เทคนิคการบริหารจากสนามจริง
<<
พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
26 พฤษภาคม 2556

อานิสงส์ของการแผ่เมตตาตามแนวหลวงพ่อจรัญ

ตอนที่ 1 ผลของการแผ่เมตตา

มีนาคม ปี 2554ประเทศญี่ปุ่นเกิดสึนามิรุนแรงทำให้กระทบต่อการส่งสินค้าให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยบริษัทของฉันก็ได้รับผลกระทบนั้นด้วยเหตุการณ์นี้รุนแรงมากจนอาจถึงขั้นจะต้องหยุดการผลิตชั่วคราวบางแผนกภายในโรงงานและรวมไปถึงลูกค้ารายใหญ่ที่สุดอีกด้วยฉันและผู้บริหารสูงสุดเป็นกังวลและหาวิธีการแก้ปัญหาทุกวิถีทาง จนสุดท้ายใช้วิธีโดยเกลี่ยปริมาณการใช้ภายในโรงงานและส่วนที่จะต้องส่งมอบลูกค้าให้สามารถผ่านวิกฤติไปได้ชั่วคราว

แต่เหตุครั้งนั้นมีเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันและผู้บริหารตัดสินใจกล่าวคำหยาบคายมากกับฉันซึ่งเป็นผู้ฝึกตัวเขามาด้วยตนเองจนสามารถมีหน้าที่การงานที่ดีแค่ภาวะความเครียดนะตอนนั้นก็คณานับมากพออยู่แล้ว ยังมาเจอกับคำพูดที่นอกจากจะไม่เข้าใจฉันแล้วยังหยาบคายกับฉันอีกตอนนั้นมีสองทางเลือกคือนำหลักฐานที่มีชัดเจนไปฟ้องฝ่ายบุคคลให้ลงโทษเด็กคนนั้นสองคือให้อภัย ด้วยความที่ฉันผ่านวิบากกรรมการทำงานมามากจึงไม่อยากสร้างกรรมกับใครอีก และไม่อยากให้กรรมเหล่านี้ติดตัวไปแต่ก็ยังไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรต่อไป

โชคดีที่ตอนนั้นพ่อป่วยและอยู่กับฉันเพื่อรักษาตัวชั่วคราวด้วยความที่พ่อเรียนผ่านการบวช และมีศรัทธาแรงกล้าต่อพุทธศาสนาพ่อจึงแม่นยำในหลักธรรมมากพ่อให้ข้อคิดว่าลักษณะแบบนี้เคยอ่านพบในหนังสือของหลวงพ่อว่าให้แผ่เมตตาด้วยการเจาะจงชื่อหากใจของคนที่เราแผ่เมตตาให้เปิดรับอาจจะได้ผล แต่ถ้าเขาไม่เปิดรับก็อาจจะไม่ได้ผล(ตอนนั้นฉันสวดมนต์ตามแนวหลวงพ่ออยู่บ้าง แต่ไม่สม่ำเสมอทุกวันและเคยมาเรียนกรรมฐาน 3 วันแค่ครั้งเดียวด้วยความที่ฉันเป็นหนอนหนังสือพอจะรู้จักหลวงพ่อผ่านหนังสือ)

ฉันปฏิบัติตามคำแนะนำของพ่อคือสวดบทพาหุง แผ่เมตตาเจาะจงชื่อ ทำแบบนี้เกือบทุกวันอยู่ประมาณสามเดือนเด็กคนนั้นก็กลับมาพูดกับฉัน โดยที่ตัวฉันเองก็ไม่เคยไปร้องทุกข์กล่าวโทษหรือพูดถึงเรื่องนี้อีกถ้าใครที่เคยอ่านหรือฟังเทปหลวงพ่อคงจะเคยได้ยินที่ท่านสอนว่าเรื่องเก่าไม่รื้อฟื้น ฉันใช้หลักปฏิบัติของท่านสองข้อมาแก้ปัญเรื่องนี้ คือเรื่องเก่าไม่รื้อฟื้น และให้อภัยเด็กคนนั้นและยังแผ่เมตตาให้เขาสำนึกความผิดด้วยตัวของเขาเองเพราะแค่เขาล่วงเกินเราที่เป็นผู้ปลุกปั้นมากับมือเขาก็มีโทษอยู่แล้วไม่อยากไปเพิ่มโทษให้เขาอีก และจะได้จบกันแต่เพียงเท่านี้

ทุกครั้งที่มีปัญหาหรือจำเป็นต้องเลือกว่าจะเดินทางใดฉันมักถึงคำสอนของพ่อเสมอ พ่อสอนให้ดำรงอยู่ในศีลห้าเพราะเป็นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่อายุ 15แต่หลาย ๆครั้งที่ฉันเกือบที่จะเลือกเดินทางที่ผิดศีล คำสอนที่ก้องอยู่ในหูเสมอของพ่อทำให้ฉันต้องวกกลับมาที่เส้นของศีลห้า ครั้งนี้ก็เช่นกันสำหรับสายตาคนอื่นอาจจะเป็นแค่เหตุการณ์ที่จะลงโทษเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้จักว่าอะไรควรหรือไม่ควรแต่สำหรับฉันมองไกลกว่านั้น เพราะถ้าเขาตกงาน พ่อแม่ พี่น้องชีวิตครอบครัวจะเป็นอย่างไร แล้วฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรจึงเป็นอีกครั้งที่พ่อไม่ได้แค่เพียงให้ชีวิต แต่ยังให้แสงสว่างทางปัญญาอยู่เสมอฉันเป็นคนรักการอ่านก็เพราะพ่อ เข้าใจเรื่องศาสนาเป็นอย่างดีก็เพราะฟังพ่อเล่ามาตั้งแต่เด็กและฉันเคยมาส่งพ่อเพื่อปฏิบัติกรรมฐานที่วัดอัมพวันอยู่ 1 ครั้ง ถึงแม้ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจที่จะปฏิบัติก็ตามแต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องการแก้ปัญหาจริง ๆก็พ่ออีกนั่นแหละที่แนะนำให้ใช้แนวทางของหลวงพ่อในการแก้ปัญหาที่นอกจากไม่ต้องสร้างกรรมใหม่แล้วยังพาฉันให้ได้มาพบกับสุขที่แท้จริงในโอกาสต่อมา




Create Date : 26 พฤษภาคม 2556
Last Update : 26 พฤษภาคม 2556 17:33:33 น. 2 comments
Counter : 1727 Pageviews.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ที่พบหนทางสว่างในชีวิต


โดย: Maeboon วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:21:03 น.  

 


โดย: ถมทอง วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:53:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

littletoi
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชื่อเล่นว่า ต้อย เพราะเป็นคนตัวเล็ก ก็เลยกลายมาเป็น littletoi นั่นเองค่ะ ก็ผ่านงานมาหลากหลายอาชีพ แต่ก็ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับแวดวงธุรกิจ ตั้งแต่ภาคตลาดทุน หลังจากนั้นก็ผันตัวเองมาสู่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ละสนามก็โหดหินต่างกันไป ถึงวันนี้ตัวยังเล็กเหมือนเดิม ยกเว้นความแกร่งเป็นไปในแนวทางเดียวกับภาวะโลกร้อน:) มันจำเป็นค่ะ เพราะในโลกธุรกิจไม่มีอะไรง่ายเลยจริง ๆ
free counters
[Add littletoi's blog to your web]