รีวิวการ์ตูนไทย - Thai Comic Review
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
30 พฤศจิกายน 2561
 
All Blogs
 

(รีวิวการ์ตูนไทย) ตะกร้อ (ชัยยัณต์ สุยะเวช (ตาโปน))



ตื่นเต้น ตื่นเต้นไปหมด นี่ตูหยุดไปนานขนาดนั้นเลยเหรอวะเนี่ย!!! จะเขียนตกหล่นอะไรอีกมั้ยรอบนี่ ตื่นเต้นเว้ยๆ
------------------------------------------------------------------------
เอาเป็นว่า ก่อนที่เราจะเริ่มรีวิวกัน ก็อยากจะบอกว่า ที่หยุดไปยาวนี่ไม่ใช่อะไร มันเป็นเรื่องปกตินะ เคยหยุดไปเกือบปีก็มี ที่ผ่านมาเราพยายามวางแผน พยายามนั่งทบทวนอะไรหลายๆอย่าง เพราะที่ผ่านมา เราเคยเขียนตกหล่นไปเยอะ จนต้องไปเพิ่มอะไรหลายอย่างก็มี หยุดยาวนี้ก็เลยไปยกเครื่องใหม่มา หวังว่าคราวนี้จะไม่พลาดอีกนะ 5555+
 
ตาโปน หรือ ชัยยัณต์ สุยะเวช ถือเป็นหนึ่งในนักเขียนที่ทรงอิทธิพลที่สุดของบ้านเรา และปัจจุบันก็ยังคงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องตามร้านหนังสือทั่วไป (แต่หลายเรื่องก็หายากเต็มทีแล้ว) เคยผ่านผลงานมาหลายแนวหลายสำนักพิมพ์อย่างโชกโชน แม้กระทั่งการ์ตูนจากเกมออนไลน์ เจ้าตัวก็เคยทำมาแล้ว (แต่ดันไม่รวมเล่ม กรรม) 5555+ คือจะเรียกได้ว่า ไม่มีสไตล์งานไหนที่เจ้าตัวทำไม่ได้แล้วล่ะมั้ง

....แต่ตอนนี้ขอพูดถึงเรื่องตะกร้อก่อนนะ 5555+

 

ตะกร้อ เป็นรวมเล่มเรื่องแรกของตาโปนในสังกัดไทคอมิค เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ เปี๊ยก เด็กหนุ่มที่อยากจะแข่งกีฬาอย่างจริงจังในงานกีฬาสีที่จะถึงนี้ แต่ติดปัญหาที่ว่าตัวเล็ก ก็เลยเล่นอะไรไม่เวิร์กซักอย่าง จนกระทั่งเจ้าตัวได้เข้าชมรมตะกร้อโดยบังเอิญ เพราะสมาชิกไม่ครบ -- ที่นั่นเอง เขาได้รู้จัก แมน หัวหน้าทีมที่นิสัยใจเย็น/ ยศซึ่งมีนิสัยใจร้อน เกลียดคนไม่พยายาม และกานดา ผู้จัดการหญิงทีมสีแดง (Red Comet) ที่ช่วงแรกของเรื่องมักจะโดนเปี๊ยก Panty Flash บ่อยๆ (?) ทั้งเปี๊ยก ยศและแมน จะต้องลงแข่งการแข่งขันตะกร้อในวันกีฬาสีที่จะถึง แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้!!! ด้วยความที่เปี๊ยกไม่เคยเล่นกีฬามาก่อน และไม่ได้ซ้อมเป็นทีมก่อนการแข่งขัน แล้วการแข่งขันคราวนี้ ผลจะออกมาเป็นยังไงล่ะเฮ้ย!!?!

ซึ่งจะขอแบ่งส่วนรีวิวเป็นสององค์คือ ฉากในการแข่งขัน และนอกการแข่งขัน

(รีวิวต่อไปนี้ จะค่อนข้างเจาะลึกพอสมควร เพราะมันมีหลายส่วนให้พูดถึงเยอะมาก ดังนั้นใครอยากจะอ่านแบบย่อ ให้เลื่อนไปย่อหน้าสุดท้าย เพราะเราได้สรุปไว้แล้ว)


