Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
สายน้ำแห่งความรัก (๔)



เสียงหรีดหริ่งเรไรยามพลบค่ำเริ่มดังระงม แต่เสียงหวาน ๆ ของฟ้าครามที่นั่งอ่านบทกลอนเรื่องอิเหนาให้สตรีต่างวัยทั้งสี่ฟังก็ยังคงได้ยินแผ่ว ๆ เมื่อวฤธเดินมาถึงหน้าเรือนไทย แล้วขึ้นเรือนไปนั่งอยู่ด้านหลังหญิงสาว พร้อมทั้งไหว้ผู้อาวุโสในที่นั้น

"อิเหนาหรือมาตามด้วยความรัก
ข้อนี้ไม่ประจักษ์ยังสงสัย
ซึ่งมาจากหมันหยาเวียงชัย
เพราะดาหามีภัยจึงไคลคลา
หวังจะช่วยรณรงค์สงคราม
มิใช่มาด้วยความเสน่หา
นี่แวะมาไหว้พระปฏิมา
แล้วจะไปหมันหยาธานี"

"ขอโทษทุกคนครับที่ขัดจังหวะ ผมไม่ใช่อิเหนาหรอกนะครับ แต่จะมาตามนางบุษบา เอ้ย .. วิยะดาน้องสาว เอ้อ ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละครับ จะมารับรินนภากลับบ้านนะครับ" ชายหนุ่มกล่าวล้อเลียนเนื้อความของบทกลอนที่ฟ้าครามเพิ่งอ่านจบไป พร้อมทั้งส่งสายตาพราวมาให้บุษบาฟ้าครามที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ห่าง ๆ

"คืนนี้รินขอนอนกับพี่ฟ้าไม่ได้หรือค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้รินจะได้ไปเก็บระกำหวานท้ายสวนด้วย กำลังอยากกินมากเลย"

"พี่เห็นใกล้ค่ำแล้ว รินยังไม่กลับเลยเดินมารับ แต่ถ้าอยากนอนนี่ก็ตามใจ เดี๋ยวพี่บอกคุณยายให้"

"ปรกติฟ้าเขาก็จะเดินไปส่งอยู่แล้วละจ๊ะ พ่อวฤธไม่ต้องเป็นห่วง แต่ถ้าดึกมากนัก น้าก็จะให้นอนที่นี่เลย แล้วตอนเช้าค่อยกลับ" น้าน้อยตอบพลางชักชวนชายหนุ่มนั่งเล่นฟังหลานสาวอ่านบทกลอนต่อ

"อันความรักของชายนี้หลายชั้น
เขาว่ารักรักนั้นประการใด
จงพินิจพิศดูให้รู้แน่
อย่าทำแต่ใจเร็วจะเหลวไหล
เปรียบเหมือนคิดปริศนาอย่าไว้ใจ
มันมันไพล่แพลงขุมเป็นหลุมพราง"

"ฮ้าย ยายฟ้า ท่องกลอนอะไรนะ มันไม่ใช่เรื่องอิเหนาแล้ว อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องไป เอามาจากไหนหรือนั่น" ป้าใหญ่ร้องขัดขึ้นอย่างแปลกใจ

"ฟ้าก็จำของสุนทรภู่มานะคะ เห็นว่าอิเหนาเจ้าชู้นัก ไปที่ไหนก็เที่ยวไปมีเมียทิ้งไว้เรี่ยราด พอดีนึกกลอนบทนี้ขึ้นมาได้ก็เลยท่องออกมาคะ"

"นั่นนะสิ อิเหนานี่มีเมียเป็นสิบคน แต่ก็ยังแพ้บุเรงนองละนะ ที่นับกันไม่หวาดไม่ไหว" น้าเล็กพลอยผสมโรงไปกับหล่อนด้วย

"อย่าว่าแต่ในวรรณคดีเลย หนุ่มสมัยนี้ก็ไม่น้อยหน้านะ น้าเคยอ่านใน เขียนไว้เมื่อวันวาร ของคุณตำรา ณ เมืองใต้ ที่เขาว่า"

