(รีวิวการ์ตูนไทย) Moon Sanctuary (ธนิกานต์ เขมะคงคานนท์)

อาจจะมีบางคนที่รู้เรื่องนี้แล้ว แต่บางคนก็ยังไม่รู้ ส่วนผม...ก็พยายามจะหาอะไรมาลงเพจ หลังจากที่ทิ้งห่างไปซะนานเลย ไม่รู้ทำไม (ก็เพราะเอ็งหายหัวไปเป็นเดือนยังไงเล่า ทำอีท่าไหนให้เพจมันร้างได้ขนาดนี้ฟะ!!?!) -- คือจะบอกว่าสำนักพิมพ์บงกช ที่เป็นแหล่งผลิตการ์ตูนตาหวานชั้นนำของไทย จริงๆแล้วมันมี "แผนกการ์ตูนไทย" ด้วยนะ!! -- และนี่...ก็เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่จะมีโอกาสได้พูดถึงการ์ตูนไทยของค่ายนี้จริงๆซะที หลังจากที่เคยอ่านของค่ายนี้มาหลายเรื่องแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้หยิบมาเขียนจริงจังซักที (ซึ่งก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่อยากจะเขียนอีกเยอะ ก็เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสแบบว่างจัดๆ ก็จะมาเขียนให้อ่านกันเล่นๆแล้วกันนะ แฮ่!!!)

ด้วยความที่ "การ์ตูนผู้หญิง" มันเป็นจุดขายหลักของค่ายบงกชมาโดยตลอด ก็คงไม่แปลกนักที่ "การ์ตูนไทย" จะเป็นแนวนั้นเช่นเดียวกัน คือ...ถ้าไม่เป็นแนวรักโรแมนติก ก็เน้นแฟนตาซีไปเลย เพียงแต่มันจะไม่เข้มข้นดุดันมากอะไรขนาดนั้นแบบค่ายไทคอมิค แต่จะเน้นไปในโทนน่ารักสดใสซะมากกว่า (ก็การ์ตูนผู้หญิงอ้ะ) -- ซึ่งการ์ตูนไทยเหล่านี้ จะถูกตีพิมพ์ประจำลงในนิตยสาร Comic Club พ่วงกับการ์ตูนญี่ปุ่นไปด้วย คล้ายๆกับนิตยสาร Boom และ C-Kids แล้วก็ออกรวมเล่มขายในเวลาต่อมา (สังเกตที่ตัวอักษรซ้ายบนของเล่มดู จะเห็นโลโก้ Comic Club เด่นหราอยู่ ใช่!!! ทุกเล่มเป็นแบบนี้หมด)

จริงๆแล้ว ที่เอาเรื่องนี้ลงก่อนมันก็มีสาเหตุอยู่นะ แต่เดี่ยวค่อยมาว่ากันทีหลัง ตอนนี้เอาเรื่องนี้ก่อน 5555+ -- สำหรับ Moon Sanctuary นั้น เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ "อาเทมิส" เทพแห่งดวงจันทร์ ได้ถูกพ่อตัวเองเนรเทศลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ กลายมาอยู่ในร่างของเด็กสาวตัวเล็กๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมกับเอนเซล สหายคู่ใจที่ตามสอยห้อยท้ายมาด้วย -- และระหว่างที่ถูกลงโทษนั้น อาเทมิส ก็ได้รู้จักกับ "ลินลา" เด็กสาวข้างบ้านที่ยิ้มได้ตลอดเวลา -- ระหว่างเรื่องนั้น ทั้งสามจะต้องคอยรับมือกับเรื่องวุ่นวายมากมาย ทั้งเรื่องของการถูกปีศาจตามล่า (เพราะเทพในร่างเด็กนั้น พลังจะลดลงครึ่งหนึ่ง ทำให้ปีศาจคิดว่าจะสามารถกำจัดเทพได้ง่ายขึ้น) รวมไปถึงเรื่องราวภายในใจต่างๆที่ต้องแก้ไข เพื่อรอเวลาที่ตัวเองจะหมดโทษ และได้กลับไปอยู่บนสวรรค์อีกครั้ง

