กันเอง ง่ายๆ สบายๆ เล่าเรื่อง พูดคุย นานาสาระ และไร้สาระ เกี่ยวกับคนพวน ไทยพวน ลาวพวน...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 3 เจ้าเจ็ดเจืองสร้างบ้านแปงเมือง

          ตอนที่ 3 เจ้าเจ็ดเจืองสร้างบ้านแปงเมือง


          จากตอนที่แล้ว หลังจากที่พระโอรสทั้งหมด ได้สั่งลาบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อที่จะออกเดินทางไปสร้างบ้านเมืองของตนเองแล้ว พระโอรสทุกพระองค์ก็ได้เสด็จออกเดินทางไปตามทิสทางที่ขุนบรมฯ ผู้เป็นพระราชบิดาได้บอกไว้ ซึ่งตอนนี้ก็จะกล่าวถึงเฉพาะเจ้าเจ็ดเจืองที่เป็นน้ององค์เล็กที่ออกไปสร้างเมืองพวน


          จะกล่าวถึงเจ้าเจ็ดเจือง เมื่อได้ฤกษ์ออกเดินทางจากบ้านเมืองของพระราชบิดา เพื่อไปหาทำเลที่จะสร้างบ้านเมืองเป็นของตนเองตามทิศทางที่พระราชบิดาได้ชี้แนะเอา ก็ได้นำขบวนราชบริพารออกเดินทางไปถึงเป็นที่ราบสูงแห่งหนึ่ง  มีภูเขาล้อมรอบจำนวนมาก เมื่อขบวนช้างไปถึงบริเวณนั้น ช้างนำขบวนไม่ยอมเดินทางต่อไปอีก ทำอย่างไรก็แสดงกิริยาหันรีหันขวาง วนเวียนไปมาอยู่บริเวณนั้น เจ้าเจ็ดเจือง จึงทรงปรึกษากับท้าวพระยา ข้าราชบริพาร ที่ตามเสด็จมาด้วยว่า มีความเห็นอย่างไร


          บรรดาอำมาตย์ โหราจารย์ จึงทูลว่า น่าจะเป็นบุรพนิมิตอันประเสริฐ ว่าที่บริเวณตรงนี้จะเป็นที่ค้ำคูณพูนผล จึ่งดลบันดาลให้ช้างหยุด ไม่ปรารถนาจะเดินทางต่อไปอีก ดังนั้น เห็นสมควรพระองค์น่าจะได้ตกลงปลงพระทัยหยุดสร้างบ้านแปงเมืองขึ้น ณ บริเวรที่แห่งนี้เถิด


           เมื่อเจ้าเจ็ดเจืองได้ฟังคำปรึกษาอันเป็นสิริมงคลดังนั้น จึงทรงสั่งให้หยุดพักไพล่พล บริวาร ทำการสร้างสถานที่พัก ที่อยู่อาศัยนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา โดยตั้งชื่อเมืองนี้ว่า “เมืองคูน” อันหมายถึง เมืองค้ำเมืองคูณ ซึ่งบริบูรณ์ด้วยพื้นที่และทรัพยากรธรรมชาติ เอื้ออำนวยให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข มั่นคงสถาพรสืบไป (ปัจจุบัน  เมืองคูน เป็นเขตหนึ่งของแขวงเชียงขวาง)


           สถานที่ตั้งของเมืองคูน อยู่ห่างจากเมืองโพนสวัน หรือโพนสวรรค์ ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการคมนาคม มีสนามบินขนาดเล็ก และกำลังปรับปรุง ขยับขยายให้กว้างใหญ่ขึ้นต่อไปในอนาคต ระยะทางห่างกันประมาณ ๔๐ กิโลเมตร แต่การติดต่อสัญจรทางบกนับว่ามีสภาพถนนหนทางยังค่อนข้างลำบากพอสมควร


          สภาพบ้านเมืองของเมืองคูนปัจจุบัน นับว่ายังทิ้งร่องรอยเมืองเก่าแก่โบราณไว้ให้ปรากฏเห็นอยูโดยทั่วไป แม้จะเคยเป็นเมืองหลวงมาตั้งแต่สมัยแรกตั้งบ้านแปงเมืองก็จริง พื้นเพเดิมคงจะสร้างด้วยไม้ เพราะป่าไม้อุดมสมบูรณ์มากในสมัยนั้น เมื่อมีเจ้าปกครองสืบต่อกันมาหลายๆ องค์ก็คงจะทำให้หอคำ (วังหลวง) ได้ชำรุดผุพังไปตามสภาพ ทำให้ทรุดโทรมไปตามธรรมชาติและตามกาลเวลา ต่อๆมา เมื่อมีเจ้าปกครองสืบต่ออีกจำนวนมากก็คงจะมีการปรับปรุงหอคำหอวังใหม่ และคงมีการย้ายไปตามการเห็นสมควรของเจ้าเมืองเรื่อย ๆ มาอีกหลายที่หลายแห่ง


