ควันหลง"ลอยกระทง" แต่เราต้องนั่งปลงเป็นควันหลง "ลอยอังคาร" ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้งานนี้ได้แต่เสียใจกับการสูญเสียและตัวเองก็แทบกลายเป็นเมียฝรั่งแพนิคจิตตก!!
.....สวัสดีค่ะท่านผู้ชม...ชม ชมมมม....จุ๊บๆ แอนด์จ๊วบๆ ม๊วฟๆๆ แผล่บๆ แอร๊ยยยย......วันลอยกระทงที่ผ่านมาไปลัลล้าแอบดูชาวบ้านเสียตัวเอ๊ยลอยตัวลอยกระทงในวันสงกรานต์ที่ไหนมาค้า.....เดี๊ยนอ่ะไม่ได้ไปไหนเพราะจำใจต้องติดแหง็กและทำหน้า panic วิตกจริตไปต่างๆ นาๆ เพราะเหตุผลอะไรเดี๋ยวมาเฉลยให้ฟังค่า.......หลังจากที่เราตัดสินใจย้ายมาทำมาหากินในเมืองเซี่ยงไฮ้......เมืองที่ขึ้นชื่อว่าศิวิไลซ์ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่โดยการเล่นเกมส์ "หัวล้านชนกัน" ของสองผัวเมียละเหี่ยจิตเพื่อช่วยในการตัดสินใจซึ่งในที่สุดสามีผู้ชายที่ไม่มีมดลูกก็ถูกและชนะเสมอ(เรื่องงานของ he เท่านั้นนะยะ) ชิๆ.... อีตาไอติมหวานเย็น.... อีตารถเข็นสตอบอรี่สมูทตี้..... อีตาพระยิ้มกินอมยิ้ม .....เดี๋ยววันหลังนะเดี๊ยนจะแอบจับฮีออกงานที่วัดจีนเก็บตังค์ค่าทำให้เมียเสียเซลฟ์เอาป้ายห้อยหัวนมซะให้เข็ดว่า" rub my belly for good luck" คริๆ......และครึ่งปีที่ผ่านมาเวลาไวเหมือนใช้ยาน"ไทม์แมชชีนของโดเรม่อนตรูดหย่าย" ก็ทำให้ชีวิตแต่ละวันที่นี่แฮปปรี้บ้าง(ส่วนใหญ่).....แอ๊บปรี้(อัปปรีย์) บ้างอะไรบ้าง(บางครั้ง)บนเส้นทางสายกำแพงเมืองจีน
.....ก็อย่างที่เกริ่นไว้ล่ะค่ะว่าช่วงวันลอยกระทงที่ผ่านมาเดี๊๊ยนและสามีนี่ไปได้ไปไหนเลย.......กะว่าจะออกไปทานข้าวนอกบ้านกันแล้วกลับมาลัลล้าหาอะไรมาแทน "กระทงดอกทองหลงทาง" มาลอยกันให้เข้าบรรยากาศที่สระน้ำหน้าคอนโดซะโหน่ยก็พาลยกเลิก......เพราะพอเหินหาวไปถึงหน้าประตูทางเข้าคอนโดก็ปรากฏว่าต้องเปลี่ยนใจเมื่อเห็นคลื่นมนุษย์และรถมหาศาลมากมายและติดกันเป็นชั่วโมงทีเดียวเชียวล่ะค่ะ.......สาเหตุเนื่องมาจากสัปดาห์ที่แล้ววันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา..... เวลาประมาณบ่ายสามโมงของเมืองเซี่ยงไฮ้ได้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่คอนโด 28 ชั้นที่กำลังซ่อมแซมอยู่ไกล้ๆ กับคอนโดของเดี๊ยนถัดไปไม่กี่บล็อกเองค่ะคุณผู้ชม.........ส่งผลให้มีคนเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้สยองครั้งนี้เป็นจำนวน 58 ศพ!! และบาดเจ็บอีกนับร้อย!! .....ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ในหลายรอบปีมานี้ก็ว่าได้.......มองจากหน้าต่างคอนโดเดี๊ยนจะเห็นควันดำโขมงปกคลุมปนสายหมอกไปทั่วทั้งพื้นที่......จนส่งผลให้ชะนีเมียฝรั่งไทยหน้าหมวยเลิกคิดเรื่องสวยไปทันทีรีบคว้าเสื้อผ้า...ลากรองเท้ารุ่นป้า.....แบกพุงพุ่งหลาวลงจากคอนโดอย่างพริ้วๆ แทบไม่ทันเพราะแพนิคและกลัวตายนั่นแหละค่ะ........แม้ว่าจะรู้ๆ อยูว่าไฟมันไม่มีทางจะลามมาถึงที่พักตนเองก็ตามเถอะแต่ ณ เวลานั้นดั๊นก็ไม่แคร์นึกถึงแต่หน้าแม่และสามีอย่างเดียว........กบาลเถิกๆ ชั้นสำคัญที่สุด.....สามีซึ่งไปทำธุระที่ธนาคารถัดจากตึกนั้นไม่เท่าไหร่ก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบโสตายกลับมาหาเมียที่บ้านด้วยสปีดเร็วกว่านรกปนใบหน้าตื่นตระหนก.....น่าจะเร็วกว่ายานอวกาศในหนังเรื่อง Star Trek อีกแน่ะค่ะ!!
