วิกโก้ มอร์เทนเซน ขวัญใจของคอหนังทั่วโลกจากบท อะรากอร์น ใน The Lord of the Rings เผยให้เราเห็นชีวิตอีกด้านหนึ่งของเขา ผ่านงานถ่ายภาพ ซึ่งเปิดนิทรรศการไป เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมๆ กับการเปิดตัวของ Return of the King เดอะ กั้ง (นามสมมุติ) ผู้สื่อข่าวพิเศษจุดประกาย คือ นักข่าวหนึ่งเดียว จากเมืองไทย ที่มีโอกาสไปร่วมงาน เปิดนิทรรศการภาพถ่าย ของมอร์เทนเซน ที่กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ มีรายงาน
หลายๆ คนคงรู้จักชื่อของ วิกโก้ มอร์เทนเซน ในฐานะดารานักแสดงเจ้าของบทบาท อะรากอร์น ในมหากาพย์ไตรภาคเรื่องยิ่งใหญ่ The Lord of the Rings แต่อาจจะไม่รู้ว่า ชายหนุ่มนักแสดงชาวอเมริกันผู้นี้ โลดแล่นอยู่ในวงการมายาฮอลลีวู้ดมาไม่น้อยกว่า 20 ปี มีผลงานการแสดงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 เรื่อง หากเป็นผู้นิยมดูหนังขึ้นมามากอีกหน่อย คงคุ้นหน้าคุ้นตาและจดจำเขาได้จากบทบาทการแสดงเรื่องอื่นๆ เช่น ผู้กองจอมโหดที่ฝึกเข้ม เดมี มัวร์ ใน G.I. Jane หรือบทบาทศิลปินเจ้าเสน่ห์ที่ประกบแย่ง กวินเน็ท พัธโทรว์ กับ ไมเคิล ดักลาส ใน A Perfect Murder มาแล้ว และในหนังเรื่องหลังนี่เอง ที่เขาได้แสดงความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่ไม่น้อยหน้าผลงานการแสดง นั่นคือ งานศิลปะ
แม้ว่า The Lord of the Rings จะสร้างชื่อเสียงให้กับเขามากมาย แต่ วิกโก้ ชายหนุ่มที่ได้รับการขนานนามว่า โบฮีเมียน (ผู้ไม่ยึดติดกับกรอบหรือธรรมเนียมใดๆ) ก็เพียงแต่ยักไหล่ให้กับชื่อเสียงเหล่านั้น เขาน้อมรับ แต่ไม่กระโจนเข้าหา เขามีผลงานการแสดง หลังจากเรื่อง The Lord of the Rings เพียงเรื่องเดียว คือ Hidalgo (แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าเขาอาจจะรับบทตัวร้ายในหนังแบทแมน ภาคล่าสุดของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน)
งานนิทรรศการผลงานภาพถ่ายล่าสุดของเขาที่ใช้ชื่อว่า MO TE UPOKO-O-TE-IKA/FOR WELLINGTON จัดขึ้นที่เมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ในช่วงเวลาเดียวกับที่เมืองหลวงแห่งนี้ ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงาน เวิลด์ พรีเมียร์ ของภาพยนตร์ Return of the King ภาคต่อสุดท้ายของ The Lord of the Rings ที่เขานำแสดงอยู่เช่นกัน
อย่างเช่น ภาพ Lost I, II, III, IV เป็นภาพที่ผมได้มาตอนที่ไปหลงป่าอยู่ทางเกาะใต้ (ของนิวซีแลนด์) ผมประมาท ด้วยความที่คิดว่ารู้จักพื้นที่นั้นเป็นอย่างดี จึงไม่ได้เตรียมไฟฉายหรืออะไรไป นอกเหนือไปจากกล้อง แต่หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน มันก็มืดมาก ผมจึงต้องใช้แฟลชจากกล้องเป็นเครื่องนำทาง ผมกดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ จนฟิล์มหมด แต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกจากป่าได้ ต้องรอจนพระจันทร์ขึ้น จึงพอจะจำทางและคลำหาทางออกจนพบ
งานนิทรรศการหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งงานล่าสุดที่ตั๋วเข้างานในวันเปิดนิทรรศการขายหมดไปอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสำเร็จของ The Lord of the Rings ซึ่งตัววิกโก้เอง ก็ดูจะตระหนักในเรื่องนี้ดี...
ผมไม่แปลกใจเลยว่า กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชมนิทรรศการ เป็นเพราะ The Lord แต่นั่น...ไม่ได้สำคัญต่อวิธีการทำงานหรือการถ่ายรูปของผมแต่อย่างใด
ในตอนเย็นของวันเดียวกันกับงานแถลงข่าว คือ การเปิดงานนิทรรศการอย่างเป็นทางการ งานนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดสนใจก่อนเวิลด์ พรีเมียร์ จะเริ่มขึ้น เพราะมีจุดเด่นของงานคือ เหล่าเพื่อนนักแสดงใน The Lord of the Rings ที่มาร่วมเป็นแขกกิตติมศักดิ์ ให้แก่นิทรรศการ และเป็นงานทางการครั้งแรกที่พวกเขาปรากฏตัวด้วยกัน