จะมาแนะนำที่พักที่เกาะเต่าค่ะ หลายท่านคงจะเคยไปมาแล้วที่นี่ บางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็คงจะแล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน แต่สำหรับเราสองคนแล้ว ได้ไปพักที่รีสอร์ทที่คนไม่เยอะเท่าไหร่ก็เลยชอบมากค่ะ เพราะว่ามันเงียบดีจังค่ะตอนกลางคืน 555 ก็มาพักผ่อนนี่เนาะ อยากได้ความเงียบเอาไว้อ่านหนังสือ เอาไว้ทำอะไรเพลิน ๆ ได้มีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง
ที่นี่ชื่อว่า อ่าวม่วงรีสอร์ทค่ะ ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเกาะเต่า แล้วก็ถ้าจะไปรีสอร์ทนี้ก็จะมีเรือมารับจากท่าเรือหลักไปที่รีสอร์ทค่ะ ที่อ่าวม่วงนี้เป็นจุดดำน้ำที่สวยจุดหนึ่งค่ะ นักท่องเที่ยวส่วนมากก็จะไปดำน้ำกันที่เกาะนางยวนแล้วก็มาที่อ่าวม่วง เกาะเต่านี่แหละค่ะ
ไปเกาะเต่านั่งเรือจากท่าเรือดอนสักค่ะ เลือกใช้บริการของ เรือเร็วลมพระยาค่ะ เร็วจริงค่ะ แต่เมาเรือ 555 ออกจากท่าเรือประมาณสิบโมงเช้า ถึงเกาะสมุย ต่อไปเกาะพะงัน เปลี่ยนเรือที่เกาะพะงันก็ต้องรอเรือเกือบสองชั่วโมง กว่าจะถึงเกาะเต่าก็เกือบสี่โมงเย็น เอิ๊กก
ถ้าจะจองก็จองผ่านอโกด้า หรือไปที่เวปของรีสอร์ทโดยตรงเลยก็ได้ค่ะ //www.aomuongresortkohtao.com ส่วนเราเราจองผ่าน Booking.com เพื่อความชัวร์หลังจากจองแล้วก็โทรกลับไปที่รี่สอร์ทแล้วก็เช็คอีกทีนะคะ บอกเวลาที่เรือจะมาถึงที่เกาะเต่าเพื่อที่พนักงานที่รีสอร์ทจะได้มารับถูกค่ะ พอลงมาก็จะเจอคนถือป้ายชื่อเยอะแยะเต็มไปหมด มองหาชื่อตัวเองดี ๆ ละกันนะคะ
รอบเย็นเรือจะออกจากท่าเรือไปยังรีสอร์ทประมาณ 16.30 น. ค่ะ นั่งเรือกินลมชมวิวสูดอากาศไปสัก 20-25 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ใจเย็น ๆ นะคะ มาพักผ่อนอย่าใจร้อน
นั่งเรือมาถึงก็จะเห็นร้านอาหารตั้งอยู่บนหินก้อนบะฮึ่ม
ยินดีต้อนรับสู่อ่าวม่วงรีสอร์ทค่ะ ตึกข้างหน้าที่เห็นชั้นบนสุดห้องซ้ายมือเราจะพักที่นั่น 5 คืนค่ะ
เช็คอินเสร็จ ขึ้นมาบนห้องก็ได้วิวสงบ ๆ แบบนี้
ท่าเรือเล็ก ๆ ของรีสอร์ทกับเรือของรีสอร์ท
แต่ตอนกลางวัน เป็นแบบนี้ คนเพียบ
ห้องพักที่เราได้ก็ห้องด้านหน้าได้เห็นวิวทะเลค่ะ แต่เห็นวิวสวย ๆ แบบนี้ก็มีข้อเสียคือ เสียงเรือหางยาวที่มาส่งนักท่องเที่ยวนี่มันดังได้ใจแก้วหูจริง ๆ ค่ะ 555 แต่ก็นะ ไม่คิดไรมาก ฟังเพลิน ๆ ไปค่ะ มาพักผ่อนน่า อย่าคิดมากเลย
วิวด้านขวามือจากห้องพักค่ะ ด้านนี้คนก็ดำน้ำกันเยอะค่ะ บางทีเป็น 30-40 คนเลย เราอยู่ด้านบนก็นั่งสังเกตการณ์กันไปค่ะ 555
ลงมาเดินข้างล่างถ่ายขึ้นไปที่ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวก็จะประมาณนี้ทุกวันค่ะ
มีเรือที่มาสอนดำน้ำด้วยนะคะ ส่วนมากมีแต่ฝรั่งค่ะ รายได้จากการท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยก็คงจะมาจากส่วนนี้ ได้แต่หวังว่าในอนาคตจะไม่มีโครงการอะไรมาทำลายธรรมชาติใกล้ ๆ หมู่เกาะแถบนี้ หวังว่าปะการังจะยังคงอยู่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาดำน้ำชมความสวยงาม แต่ก็คาดหวังไม่ได้ใช่มั้ยคะ ส่วนตัวก็ได้แต่ทำหน้าที่นักท่องเที่ยวให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง
วิวจากทางขึ้นร้านอาหาร กว่าจะขึ้นถึงก็เล่นเอาหิวเหมือนกันนะคะ แต่ก็คุ้มพอได้ไปนั่งข้างบนนั้นแล้ว
บรรยากาศยามเย็นจะเห็นว่าเรือหายไปหมดเกือบหมดแหล่ว หาดนี้เป็นของเราหล่ะวุ้ย
