Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
17 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Botox® - - Botulinum toxin type A

สืบเนื่องจาก blog ของผู้พันต้น(เก้าทัพ) ที่อาการปวดหลังกำเริบจนคุณหมอต้องฉีดยาตัวนี้ให้ ก็เลยคิดว่าน่าจะเอาข้อมูลเกี่ยวกับยาตัวนี้มาเล่าสู่กันฟังสักนิด


Botox® คืออะไร?

เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกคุ้นเคยกับคำๆ นี้มาก่อนแล้ว Botox เป็นชื่อย่อของ Botulinum toxin ซึ่งผลิตโดยเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งเป็นเชื้อกลุ่มเดียวกับเชื้อบาดทะยัก ชื่อว่า Clostidium Botulinum เป็นเชื้อที่ไม่ต้องการออกซิเจน และสารพิษที่ผลิตออกมาสามารถจำแนกออกได้ถึง 7 ชนิด แต่ที่เรารู้จักกันดีก็คือ Botulinum toxin A และ Botulinum toxin B สารพิษทั้งสองนี้เป็นชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ (อย่างที่เคยมีข่าวกรณีหน่อไม้ปี๊ปเป็นพิษที่จังหวัดน่านเมื่อหลายปีก่อน)

กลไกการออกฤทธิ์

Botulinum toxin ทั้งสองชนิดมีกลไกการออกฤทธิ์โดยจะไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทที่ปลายประสาทสั่งการเคลื่อนไหว (motor neuron) ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และยังสามารถลดกาหลั่งของเหงื่อที่ต่อมเหงื่อได้

ประโยชน์ทางการแพทย์

Botulinum toxin ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์คือ type A ซึ่งมีจำหน่ายในชื่อทางการค้าว่า Botox® โดยมีข้อบ่งใช้ที่ได้รับการยอมรับจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยคือ
- ใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ และโรคกล้ามเนื้อกระตุก
- ใช้ในการรักษาภาวะกล้ามเนื้อคอบิดเกร็งในคนไข้ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป
- ใช้ในการรักษาริ้วรอยระหว่างคิ้ว (Globular Line) และภาวะกล้ามเนื้อเกร็งเฉพาะส่วนในผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดในผู้ป่วยอัมพฤต หรืออัมพาต
- ใช้ในการรักษาอาการเหงื่อออกมากใต้วงแขน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดูเหมือนว่าประโยชน์ที่แพร่หลายที่สุดของ Botox จะอยู่ในวงการเวชกรรมความงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เรียกกันว่า “สวยด้วยพิษ” เลยทีเดียว

การฉีด botox นั้นจะให้ผลในการรักษาประมาณ 3-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของแต่ละคนด้วย การฉีดซ้ำจะทำให้ผลในการรักษาชัดเจนขึ้นและอยู่ได้นานขึ้นกว่าการฉีดในช่วงแรกๆ

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงจากการฉีด Botulinum toxin อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ อาการปวดบริเวณที่ฉีด(เพราะต้องฉีดหลายตำแหน่ง) ,อาการป่วยคล้ายเป็นหวัด(Flu-like Symtoms), ปวดศรีษะ, อาการทางระบบทางเดินอาหาร, และอาจเกิดอาการหนังตาตก หรือใบหน้าไม่สามารถแสดงอารมณ์ได้ชั่วขณะ(สำหรับกรณีฉีดบนใบหน้า)เนื่องจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้

ข้อห้ามใช้

Botulinum toxin มีข้อห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร, ผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับเนื้อและระบบประสาท เช่น myastenia gravis ,multiple sclerosis และนอกจากนี้ยังห้ามใช่ร่วมกับยาในกลุ่ม aminoglycoside, penicillamine, calcium chanel blocker อีกด้วย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ botox (ตามประสาเภสัชกร)

- Botox จะมีขนาดของยาเป็นหน่วย (unit) โดยหนึ่ง unit จะเท่ากับขนาดของยาที่ทำให้หนูห้าสิบตัวในหนึ่งร้อยตัวตาย หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าค่า LD50 นั่นเอง ฟังแล้วสยองขึ้นมานิดๆ เหมือนกันเนอะ

- Botulinum toxin มีชื่อเรียกอื่นๆ อีกคือ "sausage poison" หรือ "Canadian bacon pathogen" เพราะเป็นสารพิษที่เกิดจากการถนอมอาหารประเภทเนื้อโดยขาดสุขอนามัย

- Botulinum toxin เป็นสารที่มีความเป็นพิษสูงมาก โดยมีค่า LD50 สำหรับมนุษย์อยู่ที่ 1 นาโนกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ดังนั้นสารนี้เพียง 1 กรัมก็มากพอจะฆ่าคนได้นับล้านคนทีเดียว