Part 1/ ฉากในการแข่งขัน
 

ด้วยความที่การ์ตูนกีฬา มันเป็นประเภทย่อยของการ์ตูนแอ็คชั่นอยู่แล้ว ดังนั้น ฉากการโต้ลูกสวยๆในเรื่องนี้เรียกได้ว่ามีเพียบเลยครับ จนต้องอ้าปากค้างในหลายๆฉาก ซึ่งทั้งหมดนั่นก็เพราะการเคลื่อนไหวของตัวละครนั้นทำออกมาได้ไหลลื่น ดุเดือด และดูกระฉับกระเฉง คุณตาโปนเก็บเส้นได้เรียบร้อยมากๆ แทบไม่มีเส้นดิบให้เห็นเลย ดูตั้งใจกับมันสุดๆ ซึ่งผลลัพธ์คือ มันออกมาเป็นงานภาพที่สมบูรณ์แบบ -- และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการ์ตูนกีฬา ก็คือการลำดับภาพ คือฉากแอ็คชั่นมันจะต้องโฟกัส 2-3 จุดขึ้นไป (ตัวเรา/คู่แข่ง/ลูกบอล) พออ่านแล้วก็ไม่รู้สึกขาดความต่อเนื่องแต่อย่างใด เราก็เลยสามารถรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในการแข่งขัน 5555+ เอาจริงๆ แค่ซื้อการ์ตูนเพื่อมาเก็บฉากแอ็คชั่นเฉยๆ ก็อิ่มแล้ว

การแข่งขันตะกร้อในเรื่องนั้นจะแข่งกันสามรอบ ข้างละ 3 คน เท่าที่อ่านมา วิธีการเล่นจะใช้ช่วงหัวและช่วงขาโต้ลูกตะกร้อข้ามตาข่ายของอีกฝ่าย โดยฝ่ายเราจะได้คะแนนก็ต่อเมื่อลูกตะกร้อตกลงในพื้นสนามของอีกฝ่าย (และอีกฝ่ายจะได้คะแนน ก็ต่อเมื่อลูกตะกร้อตกลงในพื้นสนามของฝ่ายเราเช่นเดียวกัน) ซึ่งหากทีมไหนสามารถทำได้ครบ 15 คะแนนจะชนะในเซ็ตนั้นไป -- อันนี้เขียนไว้เผื่อมีคนอยากรู้ ดังนั้นเขียนไว้ไม่เสียหาย 5555+

การ์ตูนถูกถ่ายทอดจากตัวคนเขียนที่เล่นตะกร้อไม่เป็น ดังนั้นพระเอกก็ต้องเล่นตะกร้อไม่เป็นเหมือนกัน (โอ้ย หนอ) 5555+ ก็จะเขียนให้มันได้อารมณ์ ก็ต้องใกล้ๆมือนี่แหละ -- และสำหรับใครที่เคยผ่านการ์ตูนแนวนี้มาแล้ว แน่นอนว่าเนื้อเรื่องมันก็หนีไม่พ้นข้อคิดในเรื่องมิตรภาพและความเชื่อมั่นตามเคย (ซึ่งการ์ตูนกีฬาที่ต้องแข่งกันเป็นทีมมันก็ต้องออกมาประมาณนี้แหละเนอะ) เพียงแต่เรื่องนี้ปรับรูปแบบตัวเอกให้เป็นออกมาแบบ Nothing to Something คือเริ่มต้นจากทำอะไรไม่เป็นเลยแล้วก็บรรลุอะไรบางอย่างได้ในที่สุด คล้ายๆกับการ์ตูนแอนิเมชั่นของค่าย Dreamworks หลายๆเรื่องนั่นแหละ

