Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
วิกโก้ มอร์เทนเซน The Bohemian King

‘วิกโก้ มอร์เทนเซน’ ขวัญใจของคอหนังทั่วโลกจากบท ‘อะรากอร์น’ ใน The Lord of the Rings เผยให้เราเห็นชีวิตอีกด้านหนึ่งของเขา ผ่านงานถ่ายภาพ ซึ่งเปิดนิทรรศการไป เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมๆ กับการเปิดตัวของ Return of the King เดอะ กั้ง (นามสมมุติ) ผู้สื่อข่าวพิเศษจุดประกาย คือ นักข่าวหนึ่งเดียว จากเมืองไทย ที่มีโอกาสไปร่วมงาน เปิดนิทรรศการภาพถ่าย ของมอร์เทนเซน ที่กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ มีรายงาน

Image hosted by Photobucket.com



หลายๆ คนคงรู้จักชื่อของ วิกโก้ มอร์เทนเซน ในฐานะดารานักแสดงเจ้าของบทบาท ‘อะรากอร์น’ ในมหากาพย์ไตรภาคเรื่องยิ่งใหญ่ The Lord of the Rings แต่อาจจะไม่รู้ว่า ชายหนุ่มนักแสดงชาวอเมริกันผู้นี้ โลดแล่นอยู่ในวงการมายาฮอลลีวู้ดมาไม่น้อยกว่า 20 ปี มีผลงานการแสดงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 เรื่อง หากเป็นผู้นิยมดูหนังขึ้นมามากอีกหน่อย คงคุ้นหน้าคุ้นตาและจดจำเขาได้จากบทบาทการแสดงเรื่องอื่นๆ เช่น ผู้กองจอมโหดที่ฝึกเข้ม เดมี มัวร์ ใน G.I. Jane หรือบทบาทศิลปินเจ้าเสน่ห์ที่ประกบแย่ง กวินเน็ท พัธโทรว์ กับ ไมเคิล ดักลาส ใน A Perfect Murder มาแล้ว และในหนังเรื่องหลังนี่เอง ที่เขาได้แสดงความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่ไม่น้อยหน้าผลงานการแสดง นั่นคือ งานศิลปะ



Image hosted by Photobucket.com



วิกโก้ ให้ความสนใจในงานศิลปะ แม้ว่าเขาจะไม่ได้จบการศึกษาทางศิลปะมาโดยตรงเลยก็ตาม (เขาจบปริญญาตรีทางด้านรัฐศาสตร์และภาษาสเปน) นอกเหนือไปจากงานแสดงแล้ว เขาทุ่มเทเวลาให้กับการวาดภาพ ถ่ายภาพ แต่งบทกวี และงานดนตรี

แม้ว่า The Lord of the Rings จะสร้างชื่อเสียงให้กับเขามากมาย แต่ วิกโก้ ชายหนุ่มที่ได้รับการขนานนามว่า ‘โบฮีเมียน’ (ผู้ไม่ยึดติดกับกรอบหรือธรรมเนียมใดๆ) ก็เพียงแต่ยักไหล่ให้กับชื่อเสียงเหล่านั้น เขาน้อมรับ แต่ไม่กระโจนเข้าหา เขามีผลงานการแสดง หลังจากเรื่อง The Lord of the Rings เพียงเรื่องเดียว คือ Hidalgo (แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าเขาอาจจะรับบทตัวร้ายในหนังแบทแมน ภาคล่าสุดของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน)

ดูเหมือนว่า วิกโก้ ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการมายามากนัก แต่ในแวดวง ศิลปะแล้ว เขาดูเป็นศิลปินที่กระตือรือร้นอย่างมาก เขาเคยออกหนังสือรวมภาพถ่ายและบทกวีเกือบ 10 เล่ม รวมทั้งผลงานเพลงในแนว experimental รวมกับนักดนตรีคนอื่นๆ อีก 6 ชุด นอกจากนั้น เขาได้ตั้งสำนักพิมพ์เล็กๆ ของตัวเอง ที่ชื่อว่า Perceval Press ซึ่งพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือศิลปะและกวีด้วย

