AISเปิดสงคราม3G!! ( จะกลับมาเป็นที่1เรื่อง3Gแน่นอน) เร่งย้ายลูกค้าเก่า เปิดโครงการราคาต่ำกว่า 1,500 บาท // กสทช.ไร้น้ำยา++

.

1.... AISเปิดสงคราม3G!! ( จะกลับมาเป็นที่1เรื่อง3Gแน่นอน) เร่งย้ายลูกค้าเก่า เปิดโครงการราคาต่ำกว่า 1,500 บาท //สิ้นปีใช้ได้ทั่วไทย 80%
2.... กสทช.ไร้น้ำยา++AIS DTACเลือกไม่ทำตาม(ยกเลิกวันหมดอายุเติมเงิน)//เครือข่ายผู้บริโภครู้ค่ายมือถือยอมจ่ายค่าปรับรายวัน!!เตรียม (( ฟ้องศาลปกครองกลาง!! ))
3.... (แก้CAT TRUEผ่านไป201วันแล้ว)กสทช.ขยายเวลา30วันผู้บริหาร // BFTKชี้โดนกลั่นแกล้งอ้างอัยการสูงสุดชี้ไม่ถือเป็นการให้บริกา


AISเปิดสงคราม3G!! ( จะกลับมาเป็นที่1เรื่อง3Gแน่นอน) เร่งย้ายลูกค้าเก่า เปิดโครงการราคาต่ำกว่า 1,500 บาท //สิ้นปีใช้ได้ทั่วไทย 80%

ประเด็นหลัก


“ครึ่งปีแรกเอไอเอสจะให้บริการ 3G ครอบคลุมจังหวัดหลักในทุกภาค และครบทั้ง 77 จังหวัดในครึ่งปีหลัง ซึ่งหมายความว่าจะครอบคลุม 50% ของประชากรภายในครึ่งปีแรก และจะครอบคลุม 80% ทั่วประเทศภายในสิ้นปี ส่วนในแง่ของคุณภาพมั่นใจว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะได้มีการเพิ่มคาปาซิตี้ขึ้นถึง 3 เท่า จาก 3 ชุดความถี่ที่ประมูลได้มา”


นายวิเชียรกล่าวอีกว่า เราเคยเป็นที่ 1 ในระบบ 2G ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ แต่ในระบบ 3G เรายังไม่สามารถบอกได้ว่าปัจจุบันอยู่ในอันดับใด แต่ก็ตั้งเป้าว่าจะขึ้นเป็นที่ 1 ในระบบ 3G ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นเสียงจากผู้บริโภคจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ทางเอไอเอสภูมิใจ

บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)เปิดเผยว่า ในปี 56 บริษัทเตรียมงบลงทุนราว 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้ในการลงทุนขยายโครงข่ายให้บริการ 3G บนคลื่นใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ โดยลูกค้ากลุ่มแรกคือผู้ที่ใช้บริการ 3G บนคลื่นเดิมที่จะโอนย้ายมา ขณะนี้บริษัทยังได้ยื่นขอเลขหมายโทรศัพท์มือถืออีก 14 ล้านเลขหมาย เพื่อรองรับการให้บริการดังกล่าวกับลูกค้ารายใหม่


ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หัวหน้าผู้บริหารด้านการตลาด ADVANC กล่าวว่า เอไอเอสได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเปิดตัวสมาร์ทโฟนคุณภาพที่รองรับ 3G อย่างต่อเนื่องตลอดปี ด้วยแนวคิด"มือถือ 3Gเพื่อคนไทย" ด้วยระดับราคาเพียงหลักพันบาทพร้อมแพ็กเกจการใช้งานสอดรับกับการใช้ชีวิตทุกกลุ่มเป้าหมาย

"เราจะมีเครืองมือถือราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อใช้งาน 3G เราได้ติดต่อไว้หมดแล้ว เพราะต้องการให้ลูกค้ากว่า 30 ล้านรายใช้มือถือที่รองรับโครงข่าย 3G อย่างสมบูรณ์"นายสมชัยกล่าว



//www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000006595&Keyword=3g
//www.ryt9.com/s/iq05/1570465
//www.ryt9.com/s/iq05/1570343