...และตัวของพระเอกเองก็จะค่อยๆเก่งขึ้นเรื่อยๆจากการเผชิญหน้าในการแข่งขันของจริง จากที่ตอนแรก ยังยืนเฉยๆไม่รับลูก เพราะกะทิศทางการรับลูกไม่ได้ มาเป็นการพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าดีเดือด โดยจะเห็นได้ว่าคำพูดเท่ๆดูมั่นใจ เริ่มพรั่งพรูออกมาเรื่อยๆ (ตะกร้อไม่ใช่กระสุนปืน แค่นี้ไม่ตายหรอก) ซึ่งนั่นก็เพราะพระเอกได้พิสูจน์ให้เห็นกันแล้วว่า ขนาดไม่ใช่อุปสรรคในการเล่นกีฬา -- จากที่เคยขาดการยอมรับจากคนรอบข้างเพราะขนาดตัวซึ่งส่งผลมาถึงทักษะกีฬาที่จำกัด ก็ค่อยๆได้รับการยอมรับเรื่อยๆจากคนในทีม (รวมถึงคนทั่วไป) ที่ค่อยๆเห็นความมุมานะของตัวเอก (เปี๊ยก) รวมทั้งร่องรอยการฝึกฝนที่คนเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วจะดูกันออก และที่ดีที่สุด เพียงแค่เปี๊ยกสามารถโต้ลูกเตะสายฟ้าของฝ่ายตรงข้ามที่ไม่มีใครเคยรับมาก่อนได้ ทำให้คนในทีมเริ่มเชื่อมั่นมากขึ้น จนกองเชียร์สีแดงที่ไม่มีใครมาเลย ก็กลับมาเต็มที่นั่ง ฝ่ายพระเอกก็เริ่มบ้าพลังขึ้นเรื่อยๆ จนคนทั้งทีมสามารถโต้ลูกเตะสายฟ้าของฝ่ายตรงข้ามได้ในที่สุด
 

มาลองเจาะลึกฝ่ายตรงข้ามกัน ฟ้า ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมของฝ่ายตรงข้าม (สีน้ำเงิน) ซึ่งเวลาที่ฝ่ายตัวเองเสียแต้ม เขาจะโทษคนในทีมก่อนเป็นอันดับแรก และชอบเป็นตัวเด่นที่ทำหน้าที่โต้ลูกไปหาอีกฝ่ายบ่อยๆ ทั้งหมดนั่นก็เพราะความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมของเขา เขามั่นใจว่ามาโดยตลอดว่าไม่มีใครสามารถรับลูกเตะของเขาได้อีกแล้วนอกจากพี่ชายตัวเองซึ่งวางมือจากกีฬาตะกร้อไปแล้ว (แต่ก็กลับมาลงเล่นในเซ็ตสุดท้าย) ซึ่งความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป ของเขากลับเป็นดาบสองคมซะอย่างงั้น เมื่อฝ่ายของตัวเอก (สีแดง) สามารถโต้ลูกของตนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันมาจากฝีมือของคนที่ดูอ่อนที่สุดในทีมด้วย ประกอบกับที่สีแดงเริ่มมีกองเชียร์มากขึ้น มันต่างจากที่เขาประเมินเอาไว้ตั้งแต่แรก ทำให้ช่วงหนึ่งของเกม เขาช็อกอย่างรุนแรงจนลืมรับลูกของอีกฝ่าย และเสียคะแนนไปในที่สุด

และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทีมสีน้ำเงินแพ้ในเซ็ตที่สอง ก็เพราะสมาชิกในทีมสีน้ำเงินนั้น ไม่ได้เก่งไปกว่าทีมสีแดงเลย แค่เล่นตะกร้อเป็นเท่านั้น รับลูกได้บ้างไม่ได้บ้าง ทั้งยักษ์และพนา -- แต่ถ้าจะให้พูดถึงความเป็นทีมเวิร์ก ก็ต้องชื่นชม  ทั้งคู่สามารถทนความเอาแต่ใจของหัวหน้าทีมได้ดีมาก ซึ่งช่วยทำให้ทีมนำโด่งไปได้ในช่วงเซ็ตแรก (เพราะจริงๆแล้ว หัวหน้าทีมก็ต้องทนความด้อยฝีมือของทั้งคู่เช่นเดียวกัน สรุปไม่ใครดีใครแย่ไปกว่ากันหรอกเนอะ)

ในตอนแรกสุด พระเอกเองก็ไม่เข้าใจว่าตะกร้อต้องเล่นเป็นทีม นึกว่าเป้นของง่ายๆ ก็เลยไปฝึกเตะโต้กำแพงคนเดียวบนดาดฟ้าอย่างหนักจนเท้าบวม สุดท้ายแล้วก็เลยไม่ได้ซ้อมกับสนามจริงแบบทีม ซึ่งถ้าหากพระเอกเลือกที่จะมาฝึกกับทีมตั้งแต่แรก อาจจะได้รับคำแนะนำที่ดีกว่านี้ ในเรื่องของการเตะที่ถูกวิธี และเท้าก็จะไม่บวมด้วย (และทีมก็อาจจะชนะตั้งแต่แรกด้วย)

