|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สายน้ำแห่งความรัก (๗)
วันนี้ฟ้าครามตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมทำอาหารใส่บาตรพระในตอนเช้า และทำเผื่อเป็นเสบียงมื้อกลางวันที่จะไปพายเรือเล่นกับวฤธและรินนภา หญิงสาวแบ่งข้าวผัดปูใส่ไข่ ไก่ทอด และกุ้งอบวุ้นเส้น ใส่ในปิ่นโตขนาดใหญ่สองเถา ด้วยเกรงว่าวฤธจะไม่อิ่ม หล่อนกะให้ปริมาณมากเอาไว้ก่อน ส่วนอร่อยไม่อร่อยก็ไม่รู้ละ ถ้าหิวก็คงหมดไปเองนะแหละ
พอแดดเริ่มออก ฟ้าครามก็ชวนรินนภาลงไปนั่งเล่นรอที่ท่าน้ำ ทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งคุยกับป้าน้าของหล่อนหลังจากที่เขาแวะขึ้นไปทัก ก่อนจะตามลงมาสมทบ
"ฟ้าครับฟ้า" เสียงวฤธตะโกนเรียก พร้อมทั้งรีบเดินจ้ำให้ถึงตลิ่ง เมื่อเห็นฟ้าครามกับรินนภากำลังแก้เชือกผูกเรือ พร้อมทั้งผลักหัวเรือออกจากฝั่ง "จะรีบไปไหนละ ไม่รอพี่บ้าง"
"ก็พี่วฤธอยากช้าทำไมละคะ พี่ฟ้าเลยชวนรินหนีกันไปเที่ยวสองคน" รินนภาแกล้งตอบพี่ชาย
"ได้ยังไงกัน ก็สัญญาแล้วว่าจะให้พี่ไปด้วย นี่ป้าใหญ่ยังฝากให้เอาผลไม้ติดไปด้วย เพราะเห็นมีแต่กับข้าว"
ฟ้าครามได้แต่คิดในใจ ใครไปสัญญาที่ไหนกัน เล่นตู่กันเฉย ๆ แถมยังชักช้ามัวประจบป้าใหญ่อยู่ หล่อนเอาปิ่นโตลงเรือเสร็จเรียบร้อยตั้งนานแล้ว ยังไม่เห็นชายหนุ่มตามลงมาสักที ก็เลยคิดจะหนีนะสิ ไม่ได้อยากให้ไปด้วยเสียหน่อย
ชายหนุ่มให้หญิงสาวทั้งสองลงเรือก่อน แล้วจึงผลักหัวเรือออกจากฝั่ง ฟ้าครามปล่อยให้รินนภานั่งกลาง ส่วนตัวหล่อนนั่งตรงหัวเรือ ทั้งคู่นั่งหันหน้ามาทางวฤธที่นั่งพายอยู่ทางเรือ ละอองหมอกยามเช้าจางหายไปเมื่อแสงแดดอ่อนส่องกระทบผิวน้ำ เรือลำน้อยค่อย ๆ แหวกสายน้ำอย่างช้า ๆ พร้อมเสียงพายกระทบน้ำเป็นระยะ
บรรยากาศสดชื่นยามเช้าทำให้วฤธระลึกถึงวัยเด็กที่เขาเคยพายเรือให้เด็กหญิงฟ้าครามนั่ง หล่อนเคยอ้อนให้เขาพายเข้าไปใกล้ ๆ กอบัวหลวง เพื่อให้เขาเอื้อมเก็บให้ แต่ตอนนี้มีแต่เสียงรินนภาที่ชี้ชวนให้ชมนกชมไม้ตามสองฝั่งคลองอย่างร่าเริง ในขณะที่ฟ้าครามได้แต่นั่งเงียบชมวิวไปเรื่อย ๆ สายตาชายหนุ่มก็แสร้งมองวิวทางหัวเรือที่หญิงสาวนั่งอยู่เป็นส่วนมาก ไม่ได้ละสายตาไปตามที่น้องสาวชี้ชวน
"พี่วฤธมองแต่พี่ฟ้าอยู่นั่นแหละคะ นี่เขามาชมวิวกันนะคะ" รินนภาเริ่มงอนพี่ชาย
ชายหนุ่มรู้สึกเก้อที่น้องสาวตัวดีรู้ทัน เลยได้แต่ยิ้มแล้วเสไปร้องเพลงบอกความนัยแทน สายตาก็ยังไม่เปลี่ยนไปมองที่อื่น
"ถ้าฉันมีสิบหน้าอย่างทศกัณฑ์ สิบหน้านั้นฉันจะหันมายิ้มให้เธอ สิบลิ้น สิบปาก จะฝากคำพร่ำเพ้อ ว่ารักเธอ รักเธอ เป็นเสียงเดียว