"สมัยปัจจุบันเป็นสมัยวิทยาศาสตร์ ความรักก็เดินตามแบบวิทยาศาสตร์ มีวิธีทดลอง แปรธาตุ ประสมธาตุ รวมไปในตัวเสร็จ สตรีสมัยโบราณไม่ได้เรียนวิทยาศาสตร์ คิดเห็นว่าความรักคือหลุมพราง เมื่อจะกระโจนลงไปก็ต้องคิดแล้วคิดเล่า แต่ในสมัยนี้ผู้ปกครองที่หวงลูก ถูกหาอย่างโง่ ๆ ว่าเป็นคนครึ กักลูกไม่ให้เปิดหูเปิดตา คนหนุ่มเข้าใจว่าคนแก่โง่ แต่คนแก่รู้ชัดว่าคนหนุ่มโง่ คนแก่ย่อมได้เคยเห็นมาแล้วว่า มดกับน้ำตาลนั้นอยู่ใกล้กันไม่ได้ แต่คนหนุ่มสมัยใหม่เข้าใจว่า มดสมัยนี้ได้รับการศึกษาดี มีหัวคิด หารู้ไม่ว่ามดนั้นต้องการน้ำตาลอย่างยิ่ง ยิ่งเป็นมดมีความรู้ยิ่งเป็นอันตรายแก่น้ำตาลมากขึ้น"

ชายหนุ่มคนเดียวในที่นั้นอดอมยิ้มไม่ได้ นี่น้าเล็กกำลังเปรยให้เขาฟังหรือเปล่านี่ ว่าบ้านนี้หวงหลานสาว แต่บ้านนี้ก็มีแต่น้ำตาลหวานทั้งนั้น ทั้งน้าน้อย น้าเล็กก็ยังดูสาวอ่อนกว่าวัย หลานสาวก็น่ารัก ถึงจะดุก็เถอะ มดที่ไหนก็คงอยากเข้าใกล้

"สงสัยผมคงมาผิดจังหวะแล้วละฮะ จะสู้ก็ไม่ไหว แก้ตัวก็ไม่ได้ เพราะเป็นผู้ชายคนเดียวเสียด้วย" ชายหนุ่มกล่าวอย่างเห็นขำ

ป้าใหญ่หัวเราะอย่างเข้าข้างชายหนุ่ม "เขาถกกันเล่น ๆ นะลูก ใครมีลูกมีหลานสาวก็เป็นห่วงเป็นธรรมดา แต่ขนาดยัยฟ้านี่ ป้าไม่ห่วงหรอก กลัวแต่ว่าจะไม่มีหนุ่มไหนกล้ามาขอเท่านั้นแหละ หรือไม่ ขอไปแล้วก็จะรีบเอามาคืน"

"ดีสิค่ะ ฟ้าจะได้อยู่กับทุกคนที่นี่ตลอดไป สบายดีออก ไม่เห็นอยากแต่งงานเลย ยิ่งโบราณท่านว่าไว้ว่า

"อยู่ใกล้กันก็เป็นจันทร์อันแจ่มจ้า
ดูงามตาแสงสุกใสในกลางหาว
อยู่ไกลกันก็เร้นค่าเป็นเพียงดาว
เพราะทางยาวแสงไม่ถึงไม่ตรึงใจ"

"ฟ้ายิ่งไม่อยากใหญ่เลย ไม่ว่าจะอยู่ใกล้อยู่ไกลก็เหอะ"

หญิงสาวประกาศเจตนาอย่างมุ่งมั่น พร้อมทำหน้าเชิด คอแข็ง วฤธได้แต่นึกว่าเขาจะทำให้หล่อนเปลี่ยนใจได้มั๊ยนะ คงจะต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง และคงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อีกทั้งยังต้องผ่าด่านป้าและน้าของหล่อนที่รุมกันรักและเอาใส่ใจหญิงสาว

