Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
ตามรอยรัก (๑๓)




Brienzersee, Interlaken

ลุงวิรัช และพ่อกับแม่ที่แสนคิดถึง

วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟค่ะ พวกเราถือเป็นวันพักผ่อนสบาย ๆ ไม่ต้องขึ้นรถลงเรือเดินทางต่อไปไหน เลยตั้งใจไปเที่ยวเล่นที่ทะเลสาบ Brienzersee ทางฝั่งตะวันออกของอินเตอร์ลาเคน

เดินเล่นชมเมือง ชมบรรยากาศเลียบแม่น้ำสีเขียวใสจนเห็นกรวดใต้น้ำไปเรื่อย ๆ จนถึงปากแม่น้ำที่กลายเป็นทะเลสาบโอบไว้ด้วยเทือกเขาสูง น้ำใสสะอาดจนน่าว่าย เห็นเด็กฝรั่งกระโดดน้ำกันหยอย ๆ ไม่ยักกะกลัวความหนาวเลย เป็นฝนคงไม่ไหวแน่ค่ะขนาดใส่เสื้อหนาตั้งหลายชั้นยังไม่ค่อยอุ่น

“น่าสนุกจังเลย รินอยากว่ายน้ำบ้าง โอย ...โอ้ย...คิดถึงบ้านสวนที่สุด อยากกลับไปดำผุดดำว่ายให้ฉ่ำชื่นใจ” ตาน้องรินเป็นประกายน่ารักเชียว คงอยากลงไปเล่นน้ำกับเขาบ้างจริง ๆ ฝนเองก็อยากลงไปเล่นบ้าง น้ำใสเสียจนแทบอดใจไม่อยู่ ถ้าไม่ติดว่ามันหนาวเสียเหลือเกิน

“อย่าคิดแผลง ๆ โดดลงไปในทะเลสาบเชียวนะ เดี๋ยวน้ำใส ๆ จะขุ่นซะเปล่า ๆ เรายิ่งไม่ค่อยชอบอาบน้ำอยู่ด้วย บรรยากาศเขาจะเสียหมด”

“ไอ้พี่วิน หนอยแน่...มาว่าเรา... ก็มันหนาวนี่ใครจะอาบบ่อย ๆ ละ แค่อาทิตย์ เอ้ย...วันละครั้งก็แย่แล้ว ขอแค่ไม่สกปรกก็พอ คงไม่ถึงกับต้องเนื้อหอมอย่างพี่พี่หร๊อก” ประกายตารื่นรมย์ที่เฝ้ามองเด็ก ๆ เล่นน้ำอยู่เมื่อครู่ หันมาเอาเรื่องกับคนที่นั่งเอนหลังพิงต้นไม้อย่างสบายใจ แถมเผื่อแผ่มายังคนที่โอบฝนไว้ให้ยึดเป็นที่พิง

“อ้าว...พี่เลยพลอยโดนลูกหลงไปด้วยเลย” เอกศักดิ์หัวเราะอย่างไม่ถือสา พลางหันไปพยักพเยิดกับนาวินที่แกล้งยกมือขึ้นอุดหู เดี๋ยวนี้หนุ่มทั้งคู่เขาถือหางซึ่งกันและกันค่ะ ช่วยกันดีนัก

“อะไรกันยายริน แค่นี้เอะอะโวยวาย นอกจากคิดพิเรนจะทำให้น้ำเขาเสียแล้วยังทำลายความเงียบสงบของสถานที่อีกนะ เอ้า...นี่ขนม...กินซะ ปากจะได้มีอะไรทำ พี่จะนั่งฟังเสียงน้ำเสียงนกโว้ย”

“อารมณ์ศิลปินมาเลยนะเพ่...เงียบก็ด้ายยย... แต่แลกกับเสียงฟลุตฉลองคริสต์มาสคืนนี้นะ เอาหลาย ๆ เพลงด้วย” ปากที่เคี้ยวขนมยังต่อรองขอข้อแลกเปลี่ยน พลางคิดรายชื่อเพลงที่เจ้าตัวอยากฟังอีกยาวเหยียด

“อือ...เมื่อไหร่จะเงียบสักทีละแม่คุ้ณ...”