ภายในเวลาสามปี เขามีนิทรรศการแสดงภาพถ่าย และภาพวาดโชว์เดี่ยวกว่า 5 ครั้งที่จัดแสดงทั้งในอเมริกา คิวบา เดนมาร์ก และล่าสุด คือ นิวซีแลนด์


Image hosted by Photobucket.com



งานนิทรรศการผลงานภาพถ่ายล่าสุดของเขาที่ใช้ชื่อว่า MO TE UPOKO-O-TE-IKA/FOR WELLINGTON จัดขึ้นที่เมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ในช่วงเวลาเดียวกับที่เมืองหลวงแห่งนี้ ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงาน เวิลด์ พรีเมียร์ ของภาพยนตร์ Return of the King ภาคต่อสุดท้ายของ The Lord of the Rings ที่เขานำแสดงอยู่เช่นกัน

ภายในตึกพิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัย Massey ภาพถ่ายกว่า 120 ภาพ ถูกจัดวางเรียงรายภายในอาคารสูง 2 ชั้น (ภาพถ่ายอีกจำนวนหนึ่งของเขายังได้ถูกนำไปจัดแสดงที่ตึก City Gallery ในช่วงเวลาเดียวกัน) ฉันได้มีโอกาสดีที่ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นก่อนในช่วงสายของวันเปิดงานนิทรรศการ นักข่าวจากที่ต่างๆ ทั่วโลกมาชุมนุม เพื่อรอสัมภาษณ์ ดารา และศิลปิน ที่ทั่วโลกจับตามองผู้นี้

หลังจากนั่งรอสักพักใหญ่ วิกโก้ มอร์เทนเซน ก็ก้าวเข้ามาในห้องสัมภาษณ์ ด้วยท่าทางสบายๆ ในมือถือแก้วกาแฟ และถุงพลาสติกใส่ของจิปาถะ ท่าทางของเขาดูต่างไปจากบทบาทที่เห็นในหนังอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นผมที่ตัดสั้น ท่าทางอ่อนน้อมติดขี้อายนิดๆ ผิดกับภาพที่เราเห็นเขาในหนัง ไม่มีแม้แต่ลักษณะของดาราฮอลลีวู้ดทั่วไปที่เรามักจินตนาการกันไว้ ใบหน้าหล่อเหลาคมสันประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เขาสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ ไม่หรูหรา มีเพียงเสื้อแจ๊คเก็ตคลุมทับเสื้อยืดสปอร์ต กางเกงสแลค และ...เท้าเปล่า ซึ่งอย่างหลังดูจะกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของชายหนุ่มผู้นี้ไปเสียแล้ว


Image hosted by Photobucket.com
พี่วิกโก้ถือถุงก๊อบแก๊บ



“ผมดีใจที่ได้กลับมานิวซีแลนด์อีกครั้ง” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทางเป็นกันเอง “ผมชอบที่นี่ (นิวซีแลนด์) มาก ทุกครั้งที่ผมกลับมา ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน”

เขาเริ่มต้นการสัมภาษณ์ด้วยการเอ่ยถึงความประทับใจที่มีต่อประเทศทางซีกโลกใต้ที่เขาใช้เวลากว่าปีครึ่งพำนักอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ทัศนียภาพ หรือภูมิอากาศ

ผลงานภาพถ่ายบางส่วนเป็นภาพที่เขาถ่ายในระหว่างการเดินทางไปตามเมืองและประเทศต่างๆ ทั้งในอเมริกา เดนมาร์ก คิวบา แต่กว่าครึ่งเป็นภาพที่ถ่ายในนิวซีแลนด์ ตลอดระยะเวลากว่า 18 เดือนของการถ่ายทำ The Lord of the Rings และต้องกลับมาถ่ายซ่อมใหม่หลายต่อหลายครั้ง เขาถ่ายทอดความประทับใจในดินแดนที่เป็นตัวแทนแห่งโลก middle earth ในจินตนาการของ ศาสตราจารย์ เจ.อาร์.อาร์.โทลคีน ผ่านทางภาพถ่ายที่เป็นเสมือนตัวแทนบอกเล่าประสบการณ์จากมุมมองของศิลปินหนุ่มใหญ่วัย 45 ปีผู้นี้ ภาพถ่ายที่เจ้าตัว บอกว่า เป็นสิ่งที่เขานำมันไปจากนิวซีแลนด์ และในวันนี้เขารู้สึกดีใจที่ได้นำมันกลับคืนมาสู่ถิ่นฐานเดิม... รวมทั้งได้ตอบแทนบางอย่างคืนให้แก่ที่นี่ (วิกโก้ ร่วมกับมหาวิทยาลัย Massey จัดงานเปิดนิทรรศการการกุศลรอบพิเศษ เพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาศิลปะ ของทางมหาวิทยาลัย)


