กันเอง ง่ายๆ สบายๆ เล่าเรื่อง พูดคุย นานาสาระ และไร้สาระ เกี่ยวกับคนพวน ไทยพวน ลาวพวน...
Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
เพลงไทยพวนรำพึง

สองร้อยปี ที่ไทยพวนควรรำพึง


เจอคำนึงฮอดพี่น้องผองพวนถ้วนถิ่น


ต่างพลัดพรากจากน้องพี่เซาะที่ทำกิน


มาอยู่สบาย ด้าวดินถิ่นไทย


ที่แท้เฮา เหล่าไทยพวน ล้วนไทยคือกัน


ฮอมฝ่าฟัน ผ่านทุกข์เข็ญ เป็นชาติยิ่งใหญ่


บ่มีทุกข์ สุขฮ่มเย็น สมเป็นชาติไทย


โอ้ไทยพวนเฮย ฮักกันซ่อยกัน


มา...หมู่เฮาสามัคคี อย่ามีหน่ายแหนง


จงฮอมแฮง กษัตริย์เจ้า เฮาต้องยึดมั่น


ผู้ใดหมิ่น ศาสน์ชาติไทย รุกไล่ฟาดฟัน


เฮาจ่งฮอมกัน ฮักมั่นชาติไทย...ฮักมั่นชาติไทย..ฮักมั่นชาติไทย...


***เพลงนี้ได้ประพันธ์ไว้ในงานไทยพวนสังสรรค์ในปีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 200 ปี***


คำร้อง สุรินทร์ เขียนทอง (สุโขทัย)


ทำนอง เพลงไทยดำรำพัน


เอาเพลงนี้มาเริ่มเกิ่นนำ เฮ้อพี่น้องคนพวนเฮาที่มีคำพญา กาพย์ โคลง กลอน ได่เฮ้ามาโพสต่อ ๆ กัน เฮ้อลุเฮ้อหลานฮุ่นหลัง ๆ ได้เอาไว่อ่านได่เบิ่งกันเด้อ...






Free TextEditor


Create Date : 12 มีนาคม 2553
Last Update : 12 มีนาคม 2553 14:08:42 น. 15 comments
Counter : 2101 Pageviews.

 
เพลง ลาแล้วเชียงขวาง

ลาแล้ว ลาแล้วเชียงขวาง
ขอลาทุกอย่างอย่างไม่ตั้งใจ
ลาแล้วลาดิน ลากลิ่นหญ้าใบ
ลาด้วยหัวใจลาไปไม่พบพาน

ต้องทิ้ง ลูกน้อยเวทนา
ลูกร้องไห้จ้าลูกจ๋าน่าสงสาร
พ่อต้องทิ้งเจ้า พวกเขารุกราญ
ต้องทิ้งถิ่นฐานทิ้งทั้งน้ำตา

* เป็นเพราะพวกฮ่อ ญวน แกว
มันฆ่าลูกแล้ว ไร้ซึ่งเสียงส่งมา
หัวอกพ่อนี้ช่างแสนทรมา
โอ้ว่าลูกจ้าไว้ชาติหน้าพบกัน*

ลาแล้ว แม่ไก่ไข่กิน
ลาแล้วลาดินถิ่นเกิดมา
ลาความคอกเก่า เหล้าไหสุรา
ไปตายดาบหน้ากลับมาใหม่เอย

