นักสู้ต้องมีวันชนะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
หนังสือที่ทำให้เรารู้ว่า โชคดีแค่ไหนที่เกิดเป็นคนไทย






ถ้าคิดว่าสังคมมันแย่ ชีวิตมันห่วยนัก ถูกนักการเมืองโกงกิน ถูกคนเอาเปรียบ
ถ้าคุณทุกข์ร้อน รู้สึกบีบคั้น กดดัน มองไม่เห็นอนาคตตัวเองในประเทศอันไม่ได้เรื่องนี้
อยากให้คุณหยิบหนังสือพวกนี้ขึ้นมา ติดตามคนในอีกสังคมหนึ่ง ซึ่งมีอยู่จริง
คนที่ยากจนข้นแค้น โหยหิว ไร้ที่พึ่งพา หมดที่พึ่งพิง
คนที่ถูกชิงชังเหยียดหยาม จากการแบ่งชั้นวรรณะ...
ถูกทุบ ถูกเฆี่ยนตีเหมือนวัวเหมือนควาย...ถูกถ่มน้ำลายรดหัว

แต่...แม้ชีวิตจะบัดซบแค่ไหน...พวกเขาก็ขออยู่ และสู้เพื่อประชาธิปไตย
ชีวิตของคนอินเดีย รากหญ้าของแท้ ปรากฏในหนังสือเหล่านี้
อ่านแล้ว...ต้องขอบคุณที่ตัวเองเกิดมาเป็นคนไทย
ทุกข์แค่ไหน ก็ไม่ได้ครึ่งของคนอินเดีย

จขบ.เป็นแฟนพันธ์แท้วรรณกรรมอินเดีย
เจอที่ไหน ต้องซื้อมาอ่าน...แต่บางครั้งสามปี ยังไม่มีที่ไหนจัดพิมพ์สักเล่ม
หายากมากค่ะ...ที่เอามาให้ดูนี้ สะสมอยู่นานนับสิบปี มีเท่าที่เห็น
บางเล่มเยินมาก เพราะไปคุ้ยเจอจากร้านหนังสือเก่าๆที่เขากำลังจะรื้อทิ้ง

เป็นหนังสือที่มีคุณค่าทางจิตใจมากค่ะ
ยามใดที่คิดว่า ชีวิตเราไม่ได้รับความยุติธรรม...ก็จะหยิบมันขึ้นมา...แล้วจากนั้น...โลกสว่างไสวขึ้น


.................................................................












ไม่แน่ใจว่ายังมีหลงๆอยู่อีกหรือเปล่า เพราะไม่ได้ไปค้นที่บ้านอีกสองหลัง
หนังสือที่เก็บๆถูกโยกย้ายไปเรื่อย ประสาคนจร









แต่ละเล่ม อ่านแล้วอึ้ง...ใครเจอหนังสืออินเดียที่ไหนอีก ช่วยบอกหน่อยนะคะ
ขอเป็นพวกวรรณกรรมเท่านั้น

ถ้าเป็นหนังสือประเภทท่องเที่ยวอินเดีย จะมีอยู่เต็มบ้านแล้ว เอามาให้ดูไม่ไหวค่ะ...เยอะจัด








...ใครที่ไม่เคยอ่านวรรณกรรมอินเดีย...ก็ลองอ่านดู...แล้วจะรู้ว่า นรกที่แท้ ไม่ได้อยู่ที่บ้านเรา...


อยากรู้ว่า...เวลาที่เพื่อนๆไม่สบายใจ
หนังสือเล่มไหน หรือ คุณทำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง ?
เล่าสู่กันฟังนะคะ




เป็นนักร้องอินเดียที่เสียงหล่อกว่าคนอื่นๆนะเนี่ย...ชอบค่ะคนนี้




Create Date : 14 กันยายน 2551
Last Update : 14 กันยายน 2551 9:57:17 น. 98 comments
Counter : 2896 Pageviews.

 
ครั้งหนึ่งในชีวิต..ก็อยากจะไปที่นี่สักครั้ง

...ทัชมาฮาล...ที่ที่ความรักไม่รู้ดับ...



โดย: ทากชมพู วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:8:59:53 น.  

 
ไม่เคยอ่านสักเล่มที่พี่อัยย์ยกมาให้ดู

เวลาไม่สบายใจ มักจะใช้เงินค่ะ ผ่อนความเครียดจากเรื่องเก่าไปสู่เรื่องใหม่


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:9:54:30 น.  

 
เช้านี้อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ พี่อัยย์

นอกจากยาที่ให้ทานเมื่อมีอาการปวดแล้ว

ยังให้อย่างอื่นด้วยหรือเปล่า ...


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:10:38:16 น.  

 
เห็นหลายเล่มที่มีเหมือนกัน แต่ชอบงานของฐากูรที่สุดค่ะ

ว่างๆ แวะไปชมปกหนังสือเล่มใหม่ของจูนิตานะพี่

อยากอวดๆๆ อิอิ


โดย: จูนิตา วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:10:46:32 น.  

 
เวลาทุกข์ๆ ชอบอ่านพวกหนังสือคิดบวกอ่ะค่ะ
ก็ช่วยให้คิดอะไรดีๆได้เหมือนกันนะคะ


โดย: hiroko วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:10:47:02 น.  

 
ถ้ามีหนังสือที่ทำให้เรารู้ว่า
โชคดีแค่ไหนที่เกิดเป็นคนไทย
ก็ต้องมีหนังสือที่ทำให้เรารู้ว่า
บัดซบแค่ไหนที่เกิดเป็นคนไทย
....................
โชคร้ายที่หนังสือประเภทหลัง
มีเยอะกว่า


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:11:46:20 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านวรรณกรรมที่เกี่ยวกับประเทศอินเดียเลยครับ หรือผมจะมองข้ามอะไรดี ๆ ไปซะอย่างนั้น คราวหน้าเข้าร้านหนังสือจะลองไปหาดูบ้างครับ ที่ประเทศอินเดียเขาว่าช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยนั้นต่างกันริบลับเลยนะครับ คนจนก็จนซะ คนรวยก็เหลือเกิน หนำซ้ำคนรวยยังรังเกียจเหยียดหยามคนจนอย่างออกหน้าออกตา ว่ากันว่าประเทศอินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับคนรวย แต่สำหรับคนจนนั้น มันคือนรกเราดี ๆ นี่เอง



“อยากรู้ว่า...เวลาที่เพื่อนๆไม่สบายใจ
หนังสือเล่มไหน หรือ คุณทำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง ?”
เป็นคำถามง่าย ๆ ที่ผมยังนึกคำตอบไม่ออก ต้องคิดทบทวนดูสักหน่อยก่อน อืม..
เมื่อคิดทบทวนดูก็เห็นว่าความเครียดและการกระทำเพื่อคลายเครียดของผมแบ่งเป็นยุค ๆ ซึ่งต่างกันออกไปครับ ผมขอพูดถึงในยุคปัจจุบันก็แล้วกันนะครับ เพื่อคลายเครียดผมจะไปดูหนังครับ เพราะตอนดูหนังแล้วมันลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด ตัดขาดจากโลกภายนอก แล้วไปเดินอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาอันสั้น ก็มันก็ช่วยเยียวยาหัวสมองได้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ src=https://www.bloggang.com/emo/emo23.gif>

ปล. จากรูปที่คุณอัยย์เอาไปฝากที่บล็อกผม ทำให้ผมเพิ่งรู้ว่ามังกรหยกชุดที่ผมมีคือภาค 3 ชุดนี้ก็สนุกดีครับ ดูกันยาว ๆ คลายเครียดไปได้นานเลยครับ


โดย: ตู้เพลงฯ (ตู้เพลงคนซน ) วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:13:02:12 น.  