ที่ท่าเรือจะเห็นสองหนุ่มยืนอยู่บนท่าเรือนั่น ตกปลากันค่ะ อาหารยามเย็นสำหรับพวกเค้าค่ะ ส่วนสีดำ ๆ ที่เห็นนั่นคือปลาค่ะ ปลาตัวเล็ก ๆ ลองดำน้ำลงไปแล้วดูพวกปลาใกล้ ๆ สวยดีค่ะ
ยามเช้าพนักงานที่รีสอร์ทก็จะทำความสะอาดหาดค่ะ เก็บขยะ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้สกปรกนะคะ กวาดทรายให้เรียบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาดำน้ำอีกครั้ง หาดที่นี่ก็จะกลับมามีสีสันอีกครั้งค่ะ
ส่วนแขกที่จะกลับหรือจะไปเกาะนางยวนเพื่อดำน้ำก็ไปกับเรือรอบเช้าค่ะ หรือใครจะกลับตอนบ่ายก็นัดกับทางรีสอร์ทไว้ได้เลยค่ะ เรือของรีสอร์ทก็จะออกอีกรอบช่วงบ่ายค่ะ ส่วนเรายังไม่กลับก็แอบถ่ายรูปชาวบ้านเค้าต่อไป 5555
ไม่ช่ายยย ถ่ายไปเรื่อยแหละค่ะ ฝีมือก็อย่างที่เห็น โปรดอย่าคาดหวังว่าภาพจะออกมาสวดยวดดดนะคะ
ยามเย็นมันเงียบแบบนี้หล่ะค่ะพี่น้องเอ๊ย 555 แล้วแต่ใครจะชอบนะคะ แต่สำหรับเราสองคน บ่มีปัญหาค่ะ
ถ่ายลงมาจากห้องพักบรรยากาศตอนเย็น ตรงนี้พอเรามาถึงก็จะมาเช็คอินตรงนี้แหละค่ะ มีพี่ ๆ น้อง ๆ พนักงานมารอหิ้วกระเป๋าไปที่ห้องพักให้
ยามเย็นค่ะ ไม่มีเรือ ไม่มีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำแล้ว เงียบสงบดีแท้
อยู่ที่นี่จะเข้าเมืองมีสองทางค่ะ เรือ จะออกช่วงเช้า 08.30 กับช่วงบ่าย 13.30 ค่ะ หรือจะเดินค่ะ เดิน ๆๆๆๆ ขึ้นเขา ลงเขา เหงื่อแตกพลั่ก ๆ ป๊าดดดด มันคือเหนื่อยจั๊งซี้ 555
ก็เดินมาแล้วไม่ใช่อะไร ไปจุดชมวิว Mango bay ค่ะ เหนื่อย แต่เดี๋ยวค่อยรีวิวบล็อกต่อๆไปละกันนะคะ
ที่พักมีแบบเป็นบังกะโลด้วยนะคะ อยู่ด้านหลังขึ้นเขาไปอีก แล้วแต่ความชอบค่ะ อยากจะพักแบบไหน
บังกะโลมีหลายหลังค่ะ มองมาจากด้านล่างจะมองเห็นไม่เท่าไหร่ แต่พอเดินขึ้นมาก็จะเห็นว่าบังกะโลตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้เท่าเทียมกันคือเรื่องไฟฟ้าค่ะ ไฟจะใช้ได้แค่ 18.00 - 06.00 น.ค่ะ ตรงนี้ก็อาจจะเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งที่หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่ชอบ แต่ก็เนื่องด้วยต้องปั่นกระแสไฟฟ้าใช้เองเพราะไฟยังเข้าไม่ถึงค่ะ การปั่นไฟครั้งหนึ่งก็ใช้น้ำมันค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงเป็นข้อจำกัดของรีสอร์ทแห่งนี้ค่ะ ถามว่าอ้าว แล้วทำไงหล่ะไม่มีไฟฟ้าใช้อ่ะ อยู่ไม่ได้แน่ ๆ ก็มาทะเลก็ไปเล่นน้ำ ดำน้ำ อาบแดด อ่านหนังสือ เดี๋ยวเดียวก็หมดวันแล้วค่ะ (สำหรับเราสองคนนะคะ
)
ที่สำคัญจะพักที่นี่ต้องทำใจไว้อย่าง ที่นี่ไม่มีคลื่นโทรศัพท์มือถือค่ะ แต่มี wi-fi ให้ใช้ที่ร้านอาหารนะคะ แต่สำหรับเราสองคน เก๊าะไม่มีปัญหาอีกหล่ะ ไม่ติดมือถือ ไม่ติดเฟสบุ๊ค ไม่ติดอะไรสักอย่าง จะติดทำไมหล่ะคะ วางมันบ้างก็ได้ ใช้เวลากับตัวเองบ้างก็ได้ นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้ใช้ชีวิตแบบไร้โทรศัพท์แบบนี้
บางหลังก็อาจจะต้องปรับปรุงค่ะ แต่โดยรวมแล้วก็ยังอยู่ในสภาพดีนะคะ บล็อกหน้าจะรีวิวบรรยากาศร้านอาหารค่ะ นั่งทานอาหารอร่อย ๆ บรรยากาศดี ๆ กับคนรู้ใจ อู๊ยยยยย มันแสนจะโรแมนติก 555
ว่าไปนั่น บล็อกนี้นั่งทำทั้งวันจนปวดหลังได้แค่นี้หล่ะค่ะ 555 ทั้งย่อรูป กว่าจะอัพ กว่าจะเลือก กว่าจะเขียน เริ่มตั้งแต่เก้าโมงเช้า นี่จะสามโมงเย็นที่นี่แล้วพึ่งได้แค่นี้เอง กร๊ากๆๆ
พบกันบล็อกหน้าค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ขอพระคุ้มครองพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยเถิด
เป็นเกาะที่ชอบมากเช่นกันครับ
เคยไปนอนที่จามจุรีรีสอร์ตครับ
วิวสวยมากจริงๆ