.......เสียงรถพยาบาลและรถตำรวจและความโกลาหลปนเสียงกรีดร้องและฮือฮาอื้ออึงไปทั่วพื้นที่ที่เกิดเหตุและสถานที่ใกล้เคียง........มันทำให้คนอยู่พื้นดินใกล้ๆ จำต้องหยุดชะงักแหงนมองเพลิงอย่างสลดใจและใจหายปนกับความกลัวที่คลืบคลานเข้ามาเกาะกุมหัวใจอย่างช้าๆ......... เพราะคนส่วนใหญ่ก็คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่โดยเฉพาะเราๆ ซึ่งอาศัยอยู่ในตึกสูงๆ เช่นเดียวกัน.......มันเป็นความทรงจำที่ยากจะสลัดออกจากกบาลพอสมควรเลยทีเดียวเชียว........ที่น่าสลดใจมากมายคือตึกๆ นั้นเป็นตึกที่พ่อและแม่พิมพ์ของชาติทั้งหลายที่ยังไม่เกษียณและเกษียณแล้วอยู่กันเป็นครอบครัวซะส่วนใหญ่.......จนชาวบ้านเรียกตึกๆ นั้นว่าเป็น "บ้านพักของครูในแถบ Jing An" เลยล่ะค่ะ.....และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถือเป็นวันทำบุญไว้อาลัยให้กับวิญญาณผู้เสียชีวิตครั้งใหญ่.....เพราะชาวจีนเชื่อว่าวิญญาณผู้ตายจะอยู่ในโลกมนุษย์ 7 วันก่อนเดินทางไปยังโลกวิญญาณหรือสรวงสวรรค์ ......และวันอาทิตย์นั้นก็ครบรอบ 7 วันพอดีทำให้มีกระแสฝูงชนนับหมื่นหลั่งไหลมาร่วมไว้อาลัย ณ จุดที่เกิดเหตุมากมายพร้อมดอกไม้ไว้อาลัยนับหมื่นแสนดอก.......แว้บนึงของเสี้ยวเหตุการณ์นั้นมันทำให้เดี๊ยนนึกถึงข่าวไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่"ผับซานติก้า" บ้านเราเมื่อไม่กี่ปีก่อน.......บรรยากาศวันนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าสลดและอาลัยรักต่อผู้ที่จากไป.......ด้วยเหตุนี้แหละค่ะเดี๊ยนและสามีเลยได้ร่วมงาน "ลอยอังคาร " แทนการ "ลอยกระทง" นั่นเอง
....หลังจากที่เมืองไทยได้ข่าวไฟไหม้สายโทรศัพท์เดี๊ยนก็แทบไหม้ตามไปกับตึกเลยล่ะค่ะ.....เพราะทางครอบครัวและเพื่อนฝูงได้โทรมาเมคชัวร์ว่าสมบัติที่นา 2 ตารางวาของคุณนายแม่จะจัดการยังไง........ปรากฏว่าเดี๊ยนยังไม่ตายเลยหายใจกันโล่งและรอคอยที่นากันต่อไป แอร๊ยยยย...... แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เดี๊ยนเกิดแพนิคและกลัวเรื่องไฟไหม้ในตึกเป็นที่สุดแบบไม่มีเหตุผล........ตื่นมาเช็คไฟฟ้าและแก๊สและปลั๊กไฟอย่างบ้าคลั่ง.........แม้จะรู้อยู่ก็ตามว่าอุบัติเหตุวันนั้นเกิดจากการรีโนเวทตึกและความประมาทของช่างเชื่อมก็ตามเถอะ.......เพราะเราไม่อยากเสียเงินมากมายที่จะไปเช่าบ้านเดี่ยวหรือ Lane House ที่มีราคาสูงโอเวอร์จึงต้องอยู่คอนโดกันค่ะ.......เราไม่อยากเสียเงินเยอะไปกับการเช่าที่พักอาศัยมากเกินความจำเป็นเพราะมันไม่ใช่บ้านเราจนต้องกลายเป็นหมีแพนด้าพยายามปีนหายอดไผ่ให้เหนื่อยจิต...........