นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
พฤศจิกายน 2560
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
10 พฤศจิกายน 2560
 

เ พ ช ร ใ น เ ง า # 11



ตอนที่ 11


ธีรัตม์มองภาพในหน้าข่าวกีฬาของเว็บไซต์แห่งหนึ่งด้วยความไม่ชอบใจ มันเป็นข่าวของโฟม เกียรติภูมิ ไฮโซคนดังซึ่งมีดีกรีเป็นถึงนักแข่งรถมืออาชีพ เขาหน้าตาดีและยังเป็นนักรักที่เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น ธีรัตม์ไม่ได้สนใจเรื่องราวของไฮโซคนนี้ แต่เป็นสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างกายเขาต่างหาก

นอกจากจะมีภาพที่ยืนคู่แนบชิดกันแล้ว ยังมีข้อความบรรยายด้านล่างอีกด้วย อ่านได้ความว่า เกียรติภูมิคว้าแชมป์เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน งานก็รุ่ง รักก็เยี่ยม ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ

รักงั้นเหรอ...กับสาวสวยที่ยืนอิงแอบนั่นหรือเปล่า

ดาวิกา...นั่นมันดาวิกาชัด ๆ!

หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาไม่ได้เจอกับดาวิกาเลย เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงาน แถมยังโดนมารดาจับตามองทุกฝีก้าวกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่เคยขาดการติดต่อกับเธอ ชายหนุ่มโทรหาเธอวันละสามถึงสี่ครั้งต่อวัน ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะยุ่งมากเพราะเพิ่งเข้าไปช่วยกิจการของครอบครัวในตำแหน่งการตลาด ทำให้คุยกันแบบสั้น ๆ คำถามก็วนเวียนเหมือนกันทุกครั้ง...กินข้าวหรือยัง งานยุ่งหรือเปล่า อย่าลืมพักผ่อน...เขาพูดได้เพียงเท่านี้ เธอก็ขอตัวไปทำงาน

และเขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเธอสนิทกับนักแข่งรถคนนี้ด้วย...ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...เรื่องนี้เขาต้องหาคำตอบให้ได้

ธีรัตม์ปิดเว็บไซต์ข่าวกีฬาแล้วเปิดเข้ากูเกิ้ล โชคดีที่เขาอยากรู้ผลการแข่งขันฟุตบอลของทีมโปรดที่เตะกันเกือบตีสอง หลังทราบผลเขาก็เปิดอ่านข่าวอื่น ๆ บ้าง จนมาเจอภาพข่าวของเกียรติภูมิ

ชายหนุ่มกรอกชื่อของนักแข่งฝีมือเยี่ยมเพื่อค้นหา ภาพข่าวของนักบิดไฮโซปรากฏขึ้นในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งมีทั้งประวัติการเป็นนักแข่งและการเป็นทายาทไฮโซคนดัง ครอบครัวของเกียรติภูมินำเข้ารถหรูหลายยี่ห้อและกำลังจะเปิดขายบิ๊กไบค์เร็ว ๆ นี้ด้วย

นอกจากนี้แล้ว ความรักของเกียรติภูมิก็กำลังไปได้สวยกับสาวสวยทายาทเจ้าของธุรกิจนำเข้าเครื่องใช้ฟ้ารายใหญ่ของเมืองไทย จากภาพข่าวทำให้ธีรัตม์รู้ว่าทั้งสองเริ่มสนิทกันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน...ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่เขาพูดเรื่องแต่งงานกับดาวิกา

นี่เป็นเหตุผลที่เธอบอกว่ายุ่งหรือเปล่า

การไปเที่ยวสังสรรค์และตามไปเชียร์เกียรติภูมิคืองานของเธอหรือเปล่า

เขาต้องถามให้รู้เรื่อง!

