1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
หนังญี่ปุ่น Departures ศักดิ์ศรีรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศที่เหนือชั้นกว่า Slumdog
เทรนด์หนังเกาหลีที่มาแรงในยุคนี้ บางทีทำให้เรามองข้ามหนังดีๆ จากประเทศที่เคยเฟื่องด้วยหนังคุณภาพระดับโลกอย่าง..ญี่ปุ่น แต่การประกาศผลรางวัลออสการ์ที่ผ่านมา ก็ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของประเทศที่เคยเป็นผู้นำหนังยอดเยี่ยมของเอเชียกลับมาอีกครั้งอย่างภาคภูมิ และไม่ใช่แค่นั้น หนัง Departures เรื่องนี้ยังกวาดรางวัลตุ๊กตาทองของญี่ปุ่นไปถึง 10 รางวัล ซึ่งแน่นอน..รวมถึงหนังยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม เรื่องราวของศิลปะโบราณในการจัดการ (แต่ง)ศพในแบบญี่ปุ่นแท้ คือแกนในการนำเสนอเรื่องที่เผยความประณีตของประเพณีญี่ปุ่นในการดูแลเอาใจใส่ผู้ตายก่อนที่จะส่งไปสู่สัมปรายภพได้อย่างน่าทึ่ง (ทำให้อดนึกถึงหนังทีวีซีรี่ส์ Six feet Under ของอเมริกันไม่ได้ แต่ความงดงามของการจัดการศพในสไตล์ญี่ปุ่นนั้น ดูเหนือชั้นอยู่มากมาย) ตัวเอกของเรื่องซึ่งมีแบคกราวนด์ในฐานะนักเชลโล่มืออาชีพ แต่วิกฤตเศรษฐกิจได้ทำให้ต้องพลิกผันตัวเองกลับกลายมาเป็นนักแต่งศพมืออาชีพอย่างบังเอิญ เพียงความเข้าใจผิดในความหมายบนโฆษณาชิ้นเล็กๆ กับคำว่า Departures ซึ่งอาจแปลได้สองความหมายว่า ผู้เดินทาง หรือ “ผู้จากไป” หนังได้นำเสนอความแยบยลในการเขียนบทชีวิตพระเอกของเรื่องที่แบกปมของการที่ถูกทิ้งโดยพ่อของตัวเองตั้งแต่เด็ก โยงใยเข้ากับเรื่องราวของศิลปะการแต่งศพ ที่ช่วยสอนบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญให้กับ Daiko พระเอกของเรื่องคนนี้ ซึ่งยังโชคดีที่เขาได้ภรรยาที่ดีและหันกลับมาช่วยเขาได้ค้นพบส่วนที่หายไปของชีวิตในที่สุด และด้วยปัจจัยสำคัญของตัวเอกในเรื่องซึ่งต้องทั้งเล่นเชลโล่เก่ง และต้องกลายเป็นนักแต่งศพมืออาชีพด้วยในขณะเดียวกันนั้น ได้ทำให้ Masahiro Motoki พระเอกของเรื่องต้องใช้เวลาเตรียมตัวนับเป็นปีๆ สำหรับการฝึกฝนดนตรี และเรียนรู้พิธีการที่ถูกต้องตามประเพณีแต่งศพของญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งผู้กำกับภาพยนตร์ Yōjirō Takita ยังต้องลงลึกเข้าไปศึกษาความเป็นไปของพิธีกรรมแต่ละแห่งอย่างละเอียด เพื่อเข้าไปเก็บอารมณ์และบรรยากาศของพิธีศพแบบญี่ปุ่นแท้ ซึ่งบางกรณีก็เป็นเรื่องลับเฉพาะต้องห้ามยากแก่การนำเสนอ ทำให้เขาไม่มั่นใจอยู่ว่าจะได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จแค่ไหนแต่ผลลัพธ์ที่ออกมา คิดว่าเขาคงหายเหนื่อยไปแล้ว..เพราะแค่ออกฉายที่ญี่ปุ่นแห่งเดียว ก็กวาดเงินไปแล้วกว่า 61 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ แถมยังกวาดรางวัลท้องถิ่นเกือบทุกสถาบัน ยังไม่รวมเทศกาลหนังนานาประเทศอีกมากมาย หนังนำเสนออย่างประณีตด้วยการเล่าเรื่องอย่างมีอารมณ์ขัน แต่แฝงด้วยอารมณ์ดราม่าที่ลึกซึ้ง จังหวะจะโคนนิ่มนวลมีคลาส ตัวแสดงเล่นได้อย่างมีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติมากๆ โดยเฉพาะ Masahiro Motoki ซึ่งคว้ารางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมไปครองนั้น ได้โชว์ฝีมือเชลโล่อย่างสมจริง และได้โชว์ขั้นตอนการแต่งศพอย่างที่มืออาชีพต้องชิดซ้าย