 
ชอบเรื่องจัณฑาลครับ ส่วนมากจะอ่านชีวประวัติของท่านคานธี จริงๆชอบอินเดียเปนพิเศษ ไม่รู้สินะผมว่ามีเสน่ห์


โดย: เหมียวออก้า (orcahappy ) วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:14:22:20 น.  

 
...เสียดายคนไทย(บางคน)ไม่ได้อ่าน...



ป.ล. วันนี้ทำบีจีชุดใหม่แระ


โดย: ทาสบอย วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:17:54:55 น.  

 
ท่านมหาตมะ คานธี

คนที่อยู่ในหัวใจจขบ.มาตลอด
เป็นนักสู้...ที่เราศรัทธาเชื่อมั่นในแนวทาง
ท่านต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย โดยไม่เอาประชาชนอินเดียเป็นตัวประกัน...ไม่ข่มขู่...ไม่ก้าวร้าว...
ใช้ความสงบเป็นที่ตั้ง...


...เป็นอารยะขัดขืนของแท้ ...อหิงสาตัวจริง.......



โดย: ทากชมพู วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:17:55:25 น.  

 
น้องอาห์ฮีจีต...คนที่ร้องเพลงนี้
เขาเป็นนักร้องที่ชนะเลิศมาจากเวทีประกวด อินเดียไอดอล(แบบอเมริกันไอดอล)

เป็น India Idol คนแรกของอินเดีย...อายุ 27
หน้าตาดี เสียงดี...ใช้ได้เลย...




โดย: ทากชมพู วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:18:19:36 น.  

 
ใช้วันหยุดอย่างมีความสุข สมกับที่ตั้งใจไว้มั๊ย

ตอบอย่างจริงใจที่สุด คือ ไม่ค่ะ พี่อัยย์

ความแค้นยังสุมแน่นอยู่ในอก



โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:19:12:59 น.  

 
แต่ละเล่มท่าจะหนัก....

เคยอ่านเล่มเดียวค่ะ ในสวนฝรั่ง...

ของรพินนารถ ฐากูร เราชอบพระจันทร์เสี้ยวมาก

เป็นหนังสือเล่มโปรดเลยค่ะ

สำหรับเราถ้าเครียดๆ ชอบไปเที่ยวมากกว่าค่ะ





โดย: January Friend วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:19:26:17 น.  

 
เวลาไม่สบายใจ ผมทำใจเอาอะครับ

ง่ายและหายเร็วดี


โดย: kirofsky วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:20:29:49 น.  

 
สวัสดีค่ำวันอาทิตย์
เห็นด้วยกับ คห.ที่10 ลิ้ม ลอง ไส ชิดซ้ายไปให้ไกลเลย
การชดเชยโดยการอ่านหนังสือที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นก็เป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งสำหรับคนที่เครียดกับสังคม
ไปเวียนนาแล้วอย่าลืมประเทศไทยก็แล้วกัน หวังว่าคงมีสิ่งดีๆมาฝากเพื่อนในบล็อก ให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวและปลอดภัยทั้งไปและกลับ ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:20:37:59 น.  

 

บอกตัวเองเสมอว่า โชคดีที่เกิดมาตกปุ๊ตรงประเทศไทย
ขาดเกินไปกว่านี้ไม่กีองศา ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง

เวลาไม่สบายใจ ก็คิดว่ายังมีคนอีกเยอะที่อยู่ในสภาพย่ำแย่กว่าเราอีกมาก

มีบ้านอยู่ มีข้าวกิน มีเงินใช้ (มากบ้างน้อยบ้าง)
เดินไปไหนมาไหนได้ อ่านหนังสือได้ ฟังเพลงได้
แล้วยังต้องการอะไรอีก

ตอนหายจากไม่สบายกาย แค่อยากเดินไปกินข้าวร้านที่นัดกับเพื่อนไว้
อีกบล็อกเดียว ทำไมมันไกลจัง
อะไรที่เคยเดินฉับๆ แป๊บเดียวถึง
ก็ต้องมองดู แล้วค่อยๆเดินไป เดี๋ยวก็ถึงน่า

พอสบายดี ก็เลยเห็นคุณค่าของความปกติ
ไม่สบายใจ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
คิดแล้วก็กลับเป็นปกติ





โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:21:50:39 น.  

 

คุยเพลิน ลืมบอกว่าเห็นด้วยว่า
นักร้องคนนี้ พอเห็นหน้าแล้ว เสียงหล่อขึ้นอีก


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:21:52:24 น.  

 
ช่วงทำงานใหม่ๆ ได้อ่านหนังสือแปลเรื่อง "ข้าพเจ้าทดลองความจริง" ของคานธี ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายในห้องเช่าครับ ด้วยมุ่งมั่นที่จะขบอย่างละเอียด

สำหรับวรรณกรรมอินเดีย ได้อ่านหลานเล่มครับ แต่ที่ชอบมากคือเล่ห์เสน่หา อ่าน ถึง 2 ครั้ง

เคยอ่านเรื่องสั้นเกี่ยวกับอินเดีย ของชัยชนะ โพธิวาระ หลายตอน แต่ที่จำได้เม่น มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่ผู้เขียน (คุณชัยชนะ) หลงทาง และขอความช่วยเหลือจากหนุ่มอินเดียคนหนึ่งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน หนุ่มอินเดียคนนั้นก็ใจดีเหลือหลาย ช่วยนำทางจนถึงที่หมาย แต่ปรากฏว่าตัวเองหาทางกลับบ้านไม่ถูก ผู้เขียนจึงต้องรับอาสาพาหนุ่มอินเดียคนนั้นไปส่งบ้านของเขา


โดย: Insignia_Museum วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:1:16:25 น.  

 


โดย: หอมกร วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:7:46:06 น.  

 
การต่อสู้ของท่านมหาตมะ คานธี น่าเคารพ...

แต่.....

การต่อสู้ของกลุ่มบุคคลในบ้านเรา ค่อนข้าง "เผด็ดการทางความคิดและการกระทำ" ไปสักหน่อย การใช้ภาษาบางครั้งก็ไม่สุภาพเอาเสียเลย ไม่น่าฟัง

ผู้ถูกต่อต้านน่าจะลองใจกว้างรับข้อคิดเห็นดูบ้าง ดีชั่วค่อยคิดค่อยปรับปรุงกันไป บนพื้นฐานความต้องการของคนส่วนใหญ่ในสังคมไทย

ใครอยากปรับเปลี่ยนอะไรที่ดูดี หรือใครไม่อยากปรับเปลี่ยนอะไรที่ดูไม่ดี น่าที่จะหาวิธีนิ่มนวลกว่านี้อีกหลายๆเท่า บ้านเมืองจึงจะอยู่ได้อย่างปกติสุข ไม่วุ่นวายอย่างที่เห็นๆกันอยู่ขณะนี้





โดย: เขาพนม IP: 203.113.0.205 วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:10:15:15 น.  

