|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สายน้ำแห่งความรัก (๔)
เสียงหรีดหริ่งเรไรยามพลบค่ำเริ่มดังระงม แต่เสียงหวาน ๆ ของฟ้าครามที่นั่งอ่านบทกลอนเรื่องอิเหนาให้สตรีต่างวัยทั้งสี่ฟังก็ยังคงได้ยินแผ่ว ๆ เมื่อวฤธเดินมาถึงหน้าเรือนไทย แล้วขึ้นเรือนไปนั่งอยู่ด้านหลังหญิงสาว พร้อมทั้งไหว้ผู้อาวุโสในที่นั้น
"อิเหนาหรือมาตามด้วยความรัก ข้อนี้ไม่ประจักษ์ยังสงสัย ซึ่งมาจากหมันหยาเวียงชัย เพราะดาหามีภัยจึงไคลคลา หวังจะช่วยรณรงค์สงคราม มิใช่มาด้วยความเสน่หา นี่แวะมาไหว้พระปฏิมา แล้วจะไปหมันหยาธานี"
"ขอโทษทุกคนครับที่ขัดจังหวะ ผมไม่ใช่อิเหนาหรอกนะครับ แต่จะมาตามนางบุษบา เอ้ย .. วิยะดาน้องสาว เอ้อ ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละครับ จะมารับรินนภากลับบ้านนะครับ" ชายหนุ่มกล่าวล้อเลียนเนื้อความของบทกลอนที่ฟ้าครามเพิ่งอ่านจบไป พร้อมทั้งส่งสายตาพราวมาให้บุษบาฟ้าครามที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ห่าง ๆ
"คืนนี้รินขอนอนกับพี่ฟ้าไม่ได้หรือค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้รินจะได้ไปเก็บระกำหวานท้ายสวนด้วย กำลังอยากกินมากเลย"
"พี่เห็นใกล้ค่ำแล้ว รินยังไม่กลับเลยเดินมารับ แต่ถ้าอยากนอนนี่ก็ตามใจ เดี๋ยวพี่บอกคุณยายให้"
"ปรกติฟ้าเขาก็จะเดินไปส่งอยู่แล้วละจ๊ะ พ่อวฤธไม่ต้องเป็นห่วง แต่ถ้าดึกมากนัก น้าก็จะให้นอนที่นี่เลย แล้วตอนเช้าค่อยกลับ" น้าน้อยตอบพลางชักชวนชายหนุ่มนั่งเล่นฟังหลานสาวอ่านบทกลอนต่อ
"อันความรักของชายนี้หลายชั้น เขาว่ารักรักนั้นประการใด จงพินิจพิศดูให้รู้แน่ อย่าทำแต่ใจเร็วจะเหลวไหล เปรียบเหมือนคิดปริศนาอย่าไว้ใจ มันมันไพล่แพลงขุมเป็นหลุมพราง"
"ฮ้าย ยายฟ้า ท่องกลอนอะไรนะ มันไม่ใช่เรื่องอิเหนาแล้ว อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องไป เอามาจากไหนหรือนั่น" ป้าใหญ่ร้องขัดขึ้นอย่างแปลกใจ
"ฟ้าก็จำของสุนทรภู่มานะคะ เห็นว่าอิเหนาเจ้าชู้นัก ไปที่ไหนก็เที่ยวไปมีเมียทิ้งไว้เรี่ยราด พอดีนึกกลอนบทนี้ขึ้นมาได้ก็เลยท่องออกมาคะ"
"นั่นนะสิ อิเหนานี่มีเมียเป็นสิบคน แต่ก็ยังแพ้บุเรงนองละนะ ที่นับกันไม่หวาดไม่ไหว" น้าเล็กพลอยผสมโรงไปกับหล่อนด้วย