ในเพราะการแข่งขัน นอกจากจะต้องรับแรงกดดันจากคู่แข่งแล้ว ยังต้องรับแรงกดดันจากกองเชียร์คู่แข่งอีกด้วย เพราะถ้าหลุดนี่ก็พลาดยาวๆเลย เหมือนทีมน้ำเงินในเซ็ตที่สองนั่นเอง -- และการโจมตีจุดอ่อนของอีกฝ่ายไม่ใช่ความขี้โกง อย่ามัวแต่โทษคนอื่น เพราะในฐานะของการแข่งขัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราจะต้องแก้ปัญหา กลบจุดอ่อนของตัวเองให้ได้

Part 2/ ฉากนอกการแข่งขัน
 
หนึ่งในหน้าปกตอนที่ชอบมากที่สุดในเซ็ตการ์ตูนไทย (เส้นดินสอที่ลากเส้นตามจุดนี่ มาจากการ์ตูนจริงๆนะ มิน่ามันถึงลบไม่ออก)

อาาาา คอเมดี้ -- ในระหว่างเล่มนั้น จะมีมุกขำๆของคนเขียนสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ ซึ่งออกมาขำมากๆ อย่างพวกเตะลูกตะกร้อแล้วไปพังกระจกห้องครูใหญ่งี้ (จริงๆมันทำไม่ได้นะ) พวกฉากไล่หมาที่เดินขวางสนาม (Based on True Story) ออกมาเป็นกิมมิคเล็กๆ ซึ่งมันช่วยสร้างภาพจำให้กับเรื่องได้ หลังจากอ่านจบ อารมณ์ขันของตาโปนนั้นออกมาใช้ได้ โดยเฉพาะหน้าปกในแต่ละตอน (ปกติเป็นคนชอบอ่านหน้าปกตอนอยู่แล้ว) อันนี้แนะนำให้ลองไปเปิดเล่นๆกันดู โคตรบันเทิงสุดๆ -- หนึ่งในนั้นมีหน้าปกตอนที่ผมชอบมากที่สุดด้วย มันออกมาเป็นเกมลากเส้นต่อจุดพร้อมเล่นได้เลย เจ๋งใช่มั้ยล่ะ? (ตอนแรกคิดว่าหน้าปกตอนของ "แว่วกริ่งกังสดาล" นี่สร้างสรรค์สุดแล้วนะ)

ฉาก Panty Flash ในเรื่องนี้ จะไม่พูดเลยก็ไม่ได้ อาาา --- จะยิงยาวบ่อยๆเลยในช่วงต้นเรื่อง (มันก็ต้องมีบ้าง แหม///) ซึ่งก็เป็นอาหารตาของเหล่าชายฉกรรจ์กันไป -- โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยมองว่า ฉากเซอร์วิสมันเป็นการตีหัวเข้าบ้าน เพราะนอกจากมันจะสามารถใช้เป็นลูกเล่นที่ดึงความสนใจได้แล้ว ยังสามารถกำหนดนิสัยของตัวละครได้อีกด้วย (ซึ่งไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง) -- แต่... แต่ถ้าการวาดตัวละครมันสวยไม่พอที่จะมีฉาก Panty Flash หรือสถานการณ์ในเรื่องมันไม่ลงล็อกจริงๆ ออกมาดูจับยัด อันนี้แหละถึงควรจะบ่น

มีช่วงหนึ่งของการ์ตูนที่มีบทพูดแบบอเมริกัน ประมาณ "ฉันของสั่งให้นายไปแข่งต่อ" ซึ่งมันทำให้นักอ่านรุ่นใหม่หลายคนเริ่มสงสัยในฉากที่พวกผู้หญิงเอาชุดพละมาเปลี่ยนในห้องน้ำ แล้วนักอ่านก็จะต้องถามประมาณ เดี๋ยวนะ!! ปกติเค้าใส่ชุดพละจากบ้านมาเรียนไม่ใช่เหรอ มันไม่ใช่วัฒนธรรมต่างชาตินะเฮ้ย 5555+ ในความเป็นจริง คือจะบอกว่า ผมได้ลองสอบถามจากคนใกล้ชิดที่อยู่ในยุคนั้นแล้ว มันเป็นแบบนั้นจริงๆครับ!!!!