Image hosted by Photobucket.com



วิกโก้ บอกว่า เขาเริ่มสนใจภาพถ่ายตั้งแต่วัยรุ่น อันเนื่องมาจากของขวัญที่เขาได้รับในวันเกิดครั้งหนึ่ง คือ กล้องถ่ายรูป ตอนแรกไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก แค่อยากถ่ายภาพให้สวยคมชัดเหมือนคนอื่นๆ ทั่วๆ ไป แต่ต่อมาเขาเริ่มใช้เวลากับการถ่ายภาพมากขึ้น และเริ่มมองเห็นความงามในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เขาจึงได้เริ่มต้นหัดใช้เทคนิคและมุมมองในแบบอื่นๆ เพื่อสร้างภาพในแนวทางที่แปลกใหม่ ตามมุมมอง และความคิดของเขาแต่นานๆ ครั้ง เขาก็ยังกลับมาใช้วิธีเดิมๆ ที่ถ่ายภาพออกมาให้คมชัด เหมือนนักถ่ายภาพทั่วๆ ไป

นักวิจารณ์คนหนึ่งเคยกล่าวถึงวิกโก้ และผลงานของเขา ว่า เป็นการยากที่จะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของวิกโก้ มอร์เทนเซน ผ่านทางงานศิลปะ โดยเฉพาะงานทาง visual art เพราะเป็นงานที่ดู “...บังเอิญมากเกินไป ไม่เน้นแนวทางหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และดูเป็นองค์ประกอบย่อยๆ มากเกินไปกว่าที่จะสามารถสังเกตเห็นชีวิตความเป็นส่วนตัวของเขาได้ชัดเจน”

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาผลงานของเขาอย่างละเอียด เราก็อาจจะเห็นได้ถึงมุมมองและความคิดของเขาที่มีต่อสิ่งรอบตัว และนั่นก็อาจจะเป็นคำพูดที่อธิบายได้ดีถึงสิ่งที่สะท้อนออกมาทางภาพและงานกวีของเขาที่มีหลากหลายรูปแบบและสไตล์ ทั้งภาพถ่ายบุคคล (portrait) ภาพถ่ายทิวทัศน์ หรือแม้แต่ ภาพ abstract ตัวเขาเองก็กล่าวว่า เขาไม่มีแบบ (subject) ที่ชอบถ่ายเป็นพิเศษ สำหรับเขาไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย หรือบทกวี เป็นเหมือนการบอกเล่าเรื่องราว ประสบการณ์ที่เขาได้พบเจอ เสมือนบันทึกความคิดของเขาที่มีต่อสิ่งรอบๆ ตัว งานศิลปะสำหรับเขา คือ การสื่อสารกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง


Image hosted by Photobucket.com



วิกโก้ เป็นคนที่กล้าลองเทคนิคใหม่ๆ แปลกๆ ภาพถ่ายของเขามีแนวทางที่ต่างกันไปอย่างเห็นได้ชัดและหลายๆ ภาพเขาได้มา ด้วย ‘ความบังเอิญ’

“อย่างเช่น ภาพ Lost I, II, III, IV เป็นภาพที่ผมได้มาตอนที่ไปหลงป่าอยู่ทางเกาะใต้ (ของนิวซีแลนด์) ผมประมาท ด้วยความที่คิดว่ารู้จักพื้นที่นั้นเป็นอย่างดี จึงไม่ได้เตรียมไฟฉายหรืออะไรไป นอกเหนือไปจากกล้อง แต่หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน มันก็มืดมาก ผมจึงต้องใช้แฟลชจากกล้องเป็นเครื่องนำทาง ผมกดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ จนฟิล์มหมด แต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกจากป่าได้ ต้องรอจนพระจันทร์ขึ้น จึงพอจะจำทางและคลำหาทางออกจนพบ”