"เอาเถอะ ถึงอยากแต่งก็ไม่มีใครมาขอหรอก ฮะ ฮะ " น้าน้อยขัดขึ้นอย่างเห็นขำ "ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยววฤธอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนกลับนะ วันนี้พี่ใหญ่ทำหลนเต้าเจี้ยว ยำปลาดุกฟู กุ้งผัดกระเทียม ส่วนน้านะทำ ผัดผักคะน้าหมูกรอบ กับต้มยำกุ้งไว้ น้าเล็กเขาก็ทำทับทิมกรอบและก็ยังเตรียมผลไม้ในสวนอีกหลายอย่างไว้ด้วยเป็นของหวาน แต่ยัยฟ้านะ รายนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย"

หลังจากที่ฟังรายชื่ออาหารอันยืดยาว เขาก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เมื่อรู้ว่าสาวน้อยในใจของเขาไม่ยอมเข้าครัวทำกับข้าวอะไรเลย

"ดีจังเลยคะ น่ากินทั้งนั้นเลย รินหิวแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวหนูช่วยจัดสำรับนะคะ"

หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับความเจ้าชู้ของผู้ชายในคืนนั้นเลยจบลงได้ เพราะมีเรื่องอาหารมาล่อแทน


**************************************************************************



เรือลำน้อยค่อย ๆ คัดออกห่างจากตลิ่ง พายเอื่อย ๆ ตามกระแสน้ำลงไปยังบริเวณท้ายสวน สองฟากฝั่งลำคลองยังคงเป็นสวนตลอดแนว บางแห่งก็มีอวนสำหรับดักจับปลาแขวนไว้ บางบ้านก็กำลังงมกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ น่ากิน

ฟ้าครามกับรินนภาเห็นบริเวณพื้นที่ฉ่ำน้ำเต็มไปด้วยดงโสนที่กำลังออกดอกเหลืองสด จึงคัดท้ายเรือเสือกหัวเรือเข้าไปเกยตลิ่ง แล้วก็เดินไปตัดใบตองแถวนั้นมาทำกระทงเพื่อมาเก็บดอกโสนเอาไว้ไปใส่ไข่เจียว ได้พอประมาณแล้วก็ลงพายเรือชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งอย่างเพลิดเพลินพลางแวะเก็บดอกบัวไปไว้ถวายพระ และผักบุ้งไปให้ป้าใหญ่แกงเทโพให้กิน จนเข้าเขตท้ายสวนจึงได้เอาเรือเข้าเทียบตลิ่ง บริเวณนั้นเต็มไปด้วยกอระกำที่กำลังมีลูกดกคากอ หญิงสาวถกแขนเสื้อที่พับไว้ลงเตรียมตัวเข้าไปตัดระกำ

"พี่ฟ้าระวังหนามนะคะ" รินนภาร้องเชียร์อยู่ห่าง ๆ

"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พี่ใส่เสื้อแขนยาว ไม่เท่าไหร่หรอก" หญิงสาวคว้ามีดพร้าติดมือบุกเข้าไปในดงระกำ

ช่วงไหนเป็นหน้าระกำ ฟ้าครามก็จะอาสามาตัดเอง ไม่ต้องรอคนงานมาทำให้ เพราะหล่อนถือเป็นเรื่องสนุก ได้พายเรือมาไกล ๆ แล้วก็ได้พากันมาเที่ยวเล่นกับรินนภา

"เดี๋ยวเราแบ่งส่วนหนึ่งไปทำระกำลอยแก้วไปให้ยายด้วยนะ กินแล้วชื่นใจดี ส่วนที่เหลือก็เอาไว้กินสด ๆ"

"ดีจังคะ พี่วฤธก็ชอบกินระกำลอยแก้วเหมือนกัน พี่ฟ้าทำเยอะ ๆ เลยนะคะ"

