|
|
ไม่ประมาทแต่อย่าตื่นตูม
สังคมการลงทุน
อำลากันอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับ คุณฮิโรชิ ทาเทอิชิกรรมการผุ้จัดการ บริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิต แว่วว่ากลับไปรับตำแหน่งใหม่ที่ญี่ปุ่นคอยดูแลตลาดประกันชิวิตในแถบเอเชีย ส่วนที่ประทับใจเห็นจะเป็นความเป็นกันเองและมารยาทแบบชาวอาทิตย์อุทัย โค้งคำนับกันแบบไม่ถือตัว...ต้องยกนิ้วให้ไปเลยว่า เยี่ยมจริงๆ
แต่อีกบุคคลิกประจำตัวของคุณฮิโรชิคือการพกกล้องถ่ายรูปติดตัวเสมอเวลาไปไหนมาไหน ว่ากันว่าระหว่างประจำอยู่ที่ประเทศไทยถ่ายรูปไปแล้วกว่า 6 หมื่นรูป ความจุกว่า 500 กิ๊กกะไบต์...ที่ถ่ายเยอะแบบนี้คงเพราะเนื้อหอม ขนาดแถลงข่าววันสุดท้ายบรรดาพิราบเงินสาวรุ่นต่างรุมถ่ายรูปคู่ด้วยเป็นแถว...น่าอิจฉาจริงๆ พ่อดอกมะลิ2012
แถลงข่าวครั้งแรกในรอบหลายปี กับสินมั่นคงประกันภัยพร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่บนไอโฟน-สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยที่ต้องย้ำว่าทันสมัยจริงๆ กับการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี และการเสริมบริการอีกหลายเฟสในอนาคต แต่งานนี้นักข่าวตื่นเต้นกับการแถลงข่าวที่นานๆจะจัดขึ้นมากกว่า ได้คำตอบจากคุณ เรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร กลับมาทันทีว่า...ต้องมีของดีจริงๆ เท่านั้นถึงจะมาโชว์ ** ส่วนที่สร้างเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีคงจะเป็นคำตอบเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ เพราะคุณเรืองเดช ตอบอย่างรวดเร็วเลยว่า...ขนาดเที่ยวยังไม่ไป แล้วจะไปลงทุนทำไม ชัดเจนไหมพี่น้องง...
แสดงความยินดีกับ 2 ผู้บริหารใหม่อย่างคุณจิตรา การัน มูกันดานซึ่งจะมาดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารการขายผ่านช่องทางการตลาดขายตรง ธนาคาร และธุรกิจประกันกลุ่ม...โพรไฟล์ไม่ใช่ย่อยนะจ๊ะ เพราะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการจัดการธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียทีเดียว
ส่วนอีกท่านคือคุณตาคูย่า มิตานิผู้ที่จะมารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ของบริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต ตั้งแต่วันจันทร์หน้า(16 ก.ค.55) แต่งานนี้คงหินสักหน่อยถึงแม้จะเป็นลูกหม้อของบริษัทมานาน และก่อนหน้านี้ก็เคยรับผิดชอบฝ่ายพิจารณารับประกันและฝ่ายสินไหม ของ โตเกียวมารีนประกันชีวิต ประเทศสิงคโปร์ ก็ตาม เพราะเจ้าตัวยอมรับเองว่าตลาดประกันชีวิตในประเทศไทยยากใช่ย่อย แถมยังถูกขู่จากอดีตกรรมการผู้จัดการด้วยว่า ให้นักข่าวช่วยกันตรวจสอบถ้ายอดไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้...ขู่แบบยิ้ม ยิ้ม สไตล์ คุณทาเทอิชิ แต่ดูแล้วน่าจะเอาจริงนะเนี่ย เชื่อเถอะ
กลับเข้าเรื่องที่จั่วหัวเอาไว้ เพราะมีโอกาสได้อ่านบทความในเฟสบุ๊ค และสัมภาษณ์ พี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิ กับภาพรวมของเศรษฐกิจโลก
วรวรรณ ยกคำสัมภาษณ์ของNouriel Rubini ให้สัมภาษณ์ CNBC ที่ฝรั่งเศสไว้ว่า...