เขานำฟิล์มที่ถ่ายสะเปะสะปะตอนที่หลงทางมาล้าง และพบว่า 4 ภาพในจำนวนทั้งหมด เป็นภาพที่เขาถูกใจ
“มันมองดูเหมือนภาพวาด และดูสวยงาม ...อย่างน้อยในสายตาผม ผมจึงเก็บมันไว้”

ไม่เพียงแต่ภาพ Lost แต่ยังมีภาพอื่นๆ อีกหลายภาพ เช่น ภาพในกองถ่ายและเพื่อนๆ นักแสดงที่เขาถ่ายเก็บไว้ โดยใช้กล้องที่ทำตกน้ำ หลังจากที่เห็นว่ามันยังใช้งานได้อยู่ ด้วยความรู้สึกกึ่งเสียดายที่จะต้องทิ้งกล้องที่เขารัก และกึ่งอยากรู้อยากเห็น ทำให้เขาได้ภาพจำนวนหนึ่งที่ออกมาก็ปรากฏเป็นเอฟเฟคท์แสงที่ดูแปลกตา วิกโก้ ไม่ได้มองว่าภาพถ่ายเหล่านั้นคือความล้มเหลวทางเทคนิค ในทางตรงกันข้าม เขากลับมองเห็นความงามที่แตกต่างและนำมันมาจัดแสดงด้วย
ในบรรดาภาพที่วางเรียงรายอยู่ ภาพถ่ายที่ถูกพิมพ์ลงบนผืนผ้าขนาดใหญ่ มองดูราวกับภาพวาดแนว abstract ที่ถูกวาดขึ้นด้วยแสงสีต่างๆ ดูจะเป็นภาพที่สะดุดตามากที่สุด วิกโก้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพล่าสุดของเขาว่า
“เนื่องจากผมไม่มีเวลาที่จะวาดภาพให้เสร็จสมบูรณ์ ยังมีภาพวาดภาพเขียนอีกหลายๆ ภาพ ที่ผมทำค้างไว้ และยังไม่มีเวลาที่จะสานต่อให้เสร็จ และนั่นเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจผมเป็นอย่างมาก ...แล้วผมก็ได้ลองใช้เทคนิคนี้ โดยการเคลื่อนกล้องไปในทิศทางต่างๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ทำให้ผมพอใจมาก เพราะมันมองดูเหมือนกับสไตล์ภาพวาดที่ผมอยากทำเช่นกัน...”

งานนิทรรศการหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งงานล่าสุดที่ตั๋วเข้างานในวันเปิดนิทรรศการขายหมดไปอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสำเร็จของ The Lord of the Rings ซึ่งตัววิกโก้เอง ก็ดูจะตระหนักในเรื่องนี้ดี...

“ผมไม่แปลกใจเลยว่า กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชมนิทรรศการ เป็นเพราะ The Lord แต่นั่น...ไม่ได้สำคัญต่อวิธีการทำงานหรือการถ่ายรูปของผมแต่อย่างใด”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ใส่ใจว่าใครจะมาชม แต่เขากล่าวว่า เขาไม่ได้ทำงานศิลปะเพื่อคนอื่น เขาทำเพราะแรงผลักดันจากภายใน แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณที่แฟนๆ ให้การตอบรับและสนับสนุน

“มันอาจไม่สำคัญว่า พวกเขามาที่นี่ด้วยเหตุผลใด เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องนี้และได้มองเห็นผลงานเหล่านี้ เขาก็จะตัดสินใจได้เอง ว่าเขาชอบผลงานของผมหรือไม่...”

Image hosted by Photobucket.com



...........................................



