สูตรสำเร็จโรแมนติกคอมเมดี้..ทำดีๆ ก็น่าดู Leap Year, Letters to Juliet และ Knight and Day
ได้ดูหนัง 3 เรื่องที่เกริ่นไว้ไล่ๆ กันโดยไม่มีความคาดหวังอะไรอยู่ในใจ สองเรื่องแรก Leap Year และ Letters to Juliet อยากดูเพราะรู้เป็นหนังรัก อยากดูอะไรสบายๆ เติมความโรแมนติกให้ตัวเองมั่ง เดี๋ยวจะกลายเป็นคนแห้งแล้งความรักไปซ้า.. ส่วน Knight and Day ดูเพราะพะยี่ห้อทอม ครูส ซึ่งเชื่อว่าหนังของเขาแต่ละเรื่องย่อมต้องมีเอกลักษณ์อะไรบางอย่างที่โดดเด่น และก็จริงอย่างว่า Knight and Day กลายเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่เล่าเรื่องด้วยแอ็คชั่นอันหวือหวา แต่ทั้งสามเรื่อง ดูจะมีสูตรสำเร็จที่ไม่ต่างกันอยู่ นั่นคือ หนังพ่อแง่แม่งอน ที่คู่รักในเรื่องต่างมาเจอกันโดยมิได้คาดคิด ด้วยพื้นฐานชีวิตที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ด้วยโลเคชั่นที่แปลกไปจากที่เคยเป็นอยู่ ด้วยเสน่ห์ของบรรยากาศในดินแดนโรแมนติก และแน่นอน ฟัดกันด้วยบุคลิกแตกต่างและบทสนทนาที่เชือดเฉือนกันตลอดเรื่อง Leap Year และ Letters to Juliet ดูจะคล้ายกันมากทั้งโครงเรื่องและวิธีเล่า Leap Year อาศัยบรรยากาศชนบทอันชวนโรแมนติกของไอร์แลนด์เป็นที่พบพานของสาวอเมริกันมาดมั่นกับหนุ่มบ้านนอกไอริช โดย Amy Adams นางเอกซึ่งมีคู่หมั้นอยู่แล้ว หากแต่แรงบันดาลใจของประเพณีเก่าแก่ของชาวไอริชทำให้เธอตัดสินใจเดินทางไปดับลินในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เพื่อขอแฟนหนุ่มแต่งงาน แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเธอ ให้ต้องเผชิญอุปสรรคนานัปการและยังต้องมาพบกับหนุ่ม Matthew Goode ซึ่งเหมือนขมิ้นกับปูนขณะพาเธอเดินทางไปดับลิน ส่วน Letters to Juliet อวลด้วยบรรยากาศโรแมนติกของเวโรน่า ประเทศอิตาลี ซึ่ง Amanda Seyfried นักเขียนบทความสาวน้อยอเมริกันหวังมาโรแมนติกกับคู่หมั้นหนุ่ม แล้วให้บังเอิญมาประสบพบกับหนุ่มหล่อชาวอังกฤษ (Chris Egan) หลานชายขี้หงุดหงิดของหญิงสูงอายุที่เธอติดต่อกลับไป หลังจากพบกับจดหมายฉบับหนึ่งที่มีอายุกว่า 50 ปี ซึ่งเขียนขึ้นโดยย่าของเขา ถึงผู้ชายชาวอิตาเลียน ที่เธอเคยตกหลุมรักเมื่อครั้งเยาว์วัย ซึ่งสูตรสำเร็จพ่อแง่แม่งอนของทั้งสองเรื่อง ทั้งการปะทะคารม ความหมั่นไส้ไม่ชอบหน้า และภูมิหลังที่ต่างโดยสิ้นเชิงของตัวเอก ในบรรยากาศเกร๋ๆ ของไอร์แลนด์ และอิตาลี พาให้คนดูติดตามไปได้อย่างเพลิดเพลินกับพัฒนาการความรักของทั้งสอง ดูไปยิ้มไปนึกถึงตัวเองไป..เฮ้อ ช้านจะมีโอกาสได้ไปเสี่ยงรักในดินแดนโมแลนติกกะเค้ามั่งมั้ยเนี่ย... ไม่ต่างอะไรกับ Knight and Day ที่ Cameron Diaz ซึ่งต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์คับขันกับหนุ่มใหญ่สายลับอย่าง Tom Cruise โดยบังเอิญ ต้องพากันตกกระไดพลอยโจนผจญภัยไปตามประเทศต่างๆ ตั้งแต่เกาะทะเลใต้ไปยันยุโรป ได้บรรยากาศโรแมนติกแบบฟัดไม่เลิกเชิดใส่กัน หากแต่เล่าเรื่องด้วยลีลาแอคชั่นแฝงอารมณ์สนุกสนานแต่ไม่ธรรมดาสไตล์ทอม ครูส ได้ฟังความเห็นผู้ชมบางคนที่ไม่สบอารมณ์กับหนังเรื่องนี้ คงเพราะคาดหวังว่าจะได้ดูหนังแอคชั่นระเบิดระเบ้อดุเดือดเลือดพล่าน ไม่ได้คิดว่าจริงๆ แล้วมันคือ Another Romantic Comedy ในรูปแบบของหนังแอคชั่นสายลับ ด้วยโปรดักชั่นทุนหนากับฉากแอคชั่นกวนๆ หนุกหนาน ในแง่มุมความบันเทิง ทั้งสามเรื่องนี้ต่างให้ความรื่นรมย์ในสไตล์ของมันได้อย่างมาตรฐาน ฝีมือการสร้างระดับฮอลลีวู้ดยังคงวิธีการเล่าเรื่องที่ชวนติดตามพร้อมโปรดักชั่นที่ตื่นตา เพียงปล่อยใจดูสบายๆ ไม่ไปตั้งแง่ไว้ล่วงหน้า หรือตั้งมาตรฐานหรูหราซับซ้อนไว้กับหนัง เชื่อว่าต่างก็ได้อิ่มอกอิ่มใจกับหนังรักโรแมนติกต่างสไตล์ของทั้ง 3 เรื่องนี้ได้อย่างคุ้มค่าอารมณ์ และเป็นตัวอย่างอันดีกับหนังรักแบบไทยๆ เพียงให้รายละเอียดกับบทและวิธีเล่าเรื่อง ไม่ต้องถึงขนาดซับซ้อนเหมือนลุงบุญมี หนังง่ายๆ ก็ดูดีขึ้นมาได้ ถึงยังไม่ได้ดู กวน มึน โฮ แต่ดูจากโครงเรื่องและวิธีเล่า ก็น่าจะเข้าข่ายนี้ได้เช่นกัน
Create Date : 28 กันยายน 2553
3 comments
Last Update : 28 กันยายน 2553 9:02:47 น.
Counter : 2379 Pageviews.