How Am I Supposed To Live Without You....ขาดเธอแล้วชีวิตฉันจะอยู่ได้ยังไง
ผมเองนั้นมีความทรงจำและประทับมากมายกับเพลงสากลในช่วงยุคปลาย80ถึง90 ในช่วงนั้นมีเพลงรักเนื้อหาตรงใจให้ฟังเยอะมาก เป็นเพลงฟังจังหวะไม่รุกเร้ากระแทกกระทั้นคนฟังมากนัก.นักร้องคนหนึ่งที่ผมชอบมากๆและมีเสียงแหบเสน่ห์เฉพาะตัวก็ Michael Bolton เพลงแรกที่สะกดผมได้ชะงักคือ Missing You ซึ่งออกมาในปี 1991 กับอัลบั้ม Time,Love and Tenderness...ชื่อเพลงก็ตรงกับคอนเซ็ปของชื่ออัลบั้ม .แต่มีอีกเพลงหนึ่งซึ่งผมมาได้ยินทีหลัง ก็ How Am I Supposed To Live Without You เป็นเพลงที่ออกในอัลบั้ม Soul Provider ออกในปี 1989....รู้สึกว่าจะติดอันดับต้นๆในBillBoardปี1990 ....วันนี้ผมใช้เวลาช่วงเช้าที่นั่งอยู่คนเดียวและขับรถกลับบ้านที่เชียงใหม่ ผมทบทวนหลายๆอย่างที่เดินเข้ามาในชีวิตสองสามอาทิตย์นี้ ผมได้คำตอบที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน ผมเคยเสียใจกับการที่ต้องปล่อยมือใครสักคนให้เดินไปจากชีวิต แต่คราวนี้ผมกลับรู้สึกว่า ความรักนั้นไม่ใช่การที่ต้องครอบครองกันและกัน และความรักทำให้ผมเข้าใจว่า บางครั้งการยอมปล่อยมือจากกันนั้น ไม่ได้หมายความว่า จะหมดเยื่อใย จะหมดความทรงจำความรู้สึกดีๆต่อกัน.เราต้องรู้จักปล่อยให้อีกฝ่ายเดินจากไป..จากไปด้วยความรักเหมือนกับตอนที่มีความสุขเมื่ออยู่ร่วมกัน..ประโยคในท่อนคอรัสนั้น มันพุ่งตรงไปกลางใจผม จนผมแทบจะพิมพ์ต่อไม่ไหว Tell me how am I supposed to live without you Now that I've been loving you so long How am I supposed to live without you and how am I supposed to carry on When all that I've been living for is gone ประโยคนี้ทำให้ผมแทบจะทรุดเลยครับ หมดแรงใจไปเฉยๆเลย....ผมต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยมือและพยุงตัวไปเดินต่อไปให้ได้
How Am I Supposed Too Live Without You
I could hardly believe it when I heard the news today I had to come and get straight to you Said you're leaving Someone swept your heart away From the look upon your face I say it's true So tell me all about it tell me about the plans you're making Tell me one thing more before I go
Chorus: Tell me how am I supposed to live without you Now that I've been loving you so long How am I supposed to live without you and how am I supposed to carry on When all that I've been living for is gone
Took off the crying Didn't come here to break down It's just a dream of mine is coming to an end And how can I blame you When I've built my world around With hope that one day we'll be so much more than friends I don't wanna know the price I'm gonna pay for dreaming Even now it's more than I can take
Chorus...
Now I don't wanna know the price I'm gonna pay for dreaming Now that your dreams has come true
ที่จริงผมชอบและติดตราตรึงหูจนทุกวันนี้ครับ ช่วงที่ผมเป็นหนุ่มจบ6หมาดๆแล้วเข้าไปทำงานที่ห้างเจ.ซี.ปากเกร็ด ปี33 เปิดห้าง09.30น.เสียงดนตรีอะไรๆก็เปิดกันไปครับ แต่พอช่วงบ่ายสิครับ ขนลุกซู่เหมือนโดน โดนใจ โดนอะไรมาแทงที่ใจ Missing you now ไม่แน่ใจว่ามี now รึเปล่า แซกซ์โซโฟนประเภทปีนภูเขาหรือขึ้นในที่สูงๆอะไรทำนองนั้นของKenny G บาดถูกใจเหลือเกินครับ ตามมาด้วยเสียงนักร้องชายแบบเสียงใหญ่แหบมหาสเน่ห์ บอกตรงๆครับว่าตอนนั้นผมไม่รู้ชื่อทั้งเพลงและนักร้อง ต่อมาก็เพลงDo you remember? ของ Phil Collins ยิ่งเพราะไปใหญ่ ผมพยายามค้นหาชื่อเพลงและนักร้องมาตลอดแต่โชคดีก่อนผมไปรับใช้ชาติเป็นทหารอยู่ ศม.สระบุรี เผอิ๊ญ..มาเจอเทปขายราคาถูก(เวลานั้นไทยเรายังละเมิดลิขสิทธิ์อยู่)ของKenny G วางขายเลยซื้อมาฟังๆแล้วจินตนาการครับ ปัจจุบันผมรับราชการตำรวจที่สถานีแห่งหนึ่งในภ.จว.สระบุรี แล้วเพิ่งจะค้นหาเจอชื่อนักร้องและเพลงเมื่อไม่กี่ปีนี้ครับ เพราะมาก ฝึกร้องตามใจชอบและสั่งมาครับ
แต่ผมอยุ่ได้น่ะ