น่าจะเป็น "การ์ตูนแนวผู้หญิง" ของไทยเพียงไม่กี่เรื่องแล้วมั้ง ที่สามารถสร้างงานภาพออกมาได้เทียบเท่าญี่ปุ่นขนาดนี้ และดูจะได้บรรยากาศที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว -- คือต้องชมจากใจเลยว่า มันออกมาสวยมากๆ รวมไปถึงทั้งการใช้สกรีนโทนที่เล่นใหญ่อลังการ ทั้งดอกไม้ใบหญ้าเพื่อการตกแต่งภาพ ทั้งเส้นผมพริ้วสลวยดูสะดุดตา ที่เป็นองค์ประกอบเด่นๆของการ์ตูนผู้หญิง ล้วนถูกจัดวางลงตัวไปซะหมด ชนิดที่ว่าขนาดเอาไปเทียบกันหน้าต่อหน้ากับของญี่ปุ่น ยังแทบดูไม่ออกเลย  มันไม่ได้ออกมาดูฝืนๆ เส้นแข็งๆ รายละเอียดภาพบางเบาเหมือนกับการ์ตูนผู้หญิงของไทยหลายๆเรื่อง แล้วก็อย่างที่เคยบอก ด้วยความที่มันเป็นงานของนักเขียนหญิง มันจึงมีความละเมียดละไมทางอารมณ์ รวมทั้งอารมณ์ขันแบบผู้หญิงๆที่โดดออกมาแบบชัดเจน ซึ่งก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเป็นแบบไหน (อ้าว!!?!) คงต้องให้คอการ์ตูนที่ชอบแนวผู้หญิงมาช่วยอธิบายแล้วมั้ง 5555+ (ออกแนวโยนหน้าที่ให้ชาวบ้าน) 

มีการผสมเรื่องราว "ตำนานกรีก" ไว้แบบหลวมๆ ทั้งชื่อของตัวละครที่อ้างอิงมาจากเทพและสัตว์ต่างๆ ล้วนถูกมาจับยำรวมกันทั้งสิ้น -- ถ้าจะเอาที่ชอบเป็นการส่วนตัวมายกตัวอย่างก็มี "โอไรออน" แมวที่อาเทมิสเก็บมาเลี้ยง ซึ่งจริงๆแล้ว ตามตำนานกรีก มันเป็นชื่อของนายพราน (hunter) ที่เคยล่าสัตว์ด้วยกันกับเทพอาร์ทิมิส และเกิดชอบกันขึ้นมา -- แล้วทำไมในเรื่อง โอไรออนต้องเป็นแมว? ก็เพราะว่า แมวมันมีสัญชาตญาณนักล่า (hunter) เหมือนกับโอไรออนนั่นไงเล่า!!! เป็นต้น แต่ตัวละครทั้งหมดในเรื่อง ล้วนถูกเอามาปรับสภาพให้กลายเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคัลเจอร์หนุ่มแว่นที่ดูจะเด่นเกินหน้าเกินตาคนอ่านเป็นพิเศษ แม้แต่เทพซูสก็ไม่เว้น ยังจับมาใส่แว่นท็อปเจริญเลยคิดดู๊!!! แถมออกมาเป็นหนุ่มหล่อหน้าใสซะหยั่งงั้น ดังนั้น ถ้าใครอยากจะหาเรื่องนี้มาอ่านจริงๆ ก็ขอให้ลืมภาพลักษณ์คุณลุงแก่ๆไว้หนวดไว้เคราไปได้เลย เพราะคนเขียนชอบหนุ่มแว่นหน้าใสแน่นอนครับ 5555+ (อย่าเขียนอะไรมั่วๆลงไปสิเฮ้ย!!!)

และนอกจากนั้นแล้ว คนเขียนเอายังเรื่องราวของ "เอนเซลลาดัส" มาต่อยอดเรื่องราวใหม่ จนกลายเป็นพล็อตการ์ตูนรัก เหมือนเป็นแฟนฟิคชั่นกลายๆ (ตามตำนานกรีก เอนเซลลาดัส ได้ถูกขังไว้ในภูเขาไฟ ภายหลังสงครามระหว่างยักษ์กับเทพ แต่ในเรื่องกลับถูกปล่อยให้เป็นอิสระโดยเทพอาร์ทีมิส และได้ลงมาใช้ชีวิตด้วยกันบนโลกมนุษย์ด้วยกันในชื่อว่า "เอนเซล" นั่นเอง) ซึ่งตรงนี้แหละ ที่ทำให้เอนเซลซึ่งเป็นคู่หูนางเอก มีบทบาทเด่นชัดขึ้นมา แทนที่จะเป็นแค่ hype man รองมือรองเท้าไปจนจบเรื่อง (ส่วนแมวโอไรออน ถึงแม้ว่าจะบทน้อยมากจนดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ก็เป็นตัวเชื่อมหลักๆ ที่ทำให้ลินลาได้มาเจอกับอาเทมิสบ่อยขึ้น จนทำให้เกิดความสนิทสนมและเกิดอีเวนท์สนุกๆขึ้นในเวลาต่อมา รวมไปถึงการเคลียร์ปมคาแรกเตอร์ต่างๆที่สำคัญมากด้วย)