ถ้าฉันมียี่สิบตาอย่างทศกัณฑ์ ยี่สิบตาของฉันจะมองเธอไม่เหลียว ยี่สิบแขนจะสวมสอดกอดเธอผู้เดียว ยี่สิบสีดาอย่ามาเกี้ยวไม่แลเหลียวมอง"
"หืม หวานจัง เพิ่งรู้ว่าพี่ร้องเพลงแบบนี้ก็ได้ด้วย รินไม่เห็นเคยได้ยินเลย"
ถ้าหญิงสาวคนที่เขาตั้งใจร้องให้ฟังจะเป็นคนพูดแทนน้องสาวของเขา หัวใจชายหนุ่มคงจะพองโตกว่านี้ แต่นี่หล่อนกลับนั่งไม่รู้ไม่ชี้ ทำเหมือนกับว่าเขากำลังเล่าเรื่องทั่ว ๆ ไป
"แต่พี่ว่าถ้ามีสิบหน้า สิบตา สิบปาก แถม ยี่สิบตาแบบนั้นนะ อย่าว่าแต่นางสีดาจะไม่เกี้ยวเลย ผู้หญิงอื่นเห็นเข้าก็คงแตกกระเจิง ไม่กล้าเหลียวมามองเลยหละ" ฟ้าครามหันมาคุยกับรินนภา
เอากับหล่อนสิ ถึงบทจะพูดจะวิจารณ์ละก็ทำเอาอารมณ์โรแมนติคของเขาหายหมด
"ฮืม ฟ้าทำเพลงเขาเสียหมดเลย พี่อุตสาห์ร้องให้ฟัง ทีตอนเด็กนะฟ้ายังชอบตื้อให้พี่ร้องเพลงให้ฟังเลย จำได้หรือเปล่า
ตามองตาสายตาก็จ้องมองกันรู้สึกเสียวซ่านหัวใจ จะรักฉันก็ไม่รัก จะหลงฉันก็ไม่หลง ฉันยังอดโค้งเธอไม่ได้ เธอช่างงามวิไล เธอช่างงามวิไล เหมือนดอกไม้ที่เธอถือมา เหมือนดอกไม้ที่เธอถือมา" วฤธแกล้งร้องเพลงล้อหญิงสาว
"อย่ามาอำกันเลย ถือว่าฟ้าจำอะไรไม่ได้ แล้วจะมาหลอกกันง่าย ๆ นะ" ฟ้าครามส่งสายตาดุมาให้
"พูดเล่น ๆ เล่น ๆ แกล้งพูดเล่น ๆ พูดเล่น ๆ เรื่อย ๆ นะ พูดเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ ชอบพูดเรื่อย ๆ พูดเล่น ๆ ไม่ต้องเชื่อนะ"
วฤธยังแถมร้องเพลงของพี่เบิร์ดกวนอารมณ์หญิงสาวอีกรอบ
รินนภามองหน้าคนโน้นคนนี้ทีแล้วก็ไม่รู้จะเข้าข้างใคร พี่ชายตัวเองนะหน้าระรื่นเชียว แต่พี่ฟ้าทำไมหน้างอแบบนั้นละ กลัวว่าพี่สาวคนสวยจะโกรธ รินนภาเลยร้องอุทธรณ์ขึ้นบ้าง
"รินหิวแล้วละคะพี่ฟ้า เดี๋ยวเราแวะจอดเรือกินข้าวกันเถอะนะคะ"
สงครามย่อย ๆ จึงได้ยุติลง ชายหนุ่มวาดเรือเข้าหาฝั่งบริเวณที่มีต้นตะขบใหญ่ขึ้นอยู่ริมตลิ่งแผ่กิ่งก้านสาขาร่มครึ้ม แล้วเอาเชือกเรือขึ้นไปผูกเข้ากับลำต้นตะขบ ก่อนที่จะลงมาช่วยสองสาวขนเสื่อ ปิ่นโต ขวดน้ำ และตะกร้าผลไม้ขึ้นฝั่ง
หลังจากที่อาหารมื้อกลางวันหมดภายในพริบตา รินนภาก็ลุกไปเก็บลูกตะขบที่กำลังแดงได้ที่มาไว้กินเล่น ส่วนวฤธขอเอนหลังรับสายลมเย็นที่กำลังพัดผ่านมาแผ่ว ๆ ไม่ทันที่ฟ้าครามจะลุกเดินตามรินนภาไป หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเมื่อชายหนุ่มแกล้งทิ้งศีรษะลงบนตักของหล่อน
"ทำอะไรนะ" ฟ้าครามตาเขียวขึ้นมาทันที แถมหยิกให้ที่ต้นแขนชายหนุ่ม