 
ที่คห.18 พูดถึง
หนังสือเกี่ยวกับอินเดียของคุณชัยชนะ โพธิวาระ
จขบ.ก็มีครบค่ะ ชุดแขกยิ้ม คลี่ส่าหรี อะไรพวกนี้
เป็นแฟนพันธ์แท้ อ.ชัยชนะเลยละค่ะ

อ่านแล้ว เมื่อยแก้มมาก ขำกลิ้งไปกลิ้งมาห้าร้อยตลบ

แต่ถ้าฮายุคใหม่ก็เล่มนี้ค่ะ...สุดยอดมาก
การันตีว่าสนุกจริงๆ..."เสียดาย คยอินเดียไม่ได้อ่าน" ของใบพัดค่ะ



โดย: ทากชมพู วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:11:33:16 น.  

 
เล่มนี้เป็นหนังสือเกี่ยวกับอินเดียเล่มล่าสุด
ไปวนๆดูหลายรอบแล้ว

ยังไม่ได้ซื้อ...
กะว่า รอซื้อเดือนตุลาในงานสัปดาห์หนังสือฯ ซื้อมาตอนนี้ก็ได้แค่เก็บไว้ก่อน เพราะมัวแต่เล่นบล็อก ไม่มีเวลาอ่านอะไรเลย

เอ...หรือชาติก่อนเราจะเป็นคนอินเดียจริงๆอย่างคห 19 ว่าไว้!



โดย: ทากชมพู วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:11:47:23 น.  

 
ไม่เคยอ่านเลยพี่ แต่ตอนนี้หิวข้าว ผมแวะมาทักพี่ก่อน เพราะว่าเช้านี้ยังไม่ได้เข้าเนตเลย

เดินไปเดินมา...บ้าไปแล้ว


โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:12:03:36 น.  

 

" สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ความรักเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกรู้จัก และ ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่อ่อนโยนที่สุดที่มนุษย์รู้จักด้วย"



โดย: ทากชมพู วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:12:29:11 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยียนทักทายบล็อกวรรณกรรมอินเดียครับ



ผมเองยังไม่เคยอ่านนิยายเกี่ยวกับประเทศอินเดียเลยครับ
ที่จริงแล้วประเทศไหน ๆ ก็ไม่เคยอ่านทั้งนั้น
อ่านแต่ของไทยครับ แต่ก็นาน ๆ ที
สงสัยจะต้องลองไปหาแบบที่เกี่ยวกับประเทศอินเดียมาอ่านบ้างแล้ว
ก็ จขบ.ติดใจถึงขนาดนี้ อยากรู้จังเลยว่ามีดีอย่างไร

ขอให้สนุกกับวันทำงานในสัปดาห์นี้นะครับ
เรื่องราวบ้านเมืองจะวุ่นวายแค่ไหน
ก็คงไม่เลวร้ายไปกว่าที่ประเทศอินเดีย(บางย่าน)หรอกนะครับ


โดย: ตู้เพลงฯ (ตู้เพลงคนซน ) วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:13:11:52 น.  

 
หนังสือแนวนี้ เป๋อไม่อ่าน
..กลัวมากเลยด้วย

..มันสามารถทําให้จิตตก ห่อเหี่ยว ...บางที ถึงขั้นเกลียดโลกใบนี้
แทนที่จะคิดว่าโชคดีที่เกิดเป็นคนไทยเหมือนจขบ. เราคงจะสิ้นศรัทธาในมนุษยชาติ

เฮ้อ ...เราอยู่ในกลุ่มมองโลกแง่ร้ายหน่ะ



โดย: เป๋อน้อย วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:13:28:46 น.  

 
อ้างถึง
{ ที่แอบมองน่ะ ชอบเค้าเพราะเค้าเหมือนแฟนเก่าแค่นั้นเหรอ

...ถ้าเค้ารู้ว่า...เป็นแค่ตัวแทน และภาพหลอน...เค้าไม่ปลื้มแน่เลย... ,}

คิดอยู่เหมือนกันอยู่จ้า แต่วันนี้ไม่เห็นเค้าเลยแหะสงสัยไม่ว่างเลยไม่มาแถวนี้
ถ้าเรารู้จักแล้วสนิทกับเค้า เราไม่บอกหรอกว่าหน้าเหมือน
แฟนเก่า มันไม่ดี
เค้าเดินมาใกล้ๆเราแอบมองหน้าเขา อื๋ยทำไมคิ้วดกเหมือนเป๊ะเลยแหะ อืมเหมือนจริง

อ้อ ขอบคุณที่เกิดมาเป็นคนไทย ขอบคุณจขบ
ที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่านครับ


โดย: ซ้อมเต้น วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:18:10:11 น.  

 
วังเวงจังออฟฟิชเรา ช่วยด้วย แวะมาอีกรอบหาเพื่อน เดี๋ยวไปปิดระบบก่อนครับ บ๊ายบาย


โดย: ซ้อมเต้น วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:18:20:26 น.  

 
โอว.. India Literature Lover ตัวจริง
หลายเล่มมะเคยอ่าน บางเล่มอ่านนานมาแล้ว
ตอนนี้เพื่อนส่ง Kite Runner มาให้อ่าน
ย้ำเสียงหนักแน่นมาจากภูเก็ต " แกต้องอ่านให้ได้"
น่าจะเป็นเรื่องจากปากีสถาน

ว่าจะส่ง Lovers in Prague ไปให้เอง
นางเอก ไม่สวยเอาซะจริงๆ จังๆ เกาหลีตอนยังไม่โมดิฟาย
ดูไปก็อยากจะเอาทิชชูไปซับหน้ามันๆ ให้
ทนดูได้ไม่ไม่นาน
ส่วน พระเอกก็ไม่หล่อว่ะ ถึงแม้จะหุ่นดีก็เหอะ
แต่ยิ้มแล้วเหมือนม้าเลย
แต่คิดอีกที มันมีวิวสวยๆของปรากแค่แผ่นแรก
ก็เลยไม่ส่งดีกว่า เปลืองตังค์ คริก คริก
เพราะคิดว่าเธอคงทนดูได้ไม่ถึงครึ่งแผ่น

เอาเวปนี้ไปดูแทนแล้วกัน
//www.painaima.com/webboard/viewTopic.php?id=314
พิมพ์ชื่อเมืองที่เราจะไปเข้าไป รูปสวยๆ ขึ้นมาเพียบ ว้าว..

ส่วนเซมไปจิอากิ
เด๋วส่งให้ ขอนอนกอดอีกสักสองสามคืนก่อน


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:20:09:04 น.  

 
มีน้องที่ทำงานจบโทจากอินเดีย ชวนเหย็งๆให้ไปเที่ยว อาสาเป็นไกด์ให้เอง พี่อัยย์ว่าน่าสนมั๊ยคะ

.
.

วันนี้ไม่มีไฟสุมอก แปลกดีพี่

เพราะเอาใจไปมุ่งกับงานเสียหมด ไม่มีเสี้ยวไหนที่แว่บไปคิดเรื่องคับแค้นอีกเลย

ดีจังค่ะ หวังว่าอาการจะหายไป ไม่กลับมาอีก


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:20:55:30 น.  

 
สวัสดีค่ำวันจันทร์
เดี๋ยวนี้ถ้าเจอ งู และ แขกสื่งที่ต้องตีก่อนคือ ลิ้ม ลอง ไส
ไม่รู้ตอบตรงที่ถามไปหรือเปล่า ขนาด งูกับแขกยังหนีกระเจิดกระเจิงเลย
วีซ่าเรียบร้อยหรือยัง หวังว่าคงเรียบร้อยและและต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ถามเป็นความรู้ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเข้าไว้ สำหรับการทัวร์ในครั้งนี้ ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:21:05:25 น.  