21 ตุลาคม 2548

ที่มาของเพลง แต่งขณะเดินทางไปสู่เมืองเชียงขวางแล้วท่านประธานชมรมไทยพวน อ.เสริมศักดิ์ คำแย้ม ท่านเล่าว่า คุณทวดเล่าให้ฟังว่าพ่อของทวดเป็นทหารพวนที่ถูกพวกจีนฮ่อ รุกราญแล้วหอบลูกจูงหลานหนีสงคราม ก่อนออกจากหมู่บ้าน ก็ลาคอกควาย ลากเล้าไก่ ลาแผ่นดิน แม้แต่ไหเล้าสุราก็ไปรำ่ำลาอย่างอาลัยอาวรณ์ ในขณที่หนีสงครามต้องอุ้มลูก ไม่ว่าจะหนีไปทางไหน ข้าศึกก็ตามทันตลอด เพราะได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกๆ จึงต้องตัดสิ้นใจ ทิ้งลูกน้อยไว้ทางหนึ่งแล้วพ่อก็วิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง ถึงได้รอด ข้ามฟากมาอยู่เมืองไทย..ฟังมาถึงตอนนี้ทุกคนในรถน้ำตาคลอเป้าเลย ลุสาวเฮาตอนนั้นอายุ 9 ขวบ ไห้ออกมาแล้วถามเฮาว่า แม่เอ็ดพิเลอเพิ่นถึงต้องทิ้งลุนำ
เฮาเบาะว่า ถ้าบ่ทิ้งลุไว้อีกทางก็จิตายทั้งหมด คงบ่เหลือรอดชีวิต มาเอาะลุเอาะหลานเป็นหมุ่เฮาไทยพวน ที่ได้พากันมาเยี่ยมยาม ไทยพวนที่เชียงขวางนี้เด้อ..........เล่าสู่กันฟังเด้อพี่น้องเด้อ




โดย: คนพวนเมืองเพ็ชร IP: 125.27.145.117 วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:9:27:34 น.  

 
โพธิ์น้อยคืนลาว

โอ้เชียงขวางนามนี้ คือฐานถิ่น
เป็นแผนดินที่ข้าน้อยคอยเฝ้าหา
ได้หวลคืนสู่แผ่นดินถิิ่นมารดา
วิญญาญาณข้าแสนสุขหมดทุกข์ใจ

ข้าขอฝากโพธิ์น้อยต้นน้อยนี้
จากถิ่นที่เคยเกิดมาแสนไกล
มาขึ้นอยู่คู่ฟ้าป่าเมืองไทย
แต่หัวใจเฝ้าชิดสนิท..ลาว

คอยนานแล้วคอยจนชั่วชีวิต
ตั้งดวงจิตดวงใจใฝ่เฝ้าหา
มาบัดนี้ต้นโพธิ์น้อยคล้อยคืนมา
เพื่อพึ่งพาโพธิสมภารลาว

หมู่บ้านพวนของเฮาเฝ้าคิดถึง
ได้มาถึงของฝังรากฝากดินเจ้า
ต่อแต่นี้ที่โพธิ์น้อยคล้อยคืนลาว
ด้วยได้สาวผู้น้อยคอยนำพา

ขอให้เจ้าสาวผู้นี้มีความสุข
ไม่มีทุกข์ร้อนใดในทั่วล้า
ได้หวลคืนสู่เมืองไทยวิลัยฟ้า
ด้วยแรงกล้าอธิฐานสาบานตน

ขอให้เจ้าสาวผู้น้อยคอยจำไว้
บอกลูกไทยของเจ้าเผ่าพ้องพงศ์
จงเล่าสู่ลูกหลานสานเจตจำนงค์
ไทยพวนคงสืบเอาไว้เชื้อไข...ลาว

*ที่มาแห่งบทกลอน ผู้เขียนมักจะมีสังหรณ์ว่ามีดวงจิตแห่งวิญาณบรรพบุรุษอยากจะกลับสู่ดินแดนเชียงขวาง แรงขึ้นเรื่อยๆ จนได้เวลาที่สมควรจึงได้เดินทางสู่เชียงขวาง ได้นำด้นโพธิ์ต้นเล็กๆประมาณ ครึ่งศอก ไปปลูกไว้ สาเหตุที่เป็นต้นโพธิ์เพราะว่าในหมู่บ้านผู้เขียนมีต้นโพธิ์ต้นหนึ่ง เรียกว่า โพธิ์น้อย มีศาลเจ้าชื่อศาลคุณพ่อโพธิ์น้อย แต่ศาลท่านถูกย้าย ถึงสองครั้ง สองครา ผู้เขียนเองสัมผัสได้ว่าท่านอยากกลับบ้านเกิด จึงได้หาต้นโพธิ์ต้นเล็กๆที่ขึ้นอยู่ในวัด เปรียบเสมือนว่าเป็นตัวแทนแห่งวิญาณท่าน

ส่วนกลอนนั้นแต่งตอนประมาณเวลา 05.30น ของวันที่ 21 ตุลาคม2548 ก่อนข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาว ณ.โรงแรมไอยรา จ.หนองคาย


โดย: คนพวนเมืองเพ็ชร IP: 125.27.145.117 วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:11:12:06 น.  