เก็บตกจากงานนิทรรศการ


ในตอนเย็นของวันเดียวกันกับงานแถลงข่าว คือ การเปิดงานนิทรรศการอย่างเป็นทางการ งานนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดสนใจก่อนเวิลด์ พรีเมียร์ จะเริ่มขึ้น เพราะมีจุดเด่นของงานคือ เหล่าเพื่อนนักแสดงใน The Lord of the Rings ที่มาร่วมเป็นแขกกิตติมศักดิ์ ให้แก่นิทรรศการ และเป็นงานทางการครั้งแรกที่พวกเขาปรากฏตัวด้วยกัน

มันดูราวกับเป็นความฝันที่ได้เดินกระทบไหล่ดาราชั้นนำของฮอลลีวู้ด อย่าง เอียน แมคเคนเลน, เอไลจาห์ วูด, ลิฟ ไทเลอร์ หรือผู้กำกับหุ่นฮอบบิทคนดัง ปีเตอร์ แจ็คสัน แต่พวกเขาก็เป็นกันเองกับแฟนๆ ที่เข้ามาชมงานในวันนั้น อย่างไรก็ดี พระเอกที่แท้จริงของงานก็ยังเป็นวิกโก้ มอร์เทนเซน ที่ดูจะผ่อนคลายมากขึ้น เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนฝูงที่แสนคุ้นเคย

งานเปิดด้วยการกล่าวต้อนรับจากทีมงาน และหัวหน้าของทางมหาวิทยาลัย Massey สลับกับการร้องเพลงต้อนรับจากคณะนักร้องพื้นเมืองชาวเมารี ที่ช่วยสร้างสีสันให้งาน ก่อนที่ ปีเตอร์ แจ็คสัน จะขึ้นมากล่าวชื่นชมผลงานของศิลปินและนักแสดงหนุ่มผู้นี้ วิกโก้กล่าวขอบคุณ และร้องเพลงเป็นภาษาเมารี แม้ว่าจะร้องผิดคีย์ และร้องไปเขินไป แต่วิกโก้ก็พยายามร้องจนจบท่ามกลางเสียงปรบมือให้กำลังใจของผู้คนในงาน ก่อนที่จะตบท้ายด้วยการร่วมกันร้องเพลงอย่างสนุกสนานของบรรดาแขกรับเชิญบนเวที

บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความชื่นมื่น เหล่าเพื่อนพ้องนักแสดงและวิกโก้ดูจะมีความสุข และแสดงออกถึงความสนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นอย่างดี วิกโก้แสดงให้เราเห็นอีกด้านหนึ่งของเขา ซึ่งเป็นคนขี้เล่นเมื่ออยู่กับเพื่อนฝูง แต่สิ่งนั้นถูกเก็บซ่อนไว้ภายใต้ท่าทีเคร่งขรึมปนเขินอาย เมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งดูเป็นความขัดแย้งอยู่กลายๆ ต่ออาชีพนักแสดงเช่นเขา

สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนประทับใจในตัวนักแสดงและศิลปินหนุ่มผู้นี้ ก็คือ ความสุภาพและใส่ใจต่อคู่สนทนาของเขา... แม้ว่าเขาจะโดนรุมล้อมจากแฟนๆ และแขกรับเชิญอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ได้แสดงทีท่าเบื่อหน่ายต่อแฟนๆ และแสดงท่าทีเป็นกันเองกับทุกคน

ฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับวิกโก้เป็นการส่วนตัวอย่างสั้นๆ ในช่วงท้ายก่อนจบงานนิทรรศการ เขายังจำได้ว่าฉันมาจากที่ไหน หลังจากที่ฉันแนะนำตัวสั้นๆ กับเขาเมื่อตอนต้นงาน เขาบอกว่า รู้จักประเทศไทย แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาเยือนสักครั้ง (และหวังว่าสักวันคงจะได้มา)

“ในกองถ่ายเรามีนักแสดงคนหนึ่งที่เป็นคนไทย - ฝน - คุณรู้จักไหม?”

วิกโก้ หันมาถาม ฉันทราบว่า เขาหมายถึง คุณฝน-ประภาพร จันทร์แสนตอ นักแสดงที่เล่นเป็น double body สำหรับบทปิ๊บปิ้นให้แก่ Billy Boyd ฉันจึงพยักหน้าแทนคำตอบ

“ผมอยากรู้ว่า ที่เมืองไทย ฝนดังไหม? เขามีชื่อเสียงหรือเปล่า?”