"ขอนอนหนุนตักครับ ก็พี่ไม่มีหมอนนี่นา พอดีเห็นตักฟ้าว่างเลยขออาศัยนอนหน่อย ฟ้าไม่ใจร้ายหรอกเนอะ ดูสิ ฟ้าสวยจังเลย" ชายหนุ่มแกล้งชี้มือไปยังท้องฟ้าที่กำลังใสสว่างมีเมฆขาวเป็นปุยลอยเอื่อย ๆ ตามแรงลมเป่า แต่สายตาเขากลับไพล่ไปมองใบหน้าเนียนใสของฟ้าครามแทน หญิงสาวเลยไม่รู้ว่าเขาหมายถึงฟ้าไหนกันแน่
"อย่ามาทำเล่นนะ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้" หญิงสาวเงื้อมือขึ้นสูง
"แค่นี้ก็หวง ตอนเด็กพี่ยังให้ฟ้าขี่คอได้เลย เดี๋ยวนี้พี่ขอแค่นอนหนุนตัก ฟ้าก็ต้องตีพี่เจ็บ ๆ ด้วย" วฤธทำเสียงน้อยใจ คลำแขนตัวเองป้อย ๆ แต่นัยน์ตายิ้มเป็นประกาย ยิ่งทำให้หญิงสาวหมั่นไส้ขึ้นไปอีก เลยผลักเขาออกเต็มแรง แล้วรีบลุกขึ้นเดินหนีไปหารินนภา
ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะอย่างสบายอารมณ์ เปลี่ยนมาใช้แขนตัวเองหนุนหัวแทน พลางแกล้งบีบเสียงให้แหลมเล็กเหมือนผู้หญิงเพื่อร้องเพลง "หนาวตัก" ยั่วหญิงสาว
"ดูซิดู ใครสอนให้นอนหนุนตัก ซุกซนนัก ไม่กลัวน้องจะหมองศรี หนาวตัก หนักจิต ดรรชนี
"
ร้องยังไม่ทันจบก็ต้องรีบลุกขึ้นนั่ง เมื่อเศษก้อนดินที่ฟ้าครามปาลงมาใกล้ ๆ แตกกระจายเต็มหน้า ส่วนตัวหญิงสาวนะวิ่งหนีไปไกลแล้ว
**************************************************************************
ชายหนุ่มแวะนำเรือเทียบท่าหน้าบ้านของตนเอง เพื่อส่งน้องสาวกลับขึ้นบ้านก่อน แล้วจึงพายเรือต่อไปส่งหญิงสาว เขาพยายามชักชวนคุยเรื่องงาน เพราะฟ้าครามยังไม่ยอมคุยด้วยเลยตั้งแต่พายเรือกลับกันมา
"ช่วงหน้าน้ำปีก่อน ๆ สวนแถบนี้น้ำท่วมบ้างหรือเปล่าครับ"
"เป็นบางปีคะ ช่วงปีเอลนิโย ปริมาณน้ำฝนลดน้อยลง ปริมาณน้ำในลำธารก็เลยลดตามไปด้วย แต่เมื่อปีกลายนี้น้ำหลาก พาเอาเรือกสวนด้านนอกล่มไปบ้างเหมือนกันคะ"
"พี่กะว่าจะทำฝายธรรมชาติกั้นลำน้ำเป็นจุด ๆ เพื่อสะดวกในการจัดการปริมาณการไหลของน้ำ ถ้าเกิดน้ำปีนี้มากกว่าปกติเราสามารถควบคุมการระบายน้ำได้ ไม่ปล่อยให้ท่วมพื้นที่ด้านล่าง หรือถ้าน้ำขาดก็จะได้ปล่อยในช่วงเวลาที่เหมาะสม"
"ฟ้าเห็นด้วยนะคะ เพราะบางปีน้ำจะหลากมาเฉพาะช่วงหน้าฝนเท่านั้น แต่พอถึงหน้าแล้งน้ำในคลองก็น้อยแทบจะไม่พอสำหรับการเกษตร ถ้าเราสามารถจัดสรรน้ำให้พอดีทั้งปริมาณและช่วงเวลา ชาวสวนแถวนี้ก็คงไม่ต้องกังวล"
เออนะ
ถ้าพูดเรื่องงานละก็ หญิงสาวจะลืมตัวคุยกับเขาได้ครั้งละนาน ๆ ทีเดียว ชายหนุ่มเลยได้นั่งฟังเสียงหวาน ๆ เพลินไป
