|
บลจ.ประเมินดอกเบี้ยทั่วโลกคงระดับต่ำจนสิ้นปี
บลจ.กรุงไทยประเมินทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำ หลังเศรษฐกิจโลกซบเซาจากปัญหาหนี้ยุโรป ส่งผลให้ผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ไม่จูงใจ ล่าสุดส่งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นผสมเงินฝากแบงก์ต่างประเทศ ล๊อกเงิน 6 เดือนให้ผลตอบแทน 3.10% ต่อปี ขณะที่บลจ.กรุงศรีร่วมวงด้วย ลงทุน 6 เดือนให้ผลตอบแทน 3.15% ต่อปี เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 25 ก.ค.นี้ นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้มีแนวโน้มการปรับลดลง โดยเป็นผลจากการปรับพอร์ตของนักลงทุน รวมถึงได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ตลอดสัปดาห์ตลาดการเงินรอผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในที่สุดคำตัดสินใจที่เผยแพร่ออกมาไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองและไม่เกิดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยภายนอก ตลาดการเงินยังให้ความสำคัญกับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ในยุโรป รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ซึ่งแสดงสัญญาณถดถอยมาต่อเนื่อง และเริ่มส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ ทำให้เห็นกระแสการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตั้งแต่คณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป จีน เกาหลีใต้ และบราซิล ภาวะดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยทั้งในไทยและต่างประเทศจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนถึงปลายปีนี้ นายสมชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน แม้ว่าค่าเงินยูโรจะมีทิศทางอ่อนค่าลงต่ำกว่า1.22 ยูโรต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกลุ่มประชาคมยุโรป แต่ในส่วนของค่าเงินบาทยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 31.50 - 31.90 บาทต่อดอล่าร์สหรัฐฯ และอัตราแลกเปลี่ยนสวอปปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย สะท้อนความกังวลต่อปัญหาการเมืองในประเทศลดลง ซึ่งจะเป็นผลบวกต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศ โดยบลจ.จะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 47 ( KTSUPB47 )เสนอขาย ในวันที่ 18-25 กรกฎาคม 2555 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนนี้จะลงทุนในเงินฝากประจำ Standard Chartered Bank ( Hong Kong ) Ltd. และ เงินฝากประจำ Union National Bank (UNB )ในสัดส่วน 40% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารภาครัฐไทย ,เงินฝากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ตั๋วแลกเงิน บจ.อยุธยา แคปิตอล ออโต้ ลีสซิ่ง และตั๋วแลกเงินของบมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี โดยเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 4 ( KTSIV6M4 ) ประเภท Roll Over เสนอขายถึงวันที่ 20กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก /บัตรเงินฝาก และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไปโดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.95% ต่อปี ด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M28 (KFFIX6M28) อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 32% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 24% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 24 % และเงินฝากธนาคาร Standard Chartered Bank (ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.15% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวจะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันนี้ถึง 23 ก.ค.
Create Date : 18 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2555 7:57:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 796 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|