แต่ในแง่ของการ์ตูนความรู้ ถือว่าสอบตกแบบสุดๆเลย ไม่รู้ว่าคนเขียนไปค้นคว้าเรื่องพวกนี้มาจากที่ไหนนะ แต่มันดั๊น.....ไม่ตรงกับข้อมูล "หลายๆที่" ที่ผมไปรวบรวมมาเลยอ้ะ!!! อย่างเอนเซลลาดัสงี้ จริงๆแล้วมันเป็น "ยักษ์" นะ พอมาอยู่ในเรื่องนี้ ดันกลายมาเป็น "มังกรไฟ" ซะเฉย แล้วก็อพอลโล่ (เทพแห่งดวงอาทิตย์) จริงๆแล้วเป็นน้องชายของอาร์ทิมิสต่างหาก ไม่ใช่พี่ชายโว้ย!!! -- ดังนั้น ถ้าใครจะอ่านเอาความรู้จริงๆนี่ คือโคตรจะไม่แนะนำเลย มีหวังได้เข้าใจผิดกันแน่ๆ -- และเพราะตรงนี้นี่แหละ ที่ทำให้มันกลายเป็นข้อเสียของเล่มไปเลยแบบน่าเสียดาย แต่ก็ยังดีที่อย่างน้อยข้อมูลพวกนี้ มันก็ไม่ได้ไปกระทบกับเนื้อเรื่องหลักรุนแรงอะไรขนาดนั้น

เพราะว่าจริงๆแล้ว "แก่นหลัก" ของเรื่อง มันจะเน้นไปที่ "การค้นหาที่อยู่ใหม่ของนางเอก" เป็นหลักต่างหาก -- ถ้าที่อยู่อาศัยของเทพ มันคือ sanctuary (สถานที่ศักดิ์สิทธิ์) ที่อยู่ของมนุษย์เราๆ มันก็คือ home ดีๆนี่เอง และ "บ้าน" มันก็ควรจะให้ความรู้สึกที่สบายใจในยามที่เราพักอาศัย รู้สึกเป็นอิสระ อยู่แล้วมีความสุข แต่ช่วงเวลาบนสวรรค์ของ "อาเทมิส" มันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันตรงกันข้ามจนดูแย่ไปซะทั้งหมด เพราะว่าที่ผ่านมานั้น อาเทมิสต้องคอยทำตามคำสั่งจากเบื้องบน (เทพเฮร่า) มาโดยตลอด จนดูเหมือนเป็นหัวหน้า-ลูกน้อง มากกว่าที่จะเป็นครอบครัวจริงๆ แถมตัวเองยังต้องมาถูกพ่อตัวเอง (เทพซูส) เนรเทศมาอยู่บนโลกมนุษย์อีกต่างหาก ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ทำให้นางเอกเข้าใจว่าพ่อของตนนั้นไม่ได้รักตัวเองเลย

ทั้งๆที่จริงแล้ว มันเป็นเจตนาที่ดีของพ่อต่างหาก ที่ต้องการจะช่วยให้นางเอกเป็นอิสระ และป้องกันไม่ให้ถูกเทพเฮร่าตามรังควาน (โดยทำให้เหมือนเป็นการลงโทษ) เพราะนางเอกไม่ได้ส่งมังกรไฟเอนเซลลาดัสให้เทพเฮร่า แต่กลับปล่อยให้เป็นอิสระไปแทน (เพราะนางเอกรู้สึกเห็นใจ ที่ตัวมันเองก็ขาดอิสรภาพไม่ต่างกัน) ซึ่งมันอาจทำให้นางเอกต้องถูกเทพเฮร่าลงโทษ เพราะขัดคำสั่ง

เอนเซลลาดัสรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ เพราะได้รับการปลดปล่อย ก็เลยตามมาอยู่กับอาเทมิสด้วย ทำให้กลายเป็นว่าต่างฝ่าย ต่างก็ได้เพื่อนคนแรกจริงๆในชีวิตที่ไว้ใจได้เช่นเดียวกัน