"อย่าว่าแต่ในวรรณคดีเลย หนุ่มสมัยนี้ก็ไม่น้อยหน้านะ น้าเคยอ่านใน เขียนไว้เมื่อวันวาร ของคุณตำรา ณ เมืองใต้ ที่เขาว่า"
"สมัยปัจจุบันเป็นสมัยวิทยาศาสตร์ ความรักก็เดินตามแบบวิทยาศาสตร์ มีวิธีทดลอง แปรธาตุ ประสมธาตุ รวมไปในตัวเสร็จ สตรีสมัยโบราณไม่ได้เรียนวิทยาศาสตร์ คิดเห็นว่าความรักคือหลุมพราง เมื่อจะกระโจนลงไปก็ต้องคิดแล้วคิดเล่า แต่ในสมัยนี้ผู้ปกครองที่หวงลูก ถูกหาอย่างโง่ ๆ ว่าเป็นคนครึ กักลูกไม่ให้เปิดหูเปิดตา คนหนุ่มเข้าใจว่าคนแก่โง่ แต่คนแก่รู้ชัดว่าคนหนุ่มโง่ คนแก่ย่อมได้เคยเห็นมาแล้วว่า มดกับน้ำตาลนั้นอยู่ใกล้กันไม่ได้ แต่คนหนุ่มสมัยใหม่เข้าใจว่า มดสมัยนี้ได้รับการศึกษาดี มีหัวคิด หารู้ไม่ว่ามดนั้นต้องการน้ำตาลอย่างยิ่ง ยิ่งเป็นมดมีความรู้ยิ่งเป็นอันตรายแก่น้ำตาลมากขึ้น"
ชายหนุ่มคนเดียวในที่นั้นอดอมยิ้มไม่ได้ นี่น้าเล็กกำลังเปรยให้เขาฟังหรือเปล่านี่ ว่าบ้านนี้หวงหลานสาว แต่บ้านนี้ก็มีแต่น้ำตาลหวานทั้งนั้น ทั้งน้าน้อย น้าเล็กก็ยังดูสาวอ่อนกว่าวัย หลานสาวก็น่ารัก ถึงจะดุก็เถอะ มดที่ไหนก็คงอยากเข้าใกล้
"สงสัยผมคงมาผิดจังหวะแล้วละฮะ จะสู้ก็ไม่ไหว แก้ตัวก็ไม่ได้ เพราะเป็นผู้ชายคนเดียวเสียด้วย" ชายหนุ่มกล่าวอย่างเห็นขำ
ป้าใหญ่หัวเราะอย่างเข้าข้างชายหนุ่ม "เขาถกกันเล่น ๆ นะลูก ใครมีลูกมีหลานสาวก็เป็นห่วงเป็นธรรมดา แต่ขนาดยัยฟ้านี่ ป้าไม่ห่วงหรอก กลัวแต่ว่าจะไม่มีหนุ่มไหนกล้ามาขอเท่านั้นแหละ หรือไม่ ขอไปแล้วก็จะรีบเอามาคืน"
"ดีสิค่ะ ฟ้าจะได้อยู่กับทุกคนที่นี่ตลอดไป สบายดีออก ไม่เห็นอยากแต่งงานเลย ยิ่งโบราณท่านว่าไว้ว่า
"อยู่ใกล้กันก็เป็นจันทร์อันแจ่มจ้า ดูงามตาแสงสุกใสในกลางหาว อยู่ไกลกันก็เร้นค่าเป็นเพียงดาว เพราะทางยาวแสงไม่ถึงไม่ตรึงใจ"
"ฟ้ายิ่งไม่อยากใหญ่เลย ไม่ว่าจะอยู่ใกล้อยู่ไกลก็เหอะ"
หญิงสาวประกาศเจตนาอย่างมุ่งมั่น พร้อมทำหน้าเชิด คอแข็ง วฤธได้แต่นึกว่าเขาจะทำให้หล่อนเปลี่ยนใจได้มั๊ยนะ คงจะต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง และคงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อีกทั้งยังต้องผ่าด่านป้าและน้าของหล่อนที่รุมกันรักและเอาใส่ใจหญิงสาว