ฝนเห็นแล้วก็ขำสองคนนี้ แกล้งกันเหมือนเด็ก ๆ นึกดีใจที่นอกจากจะเจอสภาพแวดล้อมรอบตัวที่สวยงามแล้ว ยังได้รับมิตรภาพอบอุ่นน่าประทับใจยิ่งไปกว่า

พวกเรานั่งเล่นริมทะเลสาบสักพักแล้วค่อยพากันขึ้นเขาเพื่อชมวิวทะเลสาบจากที่สูง ตามเนินเขามีหมู่บ้านเล็ก ๆ กระจัดกระจายไปทั่ว ยิ่งเดินยิ่งเพลิน เพราะมองไปทางไหนก็สวยไปหมดจนลืมหายใจ ทั้งทะเลสาบสีเขียวใสราวกับกระจก ภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะขาวสะอาดตา บ้านเรือนไม้ของเขากะทัดรัดน่ารักน่าอยู่ ส่วนมากชั้นบนของบ้านระหว่างหน้าต่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบ ๆ ที่เป็นบานไม้พับจะมีระเบียงไม้ยื่นออกมาประดับด้วยดอกไม้สีสันสดสวย และเกือบทุกบ้านจะมีฟืนไม้สนเก็บไว้ในเพิงด้านหลังเพื่อเอาไว้เป็นเชื้อเพลิงในเตาผิง แถวนี้เขายังใช้เตาผิงกันอยู่เลย น่ารักค่ะ

ระหว่างทางเดินขึ้นเนินจะมีป้ายบอกทิศทางไปตลอด เราเลือกเดินตามทางดาวเคราะห์ (Planetenweg) ซึ่งมีสัญลักษณ์บอกตามจุดว่าถึงดาวอะไรแล้ว ยายรินเลยเล่นสนุกออกค้นหาเป็นการใหญ่ จากข้างบนนี่มองลงมาเห็นทะเลสาบเบื้องล่างได้ชัดและกว้างกว่ามาก อิจฉาคนแถวนี้ที่ได้อยู่ท่ามกลางอากาศดี ๆ ธรรมชาติสวย ๆ อยากมาอยู่บ้างจังเลย

หลังจากที่ฝนกับน้องรินเดินกันจนเหนื่อย หนุ่ม ๆ ก็พาเดินตัดเขาลงมาถึงท่าเรือ Ringgenberg (ริงเกนแบร์ก) ขนาดเดินกันมาไกลขนาดนี้แล้วยังไม่ถึงครึ่งของทะเลสาบเลย แต่ทางที่เหลือเป็นทางเข้าหมู่บ้านซึ่งมองลงมาไม่เห็นธรรมชาติเบื้องล่างแล้วก็เลยไม่ได้เดินต่อ แวะนั่งเล่นกินลมชมวิวกันสักพัก แล้วค่อยเดินย้อนกลับมาอีกทาง คราวนี้เจอหลุมฝังศพที่อยู่ใกล้ ๆ กับโบสถ์ของหมู่บ้าน ทำเลดีมากเลย โดยเฉพาะตอนเทศกาลคริสต์มาสแบบนี้ครอบครัวคนตายจะเอาดอกไม้หรือช่อใบฮอลลี่และลูกสนมาวางประดับไว้ที่หลุมศพ คนหลับชั่วนิรันดร์ท่ามกลางทะเลสาบและภูเขาสวย ๆ แถวนี้คงมีความสุขนะคะ

เดินเลียบทะเลสาบย้อนกลับมาถึงแม่น้ำแล้วค่อยเดินเลียบแม่น้ำกลับมาเรื่อย ๆ จนใกล้ถึงสถานีรถไฟถึงได้พากันหยุดนั่งชมวิวแม่น้ำกับภูเขาบ้าง นั่งมอง ๆ เทือกเขาที่สลับซับซ้อนตรงหน้าแล้วมองไม่ออกเลยว่ายอดไหนเป็นยอดไหน ขนาดนั่งกางแผนที่เพื่อดูชื่อและตำแหน่ง แต่ก็ยังมองไม่ออก รู้แต่ว่ายอดยุงเฟราต้องเป็นยอดไกล ๆ ที่สูงที่สุดแค่นั้นเอง