 
ถ้าคนเข้าใจประวัติศาสตร์ที่มาที่ไป จะไม่มีความเเตกแยกเลย มีแต่ความเป็นพี่เป็นน้องกันเท่านั้น คนส่วนใหญ่ศึกษาเพียงประวัติศาสตร์ตื้น ๆ เท่านั้น พี่น้องเอ๋ย


โดย: นิรันดร์ IP: 124.121.148.123 วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:0:02:22 น.  

 
ขอโทษน่ะครับจากที่อ่านมาตั้งแต่เนื้อหาข้างบน ผมขอแย้งคำว่าไทย หน่อยน่ะครับ คือจริงๆต้องเรียกว่าไทพวนหรือออกเสียงอีกแบบว่าไตพวนก็ได้ ไทกับไทยความหมายคนละอย่างกันน่ะครับ ไทหรือไต เป้นตัวบ่งบอกที่บรรพบุรุษไม่ว่าชาวไทหรือไต เผ่าไหนเวลาเจอะเจอกันเราจะถามว่าเป้นคนไทหรือไตจากที่ไหน ไท(ไต)บ่งบอกถึงคนกลุ่มคนชนชาติไท(ไต) ตัวอย่าง ไทใหญ่ ไทลื้อ ไทล้านนา ไทดำ(ลาวโซ่ง,ไทยทรงดำ) ไทลาว ไทพวน ไทเชียงตุง ไทสิบสองปันนา รวมๆแล้วคือชนชาติไท(ไต)แต่คนละเผ่าเท่านั้นเอง ส่วนไทย ตัวเนี่ย พึ่งมาเปลี่ยนสมัย จอมพล ป พิบูรณ์สงครามแทน ชื่อ ประเทศสยาม และอีกอย่างชนเผ่าสาขาเผ่าไต,ไท ต่างๆยินดีที่จะเรียกตัวเองว่าไท,ไต มากกว่าจะบอกว่าไทยคำที่มี ตัว ย. ยักษ์ต่อท้ายและอีกอย่างลองไปดูเผ่าไต,ไทอื่นๆก้เขียนไม่มีตัว ย.ยักษ์ต่อท้าย ถึงบัณฑิตราชถาน จะบอกความหมายว่า ไทย คือผู้เป้นอิสระก็ตาม เสียดายที่เราไม่มีผู้ที่มีความสามารถรวบรวมอาณาจักรของชนเผ่าไท,ไต ได้เหมือนประเทศจีนเราจึงถูกแบ่งแยกไปตามผู้นำที่แตกหน่อ ไปสร้างอาณาจักรต่างๆแล้วมาสู้รบแบ่งแยก เหยียดเชื้อชาติกันเอง เช่นสมัยร.5ยังเรียกคนที่มาจากทางเหนือ เป้น ลาวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป้น ลาว-เชียงใหม่, ลาว- น่านเป็นต้น


โดย: cz1973 IP: 124.122.56.161 วันที่: 14 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:09:17 น.  

 
สวัสดีครับคุณนิรันดร์ สมัยนี้คนที่ศึกษาประวัติศาสตร์จริง ๆ จัง ๆ มีไม่มากเท่าไหร่หรอกครับ ยิ่งคนที่ศึกษาและเข้าถึงข้อมูลข้อเท็จจริงยิ่งหายากยิ่ง ผมเองก็เป็นคนรุ่นหลังแล้วที่เพิ่งจะเริ่มศึกษาหาความรู้ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับชนชาติพวน หาได้ยากมากๆ ที่มีอยู่ก็ต้องนำมาปะติดปะต่อกันไป ผิดบ้างถูกบ้าง ก็หวังเพียงได้นำข้อมูลมานำเสนอบ้าง เพื่อให้ผู้ทื่รู้ข้อมูลจริง ๆ เข้ามาช่วยแก้ไขเพิ่มเติมให้บ้างนะครับ
คุณ CZ1973 ยินดีรับฟังข้อแนะนำทั้งหมดครับ คำว่า "ไท" กับคำว่า "ไทย" สมัยนี้เขียนปนกันไปหมดแล้วละครับ ยิ่งคนรุ่นหลัง ๆ มีเพียงไม่กี่คนหรอกครับที่จะรู้ความหมาย และที่มาที่ไปของคำทั้งสองคำนี้จริง ๆ ขอบคุณมาก ๆ ครับที่เข้ามาแนะนำ


โดย: หม่าเด่น วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:01:49 น.  

