว่าจะเซถลามาอีกครั้งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีการเจริญเติบโตของอุปทานใหม่ minted เศรษฐีในเอเชียอาจจะไม่เพียงพอที่จะชาร์จฐานกำไรในเดือนที่ผ่านมา
การต่อสู้เพื่อเพิ่มผลกำไรในสภาพแวดล้อมนี้จะเป็นหัวข้อสำคัญในสัปดาห์ถัดไปเป็นอุตสาหกรรมที่รวบรวมผู้บริหารระดับสูงในสิงคโปร์, เจนีวาและนิวยอร์กสำหรับการประชุมสุดยอดประจำปีของรอยเตอร์ผู้บริหารความมั่งคั่งทั่วโลก
นับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงิน 2008-2009, ผู้จัดการฝ่ายความมั่งคั่งจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน whammy สองเท่าของค่าใช้จ่ายในการกำกับดูแลที่เพิ่มขึ้นและลูกค้าระมัดระวังมากขึ้นการเก็บรักษาเงินได้มากขึ้นในความเสี่ยงต่ำ -- ต่ำและอัตรากำไร -- เงินลงทุนหรือเงินสด
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ในอุตสาหกรรมอยู่ที่เกือบร้อยละ 80 ในปี 2010 ตามที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาราศีพิจิกห้างหุ้นส่วนจำกัด, จากน้อยกว่าร้อยละ 70 ก่อนวิกฤติจะตี
"บ้านจะทราบว่าค่าใช้จ่ายของการทำธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างมีระบบแทนที่จะต้องขัดขวางแล้วกลับเข้า"James Fleming, หัวของธนาคารเอกชนระหว่างประเทศที่ Coutts, ส่วนหนึ่งของ Royal Bank of Scotland (RBS.L กล่าวว่า )
"มันเป็นเรื่องที่เพิ่มขึ้นในแง่ของ IT, เจ้าหน้าที่กฎระเบียบและสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้ไปไปไป."
ธนาคารเอกชนและผู้จัดการความมั่งคั่งนอกจากนี้ยังมีการค้นพบมันยากที่จะชักชวนลูกค้าของพวกเขาที่จะนำเงินในการทำงานในวิธีการที่สร้างผลกำไรที่ดีหลังจากที่ลูกค้าจำนวนมากที่สูญเสียความเชื่อในที่ปรึกษาของพวกเขาในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา
ที่อุดมไปด้วยนักลงทุนสูญเสียเงินจำนวนมากหลังจากที่พวกเขาให้คำแนะนำในการลงทุนในตราสารที่ซับซ้อน illiquid ที่ได้รับความเดือดร้อนในความผิดพลาดของตลาด อื่น ๆ เพียงแค่เห็นความมั่งคั่งของพวกเขาวางที่ความเสี่ยงจากการยุบธนาคารเป็นสถาบันได้สัมผัสกับขาดทุนสะสมโดยใช้แขนด้านวาณิชธนกิจ
มากของการซ่อมแซมความเสียหายตั้งแต่เวลานั้นเพิ่งได้รับการยกเลิกโดยยูบีเอสของ (UBSN.VX) เรื่องอื้อฉาวถูกกล่าวหาว่าโกงการซื้อขาย, โทรเป็นคำถามในอนาคตสำหรับกลุ่มธนาคารที่มีอาวุธส่วนตัวของลูกนั่งอยู่ด้านข้างโดยมีธนาคารเพื่อการลงทุน
ไปทางทิศตะวันออก?
เพื่อชดเชยความท้าทายของธนาคารเอกชนจำนวนมากได้เริ่มต้นที่จะมุ่งเน้นความพยายามในความมั่งคั่ง burgeoning ของเอเชียเชื้อเพลิงโดยบอมส์ทางเศรษฐกิจของอินเดียและจีน
สิงคโปร์จะดูในขณะนี้โดยมากเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพที่จะจัดตั้งขึ้นฮับทางการเงินเช่นเจนีวาและกรุงลอนดอนเป็นอุตสาหกรรมธนาคารย้ายไปทางทิศตะวันออกในการค้นหาของการสร้างความมั่งคั่งส่วนใหญ่ขาดที่ซบเซาในยุโรปและตลาดอเมริกาเหนือ
ความรู้สึกที่ให้บริการทางการเงินในตะวันตกจะถูกควบคุมออกจากธุรกิจได้ทำยังธนาคารในเกณฑ์ดีดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ภาคตะวันออก
"มันก็จะกลับมาสิงคโปร์. จุดคือมันมีการควบคุมดี. การควบคุมไม่น้อย"แคทเธอรี Tillotson, หุ้นส่วนผู้จัดการกล่าวว่าที่ราศีพิจิก
แต่การจองทางธุรกิจใหม่ในเอเชียจะไม่แปลเป็นกำไรที่สูงขึ้นเป็นมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคที่มีผลในการแข่งขันฆาตกรระหว่างสถาบันการคัดเลือกธนาคารที่ดีที่สุดที่ผลักดันขึ้นค่าใช้จ่ายพนักงาน
"การทำสงครามสำหรับความสามารถเป็นอย่างมากที่แข็งแกร่ง (ในเอเชีย),"เฟลมมิ่งกล่าวว่า
บางธนาคารส่วนตัวเห็นในการแข่งขันล่าสุดของวิกฤตการณ์ทางการเงินมีโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมเพื่อแลกตัวเองและฟื้นความไว้วางใจจากลูกค้าโดยพวกเขาผ่านทางพวงมาลัยวุ่นวายโดยไม่สูญเสียพวกเขามีเงิน
Luigi Pigorini หัวของภูมิภาคยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) ที่ธนาคารซิตี้แบงก์เอกชน (CN) กล่าวว่าที่ปรึกษาการลงทุนได้เรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมาหลังจากที่หลายคนติดออกจากเหตุการณ์รอบยุบ Lehman Brothers ในปี 2008
"ลูกค้าเป็นอย่างมากตระหนักถึงปัญหาด้านชื่อเสียงของอดีต. พวกเขามักจะเก็บที่ในใจ"เขากล่าวว่า
"ทั้งหมดของชายใหญ่ที่เราจัดการกับรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำ ... พวกเขาจะไม่ชี้มือ. ฉันไม่เห็นลูกค้าของเราว่าพวกเขาจะถูกนำเสนอในวันนี้โดยผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมการจัดการความมั่งคั่งที่ไม่เหมาะสม."
(รายงานเพิ่มเติมโดย Martin de Sa'Pinto และโจ Giannone ในนิวยอร์ก; การแก้ไขโดย Hans - Juergen Peters)
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