__________________________

กสทช.ไร้น้ำยา++AIS DTACเลือกไม่ทำตาม(ยกเลิกวันหมดอายุเติมเงิน)//เครือข่ายผู้บริโภครู้ค่ายมือถือยอมจ่ายค่าปรับรายวัน!!เตรียม (( ฟ้องศาลปกครองกลาง!! ))

ประเด็นหลัก




นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค ไม่ยืนยันว่า การยกเลิกกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงินจะทำได้ทันในวันพรุ่งนี้หรือไม่ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ซึ่งวันพรุ่งนี้ จะขอเข้าพบ เลขาธิการ กสทช. เพื่อนำเอกสารข้อเสนอของเอกชนไปให้ ซึ่งดีแทคพยายามให้ความร่วมมือมากที่สุด แต่มีบางประเด็นที่เราสามารถทำได้ทันที และบางอย่างยังทำไม่ได้ทันที ซึ่งระหว่างนี้อยู่ระหว่างการประชุมร่วมกับคณะทำงานเพื่อจัดเตรียมเอกสารที่จะเสนอให้กสทช.

นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้ที่ผู้บริหาร เอไอเอส ระบุว่า ประเด็นการกำหนดวันเติมเงิน ยังมีคดีอยู่ในศาลเช่นกัน ซึ่งให้รายละเอียดได้ไม่มาก ส่วนกรณีที่กสทช.ยืนยันว่าหากเอกชนไม่ปฏิบัติตามจะปรับเงินวันละ 1 แสนบาทนั้น นายวิเชียร ระบุว่า ก็เป็นสิทธิ์ของ กสทช. แต่ส่วนตัวแล้วไม่ได้เข้าร่วมประชุมอยู่ในวันที่มีการเจรจาเรื่องนี้



ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับบัตรเติมเงินขณะนี้ มี 3 ปัญหาใหญ่ คือ ยึดเงินเข้าระบบ,การกำหนดวันหมดอายุ และการยึดเบอร์ผู้บริโภค โดยที่ยังไม่ถึงกำหนด 180 วัน ซึ่งเรื่องนี้มีกติกา กฎหมายชัดเจนตั้งแต่ปี 2549 แต่หลายปีทีผ่านมายังไม่มีการปฏิบัตตาม และการมีเส้นขีดที่เด็ดขาดเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการ และหวังว่าผู้ให้บริการก็จะปฏิบัติตาม เพราะครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งคุยกัน หรือเพิ่งขอร้อง แต่เป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ซึ่งเครือข่ายผู้บริโภคพบว่า จากเรื่องร้องเรียน 4 พันกว่าเรื่อง แต่ในจำนวนนี้เป็นปัญหาบัตรเติมเงินร้อยละ 25-30 และจำนวนคนเกี่ยวกับบัตรเติมเงิน พบว่า คนถูกยึดเงินเข้าระบบเอกชน เฉลี่ยคนละ 517 บาท แต่หากดูภาพรวมจะพบว่าเกิดความเสียหายมาก เพราะมีผู้ใช้ระบบเติมเงินมากถึงร้อยละ 90 หรือ 70 ล้านเลขหมาย





ส่วนการยกเลิกบัตรหมดอายุเติมเงิน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง แกนนำเครือข่ายผู้บริโภค ประเมินว่า เอกชนอาจเลือกจ่ายค่าปรับมากกว่ายกเลิกตามคำสั่งของ กสทช. ซึ่งหากสัปดาห์หน้ายังพบปัญหาอีก จะขอให้ กสทช.ทบทวนเพิ่มค่าปรับ และเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว


ส่วนการกำหนดโปรโมชั่นค่าโทรศัพท์ที่ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา กสทช. ระบุว่า เครือข่าย เอไอเอสและดีแทค ยังมีโปรโมชั่นค่าโทรศัพท์เกินกว่าที่ กสทช. กำหนด รวม 99 โปรโมชั่น จึงออกจดหมายแจ้งเตือนเป็นครั้งที่ 2 ขอให้ปฏิบัติตามภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะเพิ่มค่าปรับจากปัจจุบันที่ปรับวันละ 1 แสนบาท ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึงปัจจุบัน มีผู้บริโภคร้องเรียนผ่านสายด่วน 1200 ของ กสทช.ว่า ยังถูกเก็บค่าบริการเกิน 99 สตางค์ประมาณ 700 คน