ธีรัตม์จัดการโทรหาแฟนสาวทันที รอสายไม่เท่าไหร่ น้ำเสียงคุ้นเคยติดจะห่างเหินก็เอ่ยทักมาตามสาย

“มีอะไรหรือคะธี”

“ผมเพิ่งเห็นภาพข่าวของคุณในเว็บไซต์” เขาเกริ่น

“งานไหนหรือคะ ภาพโอเคหรือเปล่า” เธอถาม

“งานแข่งรถเมื่อวานครับ และผมเพิ่งรู้ว่าคุณสนิทกับนักแข่งรถคนนั้นด้วย” เขาถาม

“อ๋อ งานนั้นนั่นเอง” หญิงสาวรับคำ น้ำเสียงดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด

“เรื่องมันเป็นยังไงครับ ทำไมถึงสนิทกันได้ ธุรกิจของคุณกับเขาไม่เกี่ยวข้องกันนี่ครับ”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับธุรกิจค่ะ แต่เป็นเรื่องของหัวใจล้วน ๆ”

“เรื่องของหัวใจ?” ชายหนุ่มทวน

“ใช่ค่ะ ตอนนี้เดียร์กำลังคบกับโฟมอยู่ค่ะ” เธอยอมรับ

“เดียร์!” ธีรัตม์เรียกด้วยน้ำเสียงตกใจ “มันเกิดอะไรขึ้นครับ เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนี่ครับ คุณก็บอกว่าจะรอผม แล้วทำไมถึงทำแบบนี้” เขาถามเสียงรัว

“ตกลงกันแล้วก็เปลี่ยนใจได้นี่คะ แล้วคุณล่ะ คุณจะยกเลิกงานแต่งได้หรือเปล่า แล้วทำไมเดียร์ต้องรอคุณด้วยล่ะคะ เดียร์ไม่ใช่ตัวเลือกของใครนะคะ” เธอบอกแบบไว้ตัว

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณหย่าเมื่อไหร่ เดียร์ก็จะเลิกกับเขาทันที คุณบอกให้เดียร์รอ แล้วคุณล่ะคะ จะรอเดียร์ได้หรือเปล่า ถ้าเดียร์ไปแต่งงานกับคนอื่น”

“ผม...” ธีรัตม์พูดไม่ออก

“บอกมาสิคะว่าคุณจะรอเดียร์หรือเปล่า คุณจะรับเดียร์ได้ไหม” เธอถาม ขณะที่ธีรัตม์นิ่งไปนาน ดาวิกาหัวเราะหึ

“คุณให้เดียร์รอเฉย ๆ โดยไม่รู้อนาคตเลย ถ้าแต่งงานแล้วคุณไม่ยอมหย่า แล้วเดียร์เป็นอะไรคะ เมียน้อยหรือมือที่สามของคุณคะ”

“ผม...” ธีรัตม์นิ่งไปอีกครั้ง

“เอาเป็นว่า คุณไปแต่งงานตามที่ครอบครัวของคุณต้องการเถอะค่ะ และถ้าต่อไปคุณหย่า เราค่อยกลับมารักกันอีกครั้ง หรือถ้าคุณไม่อยากให้เดียร์ไปคบคนอื่น คุณก็ต้องยกเลิกงานแต่ง จะเอาแบบไหนคะ”

“ผม...” เขาตอบไม่ถูก

“ไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะ เดียร์รู้คำตอบอยู่แล้ว และต่อไป ไม่ต้องโทรมาหาเดียร์แล้วนะคะ เดียร์ไม่อยากรับสายจากคุณ ไม่ต้องติดต่อหรือสนิทกับคุณอีกแล้ว เดียร์ไม่อยากให้คนของเดียร์เข้าใจผิดค่ะ หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ” เธอบอกแบบไร้เยื่อใย น้ำเสียงห่างเหิน

“เดียร์” ธีรัตม์เรียกแฟนสาวแบบไม่เชื่อหู

“แค่นี้นะคะ” พูดจบ ดาวิกาก็วางสายทันที ขณะที่ธีรัตม์ยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้อยู่อย่างนั้น กระทั่งรู้สึกตัว เขาก็รีบต่อสายถึงเธออีกครั้ง แต่ดาวิกาไม่รับสาย ชายหนุ่มพยายามอีกหลายครั้งแต่ก็เหมือนเดิม ทำเอาธีรัตม์คอตก เขาวางโทรศัพท์บนโต๊ะด้วยท่าทางอ่อนแรง