          ต่อมาจนถึงรัชสมัยเจ้าสีพม หรือ ศรีพรหม จึงปรากฏมีการสร้างหอคำหอวังขึ้น ก่อด้วยดินจี่ (อิฐ) ยังปรากฏมีให้เห็นเป็นแผ่นอิฐขนาดใหญ่ กว้าง ๑๐ เซนติเมตร ยาว ๒๕ เซนติเมตรโดยประมาณ พบได้ที่ประตุทางเข้าวัดสีพมในปัจจุบันนี้


          ตั้งแต่สมัยเจ้าเจ็ดเจือง ได้สร้างบ้านแปงเมืองและปกครองบ้านเมืองต่อๆกันมา ก็พอจะลำดับเจ้าเมืองพวนได้ ดังนี้


          องค์ที่ ๑   เจ้าเจ็ดเจือง


          องค์ที่ ๒   เจ้าเจ็ดจอน


          องค์ที่ ๓   เจ้าเจ็ดจอด


          องค์ที่ ๔   เจ้าเจ็ดจิว


          องค์ที่ ๕   เจ้าเจ็ดจัน


          องค์ที่ ๖   เจ้ายอดยอคำ


          องค์ที่ ๗   เจ้าพระยีหิน หรือเจ้าเจ็ดยี


          องค์ที่ ๘   เจ้าพระคือ ซึ่งมีพระอนุชาองค์หนึ่งไม่ได้ครองราช


          องค์ที่ ๙  เจ้าคำลูน


          องค์ที่ ๑๐ จ้าคำเพ็ง


          องค์ที่ ๑๑ เจ้าคำขอด


          องค์ที่ ๑๒   เจ้าคำฮอง


          องค์ที่ ๑๓   เจ้าคำแจก


          องค์ที่ ๑๔   เจ้าคำฝั้น ซึ่งมีพระโอรส ๒ องค์ คือ เจ้าเฮือ และ เจ้าคำพิน สำหรับเจ้าเฮือนั้น เมื่อพระบิดาสวรรคต ก็ขึ้นครองราชย์แทนเป็นการชั่วคราว เมื่อเจ้าคำพินทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงถวายราชสมบัติให้เจ้าคำพิน อนุชาครองต่อไป อาจจะเป็นเพราะ เจ้าเฮือ เป็นโอรสที่มีมารดาเป็นคนสามัญ ไม่มีเชื้อสายเจ้ามาก่อน จึงครองเมืองพวนเพียงรักษาการ


           องค์ที่ ๑๕   เจ้าคำพิน


           องค์ที่ ๑๖   เจ้าคำทน


           องค์ที่ ๑๗   เจ้าคำติดสาก


           องค์ที่ ๑๘   เจ้าคำคอน


           องค์ที่ ๑๙   เจ้าคำล้วน


           องค์ที่ ๒๐   เจ้าหน้า


           องค์ที่ ๒๑   เจ้าคำท้าว


           องค์ที่ ๒๒   เจ้าคำเค้า


           องค์ที่ ๒๓   เจ้าคำผง


          เมื่อถึงกษัตริย์ลำดับที่ ๒๓ คือเจ้าคำผง นั้นทางการได้ตรวจสอบและทราบปีศักราชได้ชัดเจนแล้ว นั่นคือตรงกับปี พ.ศ. ๑๘๓๒ ซึ่งตรงกับสมัยของ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ในสมัยกรุงสุโขทัย และในช่วงรัชสมัยของ เจ้าคำผงนี้ได้มีเหตุการณ์ที่ได้มีการบันทึกไว้หลายเหตุการณ์ ซึ่งจะกล่าวต่อไป






Free TextEditor


Create Date : 11 มีนาคม 2553
Last Update : 11 มีนาคม 2553 13:11:48 น. 0 comments
Counter : 308 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หม่าเด่น
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หม่าเด่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.