และที่เดี๊ยนบ้าจนขี้ขึ้นสมองเนี่ยเพราะคอนโดที่เดี๊ยนและสามีจะย้ายเข้าไปอยู่ใหม่ช่วงปลายเดือนนี่สิก็ห้องของเดี๊ยนมันตั้งอยู่ชั้นที่ 31!! (ตึกมี 32 ชั้น).......หากไฟไหม้มาข้าก็หนีขึ้นดาดฟ้ารอเวลาตายอย่างเดียวจะเปรี้ยววิ่งลงไปชั้นล่างก็คงไม่ทันเพราะขาตันๆ ประกอบกับพุงและน้ำหนักยังกะปลาวาฬเกยตื้น........หากตึกถล่มกรูก็ตายก่อนเพื่อนล่ะค่ะงานนี้ ฮือๆ........ชีวิตคนส่วนใหญ่ที่นี่เปรียบเสมือนอาศัยอยู่ในกล่องมหาภัยในคอนโดหรือแฟลตซะส่วนใหญ่.......หากมีภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวหรือไฟไหม้ขึ้นมาชีวิตเราๆ ก็คือเชื้อไฟหรือเหยื่อแผ่นดินไหวดีๆ นี่เอง.......มันทำให้เดี๊ยนเล่นกินไม่ได้นอนไม่หลับไปพักนึงเลยค่ะคุณผู้ชม.....ชวนแต่สามีกลับบ้านไปอยู่เมืองไทยวันละหลายๆ รอบจนฮีจะหาจิตแพทย์มาบำบัดให้เดี๊ยนแระ
......ตอนนี้เดี๊ยนก็เริ่มดีขึ้นมามากแล้ว.....ได้แต่เริ่มปลงและคิดว่าชีวิตเราจะตายพรุ่งไม่ตายพรุ่งก็ไม่รู้แต่ที่สำคัญเรามีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าแล้วใช้เวลาให้คุ้มหรือยังเท่านั้นเอง.......ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทและใช้ชีวิตและเวลาให้มีความสุขกับสิ่งและคนที่เรารักให้คุ้มทุกนาทีแค่นี้ชีวิตก็ดูมีสีสันและคุณค่าว่ามั้ยคะคุณผู้ชม......แม้ว่าจะมีซินแสมาทักว่าเดี๊ยนตายยากกว่าเหลือบไร!! แต่ก็ไม่วายหายใจหายคอไม่ค่อยคล่องอยู่ดี...... แม้ซินแสฮีจะทักปลอบใจมาว่า "หน้าผากลื้อกว้างงดงามดุจนางพญามังกร.......ยามเยื้องย่างไวว่องยิ่งกว่าพญาวานรแห่งขุนเขาเหลียงซาน........คอก็ยาวระหงค้ำฟ้าดั่งนางหงษ์...... หางตาก็เฉียบคมดังพญาเหยี่ยว..... ปากเบี้ยวเอ๊ยปากบางเป็นกระจับรับใบหน้าเพรียวได้องศาฮวงจุ้ย..... จมูกเหมือนดังกับราชสีห์..... ผมดำดีดั่งขนนกเป็ดน้ำ.....ขาก็ล่ำยิ่งกว่ากระทิงเปลี่ยว..... เลี้ยวลื้อจะปายกลัวอารายฮึนังหมวย"......เอ่อซินแสคะหนูไม่ได้กลัวอะไรนะคะนอกจากกลัวตัวเองมากมายเลยน่ะค่ะตอนนี้..... ก็ซินแสเล่นทักกรูซ้าจนดูไม่เป็นมนุษย์มนากับเค้าเลย.......สรุปว่าทั้งตัวทั้งหน้ากรูเนี่ยเป็นศูนย์รวมของสรรพสัตว์เดรัจฉานว่างั้นเถอะค่ะ.....ไม่น่าเล้ยกรูฟังดูเหมือนนรกส่งมาเกิดยังไงยังงั้นว่ามั้ยคะแบบว่า "Nobody Nobody wants กรู" อีกแล้วค่า!! เชอะๆ
.....จบแบบดื้อๆ นี่แหละค่ะ วันนี้มาแบบเครียดๆ ไม่แร่ดไม่แฮดเท่าไหร่เอาไว้เจอความแรดสะใจเหมือนเคยบล็อกหน้านะคะ รักทุกคนที่รักเถิกค่า จุ๊บๆ
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2553 |
|
85 comments |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2553 17:00:00 น. |
Counter : 590 Pageviews. |
|
|
|