//www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000006591&Keyword=ais
//patnews.wordpress.com/2013/01/17/%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%
89%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B2-ais-dtac-
%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%
E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/
_________________________


(แก้CAT TRUEผ่านไป201วันแล้ว)กสทช.ขยายเวลา30วันผู้บริหาร // BFTKชี้โดนกลั่นแกล้งอ้างอัยการสูงสุดชี้ไม่ถือเป็นการให้บริกา


ประเด็นหลัก


ทางผู้บริหารบีเอฟเคทีได้มีหนังสือชี้แจงต่อ กทค.ใน 2 ประเด็นคือ 1.ความยุติธรรมในการตรวจสอบ และ 2.ความไม่ชัดเจนในกฎระเบียบการประกอบกิจการให้เช่าอุปกรณ์และโครงข่ายโทรคมนาคมของ กสทช.เอง พร้อมกับแสดงความหวังว่า กทค.จะพิจารณาเรื่องนี้บนพื้นฐานความถูกต้องและผลประโยชน์ส่วนรวม


เรื่องความไม่ชัดเจนในกฎระเบียบของ กสทช.นั้น บีเอฟเคทีเห็นว่า ที่ผ่านมา กสทช.ไม่ได้ออกกฎระเบียบเรื่องการประกอบ กิจการให้เช่าอุปกรณ์และโครงข่ายโทรคมนาคมที่ชัดเจน เพราะหากมีระเบียบที่ชัดเจนผู้ประกอบการก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้อง โดยไม่มีปัญหา ดังนั้น หาก กสทช.ชี้ว่าบีเอฟเคทีมีความผิดก็จะเข้าข่ายเป็นการ กลั่นแกล้ง เนื่องจากทั้งสำนักงานอัยการสูงสุดและคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยระบุชัดเจนว่า การประกอบกิจการให้เช่าอุปกรณ์และโครงข่ายโทรคมนาคม ไม่ถือเป็นการให้บริการโทรคมนาคม ซึ่งจะต้องมีใบอนุญาต.


ล่าสุด
1.คณะทำงานฯ สรุปในส่วนท้ายของรายงานว่า ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่า บีเอฟเคที มีเจตนาใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้อนุญาต ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่เชื่อว่า กสท เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดขอบบีเอฟเคที แต่ในส่วนที่มีการวิเคราะห์ กลับให้ความเห็นว่า บีเอฟเคที เป็นผู้บริหารจัดการควบคุมดูแลโครงข่าย ระบบโครงข่าย สถานีฐาน และระบบโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่หลัก และจัดอยู่ในลักษณะการให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อให้เช่าใช้ ซึ่งจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่3 คณะทำงาน จึงเชื่อว่า บีเอฟเคที เข้าข่ายกระทำความผิด มาตรา 67 (3) พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ฐานประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต




สรุปประเด็นที่ BFTK ไม่ได้ กรณี

1..“การให้เช่าเครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคมโดยแท้” ถือเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคม หรือไม่
2.. เรื่องนี้มีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 498/2546 ในกรณีคล้ายๆ กัน ให้ความเห็นว่า การให้เช่าใช้เครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคมแก่ผู้อื่นเพียงรายเดียวเท่านั้น โดยมิได้เป็นผู้ให้บริการด้านกิจการโทรคมนาคมแก่บุคคลใดอีก มิใช่เป็นการประกอบกิจการในลักษณะที่เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมแก่บุคคลอื่นทั่วไป ซึ่งเป็นแนวการแปลความหมายของคำว่า “บุคคลอื่นทั่วไป”


จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อให้ กทค. มีข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเหตุผลประกอบการใช้ดุลพินิจอย่างละเอียด ครบถ้วน รอบคอบ เป็นธรรมและสอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย จึงมีมติให้คณะทำงานฯ ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมตามข้อสังเกตในข้อ 1-4แล้วนำเสนอความเห็นเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของ กทค. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ กทค. มีมติ ทั้งนี้ ให้เลขาธิการ กสทช. ให้ความเห็นประกอบการพิจารณา

//www.thairath.co.th/content/eco/320722
//www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1358428139&grpid=03&catid=03
//www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000006811

Create Date : 18 มกราคม 2556		0 comments
Last Update : 18 มกราคม 2556 0:12:07 น.
Counter : 3583 Pageviews.
Share Tweet