 
สวัสดี 2200น.
อ่านกลอนกำลังได้อารมณ์ คนแต่งหมดอารมณ์เสียก่อน
อารมณ์ดีอย่าลืมแต่งต่อนะจะรออ่าน รักษาสุขภาพด้วย
ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:22:07:55 น.  

 
\\

lสวัสดีครับ สหาย

ขอบคุณนะครับสำหรับใบไม้

ใบอะไรอะครับ


โดย: .ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:10:20:00 น.  

 
...สวัสดีครับ คุณ นักเขียนและบรรณธิการ (อัยย์)

...ขอบคุณครับที่แวะไปเยี่ยมบอล์คบ่อยๆครับ
...เรื่องหนังสือเหล่านี้ต้องบอกว่า น่าอ่านจริงๆครับ...
...แต่ละเล่มคงหายากจริงเพราะ ไม่เคยผ่านสายตาผมเลย...
...คุณ อัยย์ คงรักหนังสือเหล่านี้มากๆ กว่าบางสิงนะครับ
...เพราะมันคือ ตัวตนของคุณ อิอิ


โดย: ...หุ่นฟาง ธรรมดาฯ (nai-nu-19 ) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:10:28:54 น.  

 
เมื่อพูดถึงอินเดีย เราต้องไม่ลืมว่า สุดยอดมหาบุรุษของเราเป็นคนอินเดีย

เจ้าชายสิทธัตถะ หรือ สิทธารถะ...

หนังสือเล่มนี้... เป็นของนักเขียนเยอรมันอันโด่งดัง
มองเจ้าชายของเรา...
ชาวพุทธ และคนรักหนังสืออินเดีย.อย่างจขบ..บอกว่าไม่รู้จัก หรือไม่เคยอ่านคงไม่ได้



โดย: ทากชมพู วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:24:53 น.  

 
แล้วมันก็ต้องโยงไปถึงหนังเรื่องนี้
ดูซิว่าฝรั่งมองศาสดา และ ศาสนาพุทธของเราอย่างไร

คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่คงได้ดู...
ดูแล้วก็ รับรู้ระดับหนึ่งว่า...ไม่เหมือนที่เรารู้สึกสักเท่าไหร่

ดังนั้น อยากให้คนไทยสร้างหนังเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ในมุมมองของเราเองสักเรื่อง

...ขอแบบนักสร้างคุณภาพนะคะ...ทุนหนาๆ ค้นคว้าหนักๆหน่อย



โดย: ทากชมพู วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:39:57 น.  

 


ต้องไปหาอ่านบ้างแล้ว


งานนนี้ ...



โดย: ._ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:51:59 น.  

 
พี่อัยย์ เห็นโปสเตอร์หนังเรื่อง littel buddha แล้วก็นึกได้

ผมไม่แน่ใจว่า คีนู รับเล่นเรื่องนี้หลังจากที่เขาเล่นเรื่อง matrix ภาคแรกจบหรือเปล่านะ แต่ผมเห็นว่าหนังสองเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกันทางแนวคิดพอสมควร

อาจไม่ชัดเจนมากมายนัก แต่ในมุมมองของผมเข้าใจว่าแบบนี้

ต้องไปหามาดูอีกรอบละ งั้น

พี่ พี่...


โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:12:17:31 น.  

 
คนที่ทำให้คับแค้นใจ มิใช่ คห. 56 แน่นอนค่ะ พี่อัยย์

โอย อ่านแล้วขำ

ป๋าน่ะหรือ จะมาทำให้ยุ้ยคับแค้นใจ

มีแต่คิดถึงแล้วใจสบายตะหากค่ะ พี่

คิดถึงแล้ว เย็นใจดีค่ะ 555


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:19:26:15 น.  

 
สวัสดียามค่ำ
คห. ที่36 เมืองเราจะหาคนสร้างคุณภาพตามที่ จขบ.เสนอน่าจะหายาก หนังแนวนี้ไม่มีนายทุนที่ไหนอยากทำ เขาจะต้องทำหนังตลาดที่ทำเงินให้กับเขา(เห็นเงินเป็นพระเจ้า)
จริงๆมีใจตรงกันในการสร้างหนังแนวนี้ เมืองไทยเมืองพุทธ
ถามว่า คนไทยที่เข้าใจในศาสนาพุทธอย่างถูกต้องจะมีซักกี่เปอร์เซนต์ ข้อพิสูจน์เบื้องต้นเล็กๆ ถ้าเข้าใจศาสนาพุทธจริงคงไม่เกิดสาวกที่เดินตามพวกกบฎเกะกะกลางถนนเกลื่อนเมืองไปหมด ถ้าเข้าใจแล้วจะไม่ให้ใครเขาจูงง่ายๆ
ทำเป็น_ _ _ _ไปได้(เติมเอาเอง) เข้าเรื่องจนได้
เราต้องอยู่กันด้วยความรัก รักษาสุขภาพด้วย ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:21:12:07 น.  

 
ก่อนไปนอน

แวะมาโพสต์รูปประเทศอินเดียฝากพี่อัยย์ก่อนค่ะ

















โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:22:17:47 น.  

 
ถึงอินเดียจะแร้นแค้น ยากจนอดอยาก

แต่ก็ยังมีสิ่งสวยงามให้พบเห็นได้นะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ พี่อัยย์
















โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:22:25:06 น.  

 
อ่านเรื่องการเก็บหนังสือเข้าชุดแล้ว อายจังครับ หนังสือของผมอยู่กันไม่เป็นที่เป็นทาง ไม่เคยเก็บเป็นชุดเลยครับ

เมื่อหลายปีมาแล้ว หนังสือที่จะต้องอ่านทุกวันเสาร์ เหมือนยาเสพติด คือ "ฟ้าเมืองไทย" เป็นความสุขที่บอกไม่ถูกครับ

หลังจาก "ฟ้าเมืองไทย" ปิดตัวเอง ทุกวันนี้ หาสิ่งที่ทดแทนไม่ได้เลย หรือกลัวว่าความเป็นอมตะนั้นจะลบหายไปจากความทรงจำ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:23:09:48 น.  

 
เห็นหนังสือ แล้ว อืม..อยากได้อะ แบบว่าสะสมหนังสืออยู่..


โดย: กิ่งโศก (Taboonkam ) วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:9:25:50 น.  

 
ชอบอ่านหนังสือค่ะ..เมื่อก่อนติดงอมแงม..

แต่ตอนนี้เทคโนโลยีเข้ามาแทน..อยากอ่านอะไรก็หาเอาจากเน็ต..แต่มันไม่ค่อยได้อารมณ์เลย..



เอาต้นหอมมาฝากค่ะ เอาไว้คั่นหนังสือก็ได้เนอะ..

เห็นไปบ่นที่บ้านซ้อมเต้นว่า..นาฬิกาหายที่ร้านนวด..++
เสียใจด้วยนะคะ เราเคยทำแว่นกันแดดหายที่ร้านทำผม..
ยังร้องไห้ไปตั้งหลายวัน..

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ..


โดย: sonnen วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:9:49:11 น.  

 
ลืม..ซะงั้น..