ฉันตอบเขาว่า ก่อนหน้านี้ คุณฝนไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่หลังจากที่ The Lord of the Rings เข้าฉาย คนไทยก็รู้จักคุณฝนมากขึ้น

วิกโก้ยิ้มน้อยๆ อย่างพอใจที่ได้ทราบข่าวเพื่อนเก่าจากแดนไกล

“ผมดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น ถ้าคุณมีโอกาส ลองไปที่ City Gallery ดูนะ ที่นั่นมีรูปฝนที่ผมถ่ายไว้แสดงอยู่ ...แล้วก็...ขอบคุณอีกครั้งที่มางานนี้”

และนั่นคือ อีกด้านหนึ่งของ วิกโก้ มอร์เทนเซน ผู้ชายที่พร้อมจะทำให้คุณตกหลุมรักเขาไม่ว่าจะบนจอหรือนอกจอ...


*************************************





จุดประกาย ( 16 มค 2547)



มุมหนึ่งของความประทับใจที่ไม่เคยลืม


Create Date : 17 มกราคม 2549
Last Update : 17 มกราคม 2549 2:39:27 น. 24 comments
Counter : 2675 Pageviews.

 
ขอมาอ่านต่อพรุ่งแล้วกานมานยาวมั่ก ๆ


โดย: ชายคา IP: 58.10.233.48 วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:2:34:53 น.  

 
คุณชายคา ไม่ยอมนอน


โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:2:36:11 น.  

 
กลับมาอ่านแล้วนะ เดี๋ยวหาว่าไม่รักษาสัญญา

คุณชายคา ไม่ยอมนอน

เพราะพี่ชายไม่ใช่ บังอร


โดย: ชายคา วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:7:09:14 น.  

 
เรื่องนี้คุ้นๆ ว่าเคยอ่านเมื่อปีสองปีมาแล้วนะ

เราก็ชอบป๋าวิกโก้เหมือนกันอะ
แต่อยากให้ป๋ากลับไปหน้ารกๆ แบบในลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ดีกว่านะ
เกลี้ยงๆ แบบนี้เห็นริ้วรอยชัดเชียว


โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก IP: 61.91.173.100 วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:13:21:12 น.  

 
theme นี้สวยดีแฮะ

เดี๋ยวว่างๆ เปลี่ยนบ้างดีกว่า อิอิ


โดย: กาน้ำชาฯ IP: 61.91.173.100 วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:13:23:14 น.  

 
บอกแล้วว่าเอาของเก่ามาหากิน

เอาน่า ก็เรื่องมันน่าประทับใจอ่ะนะ ก็เอามาเก็บไว้ในความทรงจำ

เรื่อง theme คนทำหน้าตาดีอ่ะนะ ผลงานเลยออกมาดีตาม


โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:14:41:19 น.  

 
บล๊อคสวยเก๋จังเลยน้อง
ขอแปะไว้ก่องนะ แย้วพี่จามาอ่านจะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:16:35:31 น.  

 
มาทักทายค่ะ
แต่ยังไม่ได้อ่าน



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:17:26:19 น.  

 
ยังเข้มข้นเหมือนเดิมเยย
รูปที่4 หล่อโก๊ดๆๆๆ


โดย: honggie IP: 58.8.36.192 วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:21:56:23 น.  

 
ชอบเขาใน LOTR เหมือนกันค่ะ
เพิ่งรู้ว่ามีความสามารถล้นหลือ...อิอิ

=)


โดย: hunjang วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:22:17:14 น.  

 
ตามมาดูรูปป๋าครับ อิๆๆๆ


โดย: ก่ายยย... วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:8:37:52 น.  

 

ชอบภาพถ่ายของเค้าเหมือนกันนะ

เคยsaveเก็บไว้อะคะ


โดย: Dying To Be Alive วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:11:06:00 น.  

 
หงุ๋งหงิ๋ง ป๋าขา....อ่านกี่ทีก็ชอบที่พี่เขียนน้า รู้สึกดีจัง


โดย: ศบม จ้า IP: 202.133.154.30 วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:12:26:09 น.  

 
ชอบป๋าตอนไว้ผมยาวสีทอง แล้วก็ไว้หยวดอ่ะฮับ เท่ห์ซ้า


โดย: Kitsunegari วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:13:57:23 น.  

 
ป๋า...เขอ.....>< กรี๊ดๆๆ


โดย: narusaru (narusaru ) วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:15:14:32 น.  