"เอ้า ได้แล้วจ๊ะ ขนไปไว้ในเรือกันเถอะ สงสัยขากลับคงต้องออกแรงเยอะแน่เลย เพราะมีแต่ของเต็มลำเรือ แถมต้องพายทวนน้ำอีก"

"รู้แบบนี้ชวนพี่วฤธมาด้วยก็ดีนะคะ เราจะได้ไม่ต้องพายเรือเหนื่อย"

"มากับผู้ชายไม่สนุกหรอกจ๊ะ มากันเองนะดีแล้ว พี่น้อยใจแล้วนะ เดี๋ยวนี้รินได้พี่ชายกลับมาอยู่บ้านแล้ว ไม่รักพี่เหมือนก่อนแล้วใช่มั๊ยจ๊ะ" หญิงสาวแกล้งงอน

"โอ๋ พี่ฟ้าคนดี รินรักพี่ฟ้าออกนะคะ พี่วฤธก็รักพี่ฟ้าด้วย อย่าน้อยใจเลยนะคะ"

"อ้าว ยิ่งพูดถึงพี่วฤธพี่ยิ่งน้อยใจนะเออ" หญิงสาวเขินคำพูดที่รินนภาบอก เลยเสหิ้วระกำเดินนำหน้ากลับไปยังเรือ


***********************************************************************



บ่ายคล้อยหลังจากที่รินนภากลับบ้านเอาระกำลอยแก้วไปให้ยายและพี่ชายแล้ว ฟ้าครามก็ลงไปนอนเล่นในแปลญวน ที่ผูกไว้ระหว่างต้นชมพูถัดเข้าไปด้านในของสวน

หญิงสาวนอนเล่นกำลังอ่านหนังสือเพลิน ๆ ก็มีเสียงทุ้มมากระซิบข้างหูทำเอาสะดุ้งตกใจเกือบตกจากแปล

"ขอบคุณมากนะครับ ที่อุตสาห์ทำระกำลอยแก้วมาเผื่อพี่ด้วย ของโปรดของพี่เลยละ"

ฟ้าครามเงยหน้าดูก็พบว่าพี่ชายคนดีของรินนภานั่นเอง

"เห็นรินบอกว่า ฟ้าอุตสาห์บุกเข้าไปตัดระกำเอง หนามเกี่ยวจนแขนขาแดงไปหมด ไหนพี่ขอดูหน่อยว่าเป็นแผลเยอะหรือเปล่า"

"เรื่องอะไรมาขอดูแขนดูขาฟ้า พิลึกคนเชียว สงสัยคงเที่ยวขอดูของผู้หญิงไปทั่ว" หล่อนเหน็บเขาเข้าให้อีกแล้ว

ชายหนุ่มได้แต่มองสำรวจตามบริเวณแขนที่พ้นจากเสื้อผ้าฝ้ายแขนยาว และขาที่พ้นจากชายผ้านุ่ง ไม่ได้สนใจสายตาเขียว ๆ ที่มองแบบเอาเรื่อง

"สมัยนี้แล้ว ไม่ต้องขอดูก็เห็นได้ถนัดชัดสายตา สาว ๆ ยุคใหม่เขาใส่สายเดี่ยว เกาะอก และก็กระโปรงสั้น ๆ กันทั้งนั้น ไม่ต้องเสียเวลาไปขอดูของเขาหรอก ไม่เหมือนสาวหัวโบราณที่ปิดซะจนไม่รู้จะมองอะไรดี" วฤธตอบเล่นอย่างยั่วเย้า แถมยังส่งสายตากวาดไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวประกอบคำพูด แต่ก็มาหยุดอยู่ที่สายตาดุ ๆ ของฟ้าคราม

"เพิ่งรู้ว่าฟ้าก็ทำอาหารเป็นเหมือนกัน รู้ด้วยหรือว่าพี่ชอบกินระกำ"