แต่ถ้าหากจะให้พูดถึงข้อผิดพลาดในเรื่องจริงๆ มันมีครับ แถมใหญ่พอสมควรซะด้วย ถึงตาโปนจะบอกกับเราไว้ว่าใช้เวลาเก็บข้อมูลเป็นปีก็เถอะ แต่มันก็มีข้อผิดพลาดให้เห้นอย่างหนึ่ง คือ..เอ่อ พี่เค้าเขียนคะแนนผิดครับ!!! แล้วไม่ใช่แค่รอบเดียวด้วย คือผิดทั้งสามเซ็ตเลย จะเห็นได้ในช่วงตอนแข่งรอบแรกที่ฝ่ายตัวเอกสามารถทำคะแนนได้ แต่ป้ายคะแนนกลับเป็น 0 อยู่เลย แล้วรอบสองที่ฝ่ายตัวเอกสามารถทำคะแนนได้ ซึ่งในเซ็ทนั้นคะแนนควรจะครบ 15 ไปแล้ว แต่ก็ยังเป็น 14 เหมือนเดิม ก็เลยกลับกลายเป็นว่าต้องแข่งอีกรอบซะงั้น -- โห!!! จะบอกว่าหนึ่งปีนี่ไม่ใช่น้อยๆเลยนะ เวลาทบทวนมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทุกอย่างมันน่าจะลงตัวได้แล้ว คิดดู เวลาเยอะขนาดนี้แล้วยังจะผิดพลาดได้อีกเรอะ!!!! (อย่าลืมว่าหนึ่งปีมี 365 วัน)

แล้วตัวละครพี่สาวที่ต้องดูแลน้องชายคนเดียว ถึงแม้คนเขียนจะทิ้งปมอะไรบางอย่างเอาไว้ แต่มันก็รู้สึกไม่จำเป็นในเนื้อเรื่องเลยจริงๆ ตัดออกไปได้เลยงี้ โผล่ก็โผล่มาแค่ตอนเดียวซะงั้น เฮ้อ-- กรรม

สรุปแล้วตะกร้อ เป็นการ์ตูนกีฬาที่อ่านสนุกทั้งแง่ของการ์ตูนแอ็คชั่นและคอเมดี้ มีงานภาพที่ดุเดือดและไหลลื่นสมกับที่คนทั่วไปพูดต่อๆกัน (จะบอกว่าการเคลื่อนไหว posture ในเรื่อง คือ..โหดกว่าสมัยนี้มาก ท่าโพสหลากหลายเกิ๊น..) -- ทั้งๆที่เป็นงานลำดับต้นๆก็จริง แต่ก็ออกมาดูเต็มและละเอียดยิบมากๆ ลายเส้นนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนแบบดูผ่านๆก็รู้เลยว่าเป็นตาโปน ซึ่งดูสวยมากๆ ถึงแม้จะการ์ตูนจะเก่าเกิน 20 ปีไปแล้วก็ตาม -- ที่สำคัญ ตะกร้อยังมีข้อคิดอีกมากให้เก็บเกี่ยวทั้งทางด้านกีฬาและเรื่องทั่วไป ซึ่งก็ต้องบอกว่า อยากให้เข้าใจด้วยตัวเองไปเลยจะดีกว่า

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เป็นเรื่องจริง -- เพราะอย่างมากที่สุด ตัวเอกของเรื่องก็ได้แสดงให้เห็นแล้ว
 
เกือบจะเก็บ High Score ได้แล้ว น่าเสียดาย ถ้าคนเขียนแม่นยำในส่วนของคะแนนการแข่งขันซักหน่อย มันจะออกมาสมบูรณ์แบบกว่านี้ แต่จะอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องแรกของตาโปนในฐานะการ์ตูนกีฬา แต่ก็ต้องบอกกันตรงนี้เลยว่า คนเขียนทำออกมาได้ดีมากทีเดียว ๆ จริงๆอยากจะให้คะแนนเต็มอยู่นะ แต่เราขอรักษามาตรฐานไว้ก่อน ก็ได้แต่บอกกับคนอ่านเงียบๆว่า นี่เป็นหนึ่งในการ์ตูนกีฬาที่สมบูรณ์ที่สุด หากมีโอกาสได้อ่านก็อ่านเถอะ
 
เฮ้อ คงจะไม่มีอะไรตกหล่นอีกนะรอบนี้.....

(สรุป 10/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/




 

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2561
0 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2562 14:25:12 น.
Counter : 4797 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณnewyorknurse

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีครับ ผมเรลกันครับ ชอบอ่านการ์ตูนมากๆ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ




Friends' blogs
[Add เรลกันคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.