‘คุณให้เดียร์รอเฉย ๆ โดยไม่รู้อนาคตเลย ถ้าแต่งงานแล้วคุณไม่ยอมหย่า แล้วเดียร์เป็นอะไรคะ เมียน้อยหรือมือที่สามของคุณคะ’

ใช่...ไม่มีใครชอบสถานะที่ไม่มั่นคงหรอก เธอไม่ผิดที่คิดแบบนั้น ดาวิกาเป็นคนรวย มีความรู้ จู่ ๆ จะให้เธอมารอเขาเป็นปี ๆ เพื่ออะไร เขาให้เธอรอ แล้วเขาเล่า ได้ทำอะไรตอบแทนเธอบ้าง

ไม่มีเลย...


.....................................



ธีรัตม์มีท่าทางหมดอาลัย ผิดกับดาวิกา เธอวางสายด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น เมื่อได้ปลดเปลื้องพันธนาการชิ้นสุดท้ายออกจากชีวิต หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีข่าวของเธอออกไป หญิงสาวก็รอให้ธีรัตม์โทรหา เพื่อจะได้บอกเลิกเขาอย่างเป็นทางการเสียที แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ยอมโทรมาเสียที เธอรู้อยู่แล้ว เพราะธีรัตม์ไม่ใช่คนอ่านข่าวสังคมและช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่มีงานสังคมใหญ่ ๆ เลย เขาจึงไม่ได้ไปงาน

แต่แล้วช่วงเวลาที่เธอรอคอยก็มาถึง ซึ่งเธอเดาว่าเขาคงเห็นภาพข่าวจากงานรับตำแหน่งแชมป์ของเกียรติภูมิ ตอนที่เห็นเบอร์ เธอดีใจจนเนื้อเต้น เพราะจะได้พูดในสิ่งที่ตระเตรียมไว้เสียที

“มีเรื่องอะไรยินดีหรือเดียร์ ถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนั้น” เสียงของอารยาทักมาก่อนเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ ตอนนี้สองสาวอยู่ในร้านสปาแห่งหนึ่ง ชุดที่พวกเธอสวมอยู่ในชุดเสื้อคลุมสีขาว ดาวิกาออกมานั่งรอเพื่อนเปลี่ยนชุด ก่อนจะเข้าไปนวดตัวพร้อม ๆ กัน

“เมื่อกี้ธีโทรมา” ดาวิกาบอก ทำให้เพื่อนสาวสนใจทันที

“เหรอ แล้วยังไง เธอได้พูดอย่างที่ตั้งใจไว้ไหม”

“แน่นอนสิ ธีอึ้งไปเลยล่ะ”

“อะไรกัน ฉันคิดว่าเขาจะหักดิบ ยกเลิกงานแต่งซะอีก แบบนี้แสดงว่าเขาไม่ได้รักเธอจริง ๆ น่ะสิ” น้ำเสียงของอารยามีแววผิดหวังระคนเย้นหยันอยู่ในที ทำเอาดาวิกชักสีหน้า

“นี่!”

“แต่ฉันว่าเธอคงไม่แคร์หรอกจริงไหม ในเมื่อเธอก็มีรักใหม่แล้ว แถมโฟมยังรักและหลงเธอมากขนาดนี้ ถ้าฉันเป็นเธอ และธียืนยันว่าจะแต่ง ฉันก็คงไม่กลับไปหาเขาหรอก โฟมน่าตื่นเต้นกว่าตั้งเยอะ” อารยาออกความเห็น ทำให้สีหน้าของดาวิกาดีขึ้น

“ใช่ และโฟมก็ไม่ใช่ลูกแหง่เหมือนธีด้วย อะไร ๆ ก็ต้องถามแม่ ฉันล่ะเบื่อที่สุดเลย คบกันไปก็ต้องมาปวดหัวเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้อีก ขอบใจเธอมากนะที่แนะนำโฟมให้ฉันรู้จัก” ดาวิกาพูดแล้วยิ้ม

“ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นเพื่อนกันนี่ อะไรดี ๆ ฉันก็อยากแนะนำเธอ ดีใจนะที่เธอเข้ากับโฟมได้” อารยาบอกแต่ในใจกลับร้อนรุ่มด้วยความริษยาที่ชีวิตของดาวิกาดูสมบูรณ์ไปหมดทุกอย่าง

ที่เธอแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับเกียรติภูมิ ไม่ใช่เพราะความหวังดีอยากให้เพื่อนมีรักใหม่ แต่เพราะหนุ่มหล่อคนนั้นขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้และเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เธอหวังจะให้เขาคบกับเพื่อนแค่เล่น ๆ พอสักพักก็ทิ้งไป ดาวิกาจะได้เสียหน้า เสียใจที่ถูกทิ้ง

แต่ทุกอย่างก็กลับกันหมด เพราะเกียรติภูมิกลับหลงเสน่ห์ดาวิกาและคบด้วยนานกว่าสาวอื่น ๆ ที่เคยผ่านมา แถมความรักก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจืดจางด้วย จนมีบางคนแซวว่าทั้งสองคงเป็นคู่แท้กัน

ทำไมชีวิตของดาวิกาถึงได้มีแต่เรื่องสมหวังไปหมด...มันน่าเจ็บใจจริง ๆ อารยาคิดด้วยใจอันพุ่งพล่าน


......................................



แม้จะถูกบอกเลิกไปแล้ว แต่ธีรัตม์ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะคุยกับดาวิกา เขาไปหาที่เธอคอนโดแต่เข้าไปด้านในไม่ได้เพราะถูกยามห้ามไว้ ทำให้ต้องนั่งรอด้านนอกแทน กระทั่งเกือบสามทุ่ม หญิงสาวก็กลับมาพร้อมเกียรติภูมิ

“เดียร์” ธีรัตม์เดินเข้าไปดักหน้าและมองแฟนสาวแบบคาดคั้น ขณะที่ดาวิกาเชิดหน้าและมองด้วยแววตาเรียบเฉย เธอกอดกระชับเกียรติภูมิแล้วยื่นหน้าไปแก้มหอมอวด

“เดียร์!” ธีรัตม์ไม่เชื่อสายตา

“ใครหรือเดียร์” เกียรติภูมิถาม

“คนเคยรู้จักค่ะ โฟมอย่าไปสนใจเลย ขึ้นไปข้างบนกันดีกว่า เดียร์ง่วงอยากนอนเต็มทีแล้ว” เธอบอกแล้วโอบเอวชายคนใหม่ผ่านหน้าธีรัตม์

“เดียร์” ธีรัตม์เรียกอีกครั้งแล้วจับต้นแขนเธอไว้ แต่ดาวิกาสะบัดออกและมองเขาแบบไม่พอใจ

“เลิกมากวนใจเสียที ฉันไม่สนใจและคุณไม่สำคัญกับฉันแล้ว พูดแค่นี้หวังว่าคงเข้าใจนะคะ” เธอเอ่ยแบบไม่ไว้หน้าก่อนเดินเข้าตึกอย่างไม่ไยดี ทำเอาธีรัตม์นิ่งอึ้ง

เขาทำอะไรไม่ได้เลยหรือ...

ชายหนุ่มถอนใจก่อนเดินจากไปด้วยอาการเซื่องซึม เป็นความผิดของเขาเองที่ไม่สามารถปกป้องและดูแลเธอได้


...................................



ธีรัตม์ไม่มีใจทำงานเลย เพราะใจมัวแต่คิดถึงเรื่องแต่งงาน จะให้ไปบอกยกเลิกกับมารดาก็คงไม่ได้และเขาคงโดนหว่านล้อมแบบไม่จบไม่สิ้น ทำให้ธีรัตม์ต้องเบนเข็มไปที่อัญพัชร์ ถ้าเธอบอกว่าไม่อยากแต่งหรือยังไม่พร้อม งานแต่งก็น่าจะเลื่อนออกไปได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็เรียกอัญพัชร์ให้มาหาที่ห้องทำงานทันที