"ไม่รู้หรอกคะ ฟ้าตั้งใจทำให้คุณยายเท่านั้น แต่น้องรินบอกว่า ให้ทำเผื่อพี่ชายด้วย สงสัยจะระกำช้ำรักมาจากไหนหรือคะ ถึงได้ชอบกินเป็นพิเศษนะ" ฟ้าครามแกล้งแซวให้เจ็บเล่น ๆ

"ถ้าจะช้ำระกำใจก็คงจะเป็นเพราะสาวแถวนี้นะละ ที่ใจแข็งไม่ยอมเห็นใจคนที่เฝ้ารักเฝ้าคิดถึงมาตลอดเวลา"

โห ไม่น่าหาเรื่องแหย่เขาเลยเรา เข้าตัวจนได้ หญิงสาวเลยเงียบแกล้งทำหูทวนลมไม่ได้ยินที่เขาพ้อเมื่อสักครู่

"แล้วมาทำอะไรแถวนี้ มาหาป้าใหญ่หรือคะ" หญิงสาวรีบผลักไล่ไสส่ง ให้ชายหนุ่มไปให้พ้น ๆ หน้า จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดกับยิ้มกวน ๆ และนัยน์ตาที่เขามองหล่อน

"พี่ขึ้นไปบนเรือนมาแล้ว เห็นป้าใหญ่ว่าเย็นนี้มีแกงเทโพ กับไข่เจียวดอกโสนที่หลานสาวไปเก็บมาเมื่อเช้า เลยชวนพี่อยู่กินข้าวเย็นด้วย แล้วก็ไล่พี่ให้มานั่งเล่นในสวนกับฟ้า เพราะอยู่ข้างบนป้าใหญ่ก็ว่าเกะกะ ไม่มีอะไรให้ทำ แต่พอมาเจอหลานสาวก็กลับไล่ให้ขึ้นบ้านอีกแนะ"

"ไม่ได้ไล่นะ อย่ามาหาเรื่องกัน ใครจะไปกล้าไล่หลานชายคุณยายบัวละคะ เดี๋ยวทุกคนก็พากันดุฟ้าหรอก"

"อยากนั่งเล่นตรงไหนก็นั่งสิคะ" ว่าแล้วฟ้าครามก็ทิ้งตัวลงนอนบนแปลต่อ คว้าหนังสือตั้งใจจะอ่านต่อ โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก แต่ก็กลับต้องร้องขึ้นมาอย่างตกใจ เมื่อวฤธทิ้งตัวลงนั่งในแปลด้วยอย่างหน้าตาเฉย

หญิงสาวรีบลุกขึ้นหน้าแดงก่ำ "เรื่องอะไรมาแย่งฟ้านั่งละ"

"ฟ้าบอกพี่เองให้นั่งตรงไหนก็ได้ไง พี่เห็นมีแปลแค่อันเดียว ก็เลยนึกว่าฟ้าชวนให้พี่นั่งด้วยกันนะ" ชายหนุ่มยิ้มตอบตาพราว

"งั้น ฟ้าขึ้นไปช่วยป้าใหญ่ทำกับข้าวแล้วคะ อยากนั่งก็นั่งคนเดียวแล้วกัน"

หญิงสาวรีบหันหลังกลับเดินตรงขึ้นเรือนไป ทิ้งเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงของชายหนุ่มไว้เบื้องหลัง ปล่อยให้วฤธนั่งนึกถึงความหลังเมื่อครั้งยังเด็กที่หล่อนชอบอ้อนขอนั่งตักเขาทุกครั้งที่นั่งในแปลญวนด้วยกัน นี่ถ้าเขาขอให้หญิงสาวนั่งตักเขาตอนนี้ คงโดนฟ้าครามผลักตกแปลไปแล้วก็ได้






Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 18:20:36 น. 1 comments
Counter : 472 Pageviews.

 
น่าจะมีบทชมดงและก็มีคำแปลด้วยนะ


โดย: sirima IP: 118.175.178.205 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:1:19:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.