จะบอกว่า..เป็นความจริง..ที่เราโชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทย..

บนแผ่นดินไทยค่ะ...เนอะๆ


โดย: sonnen วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:9:50:25 น.  

 
เขย่าบล็อกเสมอเพื่อไม่ให้นอนก้น

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามานะคะ...ขอแตกประเด็นไปเรื่อยๆเพื่อไม่ให้เบื่อกัน

แต่ไงก็ไม่พ้นธีมอินเดีย...

นี่ค่ะ..นอกจากอ่านหนังสือแล้ว...จขบ.ยังเป็นคนที่ชอบกินโรตีมากมาย
สมัยเด็กๆ มีอาบังเข็นรถขายโรตีมาหน้าบ้านทุกคืน
ก็เลยซื้อกินทุกคืนค่ะ..ส่ายทั้งไข่ ส่ายทั้งนม อิอิ..

ผลลัพธ์...อ้วนจนลดไม่ลงมาจนบัดนาว!




แต่โรตีแบบอินเดียแท้ๆที่เรียกว่า จาปาตี...ไม่เคยกินค่ะ


โดย: ทากชมพู วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:10:47:16 น.  

 


อยากกินโรตี จังเลยครับสหาย

ฝนตกๆ แบบนี้นะครับ

ได้อะไหร อุ่นๆ น่าจะดี




โดย: `ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:11:08:55 น.  

 
add ไว้เป็นเพื่อนแล้วนะคะ..ขอบคุณสำหรับมิตรภาพจ้า..

บ้านโน้นแบบว่า หลายอารมณ์น่ะค่ะ..แล้วแต่ใจจะพาไป..

แต่บ้านทากชมพูเร้าใจกว่าค่ะ ตึ๊ด ตึ่ด ตึ๊ด (เพลงอินตะระเดีย)..อิอิ

ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่รัก..นะคะ..

หม่ำมื้อเที่ยงให้อร่อยน๊ะ..


โดย: sonnen วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:12:17:08 น.  

 
ไม่เคยอ่านวรรณกรรมที่เกี่ยวกับประเทศอินเดียเลยครับ สงสัยต้องหามาลองอ่านบ้างซะแล้ว


โดย: นายต่อ Ver. ต่างแดน (toor36 ) วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:14:24:31 น.  

 
เข้ามาเพิ่มเรตติ้งให้เจ๋ยๆ


โดย: ทาสบอย วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:16:01:07 น.  

 
ขนคอมพิวเตอร์มาตั้ง 20 เครื่อง หูยวันนี้จะไปนวดแระ T_T เจ็บหลัง ทำนาฬิกาหาย เจอรึยัง เดี๋ยวกลับบ้านก่อนนะ คนที่หน้าเหมือนแฟนไม่มาสองวันแล้วสงสัยเกลียดขี้หน้าเรา


โดย: ซ้อมเต้น วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:16:32:58 น.  

 















มีภาพมาฝากอีกค่ะ พี่อัยย์

ไหนๆบล็อกนี้พี่ก็พูดถึงอินเดียแล้ว ...


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:20:30:19 น.  

 















ไปล่ะค่ะ

หลับฝันดีนะคะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:20:35:26 น.  

 
สวัสดียามค่ำ
ขอบคุณที่ต่อกลอนให้อีกบท ถ้ามีอารมณ์ก็ต่ออีกหลายบทนะ จบลงตรงที่โรตีแขกก็ได้ เป็นคนชอบกินโรตีแต่ต้องกรอบเวลาซื้อต้องยืนกำกับทุกครั้งเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการเป็นซะอย่างนั้น มาเยือนบล็อกนี้บ่อยๆชักจะมีกลิ่นเครื่องเทศติดกลับไปเสมอ มีความสุขกับงานที่ชอบ
รักษาสุขภาพด้วย ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:20:43:40 น.  

 
ว่างๆ จขบ.คิดว่าจะลองแต่งหน้าแต่งตัวแบบนี้ดูซักที

...เอาไว้โอกาสดี คืนวันพระจันทร์เต็มดวง...



โดย: ทากชมพู วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:21:18:28 น.  

 
แต่งได้สบายมาก

มีตาคมโตหวานซึ้งออกปานนั้น

ราชสถาน ไจปูร์ ยังอยู่ในแผนนะ

ยังอยากไปอยู่ ไปด้วยกันมะ

ทางใต้ก็มะเคยไป ไปอินเดียสองครั้ง ไปแต่ทางตอนเหนือ


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:21:26:43 น.  

 
คห.57

ไปปราก กะ ออสเตรียยังหมดตัวไม่พอชิมิ?

เอ่อ..เอาจิ...คิวต่อไป...


จนเป็นจน......


โดย: ทากชมพู วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:22:10:53 น.  

 
วันนี้มีประเด็นย่อยเรื่องโรตี ทำให้ผมนึกถึงอาบังคนหนึ่งที่เคยพบเจอพูดคุยกันบ่อย เขาขายถั่วแบบคลาสสิคด้วยการเอาโต๊ะถั่วของเขาเทินขึ้นบนหัว ตระเวนไปในที่ต่าง ๆ ผมต้องยอมรับว่าถั่วของเขาเป็นสุดยอดถั่วคั่วซึ่งในปัจจุบันหากินยากแล้ว ผมอุดหนุนเขาทุกครั้งที่เขาผ่านมาจนสนิทสนมกัน เราพูดคุยกันในเรื่องสาระน่าสนใจหลาย ๆ อย่าง ผมจะหยิบยกมาเล่าให้ฟังสักเรื่อง

บังขายถั่วเคยบอกผมว่าเขาไม่ชอบให้คนเรียกเขาว่า “บัง” อ้าว..ผมเห็นใคร ๆ เขาก็เรียกคนแขกว่าบังกันทั้งนั้น แล้วมันไม่ดีตรงไหน เขาบอกผมว่าคำนั้นเป็นคำที่คนรวยใช้เรียกคนจนในประเทศอินเดีย แต่ผมเคยได้ยินมาว่าคำว่า “บัง” แปลว่าพี่ไม่ใช่หรือ? เขาบอกว่าไม่ใช่ คำว่าพี่คือ “บาบู” ผมได้รับความรู้ใหม่ จากนั้นผมก็เรียกคนแขกว่าบาบูตลอดมา ผมสังเกตได้ว่าเมื่อผมไปซื้อโรตี(อาหารโปรดของผม)ที่ไหนก็ตาม แล้วเรียกคนขายว่าบาบู เขาจะมองกลับมาที่ผมด้วยสีหน้าเบิกบาน ทำให้ผมมีความรู้สึกที่ดีเกิดขึ้นมากเลยครับ


โดย: ตู้เพล (ตู้เพลงคนซน ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:1:35:18 น.  

 
ถ้าพูดถึงหนังสือท่องเที่ยวอินเดีย

อันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่ง...ถ้าส่วนมาก...ก็อย่างที่บอกค่ะว่า มากจนขี้เกียจถ่ายรูป...

ถ้ามีการประกวดกันในประเทศนี้
...เชื่อว่าจขบ.ต้องได้แชมป์สุด"ยอดนักซื้อหนังสือเที่ยวอินเดีย"แน่นอน...อิอิ...



โดย: ทากชมพู วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:8:30:18 น.  

 
มีความรู้สึกว่า หนังสืออินเดียๆ เขาจะดีไซน์หน้าปกได้สวยถูกใจกว่าหนังสือประเภทอื่น

อาจเพราะอินเดีย มีสีสันในตัวเองมากมายอยู่แล้ว...