- ภายในปีหน้า ผู้ดำเนินนโยบายในประเทศต่างๆ จะไม่หนีปัญหาไม่ได้อีกแล้ว
- ปัญหาในยูโรโซนที่เหมือนขบวนรถไฟไปสู่ความหายนะที่เคยแล่นช้าๆ จะกลายเป็นรถไฟพ่วงที่แล่นไปสู่ความพินาศได้เร็วมาก
- จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด สหรัฐขยายตัวได้เชื่องช้ามากและใกล้จะเกิด Recession แล้ว
- จีนกำลังจะ Hard Landing ไม่ใช่ Soft Landing
- การเติบโตของตลาดเกิดใหม่ในที่อื่นๆ อย่าง จีน รัสเซีย อินเดีย บราซิล ตุรกี และเม็กซิโก จะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว จากปัญหาในยูโรโซนและอังกฤษ และจากการที่ตลาดเกิดใหม่ไม่ปฏิรูปตนเอง
- มีความเสี่ยงที่เหมือนระเบิดเวลาของสงครามระหว่างอิสราเอล (+สหรัฐ) กับอิหร่าน เพราะการเจรจาต่อรองไม่ได้ผล การแซงชั่นจะล้มเหลว อย่างไรก็ตาม โอบามา ก็ไม่ต้องการให้เกิดสงครามก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน แต่หลังเลือกตั้งมีโอกาสที่สหรัฐจะเข้าโจมตีอิหร่านไม่ว่าใครจะได้เป็นผู้นำก็ตาม ผลก็คือราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นสูงเป็นเท่าตัวในชั่วข้ามคืน
ทั้งหมดนี้คือ The Perfect Storm ของโลกในปีหน้า เพราะยุโรโซนจะพัง / สหรัฐจะเกิด Double Dip Recession / จีนและตลาดเกิดใหม่จะ Hard Landing / และจะมีสงครามในตะวันออกกลาง
เป็นบางส่วนที่โฟสเอาไว้บนเฟสบุ๊คในช่วงของGuru Corner แต่สิ่งที่พี่ตู่ย้ำในการสัมภาษณ์ คือ ความเข้าใจผิดของหลายๆ คน สิ่งที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายไปได้ และจะไม่แย่เท่าปี 2008นั่นไม่จริง เพราะตอนนั้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่งยังอยู่ในระดับสูง 5-6% จึงสามารถใช้นโบายการเงินในการลดดอกเบี้ยได้เป็น 0% ส่วนนโยบายการคลังที่เป็นเรื่องของรัฐบาลโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศยังสามารถออก QEกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่มาตอนนี้ไม่เหลือแล้ว...
ต้องย้ำว่า"กระสุนหมด" เพราะทุกอย่างที่ออกมาช่วยคลี่คลายได้แค่ชั่วคราว แต่ปัญหาที่แท้จริงยังไม่ได้แก้คือ หนี้มหาศาล
อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจตกใจ เพราะเป็นมุมมองแบบภาพรวมของเศรษฐกิจ แต่วรวรรณ บอกว่า ทุกวิกฤตยังมีโอกาส ประเทศไทยเองในปีหน้าเชื่อว่าจะยังเติบโตจากการใช้จ่ายและบริโภคในประเทศ และโลกเราที่ผ่านมาเจอเหตุการณ์เหล่านี้มาหลายรอบแล้ว ทุกอย่างก็ต้องฟื้น อย่างลืมคนยังต้องกินต้องใช้และหลายเซคเตอร์ที่เกี่ยวกับการบริโภคก็ยังได้รับประโยชน์อยู่
สรุปแล้วก็คือ ไม่ประมาทแต่อย่าตื่นตูมเกินเหตุนั่นเอง
| Create Date : 14 กรกฎาคม 2555 |
| Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 6:52:13 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1246 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [