บ่ายของวันนี้ในขณะที่นั่งประชุมอยู่ freight
forward โทรมาแจ้งข่าวด่วนว่า ญี่ปุ่นเกิด แผ่นดินไหว และ สึนามิ ขั้นรุนแรง ตอนนี้มีสินค้าอะไรที่ต้องการด่วนหรือเปล่า ก็เลยแจ้งไปว่าของเราน่าจะไม่มีปัญหา แต่ส่วนของเพื่อนอีกคนอาจจะมีปัญหาเนื่องจากรอขึ้นเครื่องอยู่ และวันนี้การขนส่งทั้งทางเรือและทางอากาศต้องหยุดทั้งหมด ติดต่อยังไม่ได้ ยังไม่มีรู้ว่าจะต้องปิดนานขนาดไหน

พอกลับมาบ้านดูข่าวก็เป็นอย่างที่ทราบมาก่อนหน้านี้คือ รุนแรงมากในรอบสามร้อยปี ก็ได้แต่แสดงความเสียใจต่อผู้ที่สูญเสีย

แล้วเหตุการณ์นี้กระทบอะไรกับไทยบ้าง

ตลาดหุ้นลบไปประมาณ 12 จุด น่าจะเห็นแค่ระยะสั้นมากกว่า เพราะภาคที่ได้รับผลกระทบหลัก ๆ เป็นภาคเกษตรกรรมและประมง ไม่ใช่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับส่งออกสักเท่าไร ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเช่น โรงงานที่มีไฟไหม้ หรือใช้พลังงานนิวเคลียร์แล้วต้องปิดชั่วคราวน่าจะส่งผลเฉพาะในประเทศมากกว่า แต่ก็อีกนั่นแหละอาจจะเร็วไปที่จะตอบได้ หรือได้รับผลกระทบในทางอ้อมเสียมากกว่า ตอนท้ายของข่าวการบินไทยยังยืนยันว่าวันพรุ่งนี้สามารถบินได้ตามปกติ เราได้ยินเช่นกันก็โล่งใจว่า การขนส่งวัตถุดิบจะไม่มี ปัญหา ซึ่งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมก็เป็นไปได้ว่า นักลงทุนที่ได้รับผลกระทบขั้นรุนแรงอาจจะชะลอการลงทุนไว้ก่อน ต้องลองตรวจสอบข้อมูลสำหรับคนที่เกี่ยวข้อง

ผู้นำเข้าอาหารจากญี่ปุ่นล่ะ ? คงต้องโดนหางเลขกันบ้าง มากน้อยต้องรีบไปดูกันแล้วล่ะ

ส่วนภาคเกษตรบ้านเราอาจจะได้รับผลดีก็ได้ ข้อนี้ไม่ใช่จะไปซ้ำเติมเพื่อนบ้านที่เดือดร้อนนะคะ แต่แค่วิเคราะห์ให้ฟังว่า ภาคเกษตรกับประมงเขาได้รับความเสียหาย ดังนั้นเป็นไปได้ว่าในระยะสั้นถึงระยะกลางยอดซื้อเกี่ยวกับสินค้าเกษตร และอาหารทะเลอาจจะสูงขึ้นจนกว่าเขาจะฟื้นฟูเสร็จ ข้อนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคดังกล่าวต้องลองไปหาข้อมูลว่ามีความเป็นไปได้เช่นนี้หรือเปล่า

มีเรื่องหนึ่งที่คนไทยน่าจะนำมาเป็นตัวอย่างและศึกษาให้ดีคือ การสร้างกำแพงสึนามิของญี่ปุ่นเพื่อกั้นคลื่นสำหรับจุดที่เคยเกิดสึนามิ กำแพงสูง 15
เมตร จุดท่าน่าสนใจของเมืองนี้คือ ด้านบนสุดของผนังกำแพงด้านนอกจะทำให้โค้งเข้าหาทะเล ดังนั้นถ้ามีคลื่นยักษ์ซัดข้ามาเจอกำแพงนี้
คลื่นก็จะม้วนตัวออกไปสู่ทะเลเหมือนเดิมเพราะยอดบนสุดของกำแพงบังคับให้เป็นแบบนั้น ส่วนประตูที่เปิดปิดก็ใช้คนเพียงสองคนในการปิด มีบันไดจากด้านนอกข้ามเข้ามาด้านในกำแพงได้ในกรณีที่คนที่อยู่ด้านนอกเข้าประตูไม่ทัน ถนนหนทางก็มีป้ายบอกและการออกแบบเอื้อต่อการหนีคลื่นยักษ์ มีการเตือนภัยด้วยเสียงทุกวัน ดูแล้วก็ต้องชมว่า ญี่ปุ่นรู้จักใช้บทเรียนแห่งความเสียหายหรือผิดพลาดในอดีตมาปรับปรุงให้ดีขึ้นได้เสมอ และนี่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในคนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับการสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่ได้หลังจากแพ้สงคราม

Create Date : 12 มีนาคม 2554
Last Update : 12 มีนาคม 2554 0:36:14 น.		2 comments
Counter : 813 Pageviews.
Share Tweet