 
เมื่อวันเสาร์ที่ 17 กรกฏาคม 2553 ได้มีโอกาสเข้าไปที่ชมรมไทยพวน ที่วัดอัมรินทร์ ฯ และได้มีโอกาสพูดคุยกับ ท่านประธานชมรมไทยพวน(พลตรีธนภัทร ศรีกุลชัยภัทร) ก็ได้เรียนถามท่านว่าจริง ๆ แล้วคำว่า ไทยพวน ควรใช้ "ไทพวน" หรือ"ไทยพวน" ท่านก็ได้ชวยอธิบายมาว่า
คนไทยพวนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนี้ จะใช้คำว่า "ไทยพวน" เพราะหมายถึง คนพวนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและมีสัญชาติเป็นชาวไทย ท่านได้บอกว่าได้พูดคุยกับท่านเอกราชฑูต ของประเทศลาว เกี่ยวกับคำนี้เหมือนกัน เนื่องจากมีหลาย ๆ คนเรียกคนพวนว่า "ลาวพวน" ท่านได้บอกว่าทางประเทศลาวเอง ได้เรียกคนพวนที่อาศัยอยู่ในประเทศลาวว่า "ลาวพวน" และเรียกคนพวนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยว่า "ไทยพวน" ดังนี้น ผมขออนุญาตให้คำว่า "ไทยพวน" สำหรับการเรียกชาวไทยพวนกันของเรานะครับ
ผิดถูกอย่างไร ผมก็ขอรับไว้พิจารณา และขอให้ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จริง ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ


โดย: หม่าเด่น วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:16:53:04 น.  

 
ผมก็เป็นลูกหลานคนไทพวนที่รักและอยากจะร่วมอนุรักษ์สิ่งดีงามที่บรรพบุรุษของเราได้ทิ้งไว้ให้ ผมคิดว่าไม่ว่าคำว่าไทหรือไทย ใครจะใช้หรือเรียกอย่างไรมันคงไม่สำคัญเท่าจิตใจของเราที่สำนึกในความเป็นพวนหรอกครับ ไม่ว่าใครจะเรียกคนพวนว่า ไท ไทย หรือลาว แต่ในจิตสำนึกของเราเขาก้อไม่ได้มาด่าว่าเรา ผมไม่เคยโกรธเลย ผมกลับมองว่าคนที่ปากเรียกตัวเองว่าไทพวน แต่แท้จริงแล้วเขารักความเป็นคนพวนมากขนาดไหน เอาเวลาที่จะทะเลาะหรือขัดแย้งกัน มาฮ่วมกันอนุฮักสิ่งดีงามที่บรรพบุรุษของเฮาได้สร้างเอาไว้เห้อลูกหลานเฮาได้ฮู้และฮักและภูมิเจอที่ได้เกิดมาในนามคนไทพวน ผมอายุ 30 แล้วครับ และผมก้อยังจะศึกษาข้อมูลที่ยังไม่รู้ต่อไปเพื่อไทพวนรุ่นหลังๆครับ


โดย: หลานคนพวน IP: 58.9.10.145 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:12:12:59 น.  