"เอาเถอะ ถึงอยากแต่งก็ไม่มีใครมาขอหรอก ฮะ ฮะ " น้าน้อยขัดขึ้นอย่างเห็นขำ "ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยววฤธอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนกลับนะ วันนี้พี่ใหญ่ทำหลนเต้าเจี้ยว ยำปลาดุกฟู กุ้งผัดกระเทียม ส่วนน้านะทำ ผัดผักคะน้าหมูกรอบ กับต้มยำกุ้งไว้ น้าเล็กเขาก็ทำทับทิมกรอบและก็ยังเตรียมผลไม้ในสวนอีกหลายอย่างไว้ด้วยเป็นของหวาน แต่ยัยฟ้านะ รายนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย"
หลังจากที่ฟังรายชื่ออาหารอันยืดยาว เขาก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เมื่อรู้ว่าสาวน้อยในใจของเขาไม่ยอมเข้าครัวทำกับข้าวอะไรเลย
"ดีจังเลยคะ น่ากินทั้งนั้นเลย รินหิวแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวหนูช่วยจัดสำรับนะคะ"
หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับความเจ้าชู้ของผู้ชายในคืนนั้นเลยจบลงได้ เพราะมีเรื่องอาหารมาล่อแทน
**************************************************************************
เรือลำน้อยค่อย ๆ คัดออกห่างจากตลิ่ง พายเอื่อย ๆ ตามกระแสน้ำลงไปยังบริเวณท้ายสวน สองฟากฝั่งลำคลองยังคงเป็นสวนตลอดแนว บางแห่งก็มีอวนสำหรับดักจับปลาแขวนไว้ บางบ้านก็กำลังงมกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ น่ากิน
ฟ้าครามกับรินนภาเห็นบริเวณพื้นที่ฉ่ำน้ำเต็มไปด้วยดงโสนที่กำลังออกดอกเหลืองสด จึงคัดท้ายเรือเสือกหัวเรือเข้าไปเกยตลิ่ง แล้วก็เดินไปตัดใบตองแถวนั้นมาทำกระทงเพื่อมาเก็บดอกโสนเอาไว้ไปใส่ไข่เจียว ได้พอประมาณแล้วก็ลงพายเรือชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งอย่างเพลิดเพลินพลางแวะเก็บดอกบัวไปไว้ถวายพระ และผักบุ้งไปให้ป้าใหญ่แกงเทโพให้กิน จนเข้าเขตท้ายสวนจึงได้เอาเรือเข้าเทียบตลิ่ง บริเวณนั้นเต็มไปด้วยกอระกำที่กำลังมีลูกดกคากอ หญิงสาวถกแขนเสื้อที่พับไว้ลงเตรียมตัวเข้าไปตัดระกำ
"พี่ฟ้าระวังหนามนะคะ" รินนภาร้องเชียร์อยู่ห่าง ๆ
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พี่ใส่เสื้อแขนยาว ไม่เท่าไหร่หรอก" หญิงสาวคว้ามีดพร้าติดมือบุกเข้าไปในดงระกำ
ช่วงไหนเป็นหน้าระกำ ฟ้าครามก็จะอาสามาตัดเอง ไม่ต้องรอคนงานมาทำให้ เพราะหล่อนถือเป็นเรื่องสนุก ได้พายเรือมาไกล ๆ แล้วก็ได้พากันมาเที่ยวเล่นกับรินนภา
"เดี๋ยวเราแบ่งส่วนหนึ่งไปทำระกำลอยแก้วไปให้ยายด้วยนะ กินแล้วชื่นใจดี ส่วนที่เหลือก็เอาไว้กินสด ๆ"
