McLaren MP4/12-C ขยับกำลังอีกนิดเร้าใจขึ้นอีกหน่อย

หลังเปิดตัวยั่วบรรดาแฟนๆ รถสปอร์ตทั่วโลกมานานเกือบปี ทางด้านแม็คลาเรน ผู้ผลิตซูเปอร์คาร์น้องใหม่แต่ชื่อเสียงไม่ใหม่ ก็เขย่าอารมณ์นักขับทั่วโลกอีกครั้ง ส่งเวอร์ชันปี 2013 ออกมาวาดลวดลายในตลาด ซึ่งแม้ว่าหน้าตาจะคล้ายกับรุ่นปกติ แต่เครื่องยนต์ก็ถูกเบ่งกล้ามและมีกำกำลังเพิ่มขึ้นอีก 25 แรงม้า

MP4/12C เป็นซูเปอร์คาร์ที่ทางแม็คลาเรนพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริหารค่ายนี้ที่ต้องการยกระดับตัวเองจากบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์และทีมแข่งใน F1 มาเป็นผู้ผลิตรถยนต์อย่างเต็มตัวด้วยการก่อตั้งบริษัท McLaren Automotive ที่รับหน้าที่นี้โดยเฉพาะขึ้นมา หลังจากที่เคยเรียกเสียงฮือฮามาครั้งหนึ่งแล้วสมัยที่ผลิตแม็คลาเรน F1 เมื่อกลางทศวรรษที่ 1990                สปอร์ตรุ่นนี้ถูกส่งลงตลาดเมื่อปี 2011 โดยเป็นสปอร์ตคูเป้เครื่องยนต์วางกลางลำ และมีเครื่องยนต์แบบวี8 3,800 ซีซี เทอร์โบคู่เป็นขุมพลัง โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ได้รับการผลิตและพัฒนาร่วมกับ Ricardo โดยล็อตแรกที่ผลิตออกมาขายมีกำลังอยู่ที่ 600 แรงม้า และส่งกำลังด้วยเกียร์แบบ Dual-Clutch 7 จังหวะที่มีการปรับการทำงานของเกียร์ใหม่ตอบสนองได้เร็วขึ้น และมีอัตราการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในระดับ 279 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร                ในรุ่นใหม่มีการปรับปรุงหลายจุด แต่สิ่งแรกคือ การปรับบูสต์เพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์ โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 625 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 61.14 กก.-ม. ที่ 3,000-7,000 รอบ/นาที ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร้าใจในด้านฝีเท้าทั้งตีนต้นและตีนปลายมากขึ้นกว่าเดิม

ส่วนระบบสร้างเสียงและความเร้าใจในขณะขับขี่ หรือ ISG-Intake Sound Generator ซึ่งเป็นการนำเสียงที่เกิดขึ้นจากการเร่งรอบขอบเครื่องยนต์มาช่วยเพิ่มความเร้าใจภายในห้องโดยสารในระหว่างขับขี่ก็มีให้เหมือนเดิม โดยการปรับการส่งเสียงคำรามของเครื่องยนต์สามารถปรับเซ็ตได้ผ่านทางหน้าจอ Touch Screen ที่ติดตั้งอยู่ในรถ                สำหรับล้อแม็กในรุ่นปี 2013 ก็เป็นลายใหม่ที่แตกต่างจากของเดิม แต่ไซส์เท่ากัน โดยด้านหน้ามีขนาด 8.5X19 นิ้วพร้อมยางขนาด 235/35R19 และด้านหลังมีขนาด 11X20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 305/30R20                ในแง่อื่นๆ ของตัวรถยังเหมือนเดิม กับโครงสร้างตัวถังที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ผสมกับอะลูมิเนียม และมีความยาว 4,509 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร ส่วน้ำหนักเปล่าเบาถึง 1,336 กิโลกรัม โดยมีอัตราการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังอยู่ที่ 42.5-57.5%                การทำตลาดจะเริ่มขึ้นตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป ใครที่สนใจก็เตรียมเงินเอาไว้ได้เลย ส่วนข่าวดีสำหรับเจ้าของเก่าคือ เอามาอัพเกรดเฉพาะในส่วนเครื่องยนต์ฟรี แต่ถ้าอยากได้แม็กลายใหม่ ก็ต้องจ่ายเอง

Create Date : 30 มิถุนายน 2555		0 comments
Last Update : 30 มิถุนายน 2555 7:14:07 น.
Counter : 773 Pageviews.
Share Tweet