สะท้อนให้เห็นความทุ่มเทของคนในวงการหนังญี่ปุ่นที่เอาจริงเอาจัง การถ่ายทำด้วยฝีมือระดับรางวัล ยอดเยี่ยมไปตั้งแต่การถ่ายภาพจัดแสง ที่ดูได้บรรยากาศสมจริงโดดเด่นจากหนังญี่ปุ่นทั่วๆ ไป ได้เห็นความสวยงามของชนบทญี่ปุ่นพร้อมกับพิธีศพซึ่งเป็นศิลปะเฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากชนชาติใด และต้องนับถือจริงๆ กับกลวิธีในการเล่าเรื่องจนเราอินเข้าไปกับเนื้อหา เชื่อและยอมรับโดยปริยายกับอาชีพการแต่งศพนี้ว่าเป็นผลงานระดับศิลปินชั้นครูเลยทีเดียว โดยมีองค์ประกอบของอารมณ์ความรู้สึกของครอบครัวผู้ตายที่มีต่อผู้ที่จากไป คอยสอดแทรกสร้างความซาบซึ้งประทับใจกับคนดูให้ได้รับรู้ถึงความสำคัญของพิธีนี้ ซึ่งส่งผลต่อจิตใจของคนที่ใกล้ชิดอย่างมากมาย และยังนับว่าเป็นความชาญฉลาดยิ่งของฝีมือการเขียนบทของ Kundo Koyama ที่ผูกเรื่องราวความสัมพันธ์อันร้าวฉานของพระเอกกับพ่อ ซึ่งเขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะคิดถึง (แต่ก็หนีมันไปไม่ได้ในที่สุด) กับโครงเรื่องหลักของการแต่งศพ สะท้อนความงดงามของประเพณีที่ให้ข้อคิดเรื่องชีวิต และส่งผลให้ตัวเอกได้ควานหาตัวเองจนพบ ตัวละครอื่นๆ รอบข้าง อย่างเช่นภรรยาที่แม้จะมีความขัดแย้ง หรือ ตัวเจ้าของบริษัทแต่งศพซึ่งเหน็ดเหนื่อยกับการหาคนที่เข้าใจศิลปะชนิดนี้เข้ามารับช่วง ต่างช่วยสนับสนุนและเป็นแรงจูงใจให้เรื่องราวได้คลี่คลาย อาจจะมีการเล่าเรื่องบางฉากที่ยังคลุมเครือกับความรู้สึกคนดูอยู่ หรือวิธีดำเนินเรื่องบางช่วงที่ยังรู้สึกพร่องๆ ไปบ้าง อย่างเช่น ช่วงที่พระเอกของเรื่องต้องเรียนรู้ขั้นตอนและศิลปะในการแต่งศพ น่าจะให้เวลากับตรงนั้นอีกสักหน่อย ให้เห็นความพยายามและความยากของประณีตศิลป์ชนิดหนึ่งที่แทบหาดูไม่ได้แล้ว เรื่องก็จะดูหนักแน่นขึ้น เท่าที่เห็น.. ใช้เวลาไปกับอารมณ์ขันของการออกงานครั้งแรกของพระเอกที่แสนจะทุลักทุเล หรือ เบื้องหลังความเป็นไปของผู้คนรอบข้างที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่า บทบาทของคนเล่านั้นล้วนมีอิทธิพลต่อเรื่องราว และพฤติกรรมของตัวเอกทั้งสิ้น มิได้เขียนขึ้นมาอย่างล่องลอยเป็นชูรสเท่านั้น ทุกอย่างถูกกลั่นกรองมาแล้วอย่างประณีตเฉกเช่นศิลปะการแต่งศพในเรื่องยังไงยังงั้น และที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือฉากจบของเรื่อง ทำได้อย่างทรงพลัง จนเราเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ รับความรู้สึกของตัวแสดงที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างห้ามไม่ได้ เข้าใจถึงความรัก..ความผูกพันของคนในครอบครัว ที่สะท้อนภาพผ่านศิลปะแห่งความตายนี้ ประกอบจิกซอว์ชิ้นสุดท้ายคืนให้กับชีวิตของ Daiko ตัวเอกของเรื่อง..ตัวแทนของมนุษย์อย่างเราๆ อีกมากมายหลายคน Departures นับเป็นหนังที่มีองค์ประกอบของการกำกับ การแสดง การถ่ายทำ จังหวะการตัดต่อ ผสมผสานได้กลมกลืนเป็นอันมาก แม้กระทั่งเพลงบรรเลงประกอบ ซึ่งเรียบเรียงอย่างประณีตในสไตล์คลาสสิค ก็ฟังโดดเด่นสะดุดหู แต่กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศของเรื่อง ช่วยพาอารมณ์ของคนดูไปให้ถึงซึ่งจุดประทับใจของแต่ละฉาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลงเดี่ยวเชลโล่ ซึ่งเป็นประหนึ่ง Theme song ที่ให้อารมณ์ได้ลึกซึ้งจับใจ..