 
โอ้โห... ละเอียดยิ๊บเลยค่า

เห็นหน้าวิกโก้ ก็ชักอยากจะดู The Lord of the Ring ขึ้นมาอีกแล้วล่ะค่ะ


โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:23:11:11 น.  

 
พี่อินทรีทองคำ คุณ โบว์ - ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันค่ะ ว่างๆ ค่อยแวะมาอ่านก็ได้ค่ะ

Honggie - ป๋าวิกโก้หล่อเสมอล่ะ ปัจจุบันก็ยังหล่อโก๊ดๆ

คุณ hunjang - เป็นคน nice มากๆ ด้วยค่ะ ความสามารถล้นเหลือ

น้องก่าย...ขอบคุณที่แวะมาดูรูปค่ะ ป๋าวิกโก้หล่อสะใจมั้ย

คุณหนิง - จะบอกว่าภาพจริงสวยมากๆๆๆๆ เห็นแล้วอึ้งและทึ่ง มากค่ะ

ศบม. -ขอบคุณที่ติดตามและชอบจ้า

Kitsunegari - ป๋าวิกโก้ไว้ทรงไหนก็หล่อเนอะ


narusaru - กรี๊ดด้วย ป๋าเขอ...

คุณตุ๊กตาฯ - เห็นหน้าแล้ว ตอนนี้เราอยากดูหนังเรื่องใหม่ History of Violence มากๆ เลยค่ะ แต่ไม่รู้จะเข้าไทยเมื่อไหร่


โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:9:24:05 น.  

 
กรี๊ดดด...! ทั้งหล่อ ทั้งอาร์ต...


โดย: VA_Dolphin วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:10:55:27 น.  

 
เข้ามาดูบล๊อคคนสวยจะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:13:44:55 น.  

 
เข้ามาอิจฉา

ป๋าน่าร๊ากกกกกกกกกกกกก อิอิอิอิอิ


โดย: ซบร IP: 61.19.228.46 วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:17:00:15 น.  

 
หัวบล็อค วังเวงดีจัง ทานมื้อเย็นยังเอ่ย


โดย: ชายคา วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:18:13:00 น.  

 
สวัสดีจ้ะ

ยังไม่ได้หาจดหมายจากเกียวโตเลย กะว่าจะไปซื้องานหนังสือ (ช่วงนี้เริ่มระงับการซื้อหนังสือแล้ว หลังจากเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วหมดไปพันกว่าบาท)


กะว่าจะไปขนทีเดียวที่งานหนังสือน่ะจ้า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:14:51:41 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ


แฮรี่เล่ม ๕ นี่ไม่เชิงเบื่อนะ แต่เราว่ามันน่าหงุดหงิดกับสิ่งที่แฮรี่เป็น (แต่นะ..มันเป็นวัยเค้าน่ะ นึกออกเลยว่าตอนเราเป็นเหมือนแฮรี่ คนรอบข้างถึงหงุดหงิดกับเราขนาดไหน หุๆ)


จะรออ่านจบแล้วไปคุยด้วยค่ะ


นานแค่ไหนก็จะรอ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:16:22:42 น.  

 
ชอบที่เล่นหนังเรื่อง

The Lord Of The Rings มากๆๆๆๆๆ

ทั้งหล่อ ทั้งเล่นดี และก็เล่นเป็นตัวเอกอีกด้วย

ดูแล้วดูอีกดูยังไงก็มะเบื่ิอ


โดย: ขวํญชนก IP: 203.144.144.165 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:13:14:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เดอะ กั้ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Some magic from above
Made this day for us, just to fall in love

Just love me tenderly
And I'll give to you every part of me

Be always true to me
Keep this day in your heart eternally






free-counter
counter


Image hosting by Photobucket
หลังไมค์หา เดอะ กั้ง




...Reading...





เสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่าน- ใบพัด




คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ พ.1 : Kafka on the Shore - ฮารุกิ มุราคามิ



***********

ข้อความข้างล่างนี่จริงๆ ไม่อยากเขียนไว้เลย แต่ใส่ไว้กันหลายๆ คนอ้างว่าไม่รู้กฎหมายและมารยาท ก็แล้วกันนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add เดอะ กั้ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.