แปลจากเรื่อง TheBride of Frankenstein ของ Mike Resnick
4 เมษายน
ฉันมาทำอะไรที่นี่?
เราไม่มีคนรับใช้ ไม่เคยออกไปไหน ไม่เคยมีแขกเครื่องเรือนก็คร่ำคร่าน่าเกลียด ปราสาทก็มีแต่กลิ่นอับตลอดเวลาและแม้ว่าทั้งหมู่บ้านจะมีไฟฟ้าใช้แล้ว แต่วิคเตอร์กลับไม่ยอมดึงมันขึ้นมาใช้ที่ปราสาทบนเนินเขาแห่งนี้เราจึงต้องอ่านหนังสือจากแสงเทียน และอาศัยเตาผิงสร้างความอบอุ่น
นี่ไม่ใช่อนาคตที่ฉันวาดฝันไว้ให้ตัวเองเลยสักนิด
เออ ฉันก็รู้ว่าเรามีข้อตกลงทั่วๆ ไปร่วมกันอยู่ เขาได้เงินฉันและตัวฉันส่วนฉันได้บรรดาศักดิ์ของเขา ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเคยนึกภาพการเป็นบารอนเนส ฟอนแฟรงเกนสไตน์ ไว้อย่างไร ที่แน่ๆ มันไม่ใช่อย่างนี้ฉันก็พอรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของปราสาทอายุหลายศตวรรษที่ไม่เคยมีการบูรณะเลยแต่ก็ไม่นึกว่าเราจะติดแหง็กกันอยู่ในปราสาทตลอดเวลาเช่นนี้
วิคเตอร์น่ารำคาญเหลือเกินเขาเอาแต่ผิวปากเพลงที่ฟังไม่เป็นทำนอง พอฉันบ่น เขาก็ขอโทษขอโพย แล้วเลิกผิวแล้วฮัมเพลงแทน วิคเตอร์ไม่เคยเอาเรื่องเจ้าค่อมมารยาททรามที่คอยออกไปทำธุระข้างนอกให้เขาเลย ซ้ำยังขี้ขลาด ไม่เคยล่ะ ที่จะเข้ามาหาฉันแล้วบอกว่า ผมต้องใช้เงินอีกแล้ว อะพิโธ่ นั่นไม่ใช่วิคเตอร์หรอก เขาจะส่งเจ้าเด็กรับใช้หน้าตาน่าเกลียดนั่นมาแทนมันหยาบคายกับฉัน ตัวก็เหม็นตลอดเวลาเหมือนไม่เคยโดนน้ำ
แล้วพอฉันถามว่า คราวนี้จะเอาไปทำอะไรมันก็บอกให้ไปถามวิคเตอร์ แล้ววิคเตอร์ก็จะงึมงำตะกุกตะกักไปเรื่อยแต่ไม่เคยให้คำตอบที่ได้เรื่องได้ราว
เมื่อวานเขาส่งเจ้าเด็กอีกอร์ออกไปซื้อเครื่องปั่นไฟฉันนึกว่าในที่สุดเขาก็สำเหนียกได้เสียทีว่าเราต้องพัฒนาปราสาทแห่งนี้ แต่ก็นะฉันควรรู้ดีกว่านั้นสักหน่อย เขาเอามันไปใช้อยู่ในห้องใต้ดินโน่นใช้เพื่อการทดลองบ้าๆ บอๆ ที่ไม่เคยนำชื่อเสียงหรือเงินทองใด ๆ มาให้เราเลยวิคเตอร์ใช้เครื่องปั่นไฟกระตุ้นให้ขากบตายกระตุกขึ้นมา (ประหนึ่งว่าจะมีใครสนใจ) ไม่ได้ใช้เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับปราสาทโล่งโจ้ง อัปลักษณ์และน่าเบื่อหน่ายหลังนี้เลย
13 พฤษภาคม
เขามีชีวิตแล้ว!