โดย: ทากชมพู วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:8:43:15 น.  

 
มาดูว่าแตกประเด็นบล็อกไปถึงไหนแล้ว...


โดย: ทาสบอย วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:11:15:18 น.  

 


เอาปลากับผักมาฝากจ้า..เพื่อสุขภาพดีๆ..อิอิ

มีความสุขทุกวันนะคะ..


โดย: sonnen วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:12:52:05 น.  

 
แวะมาเยี่ยมแล้วค่ะ

พี่ทากก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ผู้ชนะเหมือนเซี่ยสิคะ จะได้สนุก

ตอนนี้กำลังลุ้นไซเคิล 11 อยู่ค่ะ

สัปดาห์ที่แล้วลูกสาวคนแรก(Nikysha)เพิ่งตกรอบไป

เหลืออีก 3 คนให้ลุ้นค่ะ


โดย: CiaCia วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:16:55:17 น.  

 
ขนหนังสืออินเดียมาโชว์เยอะเชียว

เล่มที่เป๋อเล็งว่าจะอ่านนานแล้วคือของเฮสเซ ยังไม่ได้เริ่มซะที เคยติดใจมากมายจากอีกเรื่องนึง น้านนานแล้ว
...นานจนจําเรื่องไม่ได้

กองทุนรวม อย่าเพิ่งท้อใจค่ะ
ถ้าเป็น LTF ก็คิดซะว่า ไว้หักภาษี


โดย: เป๋อน้อย วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:17:21:24 น.  

 
ภาพใน คห.56

พี่อัยย์ลองแต่งดูสิคะ

ต้องคล้ายคลึงแน่นอน


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:19:36:06 น.  

 
หวัดดีค่ะ
ไม่ค่อยได้มาเยี่ยมเลยค่ะ ค่อนข้างจะยุ่งวุ่นวาย บลอกตัวเองก็กะลังจะเน่าแล้ว
แต่เข้ามาบลอกนี้แล้วคุ้มสุดคุ้มค่ะ ได้ดูภาพสวยๆ จากอินเดียด้วย ต้องยกความดีให้ยุ้ยอีกคนค่ะ


โดย: เนระพูสี วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:20:13:35 น.  

 
ขนมเต็มตู้เลยเหรอครับ ใครนะ!ช่างส่งไปจีบตัดหน้าเรา ฮึ่ม..
ที่งานวัดผมเล่นแทบทุกอย่างเลยครับ ปาโป่ง ปากระป๋อง โยนห่วง คล้องห่วง ฯลฯ ทดลองอย่างละครั้ง สิบบาทยี่สิบบาท แต่ทำไม่สำเร็จซักกะอย่างเดียว ก็เลยไม่ได้รางวัลเป็นวัตถุอะไรมา แต่รางวัลที่ผมได้คือรอยยิ้มของคนในร้านที่มีความสุขกับการที่เห็นผมทำพลาด บางคนถึงกับปล่อยก๊ากออกมา ผมก็พลอยมีความสุขไปกับเขาด้วย อาจมีความสุขมากกว่าเขาเสียอีก คุ้มค่าเงินสิบบาทยี่สิบบาทมากกว่าของรางวัลใดในร้านเลยครับ

ถึงแม้จะหดหู่นิดหน่อยตอนไปเดินถ่ายรูป เพราะบางร้านเขาระแวงว่าผมจะเอารูปร้านเขาไปนำเสนอในทางที่ไม่ดี แต่พอภารกิจเสร็จสิ้น ผมก็ได้ร่วมงานอย่างมีความสุข

นักร้องอ้วนคนนั้นเขาเสียงดีนะครับ คนอ้วนมักจะมีพลังเสียงเหนือธรรมชาติ สังเกตได้ว่านักร้องซูบราโน่ที่ต้องใช้พลังเสียงมาก ๆ ส่วนใหญ่จะอ้วนตุ๊บกันทั้งนั้นเลยครับ

โยชิกิ ผมก็เคยเห็นตามสื่อต่าง ๆ มาบ้าง แต่ก็ไม่รู้จักชื่อและหน้าที่ของเขา ขอบคุณสำหรับรูปและข้อมูลนะครับ
เอ้า..ขอเสียงหน่อย กรี๊ดดดด...ว๊ากกกก...จ๊ากกก...ค็อก ๆ (สำลักเบียร์เลย)


โดย: ตู้เพลงฯ (ตู้เพลงคนซน ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:20:52:50 น.  

 
สวัสดียามค่ำ
โอเคเช่นกัน ขอให้มาตามระบบรับได้ สากลเขาเป็นเช่นนี้
แต่ได้พวกสาวกทั้งหลายไม่รู้มันเอาอะไรส่วนไหนของร่างกายคิดแทนสมอง ไปนั่งเป็นสากเบือฟังเรื่องไร้สาระอยู่ได้
มันน่า ?
สาวอินเดียคนนี้นิ้วมือสวยจัง คล้ายมือพระพุทธรูป หมาที่บ้านเป็นเพศเมียรับรองไม่เห่าแน่ จะกลบกลิ่นการแฟหรือไม่ยังไม่แน่ใจ ย้ำนิ้วมือสวยจริงๆ
เราต้องช่วยกันรักษาระบอบประชาธิปไตยของเราไว้ให้ดี
ไอ้พวกเผด็จการที่ชอบแต่งตั้งมันเอาแน่ แต่ดูอีที่มันน่าจะฝ่อไปเองนะ
รักษาสุขภาพด้วย ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:21:00:39 น.  

 
เห็นภาพสาวอินเดีย เลยนึกถึงภาพนี้ครับ
เป็นภาพเก่าในงานปิคภาคเรียนของโรงเรียนระดับประถมแห่งหนึ่ง เดี๋ยวนี้เธอเรียนระดับมหาวิทยาลัยแล้วครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:21:04:27 น.  

 
ใช่ครับ...
2 ภาพนี้วาดโดยเด็กชาวอินเดีย ได้รับรางวัลเนห์รู จากการประกวดของเด็กทั่วโลก หลายปีมาแล้วครับ





โดย: Insignia_Museum วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:16:13 น.  

 
หวัดดีครับ ผมก็เป็นคนชอบอ่านหนังสือมากคนหนึ่งก็ว่าได้ครับ หนังสือเล่มแรกแรกถ้าจำไม่ผิด (นอกจากหนังสือเรียน นะครับ) เป็นหนังสือการ์ตูนโดราเอม่อน ชอบมากเลย ตอนนั้นยังเด็กอยู่นะครับ พอโตมากแล้วก็ชอบอ่านการ์ตูน (อีกแล้ว) สรุปก็คือเป็นคนชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ทั้งชื้อทั้งยืม(อันหลังนี่ไม่ค่อยจะส่งคืนเจ้าของ..) หนังสืออื่นก็อ่านนะครับ ตอนนี้หนังสือจะท่วมหัวผมอยู่แล้วจนแฟนบ่นมันเยอะเกินไปแล้วนะ ประเทศอินเดียผมได้ศึกษาตอนที่บวชเป็นสามเณร จะมีหนังสือเกี่ยวกับพุทธประวัติและประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่น่าศึกษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมมากครับ ผมขอตัวเข้านอนก่อนนะครับ หลับฝันดีนะครับ


โดย: AJono วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:23:05:31 น.  