“พี่ธีมีอะไรหรือคะ” เธอถาม ตอนนี้หญิงสาวรับหน้าที่ดูแลในส่วนของการเงินและบัญชี ทั้งสองไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเพราะทำงานคนละส่วน และธีรัตม์ปฏิเสธเด็ดขาดที่จะให้เธอมาเห็นเลขาตามที่มารดาแนะนำ ซึ่งหญิงสาวก็เห็นด้วย เพราะเธออยากทำในตำแหน่งที่ร่ำเรียนมาและบุษยาก็ทำหน้าที่เลขาของเขาดีอยู่แล้ว

“ผมอยากคุยเรื่องแต่งงานกับคุณ” เขาเอ่ย โดยเรียกแทนตัวด้วยสรรพนามห่างเหิน ทำเอาอัญพัชร์เก้อเล็กน้อย เขาโกรธเธอตั้งแต่วันก่อนจนตอนนี้ก็ยังไม่หาย

“ค่ะ” เธอรับคำ

“ผมอยากให้คุณตัดสินใจอีกครั้ง เรื่องแต่งานไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ”

“ไอซ์ตัดสินใจไปแล้วค่ะ และจะไม่เปลี่ยนด้วย” เธอตอบทันทีโดยไม่หยุดคิด เหมือนเป็นคำตอบที่ตระเตรียมไว้แล้ว

“ทั้งที่เราไม่ได้รักกันน่ะเหรอ”

“ไอซ์ต้องทำตามผู้ใหญ่ค่ะ” เธอตอบประโยคเดิม ๆ ที่ธีรัตม์ฟังแล้วอารมณ์ขึ้นทุกที และครั้งนี้ก็เช่นกัน

“ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองหรือไง ถึงต้องทำตามผู้ใหญ่” เขาถาม แต่อัญพัชร์ไม่ตอบ

“ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนเห็นแก่ตัวขนาดนี้ อยากรักษาสมบัติจนหน้ามืดไม่สนใจอะไรทั้งนั้น และผมขอบอกไว้ก่อนว่าถึงเราจะแต่งงานกันแต่บริษัทนี้เป็นของผม และคุณเป็นแค่พนักงานเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของ ถึงเราจะใช้นามสกุลเดียวกัน แต่ผมก็จะไม่ยกบริษัทนี้ให้คุณ” ธีรัตม์บอก

“ค่ะ” เธอรับคำและไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจกับคำพูดของเขา ยิ่งทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจ

“และต่อไปผมจะขายบริษัทนี้ทิ้ง” เขาขู่ แต่อัญพัชร์ก็ยังเฉย

“คุณอาไม่ยอมให้พี่ธีทำแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะท่านสัญญากับไอซ์แล้วว่าจะไม่มีวันขายเด็ดขาด”

“เธอมันก็เป็นแค่ตัวเลือกเท่านั้นแหละ ไม่มีทางเป็นตัวจริงได้หรอก เป็นได้แค่เงา ถ้าเป็นเพชรก็เป็นของปลอม” เขาว่า อัญพัชร์ไม่โต้ตอบเช่นเคย

“พี่ธีมีเรื่องจะพูดกับไอซ์แค่นี้ใช่ไหมคะ” เธอถาม และเมื่อเขาไม่ตอบ เธอก็ขยับตัว “ถ้าอย่างนั้นไอซ์ไปทำงานก่อนนะคะ ส่วนเรื่องแต่งงาน ไอซ์ทราบมาว่าคุณอาได้ฤกษ์มาแล้ว รู้สึกว่าจะเป็นอีกสองเดือนข้างหน้า เร็ว ๆ นี้คุณอาคงเรียกไอซ์กับพี่ธีไปคุยรายละเอียด” หญิงสาวบอกก่อนเดินออกจากห้อง


.............................