"ดีจังคะ พี่วฤธก็ชอบกินระกำลอยแก้วเหมือนกัน พี่ฟ้าทำเยอะ ๆ เลยนะคะ"
"เอ้า ได้แล้วจ๊ะ ขนไปไว้ในเรือกันเถอะ สงสัยขากลับคงต้องออกแรงเยอะแน่เลย เพราะมีแต่ของเต็มลำเรือ แถมต้องพายทวนน้ำอีก"
"รู้แบบนี้ชวนพี่วฤธมาด้วยก็ดีนะคะ เราจะได้ไม่ต้องพายเรือเหนื่อย"
"มากับผู้ชายไม่สนุกหรอกจ๊ะ มากันเองนะดีแล้ว พี่น้อยใจแล้วนะ เดี๋ยวนี้รินได้พี่ชายกลับมาอยู่บ้านแล้ว ไม่รักพี่เหมือนก่อนแล้วใช่มั๊ยจ๊ะ" หญิงสาวแกล้งงอน
"โอ๋ พี่ฟ้าคนดี รินรักพี่ฟ้าออกนะคะ พี่วฤธก็รักพี่ฟ้าด้วย อย่าน้อยใจเลยนะคะ"
"อ้าว ยิ่งพูดถึงพี่วฤธพี่ยิ่งน้อยใจนะเออ" หญิงสาวเขินคำพูดที่รินนภาบอก เลยเสหิ้วระกำเดินนำหน้ากลับไปยังเรือ
***********************************************************************
บ่ายคล้อยหลังจากที่รินนภากลับบ้านเอาระกำลอยแก้วไปให้ยายและพี่ชายแล้ว ฟ้าครามก็ลงไปนอนเล่นในแปลญวน ที่ผูกไว้ระหว่างต้นชมพูถัดเข้าไปด้านในของสวน
หญิงสาวนอนเล่นกำลังอ่านหนังสือเพลิน ๆ ก็มีเสียงทุ้มมากระซิบข้างหูทำเอาสะดุ้งตกใจเกือบตกจากแปล
"ขอบคุณมากนะครับ ที่อุตสาห์ทำระกำลอยแก้วมาเผื่อพี่ด้วย ของโปรดของพี่เลยละ"
ฟ้าครามเงยหน้าดูก็พบว่าพี่ชายคนดีของรินนภานั่นเอง
"เห็นรินบอกว่า ฟ้าอุตสาห์บุกเข้าไปตัดระกำเอง หนามเกี่ยวจนแขนขาแดงไปหมด ไหนพี่ขอดูหน่อยว่าเป็นแผลเยอะหรือเปล่า"
"เรื่องอะไรมาขอดูแขนดูขาฟ้า พิลึกคนเชียว สงสัยคงเที่ยวขอดูของผู้หญิงไปทั่ว" หล่อนเหน็บเขาเข้าให้อีกแล้ว
ชายหนุ่มได้แต่มองสำรวจตามบริเวณแขนที่พ้นจากเสื้อผ้าฝ้ายแขนยาว และขาที่พ้นจากชายผ้านุ่ง ไม่ได้สนใจสายตาเขียว ๆ ที่มองแบบเอาเรื่อง
"สมัยนี้แล้ว ไม่ต้องขอดูก็เห็นได้ถนัดชัดสายตา สาว ๆ ยุคใหม่เขาใส่สายเดี่ยว เกาะอก และก็กระโปรงสั้น ๆ กันทั้งนั้น ไม่ต้องเสียเวลาไปขอดูของเขาหรอก ไม่เหมือนสาวหัวโบราณที่ปิดซะจนไม่รู้จะมองอะไรดี" วฤธตอบเล่นอย่างยั่วเย้า แถมยังส่งสายตากวาดไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวประกอบคำพูด แต่ก็มาหยุดอยู่ที่สายตาดุ ๆ ของฟ้าคราม
"เพิ่งรู้ว่าฟ้าก็ทำอาหารเป็นเหมือนกัน รู้ด้วยหรือว่าพี่ชอบกินระกำ"
"ไม่รู้หรอกคะ ฟ้าตั้งใจทำให้คุณยายเท่านั้น แต่น้องรินบอกว่า ให้ทำเผื่อพี่ชายด้วย สงสัยจะระกำช้ำรักมาจากไหนหรือคะ ถึงได้ชอบกินเป็นพิเศษนะ" ฟ้าครามแกล้งแซวให้เจ็บเล่น ๆ
"ถ้าจะช้ำระกำใจก็คงจะเป็นเพราะสาวแถวนี้นะละ ที่ใจแข็งไม่ยอมเห็นใจคนที่เฝ้ารักเฝ้าคิดถึงมาตลอดเวลา"
โห ไม่น่าหาเรื่องแหย่เขาเลยเรา เข้าตัวจนได้ หญิงสาวเลยเงียบแกล้งทำหูทวนลมไม่ได้ยินที่เขาพ้อเมื่อสักครู่
"แล้วมาทำอะไรแถวนี้ มาหาป้าใหญ่หรือคะ" หญิงสาวรีบผลักไล่ไสส่ง ให้ชายหนุ่มไปให้พ้น ๆ หน้า จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดกับยิ้มกวน ๆ และนัยน์ตาที่เขามองหล่อน
"พี่ขึ้นไปบนเรือนมาแล้ว เห็นป้าใหญ่ว่าเย็นนี้มีแกงเทโพ กับไข่เจียวดอกโสนที่หลานสาวไปเก็บมาเมื่อเช้า เลยชวนพี่อยู่กินข้าวเย็นด้วย แล้วก็ไล่พี่ให้มานั่งเล่นในสวนกับฟ้า เพราะอยู่ข้างบนป้าใหญ่ก็ว่าเกะกะ ไม่มีอะไรให้ทำ แต่พอมาเจอหลานสาวก็กลับไล่ให้ขึ้นบ้านอีกแนะ"
"ไม่ได้ไล่นะ อย่ามาหาเรื่องกัน ใครจะไปกล้าไล่หลานชายคุณยายบัวละคะ เดี๋ยวทุกคนก็พากันดุฟ้าหรอก"
"อยากนั่งเล่นตรงไหนก็นั่งสิคะ" ว่าแล้วฟ้าครามก็ทิ้งตัวลงนอนบนแปลต่อ คว้าหนังสือตั้งใจจะอ่านต่อ โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก แต่ก็กลับต้องร้องขึ้นมาอย่างตกใจ เมื่อวฤธทิ้งตัวลงนั่งในแปลด้วยอย่างหน้าตาเฉย
หญิงสาวรีบลุกขึ้นหน้าแดงก่ำ "เรื่องอะไรมาแย่งฟ้านั่งละ"
"ฟ้าบอกพี่เองให้นั่งตรงไหนก็ได้ไง พี่เห็นมีแปลแค่อันเดียว ก็เลยนึกว่าฟ้าชวนให้พี่นั่งด้วยกันนะ" ชายหนุ่มยิ้มตอบตาพราว
"งั้น ฟ้าขึ้นไปช่วยป้าใหญ่ทำกับข้าวแล้วคะ อยากนั่งก็นั่งคนเดียวแล้วกัน"
หญิงสาวรีบหันหลังกลับเดินตรงขึ้นเรือนไป ทิ้งเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงของชายหนุ่มไว้เบื้องหลัง ปล่อยให้วฤธนั่งนึกถึงความหลังเมื่อครั้งยังเด็กที่หล่อนชอบอ้อนขอนั่งตักเขาทุกครั้งที่นั่งในแปลญวนด้วยกัน นี่ถ้าเขาขอให้หญิงสาวนั่งตักเขาตอนนี้ คงโดนฟ้าครามผลักตกแปลไปแล้วก็ได้
Create Date : 27 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 18:20:36 น. |
|
1 comments
|
Counter : 472 Pageviews. |
|
|
|
โดย: sirima IP: 118.175.178.205 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:1:19:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|