ก่อนกลับแวะหาซื้ออาหารตุนไว้เผื่อวันคริสต์มาส เพราะร้านค้าและร้านอาหารคงจะปิดเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลกันเกือบหมด แถวสถานีรถไฟพอจะมีร้านรวงและซุปเปอร์มาร์เก็ตบ้าง เราเจอร้านอาหารไทยด้วยหนึ่งร้านค่ะ ส่วนในซุปเปอร์ก็มีอาหารสำเร็จรูปจำพวกแกงของไทยวางขาย แสดงว่าอาหารบ้านเราเป็นที่นิยมของคนสวิสเหมือนกัน หรือไม่งั้นก็คนไทยมาเที่ยวเยอะ เพราะเห็นในแผ่นพับข้อมูลท่องเที่ยวนอกจากภาษาอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น แล้วยังมีภาษาไทยอธิบายกับเขาด้วย

คืนนี้ทางโรงแรมจัด Christmas Dinner สำหรับแขกที่มาพัก มีซุปผัก สลัด หมูอบในขนมปัง และตบท้ายด้วยคัสตาร์ด อร่อยค่ะ ช่วงนี้แขกของโรงแรมไม่ค่อยเยอะมาก เลยไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ แต่นับว่าเป็นคืนที่อบอุ่นและเป็นกันเองดีมากจ้ะ

ทั้งเอกศักดิ์และนาวินยังคงนั่งดื่มเบียร์คุยกันอยู่ข้างล่าง ฝนกับรินนภาเลยขอกลับขึ้นห้อง อาบน้ำเตรียมตัวนอนก่อน ตอนนี้ในวิทยุมีแต่เพลงคริสต์มาสทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่ฟังไม่ออก

คงจบจดหมายแค่นี้ก่อน เพราะยายรินชวนไปนั่งดูดาวกันที่ระเบียงแล้ว แล้วจะขอดาวให้ช่วยส่งแสงแรงรักและคิดถึงกลับไปหาพ่อ แม่ และลุงวิรัชนะคะ

น้ำฝน


**************************************************************************



Mattenhof hotel, Switzerland

พ่อ อาเมฆและอานาที่เคารพรัก

Merry Christmas ครับ
ผมกำลังนั่งรอน้ำฝนอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปกินอาหารเช้ากันครับ เลยมีโอกาสเขียนบันทึกเก็บไว้พลาง ๆ

เมื่อวานเราไปเดินเล่นแถวทะเลสาบ Brienzersee ที่อยู่ทางตะวันออกของเมือง ลูกสาวอานาชอบมากครับ ชมไม่ขาดปากเลย ถ้าอากาศไม่หนาวเขาคงลงไปอยู่ในน้ำทั้งวันไม่ยอมขึ้นแน่ ส่วนกลางคืนทางโรงแรมจัดเตรียมอาหารค่ำไว้ให้สำหรับแขกและมีงานสังสรรค์เล็กน้อยในคืน Christmas Eve ผมกับนาวินเลยฉลองกันนิดหน่อย ส่วนน้ำฝนกับรินนภาหนีขึ้นห้องกันก่อน ปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งคู่นั่งดื่มและคุยกันอีกสักพัก แต่เมื่อคืนผมไม่ยอมตามใจลูกสะใภ้พ่อแล้ว เดินไปเคาะห้องสาว ๆ แล้วลักน้ำฝนกลับมาห้องผมแทน

“ปล่อยนะ คุณทำอะไร ฝนจะอยู่กับน้องริน ปล่อยเดี๋ยวนี้นะคะ” น้ำฝนคงจะอายรินนภาที่อยู่ ๆ ผมไม่พูดพล่ามทำเพลงแกล้งตรงเข้าไปช้อนตัวคนที่นอนเล่นอยู่บนเตียงขึ้นมาเฉย ๆ ฝ่ายน้องรินกลับแอบพยักพเยิดยักคิ้วหลิ่วตาทำมือทำไม้ให้ผมพาคนดื้อกลับห้องเสียที

“ผมอยากอยู่ใกล้คุณ”

“เมาหรือเปล่าค่ะ กลิ่นเหล้าคลุ้งเชียว เมาแล้วอย่ามาแกล้งกันนะ”

“อืม...แค่มึนนิดหน่อย เป็นโรคคิดถึงเมียต่างหาก ห้ามหนีกลับไปหารินนภาอีกนะ ไม่งั้นจะตามไปอุ้มคุณกลับมาอีกแน่ เป็นอันไม่ต้องหลับต้องนอนกัน”