 
สวัสดีทากสีชมพู


ขอบคุณสำหรับกาแฟหอมกรุ่น
พูดถึงวรรณกรรมอินเดียชอบอยู่มาก
รออ่านจัณฑาลอยู่
แต่ยังไม่ได้กลับบ้าน
กำลังติดลม

แต่ก็มีนักอ่านใจดีคนหนึ่งเธอมอบหนังสือเรื่อง"อินเดียใต้ต้นไม้" กำลังอ่านอยู่ ทำให้ยิ่งรักตะกอร์เพิ่มขึ้น

ส่วนในบรรดาคนอินเดียทั้งหมดนั้นขอยกให้เป็นสุดยอดคือพระพุทธเจ้า


โดย: พ่อพเยีย IP: 202.149.24.129 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:8:19:59 น.  

 
morning


Glitter Comment โดนๆที่ GlitterDD

จวนถึง 101 แล้วนี่


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:8:49:21 น.  

 
ไม่ว่าประเด็นไหน บล๊อกนี้ก็มักจะมีคนเข้ามาพูดคุยกันเยอะเชียวค่ะ

อุ๋มก็ว่า เกิดเป็นคนไทยนี่ดีสุดๆ แล้วหละ

สำหรับอินเดีย ตอนนี้คนทั่วไปก็ยอมรับเค้าในเรื่องระบบการศึกษามากขึ้นเยอะเลยค่ะ เพื่อนเจ้านายอุ๋มส่งลูก 2 คนไปเรียนโรงเรียนประจำที่อินเดียด้วยค่ะ

แต่เรื่องการค้ากับอินเดีย ยังไงก็ยากกว่าคบค้ากับจีนเยอะเลย นิสัยเค้าคนละอย่างกัน

... เคยมีคนบอกว่า "ถ้าให้เกิดเป็นผู้หญิงอินเดีย ขอเกิดเป็นวัวในอินเดียดีกว่า"...


โดย: SIMAKHA วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:9:15:52 น.  

 
อ่านแล้วบล็อคนี้ ได้แง่คิดดีๆ มากมายเลยครับ

โดยเฉพาะการมอง การคิดในด้านบวก

ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆ ครับ

ปล. เพิ่งเคยได้ยินว่ามีแฟนพันธ์แท้วรรณกรรมอินเดียด้วย ได้เปิดโลกทัศน์จริงๆ ครับ


โดย: ตั้งสติ วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:9:52:34 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่เพื่อนๆเข้ามาแจมบล็อกอินเดียกันเยอะเชียว

.....วันนี้อดนึกถึงเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะ...กามาสุตรา...อิอิ...

คัมภีร์ท่วงท่าลีลารัก ตำราเพศศึกษาอันดับแรกๆของโลก...

อืมม...เคยดูหนังเรื่องนี้มั้ยคะ...โอเค.เลยค่ะ
ขอบคุณที่มาฉายในยุคที่เซ็นเซอร์ยังไม่บ้าจี้เหมือนยุคนี้
ถ้ามาฉายตอนนี้...คาดว่าหมอกลงจนไม่เห็นอะไร...



โดย: ทากชมพู วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:10:45:56 น.  

 
ใบปิดอีกเวอร์ชั่น
สวยงามมากค่ะ...หนังเรื่องนี้ เป็นผลงานสร้างและกำกับของไมร่า แนร์ ผู้กำกับหญิงระดับอินเตอร์ของอินเดีย

จขบ.เป็นแฟนพันธ์แท้ของไมร่า แนร์ (เป็นแฟนพันธ์แท้คนนั้นคนนี้เยอะจังเลยแฮะเรา) หนังของเธอ จขบ.ดูซะเพียบ



โดย: ทากชมพู วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:10:50:43 น.  

 
รูปหินสลักกามาสุตรา อย่ามองเป็นเรื่องโป๊ ลามกอะไรนะคะ
เป็นศิลปะขั้นสูงค่ะ...ที่อินเดียมีอยู่ทั่วไป

อินเดียเป็นเจ้าแห่งศาตร์ที่ว่าด้วยสรีระร่างกาย ธรรมชาติของมนุษย์จริงๆ

สุดยอดวิทยาการ กาย จิต วิญญาณ สุขภาพทั้งหลายแหล่...มาจากที่นี่ทั้งนั้น...



โดย: ทากชมพู วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:11:26:13 น.  

 


คอม.. สหาย เดี้ยงครับ

...........ปวดท้องเลย



โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:11:45:59 น.  

 


หมูน้อยมาเที่ยวดินเดียด้วยค่ะ..อิอิ อย่าเอาหมูไปตัดหัวนะคะ..


โดย: หญิงจ่อย (sonnen ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:13:40:38 น.  

 
ทากชมพูผู้เป็นน้องใหม่ของสมาชิกบล็อก แต่แฟนคลับเยอะจังเลย ลุงซะอีกมีเพื่อนแค่ไม่กี่คนเอง เก่งจังเลยนะเราน่ะ


โดย: เขาพนม IP: 203.113.0.205 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:14:24:31 น.  

 
เห็นด้วยกับลุงเขาค่ะ ...

.
.

วันนี้แวะเอาของขวัญวันเกิดไปให้น้องชายมาค่ะ พี่อัยย์

เลยถือโอกาสถ่ายรูปมาด้วย

น้องชายไม่ผอมแล้ว

หาหมอครั้งล่าสุด พบว่าไขมันในเส้นเลือดสูงค่ะ

เพียงกินปลาหมึกย่างวันละ 3 ไม้เป็นประจำทุกวันเท่านั้นเอง


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:19:18:25 น.  

 
สวัสดีค่ำวันศุกร์
เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยก็ไม่ได้ มีทางเดียวต้องทุบทิ้ง แล้วนำไปใส่เครื่องย่อยทำปุ๋ย ต้นไม้ยังร้องเลยรับไม่ได้กลัวจะไปเบียดเบียนใส้เดือน เวรกรรมมีจริง
สมัยก่อนหนังอินเดียมาฉายในเมืองไทยมาก หนังกลางแปลงยังเป็นหนังอินเดียเสียเป็นส่วนใหญ่ เด็กบ้านนอกก็ต้องหอบเสื่อไปจองที่ตั้งแต่หัววัน เพื่อรอดูหนุมาน แต่กว่าจะได้ดู เขาก็เอาแต่ขายยา ก็ต้องทำใจของฟรีไม่มีในโลกนี้
แฟนพันธ์แท้ของอินเดียต้องที่นี่ ขอบคุณที่เอาสิ่งดีๆมาแบ่งปันกัน ให้มีความสุขกับการทำในสิ่งที่ชอบ รักษาสุขภาพด้วย ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:20:10:58 น.  

 
ลืมรายงานอีกเรื่องค่ะ

คือ น้องชายทึ่งกับหนังสือ Summer Blossum มาก พอบอกว่าพี่อัยย์ก็คือพี่ ... นั่นเอง


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:20:54:21 น.  

