|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
Hereafter หนังชีวิตหลังความตายที่กลายเป็น Romantic feel good
ตามมาดูหนัง Hereafter เพราะพะยี่ห้อปู่คลินท์ อิสต์วู้ด ขึ้นแท่นในฐานะผู้กำกับ แต่มาฉงนอยู่น้อยๆ ที่ผู้อำนวยการสร้างบริหารคือ สตีเวน สปีลเบิร์ก เพราะแนวทางของทั้งสองคนดูจะคนละทิศ คลินท์ มักมีสไตล์ตัวเองชัดเจนในการทำหนังที่ซีเรียสดูเป็นชีวิตจริง
การมาจับโปรเจ็คที่ครอบด้วยอิทธิพลของเจ้าพ่อวงการหนังอย่างสปีลเบิร์ก แน่นอนว่าคนเขียนบทก็ต้องไหลตามความประสงค์ของเจ้าพ่อเป็นอันดี ข้อดีคือหนังจะมีสีสันอลังการขึ้นด้วยฉากเอฟเฟ็คสึนามิที่สมจริงตื่นตา (บวกเว่อร์นิสสๆ) แต่ลีลาการเล่าแบบล้นๆ แนวหนังกลับกลายเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรื่องราวของผู้ดำเนินรายการทีวีสาวชาวฝรั่งเศสชื่อดังที่มีอันต้องมาเผชิญวิกฤตสึนามิในเมืองไทยในปี 2004 (เรื่องย่อเขาว่างั้น) ซึ่งถึงแม้ว่าโปรดักชั่นฉากเปิดตัวสึนามิจะทำได้เฉียบ แต่คงเพราะเราอยู่เมืองไทย และโลเคชั่นถ่ายทำดันไปอยู่ฮาวาย อะไรๆ เลยขัดหูขัดตาไปบ้าง แต่ความเนี้ยบต้องยกให้ สมกับได้เข้าชิงรางวัลเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์
เรื่องราวของสามชีวิตที่วิ่งขนานกันมาและต้องเกี่ยวพันกันอย่างมหัศจรรย์ด้วยประเด็นชืวิตหลังความตาย ว่าไปเป็นสไตล์สูตรสำเร็จของฝรั่งอยู่ แต่ก็ต้องยกความดีให้คนเขียนบทที่พยายามยิ่งในการผูกเรื่องเหตุการณ์ชีวิตของพิธีกรสาวในแพรีส กับสองพี่น้องฝาแฝดที่มีแม่ติดยาในลอนดอน และตาพระเอก แมท เดมอน ผู้ที่มีพรสวรรค์ในการติตต่อกับคนตายซึ่งอยู่ในซานฟรานซิสโกเข้าด้วยกัน
วิธีเล่าเรื่องดูน่าสนใจแต่แรก สร้างปมพิศวงชวนติดตามให้อยากรู้ว่าอะไรซ่อนอยู่ในชีวิตหลังความตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หมดเวลาไปกับการปูพื้นตัวละครทั้งสามเหตุการณ์ไปจนค่อนเรื่อง ส่วนที่ดีคือ หนังฝรั่งยังคงให้เวลากับการรู้จักเบื้องลึกของตัวละครโดยเฉพาะพระเอกนางเอกได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น แต่ส่วนที่คนดูอยากรู้ลึกต่อไปเรื่องชีวิตหลังความตายกลับกลายเป็นเคว้งๆ ไปซะเนี่ย
เรื่องราวถูกดึงให้มาผูกกันตอนจบประมาณว่านับเป็นโชคชะตาพาฝัน บุบเพอาละวาดของพระเอกนางเอกผู้ผ่านประสบการณ์ชีวิตหลังความตาย และวิถีชีวิตต้องถูกหักเหด้วยอิทธิพลของเรื่องเหล่านั้น พลันกลับมาลงเอยแบบแฮปปี้เอนดิ้งในที่ซู้ดด แหม ลงตัวเด๊ะๆ ตามสไตล์สปีลเบิร์กนะจร๊า...
ปู่คลินท์ให้สัมภาษณ์ประมาณว่า เขาแค่อยากจะเล่าเรื่องของคนที่ผ่านอะไรทำนองนี้มาเท่านั้น ไม่ได้อยากวิเคราะห์เจาะลึกอะไรนักหนาถึงที่มาที่ไป ใครอยากรู้ก็ลองไปตายดูเอาเองสักที...ก็ตามนั้น (อันนี้ดัดจริตต่อเอาเอง 555)
ไม่ต้องตั้งความหวังไว้เริดหรู ก็ดูได้เพลินๆ ใช้ได้อยู่ทีเดียว
Create Date : 22 เมษายน 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 22 เมษายน 2554 8:51:23 น. |
Counter : 8344 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: คนดูหนัง IP: 223.206.126.13 3 พฤศจิกายน 2559 12:00:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
งานเขียนบทความ บทหนัง เรื่องสั้น และนวนิยายในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย Bkkbear (หมีบางกอก) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
|
|
|
|
|
|
|
หนังของปู่คลิ้นท์น่าดูเสมอครับ