และการลงมาอยู่บนโลกมนุษย์นี่เอง ทำให้ทั้งนางเอกและเอนเซลต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง (ซึ่งจนมาถึงตอนนี้ก็ยังงงอยู่ว่า นางเอกเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้าน) และต้องต่อสู้กับปีศาจด้วยกัน รวมทั้งลินลาเอง ก็ทำให้นางเอกได้มีโอกาสทำอะไรที่มันสนุกๆจริงๆ -- จากตอนแรกที่นางเอกมักจะลุยเดี่ยวด้วยตัวเองมาโดยตลอด แต่พอได้รับความช่วยเหลือจากพวกพ้อง ในยามขับคัน ความรู้สึกที่ปิดกั้นตัวเองมาโดยตลอดของนางเอก ก็สลายหายไปในพริบตา (อันนี้ เป็นฉากที่นางเอกรับผลสะท้อนจากร่ายพลังเวทไม่ไหว เอนเซลก็เลยเข้ามาช่วยรับผลสะท้อนไปด้วยครึ่งหนึ่ง ทำให้นางเอกได้รับบาดเจ็บน้อยลง) 

และวินาทีนั้นเอง นางเอกก็เริ่มรู้สึกว่า เอนเซลดีกับเขามากๆ ทำให้นางเอกอยากอยู่ด้วยกันกับเอนเซลไปตลอด เพราะสำหรับอาเทมิสแล้ว เอนเซลคือ Moon Sanctuary ที่แท้จริง เปรียบเสมือนบ้านที่อยู่ด้วยแล้วอุ่นใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะจูบกันอย่างดูดดื่ม (ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นพล็อตการ์ตูนรัก!!!) ขนาดที่ว่าตัวเองยอมสละตำแหน่งเทพ เพื่อมาอยู่กับเอนเซลและลินลาบนโลกมนุษย์ต่อไป และใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข (ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว เพราะถ้านางเอกกลับไปอยู่บนสวรรค์ ก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตใต้คำสั่งของคนอื่น ด้วยความอึดอัดเหมือนเดิม) และนั่น....ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นของ Moon Sanctury (สปอยล์ขนาดนี้ แล้วใครจะหาหนังสือมาอ่านวะเนี่ย โว้ย กรรม!!!)

โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นการเปิดตัวได้อย่างสวยงาม ในฐานะนักวาดหน้าใหม่ การ์ตูนแทบจะมีช่องโหว่น้อยมาก นอกจากที่ว่าไปก่อนหน้านั้นแล้ว ก็มีฉากที่นางเอกได้เจอกับพ่อตัวเองอีกครั้ง ที่การแสดงสีหน้ามันดูมั่วๆ เดี๋ยวดีใจเดี๋ยวแค้น เดี๋ยวกลัวโดนพ่อทำโทษ ไม่รู้ว่าตกลงจะอารมณ์ไหนกันแน่ (ตกลงรู้สึกยังไงกันแน่ฟะ!!?!) แต่นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร ถื่อว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากสำหรับการ์ตูนผู้หญิงเลยล่ะมั้ง ไม่รู้ว่าคนเขียนมีผลงานอื่นๆอีกมั้ยน้อในตอนนี้ นอกจากของค่ายบงกช

แต่น่าเสียดายเหลือเกิน เพราะหลังจากที่เจ้าตัวได้ออกเรื่องใหม่อย่าง Death Apprentice ไปได้ไม่นาน จู่ๆแผนกการ์ตูนไทยของค่ายบงกช ก็ดันปิดตัวในเวลาต่อมา ทำให้คนเขียนไม่มีโอกาสได้สานต่อมันจนจบซะหยั่งงั้น และเล่ม 2 ก็ไม่ได้ออกวางแผงต่ออีกด้วย ว็อทเดอะฟัก!! ถือว่าน่าเสียดายจริงๆ -- แต่อย่างน้อยที่สุด คนเขียนก็ได้ทิ้ง Moon Sanctuary เอาไว้ ซึ่งจริงๆแล้ว มันเป็น "การ์ตูนไทยที่ดีที่สุดของค่ายบงกช" เลยด้วยนะเออ ไม่เชื่องั้นเรอะ -- งั้นเดี๋ยวก็เอาเรื่องอื่นๆของค่ายบงกชมาลงซะเลยนี่ เห็นแล้วจะหนาว (จริงๆกะจะเอาเรื่องนี้มาเขียนในช่วงหลังๆ ไม่รู้ทำไมต้องมาปล่อยตอนนี้ด้วยฟะ เฮ้อ!!!) 

(สรุป 8/10)  

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/

Create Date : 16 กรกฎาคม 2562		0 comments
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2563 1:47:49 น.
Counter : 1682 Pageviews.
Share Tweet