 
เห็นนำกับ คุณหลานไทยพวนเด้อ "สำนึกฮักในความเป็นพวน"แต่ก่อนเฮาเองก็งงว่า เอ่แท้ๆแล้วพวนเฮานี้ไทยพวน หรือลาวพวนกันแน่ คนไทยจิเอิ่นหมู่เฮาว่าลาวพวน พอเฮาได้เฮียนฮู้ที่มาที่ไป เฮาก็ปฐิเสิฐบ่ได้ว่าเฮามีเชื้อสาวลาว เพราะว่าดินแดนบรรพบุรุษพวนของเฮา อาศัยอยู่ที่เชียงขวาง ตอนเหนือของลาว (เฮาไปมาสองเทื้อแล้ว) ตอนนี้มันบ่สำคัญว่าเผอจะเิ่อิ่นว่า ไทย หนือลาว แค่เฮาสำนึกฮู้ว่าบรรพบุรุษเฮาเป็นคนพวน เฮาบ่ลืมฮากเง้า ของบรรพบุรุษซ่อยกันอนุลักษณ์สืบทอดเฮื่องฮาวความเป็นมาเฮ้อลุหลานได้ฮับฮู้ และภาคภูมิเจอ โดยเฉพาะภาษาพวน เพราะว่าอัตลักษณ์ที่บ่งเบาะชาติพัธ์นของพวนเฮาที่ชัดเจนที่สุด คือ ภาษา พวนนี้แหละ เวลาเจอคนพวนนำกัน ได้ปะได้เว้า ภาษาพวนม้วนชื้นหลายๆ


โดย: คนพวนเมืองเพ็ชร IP: 125.27.150.58 วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:9:59:20 น.  

 
เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ ผมทะเลาะและชกต่อยกับเพื่อนหลายคน ที่มาล้อผมว่า "อ้ายลาว" รู้สึกอายมากเวลาไปใหนในเมือง หรือไปกับเพื่อน ๆ แล้วถูกล้อ ขนาดไปตลาดกับพ่อกับแม่ยังไม่อยากพูดภาษาพวนเลย...
แต่เดี๋ยวนี้ กลับรู้สึกภาคภูมิใจในเชื้อสายคนพวนเราครับ อย่างที่คุณหลานคนพวนบอกนั่นแหละครับ ไม่ว่าจะถูกเรียกว่าอย่า่งไร สำคัญที่ใจเราครับ
บรรพบุรุษคนพวนเราที่อพยพเข้ามาอาศัยในประเทศไทย มีลูกมีหลานมีเหลนที่เกิดในประเทศไทยตั้งมากมาย อาศัยอยู่ในประเทศไทยมาตั้งไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่นแล้ว ได้พยายามถ่ายทอดขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีของคนพวนเราต่อ ๆ กันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ผมเองในฐานะที่เป็นคนพวนคนหนึ่ง ก็จะพยายามอนุรักษ์รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของคนพวนเราเท่าที่จะสามารถทำได้ครับ และจะพยายามสอนลูก สอนหลานให้พูดภาษาพวน เรียนรู้ขนบธรรมเนียม ประเพณีของคนพวนเรา ให้เผ่าพันธุ์คนพวนเรายังดำรงอยู่ได้ต่อๆไป


โดย: หม่าเด่น วันที่: 11 ตุลาคม 2553 เวลา:16:42:18 น.  

 
เคยได้อ่านหนังสือม่วนชื่นเมืองลาวของสมเด็จพระเทพ ท่านทรงนิพนธ์ไว้ครั้งเสด็จเชียงขวาง เมืองพวนเดิม ตอนหนึ่งว่า

ถึงเมืองโพสวัน ฝนตกมาก ที่นี้มีการเลี้ยงสัตว์ และมี"ชาวพวน" อาศัยอยู่มาก พวกพวนนี้ คนลาวจะเรียกว่า "ไทยพวน"สว่นคนไทยจะเรียกพวกพวนว่า "ลาวพวน"
จะสังเกตุได้ว่า คนที่อพยมข้ามฝากแม่น้ำโขงมาอาศัยอยู่ฝั่งไทย คยไทยจะเรียกลาวหมด เช่นพวกไทยดำ ก็เรียกเขาว่าลาวโซ่ง ลาวจากเวียงจันทร์ก็เรียกลาวเวียง เป็นต้น



โดย: คนพวนเมืองเพ็ชร IP: 125.27.143.199 วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:9:03:05 น.  

 
ในภาคกลางเข้าสิฮ้องว่า"ลาวพวน"ปัจจุบันเขียนเป็น"ไทยพวน" ( มี ย. ) แต่ในภาคอีสานและในสปป.ลาว สิฮ้องว่า"ไทพวน" ( บ่มี ย. ) จ้าาาาาาา ^^


โดย: ** IP: 110.49.69.53 วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:19:35:47 น.  