จริง ๆ แล้วไม่ถึงกับเมา แค่อยากอ้อนเมียตัวเองเท่านั้น คนอะไรใจร้ายจริง มาฮันนีมูนแท้ ๆ แต่กลับเลี่ยงหนีตลอด พอน้ำฝนเห็นผมเมาเลยหยุดดิ้นอัตโนมัติ ปล่อยให้พากลับห้องมาแต่โดยดี แถมยังช่วยผสมน้ำอุ่นให้อาบอีกด้วย ที่จริงเล่นมุขนี้ก็ไม่เลว คงต้องเรียกว่าใช้มารยาชายละครับ

“หลับแล้วหรือ”
พอออกจากห้องน้ำก็เห็นน้ำฝนนอนขดตัวนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่มไม่มีอาการว่าจะได้ยินเสียงกระซิบ ผมเลยได้ทีแกล้งฉวยโอกาสตามแต่จะพอใจจากใบหน้านวลที่เริ่มเปลี่ยนสี แต่ยังคงนิ่งราวกับลืมหายใจ

“ตามใจผมนะ”
คราวนี้ร่างที่นอนแข็งเป็นหินเมื่อครู่กลับลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมอดขำไม่ได้

“คุณเมาก็นอนเถอะค่ะ อย่ามารังแกกันนะ” ต่อให้อายยังไงก็ไม่หมดฤทธิ์

‘เจ้าหยิกข่วนพี่ล้วนแต่รอยเล็บ
ความรักฤาจักเจ็บก็หาไม่
เสียดายเล็บของน้องสงวนไว้
จะหักไปเสียเปล่าไม่เข้าการ*’

“หือ...ใครกันแน่ที่รังแกกัน คุณนะเกเรจะตาย ดูสิแต่งงานกันตั้งนานแล้ว ยังไม่ยอมให้ผมสอนบทเรียนรักให้เลย” ร่างบางในอ้อมกอดทั้งผลักทั้งดันไม่ให้ผมเข้าใกล้ ลูกสาวอาเมฆนี่ดื้อจริง ๆ ครับ

“ไม่เอา ไม่เรียน ไม่ต้องมาใกล้ เอ๊ะ...” ผมปล่อยให้น้ำฝนหยิกทุบเสียจนพอใจและอ่อนแรงไปเอง พอเห็นผมไม่ยอมตามใจ ลูกสะใภ้พ่อถึงกับร้องไห้ คราวนี้เล่นเอาผมหายมึนเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่กอดปลอบขวัญอีกนานกว่าน้ำตาจะแห้ง

‘ยอดรัก
เมื่องามพักตร์ซุกแอบแนบอกพี่
เนื้อละมุนอุ่นนวลอวลฤดี
หวานวจีพรอดพร่ำจำนรรจา

ยามนั้น
พี่ทิ้งได้ทุกสิ่งสรรพ์ที่ฝันหา
ทั้งอรุณ สายัณห์ ตลอดทิวา
ขอเพียงให้ได้มาซึ่งราตรี

นุชนาฏ
งามผ่องผาดพิสุทธิ์ดุจศศี
พี่รักเจ้าเทียบเท่าดวงชีวี
หัวใจพี่เป็นทาสรักภักดิ์นวลนาง

ดวงสมร
เชิญเนื้ออ่อนนิทราอย่าหมองหมาง
อกพี่คือปราการคอยกั้นกาง
ผองภัยห่างน้องนุชสุดบูชา

จอมขวัญ
หลับเสียเถิดยอดชีวันเสน่หา
ฟังหัวใจพี่เต้นสิแก้วตา
รักกานดา รักกานดา ชั่วนิรันดร์**’


เฮ้อ...เป็นอันว่าเรื่องที่ทุกคนลุ้นอยากมีหลาน ก็คงต้องรอต่อไปอีก

แค่นี้ก่อนนะครับเพราะน้ำฝนเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว วันนี้เรากะจะไปเดินเล่นแถวทะเลสาบอีกแห่งที่ชื่อ Thunersee กันครับ

เอกศักดิ์


*********************************************************
(หมายเหตุ * จากเรื่อง อิเหนา
** ไม่ทราบที่มา)





Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 20:55:04 น. 0 comments
Counter : 177 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.