"ส่วนเรื่องคุณภาพของน้ำทั้งค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำ และค่าแบคทีเรียในน้ำที่นี่ก็นับว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่คะ เพราะพวกเรามีโครงการรักษ์สายน้ำ เป็นการรณรงค์ให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้มีส่วนรวมในการดูแลและรักษาสภาพลำคลองไว้ให้ดีที่สุด แล้วทุกคนก็น่ารักมากคะ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี" หญิงสาวยังคงอธิบายต่ออย่างเพลิดเพลิน
"ส่วนป่าชายเลนตรงบริเวณปากอ่าวของเราก็ยังอยู่ในสภาพดี ปริมาณลูกกุ้ง หอย ปู ปลา ก็นับว่ามีในปริมาณมาก ถือว่าอุดมสมบูรณ์ดีทีเดียวคะ"
หญิงสาวหยุดชะงักเรื่องที่ตนเองกำลังพูด เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังอมยิ้มจ้องมองหล่อนอยู่ หล่อนถึงนึกขึ้นได้ว่า กำลังโกรธเขาอยู่ ฟ้าครามเลยหยุดพูดแล้วสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นไม่ยอมคุยต่อ แต่หญิงสาวกลับได้ยินเสียงหัวเราะของวฤธมาแทนที่
*************************************
หลังจากส่งหญิงสาวขึ้นบ้านแล้วชายหนุ่มจึงได้กลับมานอนเล่นที่แคร่ไม้หน้าบ้านตัวเอง คืนนี้เดือนมืดทำให้มองเห็นแสงดาวเต็มท้องฟ้า แต่ละดวงกำลังเปล่งประกายแวววาวระยิบระยับอวดกันอยู่ในที วฤธได้แต่ถอนใจเฝ้าหนักใจในความรักของตัวเอง ทำไมหัวใจเขามันช่างไม่สุกใสสว่างเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าบ้างนะ เมื่อไหร่ฟ้าครามถึงจะใจอ่อนยอมรับรักเขาเสียที เฝ้าตื้อเฝ้าตาม เฝ้าแสดงออกว่าเขารักหล่อนมาโดยตลอด เป็นรักของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวอย่างเต็มหัวใจ ไม่ใช่ความรักแบบพี่ชายและน้องสาวเหมือนในวัยเด็ก แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าหญิงสาวจะรับรู้และตอบสนอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหล่อนไม่รัก ทำไมเขาไม่ตัดใจเสียนะ อาจเป็นเพราะความผูกพันที่เขารักและเอ็นดูหล่อนมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่เฝ้าติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง ถึงแม้ช่วงเวลาที่ต้องห่างกันไปเพื่อแยกย้ายกันทำหน้าที่ของชีวิต และเขาได้พบหญิงสาวอื่น ๆ มาไม่น้อย แต่ใจเขาก็ไม่มีใครอื่นที่จะมาแทนที่ฟ้าครามได้เลย ความรักนี่แปลกจริง ๆ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังคงมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ได้เห็นหน้า ได้ยินเสียง สงสัยเขาคงจะหวังอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
"พี่วฤธยังไม่นอนหรือค่ะ" เสียงใส ๆ ของรินนภาร้องถามพี่ชาย เมื่อเดินลงมาหาจากบนเรือนพร้อมทิ้งตัวลงนั่ง ๆ ใกล้ พลางเอนศีรษะลงบนบ่าและสอดแขนเข้าโอบเอวของชายหนุ่ม