 
ตะวานนี้มึ่งรายการโทรทัศน์ซ่องเก้าของแหม่มพาไปเถี่ยวบ้านหาดเสี้ยว สุโขทัย ป้าม้วนเล่าว่าไปเถี่ยวเชียงขวางเลยเปิดอินเตอร์เน็ตค้นเซาะหาคนพวนว่าที่มาอยู่ไทยจังหวัดเลอแด่ พอดีอ่านเว็บนี้เฮ้อเขียนข้อความดัยเลยเขียนมาเยี่ยมยามกันเผื่อว่าเผอ อยากติดต่อนำก่อเฮ้อไปมี่งทางเฟสบุคWanchai khemtitgohv


โดย: คนพวนหาดเสี้ยว IP: 124.120.119.76 วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:22:10:18 น.  

 
1.อยากดูลำพวน(หมอลำพวน) แบบเสียงชัดๆ แคนเบาๆ สั้นๆหรือยาวก็ได้ (ช่วยลงในยูทูบนะคะ)
2.อยากดูหรือฟังสำเนียงการพูดของคนพวนที่ต่างๆทั้งในประเทศไทยหรือลาวหรือเมืองเชียงขวาง ใครมีโอกาสไปเที่ยวอย่าลืมถ่ายวีดีโอสำเนียงการพูด แล้วช่วยเผยแพร่ในยูทูบ เพื่อคนรุ่นหลังจะได้รู้หรือศึกษาได้ง่ายขึ้น
3.กำลังศึกษาพจนานุกรมพวน ได้มาจากวัดอมรินทราราม อ่านแล้วดีมาก ไดู้้รู้คำศัพท์ของเก่า ได้ยินคนพวนรุ่นใหม่ๆพูดกันเป็นคำไทยกลางแต่สำเนียงพวนเท่านั้น มันบ่แม่นของแท้
4.คนเฒ่าคนแก่กลัวภาษาพวนจะหายไปกับกาลเวลาและความเจริญของบ้านเมือง แต่หนูคิดว่าถ้าเราพยายามสอดแทรกภาษาไปในโอกาสต่างๆบ้างน่าจะดีเช่นงานบวช งานแต่ง งานศพหรืออื่นๆตามสมควร ทำไมจะพูดไม่ได้ บ้านนี้บ้านพวน พูดภาษาพวนสลับไทยกลางบ้างจะเป็นไร ท่านพิธีกรต่างๆคิดเหมือนหนูไหม


โดย: พวนรุ่นใหม่ IP: 180.183.213.18 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:28:02 น.  

 
ขออนุญาติแนะนำนะครับ
คำว่าไทยพวนอาจหมายเอาคนพวนที่อยู่ในประเทศไทยอย่างที่ท่านประธานชมรมฯบอกก็จริงอยู่แต่ส่วนตัวของกระผมเห็นว่าควรใ้คำว่า ไทพวน (ไม่มี ย)มากกว่าครับ เพราะคำว่า ไท(ไม่มี ย)หมายถึงคนที่มีอิสระไม่เป็นทาสใคร(โดยนัย)
อนึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ไทพวนก็จะเรียกคนทั่วๆไปว่า ไท เฉยๆ
ไม่ว่าจะเป็นไทแท้หรือไทเชื้อสายใดๆ เช่น กล่าวถึงคนกรุงเทพฯก็จะว่า ไทยกรุงเทพ คนอีสานก็จะว่าไทภาคอีสานอย่างนี้เป็นต้นครับ
อันนี้ก็เป็นเพียงข้อคิดเห็นเท่านั้นนะครับท่านใดคิดเห็นประการใดหรือมีข้อแนะนำอันก่อประโยชน์ใดๆกระผมก็น้อมรับด้วยความเคารพยิ่งครับ
ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้เสนอข้อเสนอแนะนะครับ
ขอบคุณครับ


โดย: ธนพล ประกอบกิจ IP: 49.228.237.188 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:31:14 น.  

 
เพลงเหล่านี้ เอาลง youtube ได้บอ พี่ อยากได้
โอย พูมเจอเร่งฯ ที่ได้เกีดเป็นไทพวน
แนวเลอก็เห้อรักเดอ ไทยพวน


โดย: Love Taipuan IP: 202.137.132.4 วันที่: 1 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:40:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หม่าเด่น
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หม่าเด่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.