ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศผลประกอบการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 26 ปีนับตั้งแต่เป็นบริษัทมหาชน ผลจากการทุ่มเงินซื้อกิจการบริษัทแห่งหนึ่งเพื่ออัปเดทใหญ่ผลิตภัณฑ์กลุ่มธุรกิจโฆษณาออนไลน์ที่ยังไล่ตามกูเกิลไม่ได้สักที ปรากฏว่าหลังซื้อธุรกิจนี้ก็ยังติดตัวแดงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2007 การทุ่มเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไมโครซอฟท์จึงทำให้บริษัทขาดทุนแม้จะมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามปกติ การขาดทุนของไมโครซอฟท์ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เนื่องจากบริษัทเคยออกประกาศยอมรับในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนว่าบริษัทจะคำนวณค่าใช้จ่ายจากการซื้อกิจการบริษัท aQuantive เมื่อปี 2007 ไว้ในงบการเงินไตรมาส 2 ปีนี้ (เมษายน-มิถุนายน 2012) และเนื่องจากการซื้อ aQuantive ไม่ได้ทำให้ไมโครซอฟท์สามารถแข่งขันกับกูเกิลหรือทำรายได้จากการโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้น รายจ่ายทั้งหมด 6.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (จากเงินทั้งหมดที่ไมโครซอฟท์จ่ายให้ aQuantive จำนวน 6.3 พันล้านเหรียญ) จึงถูกบันทึกโดยไม่มีรายได้เข้ามาทดแทน การซื้อ aQuantive ในปี 2007 ถือเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดของไมโครซอฟท์ขณะนั้น ความหวังของดีลนี้คือการช่วยให้ไมโครซอฟท์สามารถฟื้นธุรกิจโฆษณาออนไลน์และเป็นคบดาบสำหรับต่อกรกับกูเกิล แต่เป้าหมายนี้ไม่บรรลุผลในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่การซื้อกิจการ aQuantive แผนกโฆษณาออนไลน์ของไมโครซอฟท์ขาดทุนมากกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว เมื่อเทียบกับกูเกิล ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจิ้นสามารถขยายตลาดโฆษณาออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วหลังการซื้อบริษัท DoubleClick ซึ่งมีมูลค่าดีลเพียง 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น โดยเป็นการซื้อกิจการหลังจากไมโครซอฟท์ซื้อ aQuantive เพียง 8 เดือน ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า เสิร์ชเอนจิ้น "บิง (Bing)" ของตัวเองนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดลดลงเหลือ 26% จากที่เคยมีอยู่ 27% เมื่อปีที่แล้ว แม้จะมีพันธมิตรหลักอย่างยาฮู (Yahoo) ซึ่งทำสัญญาใช้เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์บนเว็บไซต์ยาฮูตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องประกาศผลขาดทุนในไตรมาสล่าสุดว่าขาดทุนสุทธิ 492 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.5 หมื่นล้านบาท) คิดเป็น 6 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับการประกาศผลกำไร 5.9 พันล้านเหรียญ หรือ 69 เซนต์ต่อหุ้นเมื่อปีก่อน
|