สะท้อนความรู้สึกของพระเอกที่ผูกพันกับพ่อได้อย่างชัดเจน เป็นหนังเรื่องหนึ่งในน้อยเรื่องที่ดูแล้วต้องน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ไม่ใช่ด้วยความเศร้าหรอกนะ แต่เป็นความประทับใจ และตื้นตันใจในความงดงามของความเป็นมนุษย์ ที่มีทั้งดีทั้งร้ายผ่านเข้ามาในชีวิตหนึ่ง ได้เห็นการเรียนรู้ของคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ ที่ไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟ็ก และต้องได้รับบทเรียนชีวิตกันถ้วนทั่ว แต่สิ่งสำคัญที่หลงเหลืออยู่คือ หนังได้ให้ความหวังอันดีงามแก่คนดู.. ให้มองโลกในแง่ดี และมีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ทำให้แอบคิดไปถึงพิธีรดน้ำศพแบบไทยๆ ที่ขาดความประณีตในการจัดการเป็นที่ยิ่ง สมควรที่เราน่าจะนำตัวอย่างที่ได้เห็นนี้นำมาปรับปรุงพิธีการให้ดูเป็นเกียรติแก่ผู้ตายมากขึ้น พลิกผันอารมณ์เศร้าให้คีนสู่ความรู้สึกดีๆ ของการร่วมส่ง "ผู้ที่จากไป" สู่สุคติภพด้วยภาพสวยงามครั้งสุดท้าย... และทัศนคติในการเห็นสรีระของผู้ที่จากไป..ได้เปลี่ยนไปอย่างประหลาด หลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ถ้าจะให้เปรียบกับหนังออสการ์ Slumdog Millionaire แล้ว เรื่องนั้น..เผลอๆ เป็นได้แค่ละครหลังข่าว.... ตั้งแต่ Atonement เป็นต้นมา เห็น Departures นี่แหละ สมควรแก่ดาว 5 ดวง ..เอาไปเลย....
Create Date : 16 กรกฎาคม 2552
23 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 0:33:49 น.
Counter : 10640 Pageviews.
โดย: กะว่าก๋า 16 กรกฎาคม 2552 8:36:58 น.
โดย: นู๋ปรี IP: 58.8.184.29 16 กรกฎาคม 2552 15:16:09 น.
โดย: นู๋ปรี IP: 58.8.184.29 16 กรกฎาคม 2552 16:45:12 น.
โดย: พี่หมี (Bkkbear ) 16 กรกฎาคม 2552 18:05:15 น.
โดย: พี่หมี (Bkkbear ) 16 กรกฎาคม 2552 18:19:14 น.
โดย: พี่หมี (Bkkbear ) 16 กรกฎาคม 2552 18:22:53 น.
โดย: กะว่าก๋า 17 กรกฎาคม 2552 7:55:05 น.
โดย: กะว่าก๋า 17 กรกฎาคม 2552 12:02:56 น.
โดย: นู๋ปรี IP: 125.25.108.36 17 กรกฎาคม 2552 23:07:08 น.
โดย: นู๋ปรี IP: 125.25.108.36 17 กรกฎาคม 2552 23:10:26 น.
โดย: นู๋ปรี IP: 125.25.108.36 17 กรกฎาคม 2552 23:19:39 น.
โดย: นู๋ปรี IP: 125.25.108.36 17 กรกฎาคม 2552 23:31:09 น.
โดย: พีหมี (Bkkbear ) 18 กรกฎาคม 2552 2:42:24 น.
โดย: พี่หมี (Bkkbear ) 18 กรกฎาคม 2552 2:56:15 น.
โดย: JohnV 19 กรกฎาคม 2552 11:41:23 น.
โดย: ลุงแว่น 19 กรกฎาคม 2552 20:07:49 น.
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 19 กรกฎาคม 2552 21:57:34 น.
โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) 21 กรกฎาคม 2552 19:40:36 น.
โดย: กะว่าก๋า 29 กรกฎาคม 2552 12:02:39 น.
โดย: cheap snapback hats IP: 94.23.252.21 3 สิงหาคม 2557 20:20:23 น.
โดย: mulberry outlet IP: 94.23.252.21 12 สิงหาคม 2557 15:43:13 น.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [? ]
งานเขียนบทความ บทหนัง เรื่องสั้น และนวนิยายในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย Bkkbear (หมีบางกอก) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เป็นหนังอีกเรื่องที่อยากดูมากครับ