 
หวัดดีครับคุณอัยย์
วันนี้เข้ามาดูว่ามีการแตกประเด็นอะไรออกมาอีกหรือเปล่า
ก็พบว่ามีเรื่องหนังอินเดีย กับเรื่องเซ็กซ์ของอินเดีย
ประเด็นหลังนี่ผมไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า
แต่ก็เอาเหอะ วันนี้ผมเล่นแค่ประเด็นแรกก่อนก็แล้วกัน

เห็นมีใบปิดหนังสวย ๆ มาลงไว้
ไฟแห่งความหลงใหลในศิลปะใบปิดหนังของผมก็เกิดประกายขึ้นมาเชียว
ว่าจะไปหามาดู มาแปะไว้ที่นี่บ้าง เอาเรื่องอะไรดีล่ะ?
หนังอินเดียเรื่องแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวสมองผมก็คือ “ช้างเพื่อนแก้ว”
โอ้...อะชะ! เรื่องนี้เก่ามากมาย ได้ดูตอนสมัยเป็นเด็กมาก ๆ เลยครับ
จำได้ชัดว่าเป็นครั้งแรกที่ผมได้หลั่งน้ำตาให้กับภาพยนตร์
ซ้ำยังจำได้ว่าเรื่องนี้เป็นหนังโรงเรื่องที่ 2 ที่ผมได้ดูครับ
เรื่องแรกคือ “โทน” เรื่องที่ 3 และต่อ ๆ มาจำไม่ได้แล้วครับ



โดย: ตู้เพลงฯ (ตู้เพลงคนซน ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:21:03:22 น.  

 
คห 84

ได้ดูอยู่เหมือนกันค่ะ ช้างเพื่อนแก้ว...เป็นหนังอินเดียที่ดังที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย

ส่วนเรื่องข้างล่างนี้...ระดับออสการ์ค่ะ เกี่ยวเนื่องกับกามาสุตราอยู่เหมือนกัน

จขบ.ชอบมาก แม้จะงงอยู่บ้าง ช่วงหลังๆของเรื่อง
ที่นางเอกไปเห็นรูปสลัก กามาสุตรา ทั้งหลาย แล้ววิ่งออกมาจากถ้ำ บอกว่าถูกข่มขืน?!

คนดูก็ตีความกันไปสิคะ....ว่าเกิดอะไรขึ้น รูปภาพเหล่านั้นทำให้เธอคิดไปเองหรือเปล่า หรือยังไง...มั่วค่ะ

แต่หนังดีมาก สวยงาม....



โดย: ทากชมพู วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:21:47:10 น.  

 
ในอินเดียสมัยก่อน คนที่ผ่านชีวิตการครองเรือน สร้างครอบครัวอย่างสมบูรณ์ ลูกเต้ามีหลักปักฐานแล้ว หากวันใดหัวหน้าครอบครัวหายไป ภรรยาและสมาชิกของครอบครัวจะไม่ทุกข์ร้อนหรือวิตกเลย
เป็นที่เข้าใจกันว่า การปลีกวิเวกขอบผู้นำครอบครัวเป็นเรื่องที่ควรจะกระทำได้
นั่นคือผู้นำครอบครัวอาจหายไปไม่กลับมาครองเรือนอีกเลย ไปสู่เส้นทางที่เขาคิดว่าหลุดพ้นจากพันธะ อาจเป็นภิกขาจาร หรือคนเร่ร่อนที่ขออาหารประทังชีวิตไปวันๆ ครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:21:47:46 น.  

 
อันนี้เป็นใบปิดอีกแบบของ อะ พาสเสจ ทู อินเดีย...

สวยค่ะ...ใบปิดหนังฝรั่งที่เกี่ยวกับอินเดีย...สวยมากทุกเรื่อง ดูคลาสสิคมาก

นางเอก หน้าตาเอาเรื่อง...เก๋ดีค่ะ



โดย: ทากชมพู วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:21:51:58 น.  

 
ดีใจจัง พี่อัยย์จำวันเกิดน้องชายได้


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:22:08:18 น.  

 


โดย: เนระพูสี วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:8:33:34 น.  

 



ตื่นแล้ว แวะมาบอกว่า Happy on Weekend naka..



โดย: PuMpuY.. (sonnen ) วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:10:10:42 น.  

 
กำลังมีปัญหา อัพบล็อกใหม่ ใส่รูปไม่ได้
บล็อกแก๊งกำลังดูให้อยู่ค่ะ...เจ้าหน้าที่ เอาใจใส่ดี...ขอบคุณมากๆ

...............................

ไม่เป็นไร บล็อกนี้ยังเล่นได้เรื่อยๆ
เกิดมาเป็น อินเดียมาเนียซะอย่าง ไม่ตันเด็ดขาดค่ะ

ต่อด้วยเรื่องหนังอีกนิด เป็นหนังฮอลลีวู้ดอีกเรื่องที่ จขบ.ประทับใจมาก พระเอกคือ แพทริก สเวย์ (คนเดียวกับพระเอกเรื่อง โกสท์ และ เดอร์ตี้ ด๊านซิ่ง)

หนังเรื่องนี้ไม่ได้เงินเท่าไหร่ แต่ได้ใจจขบ.เพราะบอกเล่าเรื่องราวของชุมชุนชาวบ้านในเมืองใหญ่อย่างมุมไบได้ดี

city of joy...ใบปิด สวยอีกแล้วขอรับ



โดย: ทากชมพู วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:11:57:31 น.  

 
แวะมาชิงพื้นที่ 101

ใบปิดข้างบนสวยจริงๆค่ะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:12:05:14 น.  

 
นอกจากช้างเพื่อนแก้วแล้ว โชเล่ย์คืออีกหนึ่งหนังอินเดียในความทรงจำ
ดังระเบิดเถิดเทิง..
พระเอกหล่อ บู๊ สองคนนี้ บอกไม่ถูกว่าชอบใครมากกว่า...
ทราเมนเดอร์ กับ อมิตาป บัจจัน

เพลงโชเล่ย์ ก็ร้องกันสนั่นเมือง จขบ.ยังร้องได้เลย (จะตอกย้ำวัยตัวเองไปถึงไหน)
เพลงนี้ ยอดรัก สลักใจก็เอามาร้องเป็นเพลงลูกทุ่งยอดฮิตด้วยละ



โดย: ทากชมพู วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:14:41:51 น.  

 
นำภาพร้านหนังสือในอินเดียมาฝากครับ เป็นอีกภาพหนึ่งที่ได้รับรางวัลครับ

วันนี้อัพบล็อกใหม่แล้วครับ เปลี่ยนบรรยากาศ จะชวนคุณทากชมพูไปนั่งรถเมล์ฟรีในวันหยุด ถ้าว่างขอเชิญครับ



โดย: Insignia_Museum วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:22:15:05 น.  

 
พี่อัยย์ยังไม่เข้านอนหรือคะ

ถ้ายังไม่ง่วง รอเลยเที่ยงคืนไปนิดได้มั๊ยคะ

ยุ้ยอยากให้พี่อัยย์เจิมบล็อกค่ะ


emo


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:23:49:12 น.  

 
เมื่อคืนพี่อัยย์คงเข้านอนก่อนยุ้ย ฮือ ฮือ

วันนี้ พี่คงไม่ลืมนะคะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:9:26:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทากชมพู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






เป็นนักล่าน้ำตก บ้านๆ ธรรมดาๆ พื้นๆ ง่ายๆ

เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร...เบื่ออันธพาล



สะดุดรัก..คู่ปรับหัวใจ นิยายสุดรักสุดหวงของอัยย์วางแผงแล้ว แวะรัก..กลางฤดูร้อน นิยายสุดรักอีกเรื่อง.. วางแผงแล้ว !!
Friends' blogs
[Add ทากชมพู's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.