และเป็นจริงดังที่หญิงสาวบอก เพราะหลังจากนั้นสองวัน พันวัสสาก็นัดลูกชายพร้อมอัญพัชร์ไปกินข้าวมื้อเที่ยง ก่อนบอกข่าวสำคัญว่าฤกษ์ดีจะเกิดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า ธีรัตม์ทวงว่าเร็วเกินไป คงเตรียมงานไม่ทัน แต่มารดาก็บอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เขากับอัญพัชร์มีหน้าที่ไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งและนำการ์ดไปแจกเท่านั้น ส่วนเรื่องแขก สถานที่ การเตรียมงาน ของชำรวย มารดาจะเป็นคนจัดการทั้งนั้น ซึ่งคิวการถ่ายรูป แม่ของเขาก็ได้นัดสตูดิโอไว้แล้วเช่นกัน สรุปแล้วสองหนุ่มสาวไม่ต้องทำอะไรเลย รอแค่ให้ถึงเวลาและเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้น

ธีรัตม์อยากขัด อยากประท้วง แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้ ทำให้ต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมและรอให้ผ่านหนึ่งปีไปโดยเร็ว

หลายคนบอกว่าเวลามักผ่านไปเร็วเมื่อเรามีความสุข แต่สำหรับธีรัตม์แล้ว ตอนนี้เขาไม่มีความสุขเลย แต่เวลาก็ยังเดินเร็ว เพียงไม่นาน งานแต่งของเขาก็งวดเข้ามาทุกทีแล้ว ชายหนุ่มยุ่งตลอด เพราะไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องเจียดเวลาไปถ่ายรูปพรีอีก ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ต้องใช้เวลาเป็นวัน เพราะรูปไม่ถูกใจช่างภาพเสียที ทำให้พันวัสสาต้องตามมาคุม นั่นล่ะ งานถึงได้ผ่านฉลุย

และแล้วงานแต่งที่ธีรัตม์ไม่ต้องการก็มาถึง พิธีการตามฤกษ์เริ่มขึ้นในเวลาเก้าโมงเก้านาทีในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู อัญพัชร์อยู่ในชุดไทยสีทองแบบสไบเฉียง ผมยาวสีดำถูกรวบไว้ด้านหลัง มีเข็มกลัดเพชรประดับตรงมวยผม เครื่องเพชรที่ประดับส่วนใหญ่เป็นของเก่า มรดกมาจากแม่ของเธอเอง ขณะที่ธีรัตม์อยู่ในชุดราชประแตน ดูสง่าและภูมิฐานมาก เวลายืนคู่กันใคร ๆ ก็บอกว่าทั้งคู่เหมาะสมกันมาก

พิธีรดน้ำสังข์และพิธีสงฆ์ในช่วงเช้าผ่านไปได้ด้วยดี เพราะเป็นพิธีแบบเรียบง่าย เชิญเฉพาะญาติและเพื่อนที่สนิทเท่านั้นและห้ามนักข่าวเข้างานเด็ดขาด เมื่อคนน้อย งานจึงเสร็จเร็วเป็นธรรมดา ไม่เกินเที่ยง ว่าที่บ่าวสาวก็ได้พัก ก่อนจะเริ่มงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในช่วงค่ำ

งานในช่วงค่ำมีแขกเหรื่อมากมายมาร่วมแสดงความยินดี ทั้งพนักงาน ผู้บริหาร คู่ค้าทางธุรกิจ เพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้อง เรียกได้ว่าแทบจะล้นห้องจัดงานเลยทีเดียว

ธีรัตม์อยู่ในชุดสูทสีขาวดูสะอาดตา ขณะที่อัญพัชร์ก็อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวแบบเกาะอกกระโปรงยาว ใบหน้าของเธอแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางชั้นดีโทนสีชมพูใส ดูสวยสดใสสมกับเป็นเจ้าสาวในวันนี้มาก ว่าที่บ่าวสาวต้องยืนรับแขกตั้งแต่หัววันกว่าจะได้เข้าไปในงานก็ต้องรอตั้งสองสามชั่วโมง สีหน้าของธีรัตม์เรียบเฉย บางทีก็ทำหน้าเหมือนไม่พอใจ ทำให้พ่อกับแม่ของเขาต้องออกมายืนใกล้ลูกชายและบอกว่าเขาอาจจะเหนื่อย

