"ซิงยี่ฉื่อตาว" (Xíng yì cìdāo; 形意刺刀) ความทั่วไปว่าด้วยเส้นดาบปลายปืน ของสิ่งอี้ฉวนฉบับสงครามโลกครั้งที่สอง โดย เชา หมักทศพืช 30 มีนาคม 2558 . ดาบปลายปืน คือ ทวน จึงเหมาะสำหรับการแทงมากกว่าฟัน . ท่าโดยส่วนใหญ่ประยุกต์มาจาก ท่าทวนหกประสาน (ลิ่วเหอฉียง) หรือทวนห้าธาตุ (อู่สิงเฉียง) ซึ่งเป็นท่าทวนพื้นฐานของมวยสิ่งอี้ . แต่เนื่องจากเป็นปืนซึ่งมีพานท้าย จะให้เคลื่อนไหวแบบทวนจึงเป็นไปไม่ได้ การเคลื่อนไหวจึงลดรูปลง . แทนที่มือทั้งสอง จะเคลื่อนไหวเข้าหากันเหมือนทวน มือทั้งสองกลับอยู่ในตำแหน่งเดิม เพื่อความมั่นคง แล้วใช้การก้าวเท้าแบบกงปู้ฉวน หรีอท่ายืนง้างคันธนูแทน และการยืดหดตัวเป็นสำคัญ . การจับมีสองแบบ คือ แบบแรก คือ จับแบบถือปืนยาวทั่วไป กับ แบบคว่ำมือทั้งคู่ . แบบแรก เป็นการจับเพื่อความมั่นคง ข้อดีคือ ใช้ป้องกันได้ดี ข้อเสียคือ เชื่องช้า . แบบที่สอง เป็นการจับเพื่อพลิกแพลง ข้อดีคือ ใช้จู่โจมได้ดี ข้อเสียคือ ทำการป้องกันยาก . ดังนั้น เพื่อลดจุดบอดตรงนี้ จึงได้มีการสร้างท่าที่ใช้พานท้ายตีขึ้นมา . ท่าพานท้ายตีนำมาจากท่าพลอง และเปียน (ตะบอง) ประกอบด้วย ตีลง งัดขึ้น ตีขวาง แทง กระทุ้ง กระแทก กดดัน และตีสองจังหวะ . ท่าพานท้ายตีนี้ สามารถนำมาใช้ได้ทั้งสองแบบ แต่จากประสบการณ์พบว่า การจับแบบที่สองคือแบบคว่ำมือทั้งคู่ มีประสิทธิภาพดีกว่าการจับแบบธรรมดา และพลิกแพลงได้มากกว่า . ท่าดาบปลายปืนนี้ ก่อให้เกิดเส้นมวยแฝงขึ้นมาเส้นหนึ่ง ที่พัฒนาภายหลังเมื่อพ้นสงครามโลกไปแล้ว คือ "เส้นศอก" ซึ่งถือว่าเป็นเส้นมวยใหม่ เท่าที่ทราบมีเพียงสายเดียวเท่านั้น ที่มีเส้นมวยศอกนี้ . เพราะท่าดาบปลายปืนสัมพันธ์กับ การเคลื่อนไหวของศอก ดังนั้น การเคลื่อนไหวของศอก และดาบปลายปืนจึงเป็นท่าเดียวกัน แต่ไม่ได้นำมาใช้กับการตีแต่เพียงอย่างเดียว เพราะมันเกี่ยวข้องกับฉินหน่า และท่าทุ่ม ที่เคยกล่าวเอาไว้ในบทความก่อนหน้าด้วย . "เส้นมวยของดาบปลายปืน จะเดินไปข้างหน้าโดยไม่มีท่าถอยหลัง" - จบ -
Create Date : 16 ตุลาคม 2558 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2558 10:52:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 494 Pageviews. |
|
|