- นอกจากประโยชน์ทางการแพทย์แล้วยังมีการคาดการณ์กันว่านำจะมีการนำเอา Botulinum toxin มาทดลองทำเป็นอาวุธเคมีชีวภาพอีกด้วย(อันนี้น่ากลัวที่สุด)

- แถมอีกนิดเรื่องการแก้พิษ ปัจจุบันมีการผลิตยาแก้พิษสำหรับ Botulinum toxin ออกมาแล้วในรูปแบบของ antibody หรือสารภูมิคุ้มกัน โดย antibody นั้นผลิตได้จากม้า(คล้ายๆ กับการผลิตเซรุ่มแก้พิษงูเลยเนอะ) มีอยู่ด้วยกันสองแบบคือ Trivalent (A,B,E) Botulinum Antitoxin และ Heptavalent (A,B,C,D,E,F,G) Botulinum Antitoxin ซึ่งทั้งสองแบบนี้ยังไม่มีใช้ในประเทศไทย (เพราะฉะนั้นจะกินของหมักของดองอะไรก็ดูให้ดีๆ เสียก่อนนะคะ พลาดพลั้งไปอาจหมายถึงชีวิตได้)

เขียนไปเขียนมาชักจะรู้สึกว่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจะยาวกว่าเนื้อหาเสียแล้วเลยขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ อาจจะไม่ละเอียดเท่าไหร่นักเพราะพยายามจะเขียนด้วยภาษาที่คนที่ไม่ได้เรียนทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มาเข้าใจได้ง่ายๆ ใครมีข้อสงสัยหรือมีข้อแนะนำประการใดรบกวนคอมเมนท์ไว้ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ


อ้างอิง :
- MIMS Thailand, Annual 2005
- //www.botox.com
- //jama.ama-assn.org
- //en.wikipedia.org
- //www.nlm.nih.gov/medlineplus/botox.html



Create Date : 17 มิถุนายน 2550
Last Update : 5 กันยายน 2552 19:43:29 น. 9 comments
Counter : 2089 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ จริงๆก็พอรู้บ้างแต่ไม่มากค่ะ ส่วนเรื่องความเป็ยพิษเนี่ยไม่ค่อยจะรู้ซักเท่าไหร่ค่ะ แต่ว่าถ้ามีพิษขนาดนี้แล้วเอาไปใช้เสริมสวยทำไมคนใช้ไม่ตายล่ะค่ะ หรือว่าใช้น้อยสุดๆๆๆอ่ะคะ ขอบคุณค่ะ เป็นประโยชน์ดี


โดย: ปุยน้อย IP: 58.8.84.138 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:9:32:41 น.  

 
ขยันเขียน บทความจัง น้องธาร

น้องธารสู้ๆๆ

จาก ท้าววอละจิต
แห่งตักสิลานคร


โดย: ท้าว วอละจิต IP: 203.153.189.1 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:13:25:44 น.  

 
จริงๆแล้วได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับยาตัวนี้นะคะ เพราะอย่างที่ จขบ บอกแหละว่า เรารู้เรื่องยาตัวนี้ทางด้านเวชกรรมความงามเท่านั้น
ขอบคุณความรู้ดีๆค่ะ


ปล ยาแพ๊ง แพงค่ะ แหะ แหะ


โดย: ดาว..กลางวัน วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:22:14:44 น.  

 
ของจริงก็เห็นมาแล้วทีนี้ก็ได้แต่ไม่รู้อะไรมาก
เกี่ยวกับมันรู้แต่ดาราใช้ฉีดหน้ากันทีนี้ก็
ได้รู้รายระเอียดสักทีมาจำผมได้ป่าวปูนเองอิอิ


โดย: ปูน IP: 125.24.52.167 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:2:26:56 น.  

 
มาเยี่ยมบล็อคสวยๆ


โดย: ดาริกามณี วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:10:12:35 น.  

 
อ่านแล้วทำให้เข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม ขอบคุณนะคะ


โดย: auy IP: 61.7.146.37 วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:19:15:11 น.  

 
ฺแล้วใช้ยารักษาตาเหล่เห็นผลหรือเปล่าค่ะ รักษาที่ ร.พ. ไหนแนะนำหน่อยค่ะ


โดย: มิ้น IP: 124.121.188.137 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:33:47 น.  

 
ฉีดรักษาตาเหล่ สามารถติดต่อที่รพ.ราชวิถีแผนกตาหรือรพ.จุฬาแผนกตาตึกอปรชั้น11ได้


โดย: enve IP: 222.123.118.29 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:26:40 น.  

 
ดีมากมาก ขอบคุณมากน่ะ


โดย: Jusmine IP: 58.8.123.108 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:0:05:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธาร นาวา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จากสายธารลำเล็กๆ
หลอมรวมเป็นกระแสธาราอันกว้างใหญ่
หลั่งริน...ไหลระเรื่อย...
นำพาเอาความชุ่มชื้นฉ่ำเย็นมาสู่หัวใจผู้คน

ลายปากกา
Friends' blogs
[Add ธาร นาวา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.