เสียงตะโกนนรกแตกนั่นปลุกให้ตื่นกลางดึก ใช่สิตัวประหลาดบ้าบอที่เขาสร้างมีชีวิตขึ้นมาแล้วก็วันนี้เจ้าเปี๊ยกตัวแสบนั่นเพิ่งมากวนใจขอเงินฉันอีกแล้วนี่
14 พฤษภาคม
เอาล่ะ ในที่สุด วันนี้ฉันก็ได้เห็นผลงานที่เขาทำมาตลอดหลายเดือนแล้ววิคเตอร์ภูมิใจเป็นบ้าเป็นหลังกับปีศาจสยองขวัญที่เขาสร้างขึ้นเอง จะบอกให้ว่ามันอุบาทว์สิ้นดี พูดแทบไม่เป็นภาษา ส่วนสติปัญญาคงต้องใช้กล้องจุลทรรศน์มาส่องหาซ้ำกลิ่นตัวก็ร้ายยิ่งกว่าเจ้าอีกอร์เสียอีกนี่คือสิ่งที่เขาทุ่มผลาญเงินของฉันไปเพื่อมัน
มันตัวอะไร ฉันถาม และวิคเตอร์ก็อธิบายว่ามันไม่ใช่ มัน แต่มันเป็น เขา เขาที่ว่านั่งบนขอบโต๊ะจ้องผนังด้วยท่าทางซื่อบื้อ วิคเตอร์จับแขนฉัน (มือเขาเลอะสารเคมีตลอดเวลาฉันจึงไม่ชอบเลยเวลาเขาจับตัว) และจูงไปหาเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น คุณเห็นว่ายังไง เขาถาม คุณอยากรู้จริงๆ หรือ ฉันย้อน เขาตอบว่าอยากรู้จริงๆฉันก็เลยใช้เวลาห้านาทีต่อจากนั้นบอกเขาว่าฉันคิดอย่างไรจนหมดเปลือกวิคเตอร์ไม่ปริปากตอบ แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ปากล่างสั่นระริก ความรู้สึกที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาเป็นแบบเดียวกับใบหน้าของน้องชายฉันตอนที่ลูกหมาของแกจมน้ำเมื่อครั้งกระโน้น
เจ้าสัตว์ประหลาดทำเสียงปลอบโยนและเอื้อมมือไปหาวิคเตอร์คล้ายให้กำลังใจเขา ฉันปัดมือมันออก และบอกว่า ห้ามแตะตัวมนุษย์มันร้องครางและยกมือขึ้นบังหน้าตัวเอง ราวกับกลัวจะโดนฉันตบ แหมถึงตบได้ก็ไม่ตบหรอก เสื้อตัวนี้ลำพังยังไม่มีปีศาจน่าขยะแขยงมาอ้วกรดมันก็ซักยากอยู่แล้ว
อย่าทำให้เขากลัวสิ วิคเตอร์เสียงแหลม
ช่างเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบเหลือเกินว่าชายผู้นี้ไม่อยู่กับความเป็นจริงขนาดไหนเจ้าสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ประมาณนักฟุตบอลหกคนรวมกับนักยกน้ำหนักอีกคน ส่วนฉันแค่หญิงสาวที่ช่วยตัวเองไม่ได้ผู้ซึ่งใช้เวลามากเกินไปในการเฝ้าสงสัยว่าทำไมหล่อนไม่แต่งงานกับบรูโน่ชมิดท์ไปเสีย ก็จริงอยู่ ที่ว่าเขาหัวล้าน อ้วน ฟันผุ แถมใส่แว่นอีกแต่เขาก็เป็นนายธนาคาร แถมบ้านของเขาก็ไม่มีปีศาจอยู่ในห้องใต้ดินด้วย
25 พฤษภาคม
วันนี้ ฉันออกไปตกปลาที่ลำธารเพราะวิคเตอร์มัวแต่ยุ่งกับการจดบันทึก จนลืมสังเกตว่าเราแทบไม่มีอาหารเหลือแล้ว(แน่นอนว่า อาหารจะไม่หมดบ่อยนักถ้าเพียงแต่เรามีตู้เย็น เอาเถอะ ถึงมีตู้เย็นก็ไม่มีที่เสียบปลั๊กให้มันหรอก)
ฉันก็เลยต้องมายืนอยู่ตรงนี้ไงสวมรองเท้าบู๊ทยาง พร้อมคันเบ็ดในมือ แล้วก็ได้ยินเสียงมาจากด้านหลังฉันหันไปมองเพราะผู้หญิงอยู่ตามลำพัง ระวังตัวเข้าไว้ก็ไม่เสียหลายและสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ วิคเตอร์ปล่อยเจ้าสัตว์ประหลาดมาออกกำลังกาย หรือมาสูดอากาศหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เจ้าสัตว์ประหลาดที่โคตรน่าสะอิดสะเอียนนั่นถูกปล่อยมาทำ
เมื่อฉันหันไปเผชิญหน้า มันก็หยุดมองฉันบอกไปว่า ถ้าแกแตะฉันแค่ปลายนิ้ว ฉันจะควักลูกตาแกออกมา!