"พี่ยังไม่ง่วงเลย แล้วรินยังไม่นอนหรือ เข้านอนได้แล้วละมั้ง เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนอีก"
"พี่วฤธนั่งดูฟ้าคิดถึงใครหรือค่ะ อ๋อ
รินรู้แล้วต้องคิดถึงพี่ฟ้าแน่ ๆ เลย" หญิงสาวแกล้งเย้า
"ทำเป็นรู้ดีนะเรา ไม่ใช่เรื่องของเด็ก"
"อย่ามาดูถูกกันนะคะ พี่จำเรื่องหนูช่วยราชสีห์ได้หรือเปล่า รินนี่แหละหนูพุกขนาดใหญ่ เดี๋ยวจะจัดการให้ โธ่ เรื่องแค่นี้เอง จิ๊บจ๊อย ทีเมื่อก่อนกับสาวคนอื่น ๆ ไม่เห็นพี่ชายรินจะเป็นทุกข์เป็นร้อน" รินนภาลอยหน้าลอยตาโอ้อวดฝีมือ
"สาวอื่นนะเขาตามมาเอง พี่ไม่ได้รัก แต่คนนี้พี่รัก แล้วเราจะทำอะไรหรือ ฟ้าเขาไม่ใจอ่อนกับพี่ง่าย ๆ หรอก"
"ตอนนี้ยังไม่บอก แต่คอยดูฝีมือรินก็แล้วกันคะ" รินนภากล่าวอย่างมั่นใจ กระโดดลุกขึ้นพลางหอมแก้มพี่ชายหนึ่งฟอด แล้วรีบวิ่งกลับขึ้นเรือนไป ไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มได้ซักถามอะไรต่ออีก
ในขณะเดียวกันฟ้าครามเองก็นอนไม่หลับ ในใจเฝ้าแต่กังวลว่าท่าทีทั้งหมดที่วฤธแสดงกับหล่อนนั้นเขาถือเป็นเรื่องจริงจังหรือไม่ คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเฝ้ารักเด็กหญิงคนเดิมอย่างฝังใจ หล่อนรู้ว่าวฤธเอาใจใส่และอาทรหล่อนมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นน้องสาวตัวน้อยที่คอยวิ่งเล่นติดตามเขาไปทุกแห่งในสวน แต่สิ่งที่หญิงสาวกลัวที่สุดคือการเปลี่ยนแปลง ไม่อยากรับรักใครให้ต้องเสียใจเมื่อภายหลัง ไม่อยากจากบ้านสวนที่หล่อนรัก ฟ้าครามรู้สึกอบอุ่นเพียงพอแล้วกับความรักที่ป้าใหญ่ น้าน้อย และน้าเล็กมีให้หล่อน เนื้อเพลง "ตั้งใจไม่รัก" ผุดขึ้นในจิตใจของหญิงสาวให้ต้องคิดทบทวนอย่างกลุ้มใจ
"มั่นใจตั้งใจจะไม่รัก ด้วยฉันไม่รู้จักว่าความรักดีอย่างไร พอพบกันจิตใจก็พลันเปลี่ยนไป กลับอายเขาเสียยกใหญ่ เมื่อยามได้สบตา
หักใจมิยอมคิดผูกพัน แล้วไยหรือนั่น พอพบกันก็ลืมเหมือนว่า เลือดในกายฉีดแรงทั่วไปทั้งหน้า ดังไฟเผาในวิญญารุมร้อนทั่วกายามิคลาย
หลับตาก็คอยแต่ใฝ่ฝัน พร่ำเพ้อรำพัน ถึงตัวเขานั้นมั่นหมาย ดู ฤ ใจ หักใจเพียงใดไม่วาย ช่างคิดถึงเขาง่ายดาย ไม่แหนงหน่ายสักวัน
นี่คงรักเขาเสียแล้วสิเรา น้ำใจนะเจ้า ใจของเราง่ายจริงหรือนั่น เจอะตัวเขาทีไรอกใจไหวหวั่น เฝ้าคอยเขามารำพันคำรักมั่นกับฉันสักคำ
*************************************
Create Date : 27 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 18:26:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 212 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|