เมื่อแขกเหรื่อมากันเกือบเต็มแล้ว งานบนเวทีก็เริ่มต้น และใช้วลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เป็นอันเรียบร้อย เพราะเจ้าบ่าวไม่ยอมให้ความร่วมมือ พิธีกรสัมภาษณ์อะไร เขาก็แค่รับคำ ทำเอาพิธีกรของงานเก้อไปหลายครั้ง ขณะที่อัญพัชร์ก็พูดน้อย เวลาแซวอะไรก็ยิ้มตอบแบบแกน ๆ แบ่งรับแบ่งสู้ ทำให้พิธีกรต้องรีบจบงานโดยให้อัญพัชร์โยนดอกไม้เจ้าสาว ซึ่งเธอก็โยนไปงั้น ๆ คนที่รับได้คือเด็กหญิงตัวน้อยหลานของคู่ค้าคนหนึ่ง

ไม่เกินสี่ทุ่ม แขกเหรื่อก็ทยอยกลับ ว่าที่บ่าวสาวออกไปส่งแขกที่หน้างานอีกครั้ง โดยคราวนี้มีปณิตาและทิพย์เกสรยืนเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย ขณะที่ธีรัตม์มีปฏิภาณยืนเป็นเพื่อน แต่สายตาของเพื่อนรุ่นพี่ลอบมองไปที่อัญพัชร์ตลอด พร้อมรอยยิ้มที่ปรากฎขึ้นบาง ๆ ผิดกับหัวใจที่ห่อเหี่ยวอย่างไรพิกล

“วันนี้ไอซ์สวยหวานมากเลยครับ” ปฏิภาณเอ่ยชม หลังจากที่แขกกลับกันหมดแล้ว และเขาก็กำลังจะกลับเช่นกัน เจ้าสาวออกมาส่งเพื่อน ส่วนเจ้าบ่าวไปคุยกับพ่อกับแม่ของเขา ทำให้ปฏิภาณกับอัญพัชร์ได้อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาสั้น ๆ

“ขอบคุณมากค่ะ” เธอก้มศีรษะให้เขา

“พี่...”

“ไอซ์ขอบคุณพี่ปุณกับปูมากเลยนะคะที่มาช่วยงานในวันนี้” หญิงสาวเอ่ยแทรกก่อนที่เขาจะพูดอะไร “วันนี้ถ้าไม่ได้พี่ปุณกับปู ไอซ์คงเหนื่อยกว่านี้แน่ ๆ เลยค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ช่วยไอซ์ได้ และไม่ใช่แค่เฉพาะงานนี้นะครับ เรื่องอื่น ๆ พี่ก็ช่วยไอซ์ได้” เขาพูดและมองเธอนิ่ง

“ขอบคุณค่ะ แต่ตอนนี้ไอซ์แต่งงานแล้ว คงไม่รบกวนพี่ปุณแล้วค่ะ” เธอบอกและไม่รู้ว่าปฏิภาณอุปทานไปเองหรือเปล่า เพราะเขารู้สึกว่าเธอเน้นคำว่า ‘แต่งงานแล้ว’ มากกว่าคำอื่น ๆ

“พี่รู้ครับ และขอให้ชีวิตครอบครัวของไอซ์มีแต่ความสุขความเจริญ ขอให้นายธีรักไอซ์มาก ๆ นะครับ และอย่าทำให้ไอซ์เสียใจ”

“ขอบคุณพี่ปุณมากค่ะ” หญิงสาวก้มศีรษะให้เขาอีกครั้ง ระหว่างนั้นครอบครัวของธีรัตม์ก็เดินมาสมทบ ธีรัตม์ขอบคุณรุ่นพี่ที่มาช่วยงาน ปฏิภาณพยักหน้ารับก่อนกลับพร้อมน้องสาวและทิพย์เกสร ส่วนบ่าวสาวก็ใช้ห้องสูทของโรงแรมแห่งนี้เป็นที่ส่งตัว โดยมีพ่อกับแม่ของเขาขึ้นไปส่งที่ห้อง


.....................................




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2560
0 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2560 21:03:23 น.
Counter : 596 Pageviews.

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com