มันตัวสั่นงันงกเดินอ้อมตัวฉันเป็นรัศมีครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ และสุดท้ายก็ลงไปอยู่ในลำธารห่างออกตรงจุดที่ห่างออกไปราวสามสิบหลามันมองดูปลา ราวกับปลารู้ว่ามันไม่ได้ต้องการจับจึงเกาะกลุ่มกันว่ายวนรอบตาตุ่มของมันขณะที่มันอยู่ในน้ำเจ้าสัตว์ประหลาดยิ้มเหมือนคนไม่เต็มเต็ง พลางชี้ไปที่ฝูงปลา
ดี ฉันว่าแกก็จับไปสักสี่ตัวสิ ไว้เป็นอาหารเย็นบางทีฉันอาจจะปรุงให้แกสักตัว
จนถึงนาทีนั้นฉันก็ยังเชื่อจริงจังว่ามันไม่เข้าใจคำพูดสักคำแต่แค่ตอบสนองตามความสูงต่ำของน้ำเสียง แต่เจ้าสัตว์ประหลาดกลับโน้มตัวไปข้างหน้าจับปลาขึ้นมาสี่ตัว และโยนไปบนหญ้า ปลาดิ้นปัด ๆ อยู่บนนั้น
ไม่เลว ฉันยอมรับทีนี้ก็ฆ่าพวกมัน แล้วเราก็จะได้เอากลับไปที่ปราสาท
ผมไม่ฆ่าอะไรทั้งนั้น มันตอบเสียงแหบแห้งน่าขนลุก ซึ่งก็ทำให้ฉันรู้ว่า มันพูดได้
ก็ได้ แกก็กินมันทั้งเป็น ๆก็ได้ ฉันว่า เรื่องของแก
มันจ้องมองฉันชั่วครู่แล้วในที่สุดก็พูดออกมาว่า ที่จริงแล้ว ผมไม่เคยหิว แล้วมันก็ออกตัวเดินตุปัดตุเป๋กลับไปที่ปราสาท
ก็ดี! ฉันตะโกนไล่หลังเราจะได้ไม่ต้องแย่งเรากิน!
ถ้าจะมีอะไรสักอย่างหนึ่งที่ฉันทนไม่ได้ก็คงเป็นสัตว์ประหลาดอวดดีนี่แหละ
27 พฤษภาคม
คุณไม่รู้หรือที่รัก วิคเตอร์เอ่ย ยืดอกลีบๆของเขาอย่างภาคภูมิ ว่าไม่เคยมีใครเคยทำเรื่องนี้สำเร็จมาก่อน
ฉันเชื่อ ฉันตอบพลางหันไปมองเจ้าสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนจะน่าเกลียดมากขึ้นทุกวัน ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นอะไรที่น่าโอ้อวดหรอกนะ
คุณแค่ไม่เข้าใจ วิคเตอร์ว่า พลางทำปากยื่นเหมือนที่เขาทำทุกครั้งเมื่อฉันชี้ให้เขารู้ถึงสิ่งที่รู้ ๆ กันอยู่ ผมสร้างชีวิตขึ้นมาจากชิ้นส่วนต่างๆ ของศพที่มาจากคนละทิศละทาง!
ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้เชียวล่ะ ฉันตอบ คุณคิดว่าจะมีใครบ้างจ่ายเงินเพื่อทั้งหมดนี่ ฉันชี้ไปทางเจ้าสัตว์ประหลาดที่กำลังยุ่งกับการเหม่อมองท้องฟ้า แขนข้างซ้ายนั่นควรเป็นเตาใหม่ของฉันส่วนแขนขวาก็เป็นพรมของฉัน ขาซ้ายเป็นรถยนต์ของฉัน ขาขวาเป็นระบบทำความร้อนของบ้านลำตัวคือเครื่องเรือนใหม่ของฉัน ส่วนหัวนั่นคือท่อน้ำประปาที่ใช้งานได้จริง
คุณให้ค่ากับวัตถุมากเกินไปแล้ว ที่รัก วิคเตอร์ว่า ผมอยากทำให้คุณเห็นจริงๆว่าสิ่งมีชีวิตนี้มีค่าอย่างสุดประมาณต่อวงการวิทยาศาสตร์
ฉันมองสภาพรกรุงรังที่สามีทำไว้กับห้องทดลองของเขา "ถ้าคุณจะเก็บมันไว้ ฉันบอก อย่างน้อยก็เอาไม้ถูพื้นให้มันแล้วก็สอนวิธีถูให้มันด้วย